รักวุ่นวายของ Cool Guy สายเนี้ยบ - ตอนที่ 1 ถ้าจะให้พูด ผมก็เหมือนแตงโมที่ไร้เมล็ด
“ฮึก ฮือออ…”
เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของหญิงสาวดังคลอประสานเสียงเบาๆ ของไวโอลิน
บ่ายวันเสาร์ ณ คอฟฟี่ช็อปในโรงแรมหรูที่มีวิวสวย
ที่แห่งนี้ที่เต็มไปด้วยฟีโรโมนของหนุ่มสาว ความเร่าร้อน และบทสนทนาหวาน สมกับเป็นสถานที่ยอดนิยมในการมาเดต นัดบอด หรือนัดดูตัว ช่างไม่เข้ากับเสียงร้องไห้ของหญิงสาวที่กำลังเศร้าเสียใจเอาเสียเลย
สาวเจ้าของน้ำตาร้องไห้มากว่าสิบนาทีแล้ว ไม่รู้ว่ารับรู้ถึงสายตาที่เหลือบมองมาจากรอบทิศทางหรือไม่
ร่างที่ดูอย่างไรก็บอบบาง
ผมหนาเป็นคลื่นสีน้ำตาลทิ้งตัวเป็นมันเงา ชุดวันพีชสีฟ้ามีเสน่ห์สมเป็นผู้หญิงเน้นเอวบางคอด
ในขณะที่กำลังร้องไห้ สองขารวบชิดเอียงมาข้างหนึ่งอย่างเรียบร้อย รองเท้าส้นเข็มคอลเล็คชันล่าสุดที่สองเท้าเรียวงามสวมใส่เป็นประกายสวย
หญิงสาวที่แค่เห็นก็รู้สึกถึงความงามเลอค่ากำลังเศร้าสร้อย แม้แต่คนไม่รู้จักก็ไม่อาจละสายตา แต่สายตาของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอกลับไม่สนใจ และมีท่าทีเฉยชา
สิ่งที่ดึงดูดสายตาผู้คนตั้งแต่แรกเห็นคือหญิงสาวที่กำลังร้องไห้ อีกด้านที่ทำให้อดมองไม่ได้ก็คือชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงกันข้ามกับเธอ
สายตาของเขาลึกซึ้งไม่ธรรมดา หน้าผากภายใต้ผมที่ปรกลงมา จมูกโด่งเป็นสันราวกับปั้นแต่ง สันกรามคมชัด ผิวขาวราวกับโปร่งแสง เป็นชายหนุ่มเย็นชาสุดเพอร์เฟกต์
นิ้วเรียวยาวของจีฮวันเกี่ยวถ้วยชาขึ้นจิบชาคาโมมายล์หนึ่งอึก ไม่สนใจสายตาจากบรรดาหญิงสาวที่มองมา
เขาตั้งกฎเหล็กกับตัวเองมาหลายปีแล้วว่าจะไม่ดื่มกาแฟหลังสี่โมงเย็น สิ่งที่สาหัสที่สุดสำหรับจีฮวันในตอนนี้ คือคาเฟอีนที่ดื่มไปหลายอึกกำลังกระตุ้นประสาท อีกทั้งน้ำตาของหญิงสาวที่นั่งตรงกันข้ามเป็นสาเหตุแห่งความรำคาญใจ
หญิงสาวลอบสังเกตความรู้สึกของจีฮวันในขณะที่ร้องไห้อย่างโศกเศร้า ดูท่าทางวุ่นวายใจ
ถ้าเป็นผู้ชายปกติ มักจะทำอะไรไม่ถูก เลิ่กลั่ก และถามว่าเป็นอะไร เมื่อเห็นน้ำตาผู้หญิงตรงหน้า แต่จีฮวันเอาแต่จิบชาสีหน้าไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่ใช่แค่นั้น ยังโยกศีรษะตามเสียงไวโอลินด้วยใบหน้าเรียบเฉย ราวกับเธอจะร้องก็ร้องไป ฉันก็จะอยู่ของฉันแบบนี้
“ฮึก ฮึก ขอโทษนะคะ ที่เอาแต่ร้องไห้…”
หญิงสาวตัดสินใจว่าตอนนี้คงหมดเวลาสำหรับการเอาแต่ร้องไห้โดยไม่พูดอะไรแล้ว ยกมือขาวบอบบางขึ้นเช็ดน้ำตาอย่างแช่มช้า แสดงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้ง
จีฮวันยื่นผ้าเช็ดปากที่วางอยู่บนโต๊ะให้ราวกับคอยอยู่แล้ว
“ขอบคุณค่ะ”
ขณะร้องไห้ หญิงสาวก็ไม่ลืมขอบคุณอย่างสุภาพ ซับน้ำตาเล็กน้อย น้ำตาที่เหลือคลอครองปริ่มดวงตา
“คง ตกใจมากเลยสินะคะ”
จีฮวันยักไหล่น้อยๆ
“ขอโทษนะคะ ไม่ได้อยากทำให้คุณตกใจ ตะ แต่ฉันไม่รู้จะแก้ไข้ปัญหาคนเดียวได้ยังไง นี่เป็นครั้งแรก ฉันเองก็สับสน และตกใจมาก ไม่รู้จะทำยังไงดี กลัวมากๆ ด้วย ไม่มีเจตนาให้คุณลำบากใจเลย ฮึก ขอโทษนะคะ”
เธอโพล่งออกมาไม่หยุด และเริ่มสะอึกสะอื้นอีกครั้ง ไหล่บางสั่นระริกตามแรงสะอื้น
“ไม่หรอกครับ พูดออกมาก็ดีแล้ว ก็เป็นเรื่องที่แบกรับเอาไว้หรือแก้ไขคนเดียวไม่ได้นี่ครับ”
หญิงสาวสูดน้ำมูกเงยหน้า ส่งสายตาเศร้าสร้อยไปยังจีฮวัน คอนแทคเลนส์บิ๊กอายเจือความชุ่มชื้น ดวงตาวาววับลำบากใจ ซึ่งจีฮวันก็ไม่พลาดความโล่งใจที่ผ่านมาให้เห็นในดวงตานั้นแวบหนึ่ง
เขาถามหลังจากยกถ้วยช้าขึ้นดื่มช้าๆ อีกอึกหนึ่งด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น
“คุณจะบอกว่าคุณท้องสินะครับ”
เขาถามเสียงปกติราบเรียบราวกับถามเรื่องทั่วไปอย่างกินข้าวไหม เป็นหวัดหายหรือยัง ไปเที่ยวสนุกหรือเปล่า หรือพ่อแม่สบายดีไหม อะไรแบบนั้น
หญิงสาวสะดุ้ง มีสีหน้าตกใจกับคำถามของจีฮวันเหมือนได้ยินสิ่งที่ไม่ควรได้ยิน เพราะในความเป็นจริง คนที่น่าจะหยิบยกเรื่องท้องออกมาพูดคือตัวเอง
เธอหน้าเศร้าพยักหน้าช้าๆ อย่างเคอะเขิน ก่อนจะเริ่มสะอื้นอีกครั้งด้วยสีหน้าหวาดกลัว
“ฮือ ทำยังไงดีคะ ฉันทบเก็บเรื่องนี้ไว้คนเดียวไม่ได้ ฮึก ฮึก…”
“ก็ต้องงั้นสิครับ ยินดีด้วยนะครับ”
“คะ?”
หญิงสาวที่กำลังน้ำตาคลอหันขวับ สายตางงงวย ‘นี่ฉันฟังผิดไปหรือเปล่า’ และคำพูดต่อมาของจีฮวันก็ยิ่งตอกย้ำความสับสนของเธอ
“การตั้งครรภ์ ให้กำเนิดชีวิตใหม่เป็นเรื่องที่น่ายินดีนะครับ”
จีฮวันยกถ้วยชาขึ้นดื่มอีกครั้งหลังจากอวยพรด้วยความจริงใจ หญิงสาวมองเขาที่จิบชาอีกครั้งด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
พูดยังกับเป็นเรื่องของคนอื่นแบบนี้ได้อย่างไรกัน ผู้ชายคนนี้คิดอะไรอยู่ หรือทำเป็นนิ่งเฉยเพื่อปิดบังความกระสับกระส่าย หรือกำลังถ่วงเวลาเพื่อเลี่ยงความรับผิดชอบ หรือคิดว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
สมองของหญิงสาวคิดไปเรื่อยพร้อมกับดวงตาที่กลอกไปมา ซึ่งสถานการณ์นี้ก็ไม่อาจรอดสายตาของจีฮวันไปได้
“ชารสดีมาก ไม่ดื่มสักหน่อยเหรอครับ ร้องไห้ไปเยอะ คงเสียน้ำในร่างกายไปไม่น้อย”
สีหน้าของหญิงสาวเริ่มเปลี่ยนจากสับสนเป็นเหมือนเห็นเรื่องเหลวไหล
“ถ้าไม่ชอบชาเย็นๆ จะเติมน้ำสักหน่อยไหมล่ะครับ”
หญิงสาวหมดความอดทนกับท่าทางเยือกเย็นอย่างไม่น่าเป็นไปได้ของจีฮวัน เริ่มเผยเขี้ยวเล็บที่เก็บซ่อนไว้
“ขอโทษนะคะ”
เขามองเธอด้วยสายตาที่ถามว่ามีอะไร มองผ่านๆ อาจเห็นเพียงความสงบ แต่ถ้าสังเกตให้ดีๆ แล้ว จะพบกับความไม่สนใจใยดีใดๆ เป็นสายตาที่เย็นชา ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น ราวกับมองสิ่งของ
“ครับ เชิญพูดได้เลย”
“ท่าทาง คุณจะยังไม่เข้าใจที่ฉันพูด”
หญิงสาวกัดริมฝีปากเบาๆ แล้วถอนหายใจแรง
“ผมเข้าใจดีครับ คุณบอกคุณกำลังจะมีลูก เพราะงั้นผมถึงได้แสดงความยินดีด้วยไงครับ”
“กะ ก็ใช่ค่ะ แต่สิ่งสำคัญมันอยู่ตรงนี้ ดะ เด็กที่อยู่ในท้องของ ฉะ ฉัน…”
หญิงสาวพูดตะกุกตะกักราวกับเขินอาย ในขณะที่จ้องจีฮวันพลางส่งสัญญาณบอกใบ้
จีฮวันประสานมือกันบนโต๊ะอย่างเรียบร้อย ยืดหลังตรงสบสายตากับเธอ
“คุณอยากจะบอกว่าเด็กในท้องเป็นลูกผมงั้นรึครับ”
ปากของหญิงสาวอ้าค้างเล็กน้อยกับคำถามของจีฮวัน เขาคิดว่าไม่เกี่ยวกับตัวเองจริงด้วย หญิงสาวที่เคยมีสีหน้าอึ้งตกใจ จ้องมองเขาด้วยใบหน้าเหลือเชื่อ
“พะ พูดแบบนั้นออกมาได้ยังไง”
ใบหน้าที่ขาวเกลี้ยงเกลาไร้จุดด่างดำของหญิงสาวแดงวาบ
“จะดูถูกกันเกินไปแล้ว คุณเห็นฉันเป็นอะไร ฉันไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้นนะคะ ฉันจะทำเป็นไม่ได้ยินที่คุณพูดเมื่อกี้ พูดจาไร้มารยาทแบบนั้นออกมาได้ยังไง…”
ใบหน้าของหญิงสาวขาวซีด ประหนึ่งได้ยินข่าวจุดจบของโลก จีฮวันมองหญิงสาวที่ส่งเสียงฮึดฮัดราวกับได้รับความสะเทือนใจหนักหนา
เล่นละครได้ยอดเยี่ยม แสดงเก่งขนาดนี้ รูปร่างหน้าตาก็ดี ทำไมไม่ไปเป็นดารา จีฮวันนึกสงสัย
“ถ้าทำให้รู้สึกว่าผมดูถูกคุณ ก็ต้องขอโทษด้วยนะครับ”
“ขอโทษตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วล่ะค่ะ คุณไม่ควรพูดมันตั้งแต่แรก ไม่ใช่แค่ฉัน แต่กับเด็กก็ด้วย…”
หญิงสาวกุมท้องเบาๆ ราวกับต้องการปกป้องลูกจากคำดูถูก และส่งสายตาไปยังจีฮวันอีกครั้ง
“ขอโทษอีกครั้งนะครับ จะให้ผมทำยังไง มีทางเลือกอะไรให้ผมบ้าง ไม่สิ ผิดขั้นตอน คุณคิดจะตัดสินใจยังไง”
คลอดหรือไม่คลอด ก็มีอยู่แค่สองอย่าง สำหรับคนท้องจะมีตัวเลือกอะไร
“ฉัน…”
หญิงสาวสูดหายใจลึก
“ฉันนับถือศาสนาคริสต์ที่เคร่งในความเชื่อเรื่องการกำเนิด เลยไม่คิดที่จะทำร้ายชีวิตอันทีค่าที่พระเจ้าให้มาเป็นอันขาด และฉันก็ปฏิญาณว่าจะรักษาความบริสุทธิ์…และคุณจีฮวันก็เป็นคนแรก”
ใบหน้าของหญิงสาวแดงขึ้น เหมือนจีฮวันเป็นคนแรกจริงๆ
“เพราะฉะนั้นเลยตัดสินใจจะคลอดเด็กงั้นสินะครับ”
หญิงสาวพยักหน้าช้าๆ
“ศาสนาคริสต์สนับสนุนการแต่งงาน แต่คุณไม่คิดจะคลอดเด็กเพียงลำพัง การแก้ปัญหาของคุณคือการลงเอยที่การแต่งงานเหรอครับ”
หญิงสาวพยักหน้าอีกครั้ง แต่คราวนี้พยักหน้าเร็วและแรงขึ้นอีกนิด
จีฮวันรู้สึกเพลียทันทีที่ได้รู้จุดประสงค์ที่เธอซ่อนเอาไว้
อุตส่าห์พยายามตั้งนาน ทำอย่างไรก็ได้เพื่อเค้นคำว่า ‘แต่งงาน’ ให้ออกมาจากปากของจีฮวัน ต้องชื่นชมในความอดทน
“อย่างนั้นเหรอครับ เมื่อมีเด็กเกิดมา ก็สามารถแต่งงานได้ ผมกับคุณซูจองต่างก็มีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน ทั้งรสนิยม การพูดคุยก็เข้ากันได้ดี การแต่งงานในวัยผู้ใหญ่ที่เพียบพร้อมด้วยความรับผิดชอบนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ครับ”
รอยยิ้มโล่งอกฉายบนใบหน้าของหญิงสาว
“แต่ดูเหมือนจะมีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย”
หญิงสาวชะงักกับประโยคถัดมาของจีฮวัน
“อะไรนะคะ”
“ชายหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรง ถ้ามีเพศสัมพันธ์กัน ก็อาจให้กำเนิดบุตรได้ใช่ไหมครับ แต่นั่นเป็นกรณีที่ไม่มีการคุมกำเนิด แต่วันนั้นผมคิดว่าตัวเองได้ป้องกันเป็นอย่างดี”
แน่นอน ไม่ว่าในกรณีไหน เขาไม่มีทางไม่ใส่ถุงยางเด็ดขาด ดังนั้นแม้แต่น้ำหล่อลื่นสักหยดของเขาก็ไม่มีทางเล็ดลอดไปได้
“มะ มันก็ใช่ แต่ถึงจะป้องกันยังไง มันก็คุมไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกนะคะ… ลองหาดูก็มีเคสแบบนี้หลายเคส”
จีฮวันแสยะยิ้ม
“นั่นสินะครับ กรณีที่ถุงยางฉีกขาดก็มี”
เห็นเขาพยักหนาเห็นด้วยก็วางใจ หญิงสาวยิ้มอีกครั้ง แต่นั่นเป็นการคิดไปเอง เพราะจีฮวันลบรอยยิ้มออกจากใบหน้าแทบจะทันที
“แต่จะไม่มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นกับพวกเรา ถึงแม้ผมจะใช้ถุงยางที่ขาดหมด ก็ไม่มีทางทำใครท้องได้”
“คะ?”
ใบหน้าของหญิงสาวที่บอกว่าท้องฉายแววผิดหวัง
“คุณแน่ใจขนาดนั้นได้ยังไงคะ สุดท้ายตั้งใจจะปัดความรับผิดชอบงั้นเหรอ คุณจีฮวันเป็นคนขี้ขลาดขนาดนั้นเลยเหรอคะ น่าผิดหวังจริง”
จีฮวันหยิบซองสีขาวจากกระเป๋าในเสื้อแจ็คเก็ตออกมาวางลงบนโต๊ะ เขาเฝ้ามองสายตาที่พิจารณาไปยังซองจดหมายของเธอ
“ลองเปิดดูสิครับ”
หญิงสาวคิ้วย่นราวกับเห็นแมลงน่าเกลียดน่ากลัว
“นี่อะไรคะ ถ้าเป็นเงินล่ะก็ ไม่จำเป็น ฉันไม่ใช่ผู้หญิง…”
“ไม่ใช่เงินหรอกครับ อย่าห่วง ลองเปิดดู”
หญิงสาวหยิบซองมาเปิดด้วยความสงสัย เมื่อคลี่กระดาษที่พับอยู่ออกดู ดวงตาของเธอก็เบิกโตด้วยความตกใจ
“นะ นี่มันอะไรกันคะ”
“ก็ตามที่เห็นนั่นแหละครับ”
เธอจ้องมองจีฮวันสลับกับกระดาษด้วยดวงตาที่ไม่อยากจะเชื่อ
“นะ นี่”
หญิงสาวพูดไม่ออก จีฮวันเลยช่วยต่อให้
“ใช่ครับ เอกสารการทำหมัน เห็นชื่อที่เขียนอยู่ใช่ไหมครับ รยูจีฮวัน ใช่แล้วครับ นั่นผมเอง ผมเป็นผู้ชายที่ทำหมันแล้วครับ”