รันนิ่งแมนกับระบบครองโลก - ตอนที่ 11 ดาวรุ่งแห่งอนาคต

น่าหยิง หลิวฮวน หยางคุน และ หยูเฉิงชิง เสียงหัวใจของเมนเทอร์ทั้ง 4 คน แทบหยุดเต้น ตอนนี้พวกเขาทั้งหมดกำลังรอให้ลู่เฟยเรียกชื่อพวกเขา

ลู่เฟยเริ่มพูดใส่ไมโครโฟนอย่างเคร่งขรึมตอนนั้นเอง : “เมนเทอร์ทั้ง 4 ท่าน เป็นไอดอลที่ผมชื่นชอบมากครับ ผมอยากเลือกเมนเทอร์ทั้ง 4 คน แต่ดูเหมือนว่าผมจะเลือกได้แค่เพียงคนเดียว งั้นผมของเลือก….”

“อาจารย์น่าหยิงครับ”

“เย้! เยี่ยมมากลู่เฟย คุณคิดถูกแล้วที่เลือกฉัน คุณคือดวงดาวดวงใหม่ อรุณรุ่งคุณจะเฉิดฉายในรายการนี้แน่นอน” น่าหยิงแทบบินไปหาลู่เฟยด้วยความตื่นเต้น เมนเทอร์ที่เหลืออีก 3 คนเสียใจมาก หยางคุนเกือบจะร้องไห้ (ผู้แปล : ตีกันแทบตาย สุดท้ายก็แห้ว 555)

ลู่เฟยเริ่มเดินออกจากเวที และเขาก็เข้าไปกอดน่าหยิงสักแป๊บ

 

“ลู่เฟย ลู่เฟย ลู่เฟย ….” เสียงฝูงชนเฮกระหื่ม เรียกขานชื่อของลู่เฟย มองไปที่แต่ละคน พวกเขาดูเหมือนจะกลายเป็นผู้สนับสนุนลู่เฟยอย่างเหนียวแน่น เพราะต่างก็เชียร์เขากันทั้งนั้น

“มานี่มา ลู่เฟย”

“ขอบคุณครับ อาจารย์น่าหยิง” ลู่เฟยค่อยๆ ปล่อยมือจากการกอดกับน่าหยิง แล้วตามไปกอดกับเมนเทอร์ที่เหลืออีก 3 คน สุดท้ายลู่เฟยก็เดินออกจากสตูดิโอถ่ายทำ ในเวลานี้การแข่งขันก็ดำเนินต่อไป เริ่มเข้าสู่การเรียกผู้เข้าแข่งขันคนที่ 4 ขี้นเวที

ลู่เฟยมาถึงหลังเวทีอย่างรวดเร็วเขาเห็นเบบี้และหนีหนี่

ใบหน้าของหยางอิ่งและหนีหนี่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“มันวิเศษมากเลย ลู่เฟย ฉันรู้ว่านายทำได้” หยางอิ่งยกย่องลู่เฟยทันทีที่เห็นเขาเข้ามา

“ช่ายย มันยอดมาก ทุกคนดูตกใจสุดๆ ลู่เฟย นายเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดในวงการเพลงเลย ฉันเชื่อว่านายจะดังไปทั่วประเทศหลังจากรายการนี้ออกอากาศอีกไม่กี่วัน ถึงตอนนั้นนายจะได้เป็นดาราดังแล้ว” หนีหนี่พูดขึ้นอย่างตื่นเต้น ผ่านดวงตาคู่งามสุดจะเซ็กซี่ของเธอ

 

“ใช่แล้ว ฮิฮิ ขอถ่ายรูปกับซุป’ตาร์ในอนาคตหน่อยเร็ว… เป็นที่ระลึกอ่ะ” หยางอิ่งหยิบมือถือของเธอมาถ่ายรูปสามคน ได้ถ่ายรูปสองสาวงามทะลัก ความรู้สึกตอนนี้ของลู่เฟยก็คือ แม่มโคตรแจ่มอ่ะ..

“ชวีซือ!!” (ผู้แปล : แปลว่ามะเขือ อารมณ์ประมาณว่า ชีสสส)

 

“ข่าช่า!” หยางอิ่งถ่ายรูปทั้ง 3 ด้วยกัน

“ฉันจะโพสต์บนเว่ยป๋อนะ” หยางอิ่งพูดด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเธอก็เริ่มโพสต์บนเว่ยป๋อของเธอ

“เบบี ถ้าเธอจะโพสต์บนเว่ยป๋อแบบนี้ คนอื่นเขาจะเข้าใจผิดได้นะ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่าง ลู่เฟยกับเธอหน่ะ” หนีหนี่เตือนด้วยรอยยิ้ม

 

เบบี้ไม่ยอมรับ : “มันไม่ใช่เรื่องจริงซักหน่อย แล้วถ้าคนจะเข้าใจผิด ก็ต้องเข้าใจผิดเรื่องเธอสองคนด้วยสิ”

“อ๋า ทำไมอ่ะ?” หนีหนี่ถ้าด้วยความงง

“เพราะเธอสองคนเหมือนคู่รักกัน” หยางอิ่งมองไปที่ลู่เฟยกับหนีหนี่

 

ลู่เฟยรู้สึกช่วยไม่ได้ เอามือแตะหลังหัวเขา แล้วมองไปทางหนีหนี่ : “จริงหรอเบบี้?”

หนีหนี่หน้าแดง : “ฉันคิดว่าพวกเธอเหมือนคู่กัน”

 

“ก็ได้ๆ ฉันล้อเล่นเธอก็เชื่อด้วย เว่ยป๋อของฉันมีเพื่อนสนิท 2 คน เราสามคนจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อจากนี้ไป ลู่เฟยจะเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเรา เราจะกลายเป็นสามสหายผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการบันเทิง คิดถึงเรื่องนี้แล้วฉันก็ตื่นเต้นอยู่หน่อยๆ ล่ะ 55 …” เบบี้หยุดหัวเราะไม่ได้แล้วตอนนี้

 

“ก็ได้ เป็นความคิดที่ดี 3 สหาย แจ่ม ลู่เฟย นายจะเป็นเพื่อนรักของเราต่อไป” หนีหนี่ตอบรับข้อตกลงของหยางอิ่ง

“อะ อัก เอื้อกกก” ลู่เฟยพ่นเลือดออกมากหลายคำ

“ฉันว่าพวกเธอถามความเห็นฉันก่อนไหม ฉันเป็นผู้ชายนะ จะให้ไปเป็นเพื่อนสนิทพวกเธอได้ไง” ลู่เฟยปฏิเสทโดยตรงและคัดค้านอย่างรุนแรง แม่มเอ๋ย จะให้เห็นด้วยกับพวกเธอหรอ เป็นเพื่อนสนิทกับสองดาราใหญ่เนี่ยนะ นี่ไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการซะหน่อย

 

“นายไม่มีสิทธิ์คัดค้าน หนีหนี่กับฉันตกลงกันแล้ว สองต่อหนึ่งนายแพ้” หยางอิ่งอธิบายด้วยรอยยิ้ม

 

“ตามนั้น นายต้องสัญญากับเรา ไม่งั้นเราจะไม่สนใจนายอีกต่อไป คุณเพื่อนสนิทที่ดีของฉัน” หนีหนี่ยิ้มและตบไหล่ลู่เฟย

 

ลู่เฟยถอนหายใจ : “ก็ได้ ฉันสัญญา”

“อื้อ ทำถูกแล้ว” เบบี้ยิ้มอย่างพออกพอใจ

ตอนนั้นเองคุณจางเสี่ยวอิงหัวหน้าผู้กำกับรายการ The Voice ก็มา

“เบบี้ หนีหนี่ ลู่เฟย” จางเสี่ยวอิงเรียก

 

“ผู้กำกับจาง”

……….

 

เบบี้ หนีหนี่ ลู่เฟย่ ตอบรับพร้อมกัน

 

“ลู่เฟยผลงานของคุณในวันนี้ยอดเยี่ยมมากเลย เป็นการเริ่มต้นที่สมบูรณ์แบบ นัดต่อไปของคุณจะต้องแข่งในรอบน็อคเอาท์ อีก 1 เดือนข้างหน้า คุณจะได้แข่งรอบที่สอง แต่ฉันเชื่อว่าสัปดาห์นี้ คุณจะได้รับความนิยมทันทีหลังออกอากาศตอนแรก ในอีก 5 วันจากนี้ ทางสถานีทีวีของเราจะทำทุกอย่างเพื่อโปรโหมดคุณ พอคุณได้รับความนิยมก็อย่าลืมว่าสถานีฯ เราสร้างคุณขึ้นมา”

 

“ได้ครับ ผู้กำกับจาง ผมเข้าใจและจะไม่ลืม เจ้อเจียงทีวี รวมทั้งไม่ลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคุณแน่”

ลู่เฟยตอบด้วยความเคร่งขรึม เขาไม่ใช่คนหยิ่งผยอง

 

แน่นอนว่าท้ายที่สุดถึงเขาจะอยากหยิ่ง แต่ตอนนี้เขาก็ไม่มีมีต้นทุนจะทำ เมื่อเขาแข็งแกร่งพอเท่านั้นเขาถึงจะมีคุณสมบัติที่จะหยิ่งได้

 

สังคมมันก็เป็นแบบนี้ นี่คือโลกของผู้แข็งแกร่งเท่านั้น

“เอาหล่ะ คุยกันไปก่อนนะ ฉันจะไปดูผู้เข้าแข่งขันคนอื่นต่อ”

“ครับ”

ไม่นานหัวหน้าผู้กำกับรายการก็จากไป ตอนนี้ลู่เฟยมองไปทางหยางอิ่งและหนีหนี่

“สองสาวสวยผู้ยิ่งใหญ่ครับ ไปกันเถอะ ออกไปกินข้าวกัน” ลู่เฟยชวนด้วยรอยยิ้ม

 

“ได้เลย ฉันเลี้ยงนายเอง” หนีหนี่ตอบด้วยรอยยิ้ม ในเวลานี้ลู่เฟยอยากเลี้ยงมาก แต่เงินในกระเป๋าเขาขี้อายเกินไป เบบี้กับหนีหนี่ดื่มไวน์แดงกันทีอย่างน้อยๆ ก็คนละ 2-3 พันหยวน ลู่เฟยรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆ

 

“ดีล่ะ งั้นคืนนี้ฉันจะฆ่าเธอหนีหนี่ เธอเตรียมกระเป๋าฉีกได้เลย มื้อเย็นนี้เราจะไปกินที่โรงแรม แล้วก็กลับปักกิ่งพรุ่งนี้เช้า นายจะไปด้วยกันเลยไหมลู่เฟย?” หยางอิ่งเห็นด้วยกับหนีหนี่ แล้วหันมาถามลู่เฟย คืนนี้พวกเขาจองที่พักที่โรงแรมไว้แล้ว

“อื้อ ฉันว่าจะกลับปักกิ่งไปพร้อมเธอเลยพรุ่งนี้ ฉันแข่งเสร็จแล้วกว่าจะแข่งอีกก็ต้องรอรอบ 2” ลู่เฟยยิ้มตอบ

 

เมื่อมองไปทางสองสาวผู้งามล้มเบื้องหน้าเขา หัวใจของเขาก็ยิ่งชอบมากขึ้น ตอนนี้เขาพยายามไม่คิดเรื่องความรักความใคร่ เพราะเบบี้และหนีหนี่ไม่ได้มองไปที่มุมนั้น

 

พวกเขาคงต้องปฏิบัติต่อกันเหมือนเป็นเพื่อนสนิทจริงๆ เป็นแค่เพื่อนที่ดีที่สุด มันก็เป็นแค่ภาพลวงของพวกเธอใช่ไหมล่ะ?