เพียงชั่วพริบตาเดียว แสงอาทิตย์จากด้านนอกหน้าต่างก็สาดส่องเข้ามาภายในห้อง
เขาหรี่ตาลงเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดสั่งอาหารเช้า เสร็จจึงเปิดดูข้อความที่ยังไม่ได้อ่าน
ฉืออวี้เฟิง [ด่วน ด่วน น้าเล็กครับ ผมได้ทำการมอมเหล้าเกาซินซินกับพวกที่มอมเหล้าน้าสะไภ้ไปเมื่อคืน อีกทั้งยังขูดรีดให้เฉียวเฟยฝานชดใช้ค่าเหล้าไปอีก 2ล้าน5แสนหยวน! ตอนที่เฉียวเฟยฝานแบกเกาซินซินกลับออกไปเนี่ย หน้าดำคร่ำเครียดเลยครับ!]
ฉืออวี้เฟิง [เดี๋ยวผมต้องไปซื้อของขวัญให้หลิงมู่วานด้วย อ้า..แค่คิดว่าผมต้องคบกับเธอ ผมก็ขนลุกแล้ว!]
กงเส่าถิงให้กำลงใจเขา [สู้ ๆ]
แล้วเสียงแจ้งเตือนโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ชิวว~ ในขณะเดียวกัน เสียงที่แผ่วเบาก็ดังขึ้นข้างหลังของเขาด้วย “คุณลุงคะ รบกวนช่วยจัดหาเสื้อผ้าให้ฉันซักชุดได้มั้ยคะ…]
“…”
กงเส่าถิงหันไปมองตามเสียงที่อ่อนโยนนั้น
ก็เห็นเยี่ยหลานซานยืนอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ และด้วยความที่ชุดคลุมนั้นใหญ่เกินกว่าตัวของเธอมาก ก็ยิ่งทำให้เธอดูน่าเอ็นดูเข้าไปใหญ่
ผิวของเธอขาวเนียนเหมือนไข่ต้มที่เพิ่งปลอกเปลือกไปไม่ถึงครึ่ง
น่ากัดจริง ๆ
กงเส่าถิงมองตาไม่กระพริบจนเยี่ยหลานซานหน้าแดงด้วยความเขิน เธอจึงรวบปกชุดคลุมจนแน่น ร่างกายยังคงเต็มไปด้วยไอน้ำ ทำให้แลดูบอบบางน่าทะนุถนอมมาก
เธอพูดกับเขาด้วยความรู้สึกอาย ๆ [พอดีชุดที่ฉันใส่เมื่อวาน…มันเปียกน้ำไปแล้วน่ะค่ะ…]
อันที่จริงแล้วเป็นเพราะว่าเธอทำตัวไม่ถูกจนวิ่งเข้าห้องน้ำเร็วเกินไป ทำให้เธอเกือบจะลื่นล้มในห้องน้ำ และโชคดีที่ไม่ได้ล้มลงไปจริง ๆ แต่แค่กระโปรงเปียกน้ำไปเท่านั้น…]
อีก 1 ชั่วโมงเธอก็ต้องรีบไปทำงานแล้ว ชุดก็ไม่มีใส่ จะทำยังไงดี!
สักพัก เธอก็ได้ยินเสียงของเขาแว่วมาว่า “โอเค ฉันจะให้คนไปจัดการให้นะ”
เมื่อกงเส่าถิงสั่งงานโจวไท่เสร็จเรียบร้อยก็นั่งลงที่ปลายเตียง แล้วเขาก็หันไปมองเยี่ยหลานซาน
เยี่ยหลานซานไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดี
ในใจก็รู้สึกว่า สายตาของเขาดูแปลก ๆ จังเลย
เขาคงไม่ได้จะคิดบัญชีกับเธอเรื่องเมื่อคืนใช่รึเปล่า?
แววตาจิ้งจอกของเยี่ยหลานซานเริ่มเปล่งแสงวิบวับด้วยความสงสัย
แต่พอนึกถึงเรื่องที่เธอจับ…ของเขาขึ้นมาอีก จิตใจของเธอก็แตกกระเจิงไม่อยู่กับเนื้อกับตัวอีกครั้ง ร่างกายของเธอร่อนรุ่มไปทั้งหมดทั้งตัว และความรู้สึกทุกอย่างก็ไปรุมสุมกันอยู่ตรงฝ่ามือของเธอ ทำให้รู้สึกร้อนฉ่าที่ฝ่ามือ
เธอกัดปากล่างของตัวเองเบา ๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเช้านี้…”
สายตาของเธอเริ่มล่อกแล่ก และไม่กล้าจะมองไปที่กงเส่าถิงแบบเต็ม ๆ ตา
แต่สายตาของกงเส่าถิงนั้นดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าเธอกำลังจะพูดถึงเรื่องอะไร จึงถามขึ้นมาเบา ๆ ว่า “โอ้ เรื่องอะไรเหรอ?”
“…”
เยี่ยหลานซานจึงหันมามองเขาด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น เธอมองเข้าไปในตาของเขาด้วยระยะห่าง 1 เมตร
แล้วเธอก็ได้เห็นว่า นอกจากรอยคล้ำใต้ตาของเขาแล้วนั้น ในแววตาของเขาก็ไม่สะท้อนอะไรอย่างอื่นออกมาอีกเลย
หรือบางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัว?
ไม่อย่างนั้น จะสงบเงียบอย่างนี้ได้ยังไงล่ะ?
เยี่ยหลานซานกัดปากล่างเบา ๆ ก่อนจะส่ายหัวไปมา “ไม่ ไม่มีอะไรค่ะ”
กงเส่าถิงเห็นท่าทางที่แปลก ๆ ของเธอ บวกกับรอยยิ้มบนใบหน้าที่ดูอึดอัดพิกล เขาก็อดไม่ได้ที่จะเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย
หลังจากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น กงเส่าถิงเหลือบมองเยี่ยหลานซานที่ยังอยู่ในชุดคลุมอาบน้ำ เขาเกิดความรู้สึกหวงขึ้นมา และไม่อยากให้ใครได้เห็นเธอในสภาพนี้ด้วย “รออยู่ตรงนี้นะ”
เมื่อเธอพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง เขาถึงได้ลุกขึ้นเดินไปเปิดประตูด้วยตัวเอง
……………………
ฤทธิ์ของเหล้าหยกขาวนั้นแรงมาก แต่นอกจากที่มันจะทำให้เมาเร็วแล้ว ก็ยังสามารถสร่างได้เร็วเช่นกัน เกาซินซินตื่นขึ้นมาตอนตี 5 เธอก็เห็นเสี่ยวหวังกำลังยืนดื่มเหล้าอยู่ข้าง ๆ เธอแล้ว
เกาซินซินกุมขมับก่อนจะลุกขึ้นนั่ง และส่งเสียงเหมือนไม่พอใจออกมาเล็กน้อย ก่อนจะพูดว่า “เลิกทำหน้าแบบนั้นได้แล้ว มีอะไรก็พูด ๆ ออกมา”
“เมื่อคืน…”
เสี่ยวหวังถอนหายใจออกมา ก่อนจะเล่าให้เธอฟังถึงเรื่องราวทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหลังจากที่เกาซินซินดื่มจนเมาไม่ได้สติ
พอเธอได้ฟังก็ยิ่งหงุดหงิด จนสีหน้าตอนนี้ดูไม่ค่อยจะได้ “เมื่อคืนเฉียวเฟยฝานต้องจ่ายค่าเหล้าไปทั้งหมด 2 ล้าน 5แสนหยวนงั้นเหรอ?”
“ใช่”
“แต่เหล้า 5 เหยือกเมื่อคืนนี้ไม่ใช่ว่าฉืออวี้เฟิงจะเลี้ยงพวกเราหรอกเหรอ?”
“ฉันเองก็ไม่รู้ ตอนที่นายน้อยเฉียวอุ้มเธอกลับมาส่งที่นี่ สีหน้าเขาดูไม่ดีเลย พอเขาวางเธอลงปุ้บ เขาก็ออกไปทันที…ฉันออกไปสืบถามมาแล้ว คาดว่านายน้อยเฉียวจะลงไปมีเรื่องกับพวกนั้นที่หวงถิงเข้าแล้วล่ะ เพราะงั้นก็เลย…”
“พวกมันสมควรตาย!”
เกาซินซินโมโหจนหยิบรีโมทข้างตัวเควี้ยงออกไปอย่างแรง และถ้าหากว่าเสี่ยวหวังหลบไม่ทันแล้วล่ะก็ คงจะเจ็บตัวไปแล้วล่ะ
เสี่ยวหวังเงยหน้ามองเกาซินซินด้วยความหวาดกลัว
ครั้งนี้ยังดีที่เกาซินซินไม่ได้จงใจจะระบายอารมณ์ไปที่ตัวเสี่ยวหวังโดยตรง เธอแค่ระเบิดอามรมณ์ออกมาเท่านั้น ทำให้เสี่ยวหวังสบายใจขึ้น
เสี่ยวหวังถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกและแอบเช็ดเหงื่อที่ผุดออกมาจากหน้าผากของเธอเบา ๆ
แล้วเกาซินก็ต้องสงบลงด้วยความสงสัยบางอย่าง “ทำไมเฉียวเฟยฝานถึงได้โกรธขึ้นมาล่ะ? ฮึ ต้องเป็นเมื่อคืนที่พวกคนในหวงถิงพูดจาไม่สวยออกมาแน่ ๆ หรือว่า…พวกเขาจะใส่ร้ายฉัน?”
แล้วเสี่ยวหวังก็แนะนำอะไรบางอย่างขึ้นมา “ไม่งั้นก็ลองถามนายน้อยเฉียวดูมั้ยล่ะ?”
ดวงตาของเกาซินซินเบิกกว้าง แต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา
เสี่ยวหวังเริ่มรู้สึกกลัวจนหัวหด ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมา
วินาทีต่อมา เกาซินซินก็ตะคอกใส่เสี่ยวหวังอย่างแรง “แล้วโทรศัพท์ล่ะ!”
เสี่ยวหวังรีบยื่นโทรศัพท์มือถือให้กับเกาซินซินทันที
เกาซินซินถือโทรศัพท์ด้วยมือข้างนึง มืออีกข้างก็กุมผ้านวมไว้แน่น รอให้เขารับสายอย่างใจจดใจจ่อ
“ตู้ด ตู้ด ตู้ด” เสียงรอสายดังอยู่นานพอสมควร…
จนสายเกือบถูกตัดไป เขาถึงได้กดรับ
ทำให้ใบหน้าของเกาซินซินที่กำลังคร่ำเครียดอยู่เปลี่ยนเป็นอ่อนโยนทันที “พี่เฉียว พี่อยู่ไหนคะ?”
“ฉันกลับบ้านแล้ว”
เสียงของเฉียวเฟนฝานฟังดูง่วงซึมและเหมือนว่าเขาจะไม่อยากคุยต่อ
เกาซินซินกำผ้านวมแน่นขึ้นก่อนจะกลั้นใจถามต่อ “แล้วเรื่องเมื่อคืน…?”
แล้วแววตาของเฉียวเฟยฝานก็มืดครึ้มทันที เขาขมวดคิ้วก่อนจะถามกลับ “เมื่อคืนนี้เธอกับพวกหานเวยเข้าไปทำอะไรกันในหวงถิง?”
“หนูเป็นห่วงพี่เยี่ยไงล่ะคะ”
เกาซินซินคิดคำสารภาพไว้ในใจก่อนแล้ว “เมื่อคืนนี้มีคนเห็นพี่เยี่ยกอดกับชายแก่คนนึง หลังจากนั้นก็เห็นผู้ช่วยของพี่เยี่ยเข้าไปในหวงถิง…”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เธอก็ปรับน้ำเสียงให้ฟังดูเหมือนเธอรู้สึกผิดเล็กน้อย “เมื่อคืนนี้ ทุกคนสนุกกันมาก ก็เลยดื่มกันนิด ๆ หน่อย ๆ หนูกลัวว่าพี่เยี่ยเมาแล้วจะโดนคนอื่นรังแก หนูเลยปรึกษากับหานเวยว่าจะไปช่วยพี่เยี่ยที่หวงถิงด้วยกัน…”
เฉียวเฟยฝานสวนกลับ “อันที่จริงเธอบอกฉันมาเลยก็ได้!”
เกาซินซินแกล้งทำเสียงสะอื้น พลางพูดต่อว่า “จะให้บอกพี่ว่าอะไรล่ะคะ? เพื่อให้พี่เฉียวไปเห็นพี่เยี่ยในสภาพนั้นด้วยตาของพี่เองเหรอ?
หนูเองก็เสียใจที่เห็นพี่เยี่ยเป็นแบบนั้น หนูไม่อยากให้พี่เฉียวต้องรู้สึกทุกข์ใจไปด้วย…”
เมื่อเฉียวเฟยฝานได้ยินเสียงสะอื้นของเกาซินซิน เขาก็เริ่มใจอ่อนลงอีกครั้ง “ไม่หรอก เธออย่าคิดมากนะ”
แล้วเกาซินซินก็ถามต่อด้วยน้ำเสียงออเซาะ “แล้วทำไมเมื่อคืนพี่เฉียวไม่อยู่กับหนูล่ะคะ?”
“ที่บ้านพี่เกิดเรื่องกระทันหันน่ะ”
เฉียวเฟยฝานก้มดูเวลาก่อนจะพูดว่า “เอาเถอะ ตื่นแล้วก็รีบเก็บของซะ เดี๋ยวเจอกันที่กองถ่ายทีเดียวเลยนะ”
“ค่ะ!”
หลังจากวางสายไป สีหน้าของเกาซินซินก็มืดมนลง
แผนการที่เธอวางไว้ ยังไม่ทันทำได้สำเร็จก็ดันมาพลาดท่าจนขายหน้าเองไปอีก เธอกำโทรศัพท์ในมือจนแน่น “เยี่ยหลานซาน นังคนชั้นต่ำต้องยังอยู่ที่โรงแรมนี้แน่ ฉันจะไม่ยอมให้เรื่องนี้แกจบไปแบบสวย ๆ หรอกนะ!”
……………………
หลังมื้อเช้า เยี่ยหลานซานสวมชุดที่โจวไท่นำมาส่งให้เธอโดยเฉพาะ ก่อนที่เธอจะออกจากโรงแรมไปกับเสี่ยวจิน ภายใต้การเฝ้ามองของพวกเขา
แต่เมื่อรถกำลังจะแล่นออกจากลานจอดรถ ก็ต้องหยุดชะงักลงเสียก่อน———
MANGA DISCUSSION