รักซ่อนร้าย นายซาตานรักผิดคน - ตอนที่ 27 คุณชายฉู่ช่วยออกโรง
บทที่027 คุณชายฉู่ช่วยออกโรง
หวังอี้หลินหน้าบูดบึ้งอย่างมาก
“พวกเธอออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!” เธอชี้ไปที่ประตู มองค้อนสองแม่ลูกนี้
โจวซือฉินไม่ยอมแน่นอน เท้าเอวไว้พูดว่า “เพื่ออะไรกัน? บ้านนี้ไม่ใช่ชื่อเธอนี่ เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่พวกฉันหรอกนะ?”
หวังอี้หลินมองค้อน พูดเสียงดังว่า: “ฉันว่าเธอยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีนะ บ้านหลังนี้ คุณชายฉู่บอกว่าให้ฉัน! ฉินซูก็เป็นแค่ตัวปลอม ยังอยากจะแย่งบ้านกับฉันอีก ฝันไปเถอะนะ!!”
โจวซือฉินเบะปาก พูดว่า: “งั้นเธอไปพูดกับฉินซูไป มาบอกฉันทำไม?”
พูดจบ ทำท่ายังไงก็ไม่ออกไป
หวังอี้หลินโกรธจนควันแทบออกหู อดไม่ได้ดึงตัวเธอมา “ไสหัวออกไปเลยนะ ออกไป๊! อย่ามาทำบ้านฉันสกปรก!”
โจวซือฉินโกรธขึ้นมาบ้าง เอาเลยสิจะตบกันใช่ไหม?
เธอใช้แรงผลักหวังอี้หลินออกไปอย่างแรง
“โอ๊ย”
หวังอี้หลินร้องเสียงดัง ตกลงไปบนพื้นอย่างแรง
“ฉันจะบอกเธอให้นะ ฉันจะอยู่ที่นี่ เธอกับฉินซูทะเลาะกันยังไงฉันไม่สนใจ ถ้าขืนมายุ่งกับฉันอีก
ฉันจัดการเธอจริงจังแน่!”
โจวซือฉินพูดเสียงดังอย่างมั่นใจ และปิดประตูเสียงดัง
หวังอี้หลินโกรธจนหน้าแดง และเดินกลับไปอย่างกระเซอะกระเซิง
พอกลับมาถึงบ้าน จางเหวินเห็นเธอผมเผ้ายุ่งเหยิง ก็รีบวางเสื้อใหม่ในมือลง ถามไปว่า: “ลูก ทำไมเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?”
หวังอี้หลินหายใจถี่และพูดว่า: “แม่เลี้ยงของฉินซูเป็นหญิงปากร้ายตัวจริงเลย!”
เธอบอกเรื่องราวเมื่อกี้กับจางเหวินทั้งหมด พอฟังจบแล้ว จางเหวินไม่เงียบอีกต่อไป
“ให้ตายสิ! โจวซือฉินคิดว่าฉินซูเป็นคุณนายหญิงฉู่จริงๆงั้นเหรอ? พวกเขาทั้งบ้านวางแผนปลอมตัวเป็นลูกก็ช่างเถอะ ยังกล้ารังแกลูกถึงขนาดนี้เชียวเหรอ!”
จางเหวินด่าเสียงดัง ก้มหน้าไปค้นกระเป๋าหวังอี้หลิน
“แม่ ทำอะไรน่ะ?”
“บ้านดีขนาดนั้น จะให้โจวซือฉินนั้นอยู่ต่อไม่ได้เด็ดขาด ต้องให้คุณชายฉู่ออกโรง!! ไม่งั้นฉินซูจะได้ใจไปใหญ่”
พอได้ยินคำนี้ หวังอี้หลินก็แสยะยิ้มมุมปาก
นี่คือสิ่งที่เธอต้องการอยู่พอดี
จางเหวินไม่กล้าโทรหาฉู่หลินเฉินโดยตรง ดังนั้นจึงโทรหาเว่ยเหอ พอโทรได้แล้วก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น้อยใจ “คุณเว่ย คุณต้องช่วยอี้หลินนะ!”
เดือนหน้าก็คือพิธีรับตำแหน่งทายาทบริษัทเครือฉู่ คงจะมีเรื่องให้ทำมากมาย
แต่หวังอี้หลินเป็นคนสำคัญ เป็นคนที่คุณชายฉู่สั่งให้ดูแลโดยเฉพาะ เรื่องของเธอ เว่ยเหอไม่กล้าไม่สนใจ
ดังนั้น ฉู่หลินเฉินพึ่งคุยธุระเสร็จ เดินออกจากห้อง เว่ยเหอก็รีบเดินไปหาทันที
เขาพูดเสียงเบาว่า: “คุณชายฉู่ คุณหนูอี้หลินถูกคนรังแกครับ”
ฉู่หลินเฉินขมวดคิ้ว ถามเขากลับว่า: “ใครบังอาจทำแบบนี้กัน?”
“แม่เลี้ยงของฉินซู โจวซือฉิน”
เว่ยเหอสังเกตมองสีหน้าเขา และพูดอย่างมีสติว่า: “ฉินซูให้โจวซือฉินสองแม่ลูกเข้าไปในคฤหาสน์ที่คุณชายซีส่งให้ คุณหนูอี้หลินเข้าไป ทั้งสองก็เกิดปะทะกัน ยังลงไม้ลงมือกันด้วยครับ……”
ฉู่หลินเฉินดวงตาเย็นชา และพูดซ้ำว่า: “ฉินซูให้สองแม่ลูกเข้าไปอยู่เหรอ?”
เว่ยเหอพยักหน้า และลังเลสักพัก “คุณชายฉู่ ฉินซูทำแบบนี้อาจจะมีเหตุผลก็ได้ จะสั่งคนไปตรวจสอบก่อนไหมครับ?”
ฉู่หลินเฉินพูดต่อว่า “ฉันว่าเธอคงเอาคฤหาสน์หลังนั้นเป็นของตัวเองแล้วล่ะ!”
“คุณชายฉู่ ฉินซูน่าจะไม่ใช่คนแบบนี้……” เว่ยเหออดไม่ได้ที่จะแก้ตัวแทนเธอ
“น่าจะ?”
ฉู่หลินเฉินมองเขาอย่างไม่พอใจ “เธอทำตัวไม่โลภมาก ไม่ชอบของราคาแพงต่อหน้านาย นายรู้ไหม ลับหลังเธอขู่ให้อี้หลินโอนเงินให้เธอ? ผู้หญิงคนนั้นโลภมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ยังไม่เผยธาตุแท้ออกมา บอกได้ว่า สิ่งของที่ใช้หลอกล่อยังไม่พอ!”
คฤหาสน์หรูราคาแพงกว่าหลายสิบล้าน ฉินซูจะเสแสร้งยังไง ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้อยู่ดี
ตอนนี้ก็พิสูจน์ได้แล้วไง?
สองเรื่องนี้บวกกันแล้ว ความรู้สึกดีที่ฉู่หลินเฉินมีต่อฉินซูก็หายไปทันที และเหลือเพียงแต่ความเกลียดชัง
เรื่องที่เธอข่มขู่หวังอี้หลินให้โอนเงินให้ตัวเองแปดแสน ตัวเองยังไม่ทันได้คิดบัญชีนี้กับเธอ ครั้งนี้ก็ยังไม่ยอมหยุดอีก
ครุ่นคิดแล้ว ฉู่หลินเฉินก็สั่งด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “สั่งคนไป ไล่โจวซือฉินสองแม่ลูกออกไป”
เว่ยเหออ้าปากค้างอย่างตกใจ นานมากกว่าจะได้สติ และรีบตอบว่า: “ครับ”
และในใจเขายังคงรู้สึกแปลกๆ ดูยังไงฉินซูก็ไม่เหมือนผู้หญิงโลภมากเลย
……
มีบอดี้การ์ดมาส่ง หวังอี้หลินกลับไปคฤหาสน์อีกครั้ง และโจวซือฉินสองแม่ลูกก็ถูกจับโยนออกไป
“ตอนนี้พวกเธอน่าจะรู้ดี ว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่!”
จางเหวินยืนอยู่บนบันไดอย่างได้ใจ มองดูโจวซือฉินที่ล้มกองอยู่บนพื้น “กล้ารังแกลูกสาวฉัน ไม่ดูหน่อยว่าตัวเองเป็นใคร เธอไม่คู่ควรหรอกนะ”
โจวซือฉินโกรธจัด แต่มองดูบอดี้การ์ดข้างๆเหมือนจะหาเรื่องไม่ได้ เธอจึงต้องก้มหน้า พาลูกชายเดินออกไป และโทรหาฉินซูไปด้วย
สองแม่ลูกไล่โจวซือฉินออกไป และให้บอดี้การ์ดเก็บกวาดข้าวของ ถึงให้พวกเขาไป
พวกเธอขนของมาหมดแล้ว คืนนี้ก็นอนที่นี่แล้วกัน
จางเหวินยิ้มตาหรี่พูดว่า: “ลูกสาว ไม่ต้องกังวลหรอกว่าฉินซูจะทำลายความสัมพันธ์ของลูกกับคุณชายฉู่ได้ ดูสิ แม่โทรไปแค่สายเดียว คุณชายฉู่ก็ช่วยลูกอย่างไม่ลังเลเลย ดีกับลูกแค่ไหนคิดดูสิ!”
หวังอี้หลินปกปิดใบหน้าที่ได้ใจของเธอ กระตุกมุมปาก แต่ก็ยังรู้สึกเสียดายอยู่ดี “เสียดายคุณชายฉู่ไม่ได้มาเอง”
จางเหวินหัวเราะ ส่ายหน้าพูดว่า: “ก็ไม่สะดวกไง? ตอนนี้มีคุณชายฉู่คอยปกป้อง พวกเราอยากซื้ออะไรก็ซื้อ อยากอยู่คฤหาสน์ก็อยู่ ชีวิตแบบนี้ ก็ดีแล้วนี่นา?”
หวังอี้หลินขมวดคิ้ว และพูดช้าๆว่า: “แต่ยังไงฉันก็ไม่ใช่คุณนายหญิงของตระกูลฉู่”
ไม่มีตำแหน่ง ยังไงก็เห็นแสงสว่างไม่ได้หรอก
จางเหวินมีรอยยิ้มบนใบหน้า ไม่นานก็มีสีหน้าจริงจังขึ้นมา “ลูกพูดมาก็ถูก จะต้องให้ฉินซูออกไปโดยเร็ว……ใช่สิ ก่อนหน้านี้ลูกโอนไปให้เธอแปดปสน ได้ใช่ไหม? อย่าโอนไปแล้วไม่ได้คืนมานะ!”
“วางใจเถอะ ฉันตั้งใจทำให้บัญชีเธอถูกระงับเอง เงินก้อนนั้นเธอไม่ได้แตะหรอก และอีกอย่าง”
สายตาหวังอี้หลินมืดมาลง “นั่นเป็นแค่ขั้นแรกที่ให้คุณชายฉู่ไล่เธอออกไป ต้องให้คุณชายฉู่เกลียดเธอมากขึ้น จนทนไม่ได้……”
เสียงเธอเบาลงช้าๆ ในใจคิดแผนการใหม่อยู่
โจวซือฉินด่าทอฉินซูในโทรศัพท์สารพัด และยังข่มขู่ให้เธอต้องจัดการเรื่องนี้ ไม่งั้นคงจะมีเรื่องไม่คาดคิดตามมา
ฉินซูกังวลว่าโจวซือฉินจะทำอะไรลงไปโดยไม่คิด จึงต้องไปหาพวกเขาก่อน
เธอพึ่งเดินออกมาจากประตู ฉู่หลินเฉินก็กลับมาพอดี รถจอดอยู่ตรงหน้าเธอนิ่ง
ฉู่หลินเฉินลงจากรถอย่างโมโห สายตาเย็นชา “จะไปไหน?”
ฉินซูพอคิดได้ว่าเขาเอาบอดี้การ์ดไปไล่โจวซือฉินสองแม่ลูกออกไป สีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก และพูดอย่างเรียบเฉยว่า: “ฉันไปหาที่อยู่ให้โจวซือฉินสองแม่ลูกก่อนนะ”
พูดจบ ก็จะออกไป
ฉู่หลินเฉินพูดเสียงเย็นชา: “หยุดนะ ฉันอนุญาตให้เธอออกไปแล้วเหรอ?”
ฉินซูมองเขาอย่างไม่สนใจ “นายไม่ถามเหตุผลก็ไล่คนออกไปเลย ฉันก็ต้องไปหาที่อยู่ให้พวกเขาหน่ะสิ?”
พอพูดจบ โจวซือฉินก็โทรเร่งอีกรอบ:
“ฉินซูฉันจะบอกเธอให้นะ นักข่าวมาพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว ถ้าเธอยังไม่ไสหัวออกมาอีก ฉันจะเปล่าประกาศเรื่องที่เธอเข้าตระกูลฉู่ให้หมดเลย!”