รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน - ตอนที่ 8 เขาจงใจ
บทที่008 เขาจงใจ
ดวงตาที่แหลมคมของฉู่หลินเฉินตกลงไปที่ร่างกายของฉินซูในทันที รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แล้วก็ถูกแทนที่ด้วยความโกรธอย่างรวดเร็ว
ผู้หญิงคนนี้……
“เธอจะมีความคิดเห็นอะไรได้?” ฉู่หยุนซีกลอกตาใส่เธออย่างไม่พอใจ
ฉินซูมองเธอ แล้วค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา สีหน้าเรียบเฉย “ฉันแค่เป็นผู้หญิงขี้โกหก เป็นของปลอม มาจากครอบครัวเล็กๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ฉันเล่นละครไม่เป็น ถ้าเกิดว่าถูกเผยไต๋ออกมาต่อหน้าผู้คน ฉันจะไม่ยิ่งทำให้ครอบครัวของพวกคุณเสียหน้าเหรอ?”
ฉู่หยุนซีตะลึงไป
ผู้หญิงขี้โกหก เป็นของปลอม มาจากครอบครัวเล็กๆ……คำพูดพวกนี้คือคำพูดที่เธอถากถางฉินซูเมื่อกี้นี้เอง
นี่เธอกลับจำไว้ในใจ แล้วย้อนกลับยังงั้นเหรอ!
ฉู่หยุนซีโกรธเพราะความอับอาย พูดอย่างดูถูกว่า “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน? หรือจะให้ตระกูลฉู่ขอร้องเธอรึยังไง!”
หลังจากพูดจบ ก็จงใจพูดซ้ำอีกประโยค “ปลอมจี๋!”
ฉินซูไม่แคร์
ทันใดนั้นก็รู้สึกมีความหนาวเย็นแผ่ซ่านเข้ามา เธอมองไปด้านข้าง ก็พบกับสายตาที่เยือกเย็นของผู้ชายคนนั้น
“เธอนึกว่า เธอมีสิทธิ์ที่จะได้เลือกยังงั้นเหรอ?”
เสียงเย็นๆของฉู่หลินเฉินเต็มไปด้วยคำเตือน
“ถ้าเกิดว่าฉันไม่ร่วมมือ พวกคุณจะส่งฉันเข้าคุกเหรอ?” ฉินซูลองถาม
ฉู่หลินเฉินยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่เยือกเย็นนั้น ทำให้คนอื่นหนังศีรษะชาอย่างอธิบายไม่ได้
สายตาของเขาอันตราย “อาจจะแย่กว่านั้นก็ได้”
ฉินซูขมวดคิ้วเบาๆ
ด้านข้างมีเสียงเตือนจากพ่อบ้านดังขึ้น “คุณฉิน นี่คือตระกูลฉู่นะครับ คุณให้ความร่วมมือดีๆจะดีกว่า ถ้าครั้งนี้คุณช่วยเหลือเรา คุณอาเฉินอาจจะยอมปล่อยให้มันแล้วไป……”
ยังไม่ทันจะพูดจบ ก็ถูกสายตาของฉู่หลินเฉินขวางไว้
ฉินซูอดไม่ได้ที่จะตกอยู่ในห้วงของความคิด
เธอก็เป็นแค่นักศึกษาแพทย์ธรรมดาๆ ไม่รู้จักตระกูลฉู่เลยแม้แต่นิดเดียว แทนที่จะสนใจข่าวเกี่ยวกับครอบครัวที่ร่ำรวย เธอชอบเรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์ ยาจีน การทดลองทางคลินิกมากกว่า
แต่ว่าเธอไม่ได้โง่
ทุกสิ่งที่เธอเจอตั้งแต่ตอนที่ตื่นขึ้นมา ความหรูหราที่เห็นทั้งหมดนั้น……
ตระกูลฉู่ ยังไงก็ไม่ใช่แค่ครอบครัวที่ร่ำรวยธรรมดาๆแน่นอน
ดังนั้น ต่อให้เธอปฏิเสธ พวกเขาก็สามารถบังคับให้เธอพยักหน้าได้อยู่ดี?
ฉินซูรู้สึกรังเกียจในใจ
สติปัญญาทำให้เธอซ่อนอารมณ์ของตัวเองไว้ แกล้งทำเป็นพูดอย่างสบายๆว่า “ก็ได้ค่ะ งั้นฉันรับปากจะแต่งงานปลอมๆกับคุณชายฉู่ แต่ว่า ฉันมีเงื่อนไขสองข้อ!”
ฉู่หลินเฉินโกรธขึ้น เมื่อกี้เขายังไม่ทันจะปฏิเสธ ผู้หญิงคนนี้กลับกล้าร้องขออะไรยังงั้นเหรอ?
เขากำลังจะระเบิดอารมณ์ แต่ว่าก็ถูกคู่สามีภรรยาฉู่ซวู่ดึงไว้ ทั้งสองคนส่ายหน้าให้เขา
ฉินซูเงยหน้าขึ้น มองหน้าฉู่หลินเฉิน “ข้อแรก ถือว่าพวกเราร่วมงานกัน หลังจากเรื่องนี้จบแล้วพวกคุณอย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้ฉัน แล้วก็ห้ามส่งฉันเข้าคุกด้วย”
ข้อเรียกร้องนี้ถือว่าไม่มากเกินไป
ความโกรธของฉู่หลินเฉินบางลงนิดหน่อย ทำเสียงฟึดฟัดแล้วพูดว่า “ถ้ายังงั้นเธอก็ต้องให้ความร่วมมืออย่างดีก่อน!”
“ได้”
ฉินซูพยักหน้า แล้วก็พูดเงื่อนไขข้อที่สอง “ฉันไม่อยากอยู่ที่นี่ ถ้าเกิดว่าเป็นไปได้ ฉันอยากจะกลับหอพัก……ที่มหาลัย”
หลังจากพูดจบ ก็ไม่ลืมที่จะอธิบาย “ที่จริงแล้วฉันเป็นนักศึกษา ก่อนที่จะเรียนจบพักอาศัยอยู่ที่
มหาลัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คนข้างนอกคงไม่รู้สึกมันแปลกหรอกใช่ไหมคะ?”
ฉินซูรู้ดีในใจ ว่าของปลอมอย่างเธอ ถ้าเกิดว่าอยู่ที่ตระกูลฉู่ นอกจากจะตกเป็นเป้าหมายแล้ว
วันๆก็คงไม่ง่ายเลย
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังมีเรื่องของตัวเองที่ต้องจัดการอีก
“เหอะ!”
ฉู่หลินเฉินกลับหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา เขามองฉินซูด้วยหางตาจากมุมสูง เหมือนกับว่าเยาะเย้ยในความคิดที่ไร้เดียงสาของเธอ
ภายใต้ความโกรธที่มากมายของเขา ฉินซูขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ฉันพูดอะไรไม่ถูกเหรอ?”
“ถูก”
ฉู่หลินเฉินตอบเธอด้วยใบหน้าเหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม หลังจากนั้นก็ออกคำสั่ง “เว่ยเหอ ส่งเธอออกไป”
ฉินซูอึ้งไป
เขาเห็นด้วยกับคำขอของเธออย่างง่ายดายแบบนี้เลยเหรอ?
นึกไม่ถึงเลยว่า คุณชายฉู่คนนี้ช่างพูดง่ายจริงๆเลย
สามารถออกไปจากตระกูลฉู่ได้ แน่นอนว่าเธอไม่มีทางลังเล
“ขอบคุณค่ะ ไม่ต้องไปส่งหรอก ฉันกลับเองได้”
ฉินซูไม่ต้องการจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับฉู่หลินเฉินกับคนรอบข้างของเขามากเกินไป หลังจากพูดจบ ก็หันหลังแล้วเดินออกไป
เว่ยเหอรู้สึกว่ามันไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่
“คุณชายฉู่ แค่……”
พึ่งจะพูดออกมา พอเห็นใบหน้าที่ไม่แย้มพรายความลับออกมาของฉู่หลินเฉินแล้วนั้น ก็กลืนคำพูดกลับลงไป
เวลาคุณชายฉู่ทำเรื่องอะไร แน่นอนว่าเขามีแผนของเขาอยู่แล้ว
ฉินซูเดินเกือบ20นาที ถึงจะได้เดินออกมาจากประตูของตระกูลฉู่
ตระกูลฉู่ใหญ่เกินไปจริงๆ ศาลาและสวนต่างๆ สระน้ำและสวนหิน ถ้าเกิดว่าไม่ได้คนใช้ช่วยบอกทาง เกรงว่าเธอน่าจะหลงทางอยู่ในนี้อย่างแน่นอน
การที่อยู่ในสถานที่แบบนี้ ก็เป็นการอธิบายให้เห็นอีกครั้งว่าตระกูลฉู่นั้นไม่ธรรมดาเลย
หลังจากเธอกลับไปแล้ว ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นหลังของตระกูลฉู่นี้เป็นอย่างไรกันแน่
พึ่งจะออกมาหน้าประตูตระกูลฉู่ ทันใดนั้นก็มีกลุ่มคนหนึ่งล้อมเข้ามา ในมือถือกล้องกับไมโครโฟน
ฉินซูอึ้งไป
คนพวกนี้เหมือนกับว่าจะเป็นนักข่าวเมื่อกี้นี้ พวกเขายังคงเฝ้าอยู่ที่นี่ยังงั้นเหรอ?
“คุณนายหญิง ทำไมคุณถึงออกมาคนเดียวล่ะครับ?”
“ไม่เคยได้ยินเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับคุณชายฉู่มาก่อนเลย ทำไมจู่ๆก็แต่งงาน มีเรื่องราวอะไรซ่อนอยู่ในนั้นหรือไม่ครับ?”
“ได้ยินมาว่าครอบครัวของคุณธรรมดา คุณไปรู้จักคุณชายฉู่ได้ยังไงครับ?”
“คุณนายหญิง……”
ฉินซูจะเคยพบเจอกับสถานการณ์แบบนี้ที่ไหนกัน เธอใจเย็นมาโดยตลอด แต่จู่ๆก็ต้องเผชิญหน้ากับนักข่าวที่ยิงคำถามถี่ยิบแบบนี้ เธอไม่รู้ว่าต้องตอบสนองอย่างไร
เธออยากจะออกไปจากตระกูลฉู่ แต่กลับโดนนักข่าวขวางทางไว้……
ตอนที่ฉินซูตกอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้านหลังของเธอก็มีเสียงรถดังขึ้น
ประตูรถถูกเปิดออก แล้วร่างสูงก็ก้าวออกมา
“บอกว่าจะไปเดินเล่นในสวนไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงได้เดินมาถึงข้างนอกได้?”
เสียงที่ทุ้มต่ำเหมือนแม่เหล็กของฉู่หลินเฉิน ดังขึ้นใกล้ๆ
ฉินซูเงยหน้าขึ้นมาทันที แล้วก็ต้องพบกับรอยยิ้มที่เย้ยหยันที่มุมปากของเขา
เหมือนกับว่าทั้งหมดนี้ เขาได้คาดการณ์ไว้หมดแล้ว!
ฉินซูเข้าใจในทันที ว่าทำไมเมื่อกี้เขาถึงปล่อยให้เธอออกมาอย่างสบายๆ……
เมื่อกี้เธอรีบร้อนอยากจะออกมา ก็เลยไม่ทันคิดประโยคเมื่อกี้ของเขาอย่างละเอียด ที่เขาพูดว่า “เว่ยเหอ ส่งเธอออกไป”มันมีอะไรที่ผิดปกติ
ตอนนี้ตอบสนองได้แล้วว่า ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ตอบรับคำขอของเธอด้วยซ้ำ
เขาจงใจรอให้เธอถูกนักข่าวรุมล้อม แล้วก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก และบีบให้เธอไม่กล้าสารภาพความจริงต่อหน้านักข่าว
มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติของชายคนนั้น ฉินซูก็คลี่ยิ้มอย่างให้ความร่วมมือ แต่กลับกัดฟันแน่น “ใช่สิ นี่เป็นครั้งแรกที่มาตระกูลฉู่ ก็เลยหลงทางอย่างไม่ทันระวัง จนเดินออกมาด้านนอกได้!”
“ขึ้นรถ พวกเราควรกลับไปได้แล้ว” ฉู่หลินเฉินกล่าวอย่างไม่แยแส แล้วก็หันหลัง
แขนเรียวๆเกาะเข้ากับข้อศอกของเขา
ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้ว แล้วก็หันไปเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของฉินซู
เห็นสายตาที่ไม่พอใจของผู้ชายคนนี้ เธอก็ยิ่งเกาะแน่นขึ้นเป็นการแก้แค้น
ฉู่หลินเฉินรู้สึกประหลาดใจ แต่ว่าเนื่องจากมีนักข่าวอยู่ เขาก็เลยฝืนอดทนความรู้สึกที่อยากจะเตะผู้หญิงคนนี้ออกไป
พอเห็นว่าทั้งสองคนกำลังจะไปแล้ว ก็มีนักข่าวคนหนึ่งถามออกมา “ คุณชายฉู่ คุณกับคุณนายหญิงไม่อยู่ที่ตระกูลฉู่เหรอคะ? ขอรบกวนเวลาสักครู่ได้ไหมคะ พวกเรายังมีอีกหลายคำถาม……”
ฉู่หลินเฉินมองอีกฝ่ายด้วยหางตา สายตาเย็นชาและกดดัน เขาปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา “ไม่มีเวลา”
นักข่าวอึ้งไป ทันใดนั้นก็นึกถึงข่าวลือในวงการ
ว่ากันว่าเมื่อก่อนมีเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เพราะว่าขวางทางคุณชายฉู่เพราะอยากจะถามคำถาม ทำให้วันรุ่งขึ้นต้องเก็บข้าวเก็บของออกจากวงการสื่อไปเลย
นักข่าวคนนั้นรีบถอยหลังด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
หลังจากขึ้นรถแล้ว เมื่อปิดประตู ความเป็นศัตรูในร่างกายของผู้ชายคนนั้นก็ถูกปลดปล่อยออกมาทันที อุณหภูมิในรถลดลงไปหลายองศา!
ฉินซูก็ดึงแขนของตัวเองกลับ
“เธอกำลังยั่วฉัน” น้ำเสียงที่มั่นใจของเขา ไม่ได้ปกปิดความโกรธเลยแม้แต่น้อย
เธอเสแสร้งทำเป็นไม่รู้ พูดอย่างเรียบเฉยว่า “ด้านนอกนักข่าวเยอะขนาดนั้น ก็เลยต้องทำอะไรบ้าง……”
ดวงตาของฉู่หลินเฉินมืดลง แล้วก็ทำเสียงฟึดฟัด
อย่านึกว่าเมื่อกี้เขาไม่เห็นความพึงพอใจในสายตาของเธอ!
เขาหันหน้าออกไป แล้วก็พูดอย่างเคร่งขรึม “ออกรถ”
เว่ยเหอเหยียบคันเร่ง
พอเห็นว่าห่างจากตระกูลฉู่มาเรื่อยๆ ฉินซูก็พูดยืนยันว่า “ช่วงนี้ฉันกลับไปที่มหาลัยไม่ได้แล้ว ใช่ไหม?”