เช้าวันเสาร์ที่แสนสบาย แสงแดดอ่อนๆยามเช้าส่องผ่านผ้าม่านเข้ามาในห้อง หญิงสาวลุกออกจากเตียง เดินออกมายืนอยู่ที่ระเบียงเพื่อรับวิตามินจากแสงแดดยามเช้า
หลังจากกลับมาเธอกับเร่ออวี้ก็ไม่ค่อยได้เจอกัน เพราะคิวงานที่แน่นของเขา ทำให้ไม่ค่อยมีเวลามาเจอกับเธอ และตอนนี้ก็เข้าวัน5แล้ว ที่เธอไม่เจอหน้าเขาเลย แต่เธอกลับรู้สึกดี อาจเป็นเพราะไม่ต้องคอยหลบคอยปิดบังตัวเวลาต้องเจอกับเขา ซึ่งเธอเองก็รู้สึกเหนื่อยกับสิ่งที่ทำอยู่
ตอนนี้เธอกำลังดื่มด่ำกับความสงบสุข
แต่ความสงบก็อยู่กับเธอเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงระเบียงห้องข้างๆ เมื่อเห็นว่าเป็นเขา เธอก็ตกใจและนึกว่าตัวเองตาฟาดจึงขยี้ตาและมองอีกครั้ง
ชายหนุ่มยิ้มกวนๆพร้อมกับยักคิ้วให้เธอ เป็นเขาจริงๆด้วย ท่าทางกวนประสาทแบบนี้มีคนเดียว “พี่อวี้”
“ดีใจล่ะสิ่ที่เจอชั้น” เขาเอ่ยถามเสียงใส
“ทำไมพี่ถึงมาอยู่ที่นี่” เธอทั้งตกใจและแปลกใจ
” ก็ชั้นพักอยู่ที่นี่” เขาตอบมาดกวน
“ห๊ะ พี่คิดจะทำอะไรของพี่เนี่ย”
“ชั้นย้ายมาอยู่ใกล้ๆเธอ เราสองคนจะได้มีเวลาเจอกันมากขึ้น เธอจะได้ไม่ต้องทนคิดถึงชั้นไง” เขาพูดอย่างมั่นใจจนเธอต้องมองบนเลยทีเดียว
ตอนนี้เขากลายเป็นคนกะล่อนและทะเล้น แตกต่างกับเร่ออวี้คนเก่าอย่างสิ้นเชิง
“ชั้นว่าพี่น่าจะคิดไปเองแล้วล่ะ”หญิงสาวยิ้มเล็กๆ และเตรียมจะเดินเข้าห้อง ชายหนุ่มจึงปีนข้ามระเบียงมาหาเธอ
“พี่อวี้ พี่บ้าไปแล้วเหรอ ไม่กลัวตกลงไปตายหรือไง” เช่อเฟยต่อว่าทันทีที่เขาข้ามมาถึง
ชายหนุ่มดันตัวเธอเข้าไปชิดประตู สองมือก็ยกขึ้นมายันไว้ พร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่เธอ
“ชั้นไม่ตายง่ายๆหรอก เพราะถ้าชั้นตายไป เธอก็คงเสียใจแย่ แล้วอีกอย่าง คนหล่อๆแบบชั้นก็ไม่มีแล้วด้วย”
“พี่หลงตัวเองเกินไปมั้ง บนโลกนี้คนหล่อๆนอกจากพี่น่ะมีเยอะแยะไป”
“แต่โลกนี้คงไม่มีใครชอบคนเซ่อๆแบบเธอได้เท่าชั้นหรอก” เกือบจะซึ้งอยู่แล้วเชียว
“ก็คงมีแต่คนบ้าๆแบบพี่เท่านั้นแหละที่ชอบ” เธอเริ่มไม่สบอารมณ์ ชายหนุ่มจึงยิ้มอย่างชอบใจ และยื่นหน้าเข้ามาใกล้ หญิงสาวรู้ทันทีว่าเขาจะทำอะไร เธอจึงยกมือขึ้นมาปากของเขาจึงจูบโดนมือของเธอแทน ชายหนุ่มจึงถอนริมปากออกอย่างรู้สึกเซ็ง
“นิดเดียวก็ไม่ได้เหรอ” เขาเอ่ยเสียงออดอ้อน
“ไม่ได้” เธอปฏิเสธเสียงแข็ง
“ทำไมล่ะ ชั้นก็เคยจูบเธอออกจะบ่อย”
“คำว่านิดเดียวของพี่มันอาจจะบานปลายจนกลายเป็นอย่างอื่นก็ได้ ฟังไว้เลยนะว่าถ้าอยู่กันสองต่อสองในสถานที่ส่วนตัว เช่น ห้องพี่ หรือ ห้องชั้น หรือที่ไหนก็ตาม พี่ห้ามจูบหรือทำอะเกินเลยกับชั้นเด็ดขาด เข้าใจไหม”
“ถ้าเธอไม่ยอม ชั้นจะไปทำอะไรเธอได้อ่ะห๊ะ” เขาหรี่ตามองเธอ
“ไม่รู้แหละ ถือว่านี่เป็นกฏของชั้น พี่ก็ต้องทำตาม กลับห้องตัวเองไปได้แล้ว ”
พูดจบเธอก็เดินเข้าห้องไป
“เธออาจจะยังไม่รู้ ว่าชั้นน่ะชอบแหกกฏ ” ชายหนุ่มยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะปีนข้ามระเบียงกลับไปที่ห้อง
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา
ดอกไม้ช่อใหญ่จากแฟนคลับถูกทิ้งลงไปบนพื้นอย่างไม่ใยดี
“หงุดหงิดอะไรอีกล่ะ” ไป๋หลันถามเซี่ยปินที่พอกลับมาจากงานอีเว้นท์ก็ระเบิดอารมณ์อย่างหนัก
“ก็พวกนักข่าวน่ะสิ่ ถามแต่ว่า ก่อนหน้านี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมละครเรื่องที่แล้วชั้นถึงไม่ได้เป็นนางเอก และยังถามอีกว่า ชั้นรู้สึกยังไงที่ยัยนั่น ได้ขึ้นมานั่งตำแหน่งนางเอกเหมือนกับชั้น ถามแบบนี้ก็เหมือนจงใจเอายัยนั่นมาเปรียบเทียบกับชั้นชัดๆ” เซี่ยปินรู้สึกรับไม่ได้ และสิ่งที่ทำให้เธอโมโหที่สุดก็คือแบรนด์สินค้าดังที่เธอเป็นพรีเซ็นเตอร์ ก็กำลังหันความสนใจไปที่เช่อเฟย เธอจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ไม่ได้ ที่ผ่านมาเธอประมาทเช่อเฟยเกินไป
ถัดมาที่ ฉินเค่อ ที่เอาแต่กินเหล้าเมา ไม่ยอมรับงานมาเกือบสองอาทิตย์ จนหว่านเจียงทนเห็นสภาพของฉินเค่อไม่ได้อีกต่อไป
เหล้าในมือของชายหนุ่มถูกผู้หว่านเจียงโยนทิ้งลงไปในถังขยะ “ทำอะไรของพี่ เอาเหล้าของผมคืนมา” ชายหนุ่มเดินโซเซไปที่ถังขยะ หว่านเจียงจึงเหวี่ยงเขาลงไปบนพื้น
“ทำแบบนี้แล้วได้อะไรขึ้นมาห๊ะ เคยดูสภาพตัวเองบ้างไหม ว่าตอนนี้แกดูแย่แค่ไหน ”
“แย่แล้วยังไง เพราะต่อให้ดียังไง เฟยเฟยก็ไม่กลับมาหาผม”
“ฉินเค่อ จำที่คุณหลิวพูดในห้องประชุมในวันนั้นได้ไหม ”
“เธอก็แค่พูดแทงใจผมเท่านั้นแหละ”
“แล้วนายคิดว่า มันไม่มีโอกาสที่จะเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอ ยิ่งตอนนี้เช่อเฟยกำลังดัง และความดังของนายก็สูสีกับเร่ออวี้ ถ้าบริษัทใหญ่เขาวางตัวนายกับเช่อเฟยให้เล่นคู่กัน ยังไงคุณหลิวก็ต้องยอม นายก็จะได้ใกล้ชิดกับเธอไง” สิ่งที่หว่านเจียงพูดทำให้ฉินเค่อได้สติขึ้นมา จากนั้นเขาก็เริ่มกลับมารับงานอีกครั้ง
MANGA DISCUSSION