หลิงมู่วานพูดอะไรไม่ออก
เธอจากเมืองหลวงไปตั้ง 4 ปี ปีศาจน้อยที่เคยเป็นตัวกวนเจ้าประจำ ตอนนี้กลายเป็นหนุ่มรูปงามแถมยังอ่อนโยนอีกด้วยสิ
โดยเฉพาะสายตาคู่นั้นของเขาที่จ้องมองมาที่เรา มันช่างเปี่ยมไปด้วยความเสน่หา…
เหมือนเขาคิดอะไรบางอย่างกับเรา…
หลิงมู่วานลดสายตาลงมองกล่องของขวัญ แล้วเปิดมันออก
ในกล่องของขวัญ มีกล่องเครื่องประดับคริสตัลสีฟ้าอยู่
เธอจึงเปิดมันออกดู
อัญมณีสีน้ำเงินเปล่งประกายเข้ามาในตาของเธอทันที
เธอเรียนจบการออกแบบเครื่องประดับมา ดังนั้น เธอจึงสามารถรู้ที่มาของอัญมณีที่อยู่ตรงหน้าเธอได้ในแวบแรกที่เห็นเลยทีเดียว
“ดวงดาวแห่งมหาสมุทร!?”
แม้ว่าเธอจะคุ้นเคยกับการทำตัวห่างเหินไปแล้ว แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงแปลกใจออกมา
ว่ากันว่า ในงานประมูลเครื่องประดับเมื่อ 10 ปีก่อน หัวใจแห่งมหาสมุทรได้ถูกประมูลไปโดยนักสะสมลึกลับคนหนึ่ง ในราคา 50 ล้านหยวน โดยหลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่มีใครได้เห็นมันอีกเลย แต่ทำไมฉืออวี้เฟิงถึงได้…
ดวงตาของเธอในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสุข
และความแวววาวของอัญมณีนั้นก็สะท้อนวิบวับอยู่ข้างนัยน์ตาสีดำของเธอด้วย จนตาของเธอดูเปลี่ยนสีสลับซับซ้อนไปหมด
5 วินาทีต่อมา เธอแสร้งทำเป็นเงยหน้าขึ้น และส่งกล่องของขวัญนั้นคืนให้กับฉืออวี้เฟิง “ของขวัญชิ้นนี้มีค่ามากเกินไป ฉันรับไว้ไม่ได้หรอก”
ฉืออวี้เฟิงพับรอยยิ้มเปี่ยมเสน่ห์ของเขาเก็บลงไปทันที ก่อนจะหันหน้ามามองที่หลิงมู่วานด้วยสายตาที่รักใคร่ และพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า “มันเป็นแค่เครื่องประดับเท่านั้น ถึงมันจะมีค่าสักแค่ไหน ก็คงจะไม่ได้มีค่าเท่ากับเธอหรอกนะ”
หัวใจที่เยือกเย็นและเย่อหยิ่งของหลิงมู่วาน ดูเหมือนจะถูกสะกิดเข้าแล้ว จนทำให้เธอพูดอะไรไม่ออกไปพักนึง
แล้วไฟแดงก็เปลี่ยนเป็นไฟเขียวทันทีในตอนนั้น
เธอสอดสายตามองไปหน้ารถ แล้วกระซิบเขาเบา ๆ ว่า “ไฟเขียวแล้ว”
ฉืออวี้เฟิงหวนคืนสู่รูปโฉมหล่อร้ายดังเดิม เขายิ้มโปรยเสน่ห์ให้เธอก่อนจะหันกลับมาขับรถต่อ
ความเร็วของรถที่ไม่เร็วไม่ช้าจนเกินไป ทำให้เขาสามารถสอดส่องสายตามองกระจกหลังได้เป็นพัก ๆ
หลิงมู่วานที่นั่งอยู่เบาะหลังในตอนนี้ ไม่ใช่หลิงมู่วานคนก่อนหน้านี้ที่มักจะยิ้มแบบไม่เต็มใจให้กับเขา ดวงตาและท่าทางที่เป็นเกราะป้องกันของเธอก่อนหน้านี้มันเหมือนถูกฉีกออก ราวกับว่ามีความรู้สึกบางอย่างกำลังแผ่ออกมาเผยให้เห็นตัวจริงของเธอ
เธอถือกล่องอัญมณีคริสตัลในมือไว้แน่น เห็นได้จากนิ้วมือที่กดลงเล็กน้อย
ฉืออวี้เฟิงที่แอบดูอยู่ก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
เป็นไปตามคาดจริง ๆ แค่จี้ถูกจุดก็สำเร็จแล้วว!
ในใจของฉืออวี้เฟิงนั้นเต็มไปด้วยความภาคภูมิและปรบมือชื่นชมตัวเองไม่หยุด แต่ขณะเดียวกัน ในใจของหลิงมู่วานก็ยังคงวนเวียนอยู่กับคำพูดที่ร้อนแรงของเขาก่อนหน้านี้
“มันเป็นแค่เครื่องประดับเท่านั้น ถึงมันจะมีค่าสักแค่ไหนก็คงจะไม่ได้มีค่าเท่ากับเธอหรอกนะ”
บวกกับสายตาที่เร่าร้อนของเขาอีก…
ยิ่งคิดก็ยิ่งทำให้เธอหายใจไม่เป็นจังหวะ
ถ้าเป็นเรื่องที่เขารู้เรื่องชีวิตเธอในตอนแรก เธอก็เดาว่าเขาอาจจะสนใจเธออยู่บ้าง แต่นี่ เขากลับแสดงออกกับเธอเหมือนเขาคิดอะไรที่มากกว่านั้น นี่…นี่เขากำลังพยายามจะบอกเป็นนัย ๆ ว่าเขาชอบเธอแล้ว ใช่รึเปล่า?
เธอก้มลงมองดวงดาวแห่งมหาสมุทรที่อยู่ในมือของเธอ
กว่าจะได้อัญมณีชิ้นนี้มา เขาคงต้องใช้ความพยายามมากเลยสินะ?
แสดงว่าเขาก็ต้องเตรียมการไว้ก่อนที่เราจะกลับมาน่ะสิ?
แต่ทำไมก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมีท่าทีที่จะชอบเธอเลย?
การคาดเดามากมายเกิดขึ้นภายในหัวของเธอ แต่สุดท้าย ความคิดพวกนั้นก็ต้องถูกดับลงไปด้วยความจริงที่ว่า…
เธอจะต้องแต่งงานกับกงเส่าถิง!
ถึงแม้ว่าฉืออวี้เฟิงจะมีเสนาบดีฉือเป็นผู้สนับสนุนอยู่ก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็เป็นแค่เพียงแค่ตระกูลรองที่ไม่มีความรู้ความสามารถเท่ากับตระกูลต้นอย่างกงเส่าถิง บางคนอาจจะคิดว่าแต่งงานกับคนคนนี้ก็ไม่เลวหรอกนะ แต่ฉืออวี้เฟิงก็มักจะถูกเปรียบเทียบกับกงเส่าถิง ผู้ซึ่งดูแลกิจการของครอบครัวทั้งหมดอยู่ตลอด….
มาดูกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร!
แต่ใจของหลิงมู่วานนั้นบอบบางเหมือนกระจกใส
เพราะถึงแม้ว่าเธอจะได้เลือกทางเดินไปแล้ว แต่ในฐานะนักออกแบบเครื่องประดับอย่างเธอ จะสามารถต้านทานเสน่ห์ของดวงดาวแห่งมหาสมุทรได้อย่างไร…
เธอเม้นริมฝีปาก พลางคิดทบทวนดูอีกที
จนกระทั่งรถของฉืออวี้เฟิงหยุดลงหน้าประตูบ้านพักภายในพระราชวัง เธอจึงตัดสินใจได้พอดี แม้ว่าฉืออวี้เฟิงยืนกรานจะให้ของขวัญนี้แก่เธอ! และถึงเธอจะเก็บมันไว้กับตัว ก็ไม่ได้แปลว่าเธอจะยอมรับเขาไว้พิจารณา!
เมื่อคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เธอก็กลับมาเป็นหลิงมู่วานคนเดิมที่ใบหน้าไร้ซึ่งความสุขที่แท้จริง
เธอเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางสายตาของคนรับใช้ แล้วก้าวเดินผ่านผู้คนไปด้วยท่าทางที่สง่างามและมีเกียรติ
โดยที่ด้านหลังของเธอก็มีฉืออวี้เฟิง ที่ตอนนี้สีหน้ามัวหมองอย่างเห็นได้ชัด
เธอเดินไปอย่างสง่าผ่าเผย แต่ดันทิ้งให้เขาเดินถือของตามมา…
“บ้าจริง!”
ฉืออวี้เฟิงหลุดสบถออกมาด้วยความโกรธ เขาหยิบของขวัญออกมาจากท้ายรถและโยนให้คนรับใช้เหมือนเป็นขยะ
พ่อบ้านชรากระพริบตาปริบ ๆ อย่าง งงใจ
……
นายหญิงกงของวังหลวงชะเง้อมองซ้ายมองขวาอยู่นาน ในที่สุดก็ได้เห็นหลิงมู่วานเข้ามาถึงในวังหลวงแล้ว
ทันทีที่เห็นหลิงมู่วาน เธอก็เข้าไปจับมือหลิงมู่วานด้วยความตื่นเต้นดีใจ เธอยิ้มและถามขึ้นว่า “ไม่เจอกันนานตั้ง 4 ปี หนูน้อยคนนี้ยิ่งโตก็ยิ่งสวยขึ้นจริง ๆ”
เมื่อเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นของพระราชวัง รอยยิ้มที่ฝืน ๆ ของหลิงมู่วานก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนน่ารัก เพราะเมื่อได้พบกับนายหญิงกงที่ดูเหมือนจะชอบเธอเอามาก ๆ มันก็ทำให้ใบหน้าของเธอสดใสขึ้นเรื่อย ๆ
หลิงมู่วานจับมือของนายหญิงกง และยิ้มให้เธอ “คุณป้าก็ยังสง่างามและใจดีเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยนะคะ”
แค่ประโยคแรกของหลิงมู่วาน ก็ทำให้เธอรู้สึกขบขันขึ้นมาได้แล้ว “ดูสิตาแก่ เด็กสาวคนนี้ช่างพูดช่างจาเสียจริง ๆ เลย”
หลังจากทักทายนายใหญ่กงแล้ว หลิงมู่วานก็หยิบของขวัญที่เตรียมมามอบให้กับผู้อาวุโสทั้งสอง “คุณลุงกง หนูรู้ว่าคุณลุงนับถือศาสนาพุทธ และนี่เป็นประคำพระอรหันต์ 108 เม็ดที่หนูแกะด้วยตัวเองค่ะ”
“คุณป้าคะ นี่เป็นเครื่องประดับที่หนูออกแบบให้คุณป้าเองโดยเฉพาะเลยค่ะ”
ดู ๆ ไป ของขวัญทุกชิ้นนั้นล้วนมีคุณค่ามาก ๆ แถมยังทำออกมาได้ประณีตสุด ๆ
นายใหญ่กงกล่าว “ลำบากหนูแย่เลย”
หลิงมู่วานยิ้มก่อนจะตอบกลับไปว่า “แค่คุณลุงกงชอบ หนูก็ดีใจแล้วค่ะ”
นายหญิงกงคร่ำครวญออกมาต่อ “เราอยากให้หนูมาร่วมทานข้าวกับเรา แต่หนูก็ยังจะมีของขวัญมากมายมาให้อีก ”
เธอยิ่งมองไปที่หลิงมู่วาน ก็ยิ่งรู้สึกสบายใจมากขึ้นกว่าเดิม เธอเดินตรงไปถอดสร้อยข้อมือหยกที่สวมอยู่ที่ข้อมือออก …
และนั่นคือสัญลักษณ์ของมเหสีตระกูลกง!
แล้วกงเส่าถิงก็เข้ามาขัดจังหวะเธอทันที “แม่ครับ จะทำอะไรน่ะครับ คุณหลิงยังยืนอยู่ตรงนี้นะครับแม่”
นายหญิงกงที่กำลังจะถอดสร้อยข้อมือได้ยินดังนั้นก็ยืนแข็งทื่อ
“ดูแม่ไว้นะ!”
นายหญิงกงจูงมือหลิงมู่วานไปนั่งลง “ที่ป้าทำแบบนั้นน่ะเพราะป้าอยากสนับสนุนหนู และถ้าไม่ใช่เพราะเส่าถิงเตือนป้า ป้าก็คงลืมไปแล้วล่ะ”
หลิงมู่วานยิ้มให้เธออย่างเข้าอกเข้าใจ
แล้วเธอก็แสร้งมองไปที่ข้อมือของนายหญิงกงแบบไม่ได้ตั้งใจ
สร้อยข้อมือหยกสีเขียวมรกตที่มีความโปร่งใสแวววาว และมันก็คือหยกเจไดต์ที่ดีที่สุด โดยมีฉายาว่า ราชาหยกน้ำแข็ง!
สร้อยข้อมือเส้นนี้เลอค่ามาก!
การกระทำของหญิงอาวุโสเมื่อสักครู่นี้ชัดเจนว่าต้องการมอบสร้อยข้อมือนั้นให้กับเธอ แต่กงเส่าถิงนี่สิ ดันมาขัดจังหวะเสียก่อน…
ดวงตาของเธอเปล่งประกายเป็นสีเข้ม จากนั้นเธอก็ยิ้มอย่างสง่างามและมอบของขวัญให้กับกงเส่าถิง โดยที่ของขวัญชิ้นนั้นเธอเลือกให้กงเส่าถิงเองกับมือ “พี่ถิงคะ ฉันให้พี่ค่ะ”
“…”
กงเส่าถิงแทบไม่ได้สนใจของขวัญเลย หลังจากนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาส่งข้อความหาเยี่ยหลานซาน [อย่าหักโหมล่ะ ทานมื้อเที่ยงด้วยนะ]
ไม่นาน เยี่ยหลานซานก็ตอบกลับข้อความของเขามา [คุณลุงคะ ถ้าช่วงนี้คุณลุงได้ยินข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับฉัน คุณลุงไม่ต้องกังวลใจไปนะคะ!]
กงเส่าถิงกำโทรศัพท์มือถือในมือไว้แน่น
เกิดอะไรขึ้นกับเธองั้นเหรอ?
คิ้วของเขาเริ่มขมวดเข้าหากัน และในขณะที่เขากำลังจะตอบข้อความเยี่ยหลานซาน เขาก็ต้องโดนขัดจังหวะโดยแม่ของเขาเอง “มู่วานไม่ได้กลับบ้านมาหลายปี พาเธอออกไปเดินเล่นหน่อยสิลูก”
พูดจบก็ส่งสายตาสื่อให้เขารู้ว่านี่เป็นงานที่จะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงโดยไม่มีข้อแม้ใดใดทั้งสิ้น!
MANGA DISCUSSION