รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน - ตอนที่ 48 ใครเป็นคนช่วยเธอ
บทที่ 048 ใครเป็นคนช่วยเธอ
ร้อน ร้อนมาก…
ทั้งตัวของฉินซูชุ่มไปด้วยเหงื่อ เธอทรมานมาก จนต้องปีนขึ้นมาจากเตียงอย่างงกๆ เงิ่นๆ
ขณะเดียวกันประตูห้องก็เปิดออก
ฉู่หลินเฉินที่เพิ่งลงเครื่องก็ถูกเรียกมา เมื่อเห็นสถานการณ์ในห้องชัดเจน สีหน้านิ่งเกร็งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเข้าใจได้อย่างรวดเร็ว ถึงเหตุผลที่อารองเรียกเขามา
ฉู่หลินเฉินสีหน้ามืดคล้ำลง ออกคำสั่งอย่างเย็นชา “เรียกหมอมา!”
เว่ยเหอเองก็ไม่กล้าชักช้า รีบไปทันที
ประตูห้องปิดลง ในห้องเหลือกันเพียงสองคน
ฉู่หลินเฉินเดินไปทางฉินซู จะดูว่าเธอเป็นยังไงบ้าง
ได้ยินเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามา ฉินซูจึงเงยหน้าขึ้น
เธอสูญสิ้นสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง เส้นผมยุ่งเหยิง เสื้อเชิ้ตแกะออกไปครึ่งหนึ่ง ใบหน้างามในเวลานี้มีแต่ความรู้สึกถวิลหา ดวงตามองไปยังฉู่หลินเฉินที่กำลังเดินเข้ามา จนถึงขนาดเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว
ฉู่หลินเฉินตกตะลึง
เขาเคยเจอผู้หญิงให้ท่าแบบนี้ที่ไหนกัน?
จนคิ้วเข้ม อดไม่ได้ย่นเข้าหากัน
ฉินซูราวกับเห็นเหยื่ออย่างไรอย่างนั้น ดึงเขาเข้ามา กอดเอวของเขาไว้ทันที
เธอพ่นลมหายใจร้อนผ่าว รดซอกคอของเขา กระซิบว่า “ช่วยฉัน…”
ระหว่างที่พูด มือก็อยู่บนเนกไทของเขาแล้ว
ฉู่หลินเฉินร่างกายเกร็งไปทั้งตัว พร้อมทั้งมองฉินซูอย่างเหลือเชื่อ
เขาถูกผู้หญิงคนนี้ ลวนลาม!
เพียงแต่ฉู่หลินเฉินเองก็เคยผ่านยานี้มาก่อน รู้ว่าฤทธิ์ยารุนแรงแค่ไหน ทุกการเคลื่อนไหวของเธอตอนนี้ ล้วนเป็นเพราะยาไปกระตุ้น
แต่ที่เขาหงุดหงิดก็คือ ปฏิกิริยาตอบกลับของตัวเองนี่แหละ
พอคิดถึงหวังอี้หลิน ฉู่หลินเฉินก็ผลักฉินซูออกอย่างใจเย็น
ฉินซูล้มก้นกระแทกพื้น ใบหน้าย่นเข้าหากัน แต่สิ่งที่ให้ความรู้สึกเจ็บปวดมากกว่านี้ ก็คือไฟในตัวก็แทบจะหลอมละลายเธอแล้ว ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
เธอเริ่มปีนขึ้นไปบนตัวของฉู่หลินเฉินอีกครั้ง…
ตอนที่คุณหมอรีบมาถึง ฉู่หลินเฉินเพิ่งจะปราบพยศฉินซูไว้ได้ เพียงแต่ว่าเมื่อปรากฏในสายตาของผู้อื่น จนสามารถทำให้ผู้อื่นคิดเลยเถิดไปได้——
เห็นเพียงสองแขนของฉินซูถูกมัดไว้กับหัวเตียง ฉู่หลินเฉินนั่งคร่อมอยู่บนตัวของเธอ กดเธอแทบตาย
คนทั้งสองเหงื่อไหลท่วมไปทั่วตัว สภาพยุ่งเหยิง
เว่ยเหออ้าปากค้าง แต่ไม่รู้จะพูดว่าอะไร สุดท้ายก็เอ่ยเตือนคำหนึ่ง “คุณชายฉู่ครับ คุณหมอมาแล้ว”
ฉู่หลินเฉินจึงค่อยลุกขึ้นมาจากเตียง เช็ดเหงื่อที่หน้าผาก หมุนตัวเข้าห้องน้ำ แล้วเอาเรื่องที่อยู่ตรงหน้ามอบให้เว่ยเหอกับคุณหมอเป็นคนจัดการ
หมอฉีดยาให้ฉินซูและให้กินยา
ในที่สุดเธอก็ค่อยๆ สงบลง แล้วสลบไป
เห็นดังนั้น เว่ยเหอก็ถามเสียงดัง “นี่คือไม่เป็นไรแล้ว?”
“อาจจะมีอาการตกค้างอยู่บ้าง พักผ่อนสองวันก็ไม่เป็นไรแล้ว” คุณหมอพูดไป อดไม่ได้ที่จะมองไปทางห้องน้ำรอบหนึ่ง พร้อมทั้งถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เรื่องระหว่างคุณชายฉู่กับคุณนายหญิงผมไม่ควรถาม แต่อย่างไรก็อยากจะพูดสักหน่อย ทุกวันนี้มียาที่เพิ่มความสุขจริงๆ นั้นมีมากมาย แต่ว่าต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ยาพวกนี้มีผลข้างเคียง ไม่สามารถมัวแต่วิ่งตามหาความตื่นเต้น จนใช้ยาในทางที่ผิดไป”
เว่ยเหอตกตะลึง
พร้อมทั้งรีบแสดงอาการตอบสนองกลับไป รีบโบกมือ “ไม่ใช่อย่างที่หมอคิด”
“คุณชายฉู่กับคุณนายหญิงไม่ใช่เป็นคู่สามีภรรยากันหรอกเหรอ? ผู้ช่วยเว่ย ทุกคนก็โตๆ กันแล้ว เรื่องนี้ไม่มีอะไรที่ต้องอายกันแล้ว” คุณหมอกล่าวอย่างยิ้มๆ
เว่ยเหอหน้าเหวอ
เขายังเป็นหนุ่มโสดอยู่นะ?
เว่ยเหอกระแอมออกมาครั้งหนึ่ง เพื่อเรียกการวางตัวให้ดูจริงจัง “ผมไม่สามารถอธิบายให้คุณฟังได้ แต่ว่า เรื่องในวันนี้คุณต้องเก็บเป็นความลับ ห้ามเอาไปพูดข้างนอกโดยเด็ดขาด นี่คือความหมายของคุณชายฉู่
คุณหมอจมอยู่ในความคิด เหมือนกำลังคิดถึงอะไร จู่ๆ สีหน้าก็เปลี่ยนไป
เขาน้ำเสียงเคร่งขรึม กล่าวว่า “ผมเข้าใจแล้ว จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่ามีตรงไหนไม่ถูกต้อง
เขาดึงรั้งอีกฝ่ายไว้ “ไม่ใช่สิ คุณเข้าใจอะไร?”
หมอกะพริบตา “คุณชายฉู่…เรื่องพรรค์นั้นไม่ถนัด ใช่ไหม?”
อีกนิดเว่ยเหอเกือบจะกระอักเลือดออกมาอยู่แล้ว
นี่มันหมอประเภทไหนกัน? ทำไมในสมองถึงมีความคิดที่เลยเถิดยุ่งเหยิงเยอะขนาดนี้เนี่ย?
รู้แต่แรกคงเรียกหมอของบริษัทฉู่ซื่อมาแล้ว ไม่ควรหาหมอไม่น่าเชื่อถือจากแถวๆ นี้มาเลย
“คำพูดแบบนี้ยังกล้าพูดมั่วๆ ออกมา? ระวังปากด้วย-”
เว่ยเหอยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ฉู่หลินเฉินก็ออกมาจากห้องน้ำ
ชายหนุ่มผู้มีสีหน้าเย็นชากวาดสายตามองไป พร้อมทั้งพูดออกมาด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจ “ทำไมคุณยังอยู่ที่นี่อีก?”
คุณหมอยิ้มอย่างลำบากใจ ก่อนเดินออกไปยังไม่ลืมโฆษณาโรงพยาบาลของตัวเอง “คุณชายฉู่ แผนกภายในของโรงพยาบาลเราไม่เลวเลย ยินดีต้อนรับตลอดเวลานะครับ”
“หุบปากไปเถอะแก!” เว่ยเหอจ้องเขาไปทีหนึ่ง ผลักเขาออกไป แล้วปิดประตูอย่างแรง
เมื่อหันกลับมาแล้ว ก็เจอกับสายตาซักถามของฉู่หลินเฉิน
เว่ยเหอมุมปากกระตุก รีบกล่าวว่า “เขาพูดไร้สาระไปงั้นแหละครับ คุณชายฉู่โปรดวางใจ ผมเตือนเขาไปแล้ว จะไม่พูดออกไปข้างนอกแม้ครึ่งประโยคครับ”
ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้ว แต่ไม่ได้ซักไซ้อะไร จากนั้นก็มองฉินซูที่นอนอยู่บนเตียงนอน
“คุณชายฉู่ ตอนนี้จะทำยังไงดีครับ?” เว่ยเหอเองก็มองตามสายตาของเขาไป
เขากล่าวเบาๆ ว่า “พาคนกลับไปก่อนเถอะ”
ทั้งสองคนต่างก็คิดไม่ถึงว่าข่าวของ “ทายาทผู้สืบทอดของบริษัทฉู่ซื่อไม่แข็ง” จะกระจายไปบนอินเทอร์เน็ตอย่างรวดเร็ว
ในร้านกาแฟด้านล่างตึก
หวังอี้หลินดูเวลาอีกครั้ง นานขนาดนี้แล้ว ทำไมทางด้านหลินมึ่งฟานถึงยังไม่มีการเคลื่อนไหวอีก
ตามหลักแล้ว ก็ควรส่งข่าวออกมาได้แล้ว
“อี้หลิน ไม่มีเรื่องอะไรแล้วฉันขอตัวกลับก่อนนะ” ฉู่หยุนซีกล่าวพลางลุกขึ้นมา
หวังอี้หลินพยักหน้า หลังจากมองส่งเธอไปแล้ว ก็ทนนั่งต่อไปไม่ได้อีก ด้านหนึ่งเดินออกไปด้านนอก อีกด้านก็โทรหาหลินมึ่งฟาน
“อะไรนะ? หนีไปแล้ว? ฉันเห็นเธอดื่มเครื่องดื่มแก้วนั้นลงไปหมดแก้ว ยาแรงขนาดนั้น ยังอุตส่าห์จะหนีไปได้อีกเหรอ?”
เสียงปลายสาย หลินมึ่งฟานส่งเสียงฮึ่มออกมาทีหนึ่ง “ถ้าไม่ใช่มีผู้ชายฐานะไม่ธรรมดาคนหนึ่งโผล่มาช่วยเธอล่ะก็ เธอจะหนีไปได้ยังไงล่ะ?”
“ผู้ชายที่มีเบื้องหลังที่ไม่ธรรมดาคือใครกัน?”
หลินมึ่งฟานเบะปาก “ไม่รู้สิ มีนักข่าวเดินมา ฉันต้องก็รีบหนีออกมาแล้ว”
พูดถึงตรงนี้ เขาก็ถามหวังอี้หลินกลับ “นักข่าวพวกนั้นเรื่องราวมันเป็นมายังไง? เธอเป็นคนจัดการรึเปล่า?”
หวังอี้หลินใจเต้น รีบปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ไม่ใช่นะ ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน บางทีอาจจะเป็นผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า? นายไม่ได้บอกว่าเขามีเบื้องหลังไม่ธรรมดาไม่ใช่เหรอ?”
หลินมึ่งฟานเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งกับคำพูดนี้
หวังอี้หลินกลัวว่าพูดแล้วจะเผลอพูดมากเกินไป จึงรีบกดวางสาย
เธอยังเดินไปไม่ถึงหน้าประตูโรงแรม พลันหยุดฝีเท้าลง จ้องมองเหตุการณ์ข้างหน้าที่อยู่ไม่ไกลออกไป
ฉู่หลินเฉินเดินออกมาจากโรงแรม ในอ้อมแขนมีคนอยู่ นั่นมันไม่ใช่ฉินซูหรอกเหรอ?
ทำไมฉู่หลินเฉินถึงมาช่วยฉินซูได้?
คิดถึงฤทธิ์ของยาตัวนั้น สีหน้าของหวังอี้หลินก็ไม่น่าดูขึ้นมา หรือว่าพวกเขาได้…
เธออดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไป
“คุณชายฉู่ ฉันคือคุณหนูอี้หลิน” ดวงตาเฉียบคมของเว่ยเหอเหล่มองมายังเธอ พร้อมทั้งกล่าวเสียงต่ำกับฉู่หลินเฉิน
ฉู่หลินเฉินกำลังกอดฉินซูอยู่ ริมฝีบางเม้มเล็กน้อย พร้อมทั้งพาคนเข้าไปวางในรถก่อนอย่างใจเย็น จากนั้นถึงได้หันกลับมาหาหวังอี้หลิน
“หลินเฉิน นี่คุณกำลังทำอะไรเหรอคะ?”
หวังอี้หลินเอ่ยปากถาม สายตาชำเลืองมองเข้าไปสำรวจในรถไม่หยุด
เห็นดังนั้น เว่ยเหอก็เดาได้ว่าเธอเข้าใจอะไรผิด รีบอธิบายทันที “คุณหนูอี้หลินครับ ทางนี้เกิดเรื่องนิดหน่อย คุณฉู่อื้อแย้เป็นคนให้คุณชายฉู่มาจัดการครับ คุณหนูวางใจได้ คุณชายฉู่กับเธอไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นครับ”
หลังจากได้ฟังเว่ยเหอพูด ความกังวลในใจของหวังอี้หลินก็หายไปแล้วครึ่งหนึ่ง ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมาอีกครั้ง
ฉู่หลินเฉินมองเธอ ถามว่า “ทำไมคุณถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”