รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - ตอนที่ 80-2 ได้แต่หวังให้คนคนนั้นตาย / บทที่ 81-1 ริมฝีปากของคุณทำผมเป็นบ้า
- Home
- รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ
- ตอนที่ 80-2 ได้แต่หวังให้คนคนนั้นตาย / บทที่ 81-1 ริมฝีปากของคุณทำผมเป็นบ้า
บทที่ 80-2 ได้แต่หวังให้คนคนนั้นตาย
ใบหน้าของราฮีซีดเผือด แสดงว่าประธานปาร์คก็รู้ว่าเธอเอาแฟนเก่ามาทำงานเป็นผู้จัดการก่อตั้งมูลนิธิสินะ
“เปล่า พ่อยังไม่เห็น ผมชิงเอามาก่อน ต้องจ่ายให้แพงกว่าพ่อ พวกสำนักงานรับจ้างก็ยินดีทำให้ คนที่นั่นรายงานเกี่ยวกับคุณให้พ่อตามที่ผมสั่ง ไม่มีผู้ชายที่คบหาอยู่ ไปมาแค่ระหว่างบ้านกับสถานีโทรทัศน์ เรียกว่าชีวิตส่วนตัวขาวสะอาดระดับแม่ชีเลยมั้ง งานประกาศข่าวไปได้สวย เรียบร้อย ไม่มีคำพูดลับหลังที่ไม่ดี ยิ่งกว่าอะไรคือต้องให้เห็นว่าโอเคไม่เที่ยว และไม่ไปตามยั่วพวกลูกคนรวย”
ราฮีไม่เชื่อ เพราะคำพูดของซองบอมเหนือความคาดหมายมาก ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าซองบอมจะปกป้องตัวเองจากประธานปาร์ค
“ทะ ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น…”
“เพื่อจะทำลายกำแพงคุณยังไงล่ะ เพราะอยากคบคุณให้ได้ เพราะผมชอบคุณ”
ซองบอมยิ้ม รอยยิ้มที่เหมือนจะร้องไห้ ชอบฉัน? ราฮีมองซองบอกทำหน้าราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน เหมือนได้ฟังเรื่องโกหก
“คุณคิดว่าผมแต่งงานกับคุณทำไม เพราะสวย? หรือจบมาจากม.โซล? หรือเพราะเป็นผู้ประกาศข่าว?”
ไม่ใช่เหตุผลเหล่านั้นงั้นเหรอ ไม่ได้เลือกเพราะเธอสวย ฉลาดและหัวดี? ราฮีคิดว่าซองบอมเลือกตัวเองเพราะเป็นผู้หญิงที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่งงานกันมาสี่ปี ราฮีไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าซองบอมชอบตัวเอง
“วันนึงผมดูข่าวในทีวี คุณก็รู้ไม่ใช่เหรอ ในชีวิตผมเป็นคนที่ไม่ดูอะไรที่เหมือนข่าว ไปเรียกนอกกลับมาไม่ได้เรื่องได้ราวเกือบปี งานก็ไม่ได้ พ่อก็ไล่บี้ให้แสดงผลงาน พวกกรรมการบริหารก็จ้องจับตาดู ว่าเป็นลูกท่านประธานจะทำงานเก่งแค่ไหน เหมือนหัวจะแตกตาย กลับบ้านมาเปิดทีวี ตอนได้ยินเสียงคุณครั้งแรก หัวใจก็กระตุกวาบ พอหันไปมอง ได้เห็นหน้าคุณครั้งแรก เหมือนมีแสงสว่างวาบออกมาจากทีวี ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกัน…”
หน้าซองบอมทั้งเขินอายและจนปัญญาในเวลาเดียวกัน หัวใจของราฮีแอบหวั่นไหวกับสีหน้าที่เหมือนเด็กหนุ่มที่เพิ่งตกหลุมรักเป็นครั้งแรก
“ตั้งแต่วันนั้นผมก็กลับบ้านก่อนสามทุ่มเพื่อจะมาดูข่าว ค้นหาการออกอากาศและเรื่องของชเวราฮี คุณคงไม่รู้ ว่าผมลังเลอยู่นานแค่ไหนก่อนจะติดต่อไปหาคุณครั้งแรก”
“ไม่รู้แน่อยู่แล้วล่ะค่ะ ก็คุณไม่เคยบอก”
“ผมนอกจากที่เป็นลูกคนรวยแล้ว ก็เป็นคนที่ไม่มีอะไรดีสักอย่าง เป็นหมูน่าเกลียดที่ทั้งโง่และทึ่ม นิสัยก็สกปรกซกมก ดังนั้นเลยคิดว่าคุณคงไม่ชายตาแลไอ้คนอย่างผม ตอนที่คุณบอกว่าจะแต่งงานกับผม ผมดีใจมาก รู้ว่าคุณไม่ได้ชอบผม แต่ถ้าผมทำดีด้วย คุณคงจะชอบผมขึ้นมาก็ได้ ถ้าได้อยู่ด้วยกัน คุณอาจจะเปิดใจให้ ผมเชื่ออย่างนั้น แต่ยิ่งนานวันไป คุณก็ยิ่งเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ไอ้โง่อย่างผมก็ยิ่งเจ็บ ทุกครั้งเวลาเห็นผู้หญิงที่รักมองตัวเองเหมือนสัตว์ประหลาด ผมก็รู้สึเหมือนตัวเองเป็นสัตว์ประหลาดจริงๆ ผมเหมือนเศษสวะ…”
ซองบอมยืนเหม่อโดยไม่รู้ตัว มุมหนึ่งในใจของราฮีเจ็บแปลบขึ้นมา เธอรู้ทั้งหมด รู้สึกทุกอย่าง เธอไม่เคยรักซองบอมในฐานะผู้ชายเลยสักครั้ง ทุกสายตาที่ส่งไปมีแต่ความดูถูกและเกลียดชัง
“พอผมรู้ว่าคุณดึงผู้ชายคนนั้นมาทำงานที่มูลนิธิ ก็รู้ว่าตอนนี้คงจบจริงๆ แล้ว คุณคงจะทิ้งผม ไม่อยู่กับผมอีกแล้ว…”
ซองบอมทรุดตัวนั่งลงตรงนั้นและร้องไห้ มองซองบอมที่ร้องไห้โฮเหมือนเด็กๆ แล้วราฮีก็เปิดปากช้าๆ
“ฉันถึงว่าคุณอยากได้ถ้วยรางวัล คิดว่าคุณเลือกฉันเพราะอยากได้ผู้หญิงที่จะเอามาอยู่ข้างกายอย่างภาคภูมิใจได้เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ ทั้งตอนพบกันครั้งแรก ตอนแต่งงาน และท่าทางของคุณ มันแข็งทื่อและดูฝืนใจเสมอ ดังนั้น ฉันเลยไม่รู้ว่าคุณชอบฉัน”
ราฮีบอกเสียงสั่น ซองบอมส่ายหน้าทั้งน้ำตา
“ไม่ นั่นไม่ใช่เลย ผม รัก คุณ”
แต่งงานกันมาสี่ปี เพิ่งเคยได้ยินคำสารภาพรักจากสามีเป็นครั้งแรก ราฮีไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี
“ฉันก็อยากจะเชื่อว่าคุณรักฉัน แค่ดูเหมือนมันจะไม่ใช่ความรัก ถ้าคุณรักฉันจริงๆ คุณทำแบบนั้นกับฉันได้ยังไง คุณ… ผลัก ตบตี ใช้กำลัง ทำให้ฉันบาดเจ็บได้ยังไง ทำได้ยังไง…”
ในที่สุดน้ำตาก็ไหลลงมาจากดวงตาของราฮี
“ขะ ขอโทษ ผมขอโทษ รู้ว่าไม่ควรทำ แต่… พอคิดว่าคุณไม่สนใจ ผมก็โกรธมาก ดังนั้น… เวลาคุณจ้องผมอย่างน่ากลัว ผมรู้สึกเหมือนโดนด่าว่า ‘ฉันล่ะไม่อยากจะมองไอ้หมูนั่นจริงๆ’ ทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น ผมก็มักจะโกรธจนลืมตัว กลัวว่าคุณจะทิ้งผมไป ขอโทษนะ ขอโทษจริงๆ…”
ซองบอมปาดน้ำตาด้วยมือหนา หน้าตาที่มีหนวดหร็อมแหร็มผสมกลิ่นเหงื่อและกลิ่นเหล้าน่าเกลียดอย่างยิ่ง แต่ไม่ได้รู้สึกดูถูกหรือดูรังเกียจเหมือนแต่ก่อน มีความเวทนาและไม่สบายใจแทรกเข้าระหว่างความเกลียดชัง จิตใจของราฮีสับสนยุ่งเหยิง
หลังจากแยกจากจีฮวันกลับมา ราฮีก็ตัดสินใจแน่นอนว่าเธอไม่สามารถอยู่แบบนี้ได้ ต้องยุติชีวิตที่วุ่นวายกับการโกหกและเสแสร้งก่อนจะป่นปี้มากไปกว่านี้
การร้องไห้เหมือนเด็กๆ ของซองบอมทำให้การตัดสินใจที่จะหย่าและไปใช้ชีวิตคนเดียวของราฮีหวั่นไหว
“จะกลับไปคบกับผู้ชายคนนั้นใช่ไหม”
“เปล่า ผู้ชายคนนั้นมีผู้หญิงที่จะแต่งงานด้วยแล้ว”
“แล้ว…จะหย่าไหม”
ราฮีสบตาของซองบอมที่เต็มไปด้วยความกลัวขณะพูดคำว่าหย่าออกมาจากปาก นึกว่าดีแต่ดูถูกคนอื่น ไม่กลัวอะไรในโลก และใจดำเห็นแก่ตัว แต่ยังมีสีหน้ากลัวแบบนี้เหมือนกัน
สีหน้าที่มีความกลัวนั้นสั่นคลอนจิตใจ ราฮีถอนหายใจแรง หลังจากนั้นก็เล่าเรื่องที่ฝังอยู่ในชีวิต เป็นความลับที่ไม่เคยเปิดเผยกับใครนอกจากจีฮวัน
“แม่ฉัน ถูกมนุษย์ที่เรียกว่าพ่อทำร้ายตบตีมาตลอดชีวิต ฉันกัดแขนพ่อพลางบอกว่าอย่าตีแม่ เลยโดนพ่อตบแก้วหูฉีก รู้ไหมว่าตอนนั้นฉันอายุเท่าไหร่”
ซองบอมพูดไม่ออกได้แต่ทำตาปริบๆ กับคำถามไม่มีปี่มีขลุ่ยของราฮี
“เก้าขวบ ตอนนั้นเพิ่งได้รู้ว่าแก้วหูของคนเราฉีกขาดได้ง่ายขนาดนี้”
ใบหน้าของซองบอมเจ็บปวด
“ฉันได้แต่ภาวนาทุกวันให้พ่อตาย จนอายุสิบกว่า ตอนฉันอยู่ม.ปลาย พ่อก็ประสบอุบัติเหตุตาย ตอนนั้นฉัน…”
เสียงของราฮีสั่นน้อยๆ
“ดีใจ”
น้ำตาไหลลงมาจากตาของราฮีต่างจากคำพูด น้ำตานั้นฟาดหนักๆ ที่หัวใจของซองบอม
ที่ผ่านมาขณะที่โดนทำร้าย ราฮีไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าซองบอมเลยสักครั้ง มีแต่ความโกรธและรังเกียจจ้องมาอย่างน่ากลัว ซองบอมยิ่งใช้ความรุนแรง โดนแก้ตัวว่าสายตาแบบนั้นทำให้เขาโกรธมากขึ้น
พอได้เห็นน้ำตาของภรรยา ก็ทำให้ซองบอมรู้ว่าตัวเองได้ทำการกระทำที่เหี้ยมโหดแค่ไหนลงไป
ไม่อาจถามราฮีที่สะอึกสะอื้นอย่างโศกเศร้าออกไปได้ว่า ราฮีภาวนาให้ตัวเองตายเร็วๆ เหมือนพ่อด้วยหรือเปล่า
“ฮึ้ย แม่งเอ๊ย อะไรกันเนี่ย นี่มันอะไรกัน…”
ซองบอมใช้หลังมือเช็ดน้ำตาพลางสบถที่ไม่รู้ส่งถึงใคร
ภายในบ้านที่กว้างใหญ่และสะอาดสะอ้านไม่มีฝุ่นสักเม็ด เสียงร้องไห้ของสองสามีภรรยาดังก้องเหมือนนักร้องประสานเสียง
บทที่ 81-1 ริมฝีปากของคุณทำผมเป็นบ้า
“จากู แม่อยู่นี่ จากู”
ภายในห้องพักฟื้น จากูปรือตาตอบเสียงเรียกด้วยความเป็นห่วงของอึนคังอย่างยากลำบาก
“จากู…”
อึนคังที่คอยให้จากูฟื้นจากยาสลบอย่างร่าเริงและเข้มแข็งมาตลอด พอเห็นจากูฟื้นก็น้ำตาแตก
เนื้อสีชมพูที่ปรากฏให้เห็น เนื่องจากขนบริเวณคอและไหล่ถูกโกนออกเพื่อผ่าตัด รอยเย็บที่แสดงความโหดเหี้ยมจากเหตุการณ์นั้น กระทั่งสายตาที่สะลึมสะลือที่ฟื้นจากยาสลบและผ้าพันแผลรอบคอ ทุกสิ่งของจากูเสียดแทงใจของอึนคัง
จากสภาพที่สติยังกลับมาไม่หมด จากูที่เห็นอึนคังร้องไห้ได้แต่ครางหงิงๆ พยายามลุกขึ้น อึนคังรีบหันหลัง ไม่อาจให้จากูที่รับรู้สุขทุกข์ของเธอได้อย่างรวดเร็วก่อนใครเห็นตัวเองในสภาพที่กำลังร้องไห้ได้
จีฮวันคุกเข่าลงมาสบตากับจากูแทนอึนคังที่ยืนหันหลัง จากูจ้องมองจีฮวันด้วยลูกตากลมโตสีดำเงียบๆ
จากูที่จีฮวันรู้จัก เป็นหมาที่ซนที่สุดในโลก ทั้งฉี่รดตัวเขา เลียเท้าทุกครั้งที่เจอกัน เป็นปิศาจจอมเขมือบที่พุงป่องขึ้นทุกครั้งที่เจอ และได้ออกไปเดินเล่นแล้วไม่ชอบกลับบ้าน
และเด็กแบบนี้ที่วิ่งเข้าไปช่วยชีวิตเขาจากหมาที่ตัวใหญ่กว่าตัวเองสามเท่าโดยไม่ลังเล ภาพของจากูที่พุ่งเข้าใส่โดสะถูกประทับเอาไว้ในใจของจีฮวันแจ่มชัด ในอนาคตอาจไม่ได้พบเจอสายตาของหมาที่เปี่ยมด้วยความมั่นใจแบบนี้อีกแล้ว
“ลำบากแย่เลยนะ เด็กโง่”
จีฮวันกระซิบเบาๆ จากูขยับหูเล็กน้อย
“ขอบคุณ”
ขอบคุณอะไรกันเล่า เหมือนสายตาไม่พอใจของจากูตอบเขาอย่างนั้น
คุณลุง ผมไม่เป็นไร ผมทำเพราะผมชอบ ไม่ต้องเสียใจนะ คุณลุงเป็นคนที่แม่ผมชอบ ผมเองก็ชอบคุณลุง ผมจะไม่ขอร้องให้พาน้องแมวสวยๆ ของคุณลุงมาหาอะไรแบบนั้นอีก
“ดูลุงคนนี้สิ ว่าใครเด็กโง่”
อึนคังเช็ดน้ำตาหันมาจ้องจีฮวันเขม็ง จีฮวันมองอึนคังแล้วทำหน้าตกใจ
“เฮือก! รู้แล้วจากูซื่อบื้อแบบนี้คล้ายใคร!”
อึนคังทำปากยื่น จีฮวันเช็ดน้ำตาที่ขอบตาของอึนคัง
“ดึกมากแล้ว แต่ผมมีเรื่องจะพูดด้วย ถ้าไม่พูดตอนนี้คงไม่ได้ ช่วยฟังหน่อยนะครับ”
“เรื่องอะไรคะ”
“มีทั้งข่าวร้ายและข่าวดี…”
“เอาข่าวดีก่อน!”
จีฮวันส่ายหน้า
“ต้องฟังตามลำดับ ผมจะเล่าตั้งแต่ข่าวร้ายก่อน”