ตรงหน้าประตูทางเข้าหวงถิง เกาซินซินในชุดเดรสสีชมพูเดินนำหน้า ตามมาด้วยหานเวยและนักแสดงคนอื่น ๆ
แต่ละคนเดินเรียงรายกันมาอย่างห้าวหาญ
เสี่ยวจินเห็นดังนั้นก็หยุดทานอาหารแล้วแอบลูบท้องของตัวเองเบา ๆ “คนน่ารังเกียจพวกนี้มาทำอะไรที่นี่กันนะ? ฮึ่ม! รบกวนการกินของฉันหมด!”
……
เกาซินซินที่รู้สึกหดหู่มาแล้วทั้งวัน จนถึงตอนนี้ก็ยังรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ มันเป็นเรื่องไม่ง่ายเลยที่จะโน้มน้าวเฉียวเฟยฝานให้จัดเลี้ยงอาหารที่ห้องอาหารคริสตัลแห่งโรงแรมไดนาสตี้เพนนินซูล่าได้ เพราะนอกจากเธอจะสามารถใช้งานนี้กู้หน้าของตัวเองกลับมาในวงการได้แล้วนั้น เธอยังสามารถหาโอกาสฉีกหน้าเยี่ยหลานซานได้อีกด้วย!
เธอยังไม่ทันจะได้อวดอ้างตัวเองในอีกหลาย ๆ สิ่ง เยี่ยหลานซานก็ดันมาออกจากเกมส์ที่เธอวางไว้ซะก่อน มีหรือที่เกาซินซินจะปล่อยให้เธอหนีไปได้ง่าย ๆ !
และที่ยิ่งไปกว่านั้น…
เกาซินซินยิ้มยิ้มมุมปากแบบร้าย ๆ ก่อนจะบีบการ์ดสีแดงใบจิ๋วที่อยู่ในมือจนแน่น
คุณลุงเหรอ?
เหอะ ๆ
เธอนึกอยู่แล้วเชียว ว่าจู่ ๆ คนอย่างเยี่ยหลานซานจะกล้ามาเป็นศัตรูกับเธอได้ยังไง? ตอนแรกก็นึกจะไปได้ดีด้วยความสามารถ แต่ที่แท้ก็มีเสี่ยใหญ่ใจป๋ามาคอย เลี้ยง!ดู! นี่เอง!
“เยี่ยหลานซาน ฉันจะคอยดูว่าคราวนี้เธอจะแก้ตัวว่ายังไง!”
ในที่สุด ตอนนี้เกาซินซินก็มีความลับของเยี่ยหลานซานอยู่ในมือเธอ คนชั้นต่ำที่ทำให้เธอต้องอับอายขายหน้า มันจะต้องชดใช้อย่างสาสม!
เกาซินซินต้องการที่จะฉีกหน้ากากของเยี่ยหลานซาน เพื่อให้ทุกคนได้ประจักษ์กันอย่างเต็มตาว่าเธอทั้งน่ารังเกียจและไร้ยางอายแค่ไหน!
เกาซินซินเดินเข้ามาในหวงถิงอย่างภาคภูมิด้วยรองเท้าส้นสูงขนาด 10 เซนติเมตร ที่มีสีเดียวกับชุดของเธอ พลางกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องอาหาร
ร้านอาหารย้อนยุคสไตล์ราชวงศ์หมิง ที่ตกแต่งด้วยของเก่าเหมือนกับพระราชวังต้องห้าม แสดงให้เห็นถึงความประณีตงดงามถึงขีดสุด
ถ้าหากว่าห้องอาหารคริสตัลเรียกว่าสวยงามแล้ว งั้นที่นี่ก็คงจะสวยอย่างน่าประหลาดแล้วล่ะ สวยเกินไป!
พอเธอคิดภาพว่าเยี่ยหลานซานมาทานอาหารกับเสี่ยที่เลี้ยงดูเธอที่นี่ เกาซินซินก็รู้สึกเหมือนถูกตบหน้ากลางอากาศ
มันช่างเจ็บแสบเสียจริง ๆ
เกาซินซินเริ่มขมวดคิ้ว และความพยาบาทก็เริ่มปรากฏขึ้นผ่านแววตาของเธอ จากนั้นเธอก็เดินนำทัพไปที่มุมหนึ่งของร้านอาหารด้วยความรู้สึกอาฆาตแค้น
มีชายกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ตรงโซฟา เมื่อเกาซินซินมองไปที่พวกเขา ชายทั้ง 5 คนนั้นต่างก็พากันมองมาที่เธอ
จากคนแรก ต่อมาคนที่ 2….
เกาซินซินจ้องมองอย่างตกตะลึง…!
“มะ มีอะไรเหรอ?”
เนื่องจากที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยชายหนุ่มรูปงาม ไม่มีตาเฒ่าพุงโลซักคนอย่างที่เธอคิดไว้ตอนแรก
ดวงตาของเธอเบิกกว้างและหันหน้าไปสบตากันกับหานเวย
หานเวยก็รู้สึกงงงวยเช่นเดียวกัน “แต่ฉันเห็นกับตาว่าเสี่ยวจินถือกระเป๋าของเยี่ยหลานซานเดินเข้ามาในหวงถิงนะ…”
ทันใดนั้นหานเวยก็เหลือบไปเห็นเสี่ยวจินนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารอีกโต๊ะหนึ่ง แล้วรีบบอกเกาซินซิน “ซินซิน ดูนั่นสิ เป็นผู้ช่วยคนนั้นจริง ๆ ด้วย! พวกเรามาถูกทางแล้ว!”
เมื่อเกาซินซินเห็นเสี่ยวจินนั่งอยู่ในหวงถิงจริง ๆ ก็ทำเอาเธอตกตะลึงไปเลย
เสี่ยวจินอยู่ที่นี่จริง ๆ แต่นั่นมันก็ไม่ได้สำคัญอะไร ที่สำคัญคือ ไหนตาเฒ่าขี้เหร่ล่ะ?
ในฐานะผู้ช่วยที่เก่งกาจที่สุดของกงเส่าถิง ฉืออวี้เฟิงนั้นรู้ดีถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยลงรอยกันของเยี่ยหลานซานกับเกาซินซิน และเมื่อได้เจอกับเกาซินซิน ดวงตาที่พร่ามัวของเขาก็สว่างขึ้นทันที
เขายกขาขึ้นมาไขว้บนโต๊ะน้ำชา และสอดมือข้างนึงไว้ที่ท้ายทอยก่อนจะพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปนหัวเราะเยาะ “นี่พวกเธอเป็นใครกันน่ะ!”
ทันทีที่เขาพูดจบ เหล่านักแสดงที่ติดสอยห้อยตามเกาซินซินมา ก็หายจากอาการตกตะลึงกับความงามของห้องอาหาร และหันมาร้องกรี๊ดกันแทน
“นั่น นั่นคือหลิงมู่สือใช่รึเปล่านั่นน่ะ?”
“ใครคือหลิงมู่สือ?”
“ก่อนหน้านี้ที่มีการเปิดเผยต่อสาธารณะในรายการ Victoria's Secret ว่าเขาจะไม่แต่งงานกับคนที่ไม่ใช่ตระกูลเป๋าจิ่ง โดยเขาผู้นี้มีฐานะเป็นถึงเจ้าชายตระกูลหลิงแห่งเมืองหลวง!”
“ถ้าอย่างนั้นเขาก็คือนายแบบระดับนานาชาติที่เต็มไปด้วยเรื่องอื้อฉาวใช่รึเปล่า?
“ใช่ใช่ใช่ เขาผู้นี้นี่แหละ!”
“…”
“เห้อ พวกเธอดูนั่นสิ ชายคนนั้นก็หน้าตาคุ้น ๆ นะ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นลูกชายของขุนพลท่านหนึ่ง! เขาชื่อว่าฉืออะไรแล้วนะ? ฉือ…?”
“ฉืออวี้เฟิง!”
“ใช่แล้ส ฉืออวี้เฟิง!”
“พระเจ้า วันนี้ช่างโชคดีจริง ๆ เลย ไม่คิดเลยว่าจะได้พบเจอกับเศรษฐีหนุ่มสาวมายมายพร้อมกันในคราเดียว!”
กลุ่มนักแสดงตัวน้อยกลายเป็นแฟนคลับเสียเอง จนพวกเธอลืมไปสนิทว่าจริง ๆแล้ว ที่พวกเธอเข้ามาที่นี่นั้น เพื่อจะทำสิ่งใดกัน แต่ถึงอย่างไรเสีย ด้วยฐานะของพวกเธอแล้วนั้น ไม่มีใครสามารถจะเข้าถึงผู้คนที่มีฐานะสูงส่งเหล่านี้ได้ง่าย ๆ แบบนี้เลย
และในวันนี้ที่ได้พบกับผู้มีอิทธิพลหลายคนก็ถือว่าเป็นโชคของพวกเธอแล้ว!
ว้าวว ตื่นเต้นจัง!
เกาซินซินที่ได้ฟังดาราคนอื่นพูดกันอย่างตื่นเต้น ทำให้เธอรู้สึกไม่ค่อยชอบใจ
เสี่ยวจินทั้งนั่งทานนั่งดื่มอยู่ตรงนี้ได้? ใครกันที่เป็นคนเลี้ยงอาหารมื้อนี้ให้กับเธอ?
แล้ว…เยี่ยหลานซานล่ะ?
เมื่อเห็นสีหน้าของเกาซินซินเปลี่ยนไป หานเวยก็เขาไปกระซิบเธอว่า “เยี่ยหลานซานดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ที่นี่ เธอคงจะไม่ได้…ถูกใครพาไปเปิดห้องแล้วรึเปล่า?”
เกาซินซินพยักหน้าอย่างมั่นใจ “ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ ๆ “
สาว ๆ ต่างพากันพูดเจื้อยแจ้วว่า “นี่พวกเราอยู่ที่ไหนกันนะ ที่นี่ที่ไหนกันแน่ “ ทำให้ฉืออวี้เฟิงเกิดรำคาญจนต้องพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าว “พวกคุณหูหนวกกันเหรอ? ผมถามว่า พวกคุณมาที่นี่คงจะไม่ได้กินฟรีกันใช่รึเปล่า?”
เกาซินซินทำหน้าไม่ถูก บวกกับพูดอะไรไม่ออก
กินฟรีงั้นเหรอ?
เธอเป็นถึง 1 ใน 4 สาวที่ฮอตที่สุดของวงการบันเทิง แต่ไอ้นั่นกลับบอกว่าเธอมาที่นี่เพื่อกินฟรีงั้นเหรอ?”
เธอยืดอกและเชิดคางขึ้นทันที ก่อนจะแนะนำตนเองออกมาอย่างภาคภูมิ “ฉันชื่อเกาซินซิน เป็นศิลปินสังกัดแสงดาวกรุ๊ป! อีกทั้งยังเป็นแฟนสาวของเฉียวเฟยฝาน นายน้อยแห่งแสงดาวกรุ๊ปอีกด้วยค่ะ!”
ตอนที่เธอพูดถึงเฉียวเฟยฝานอยู่นั้น สายตาเธอก็เปล่งประกายออกมาด้วย
ก็จริง ที่ตัวตนที่แท้จริงของคนเหล่านี้นั้น จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้ดีเลิศอะไร เป็นแค่เพียงคนรวยและมีชื่อเสียงในเมืองหลวงเท่านั้น แต่แฟนหนุ่มของเธอเองก็ไม่ได้วิเศษเลิศเลอเหมือนกันหนิ?
เพราะฉะนั้น ทำไมเธอจะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟต่อหน้าคนพวกนี้ด้วยล่ะ?!
“โอ้วว ที่แท้ก็แฟนสาวของเฉียวเฟยฝานนี่เอง!” ฉืออวี้เฟิงหรี่ตาลงกระพริบตาปิ๊ง ๆ พร้อมกับโบกมือให้เกาซินซิน “มาเถอะ พวกเราเพิ่งจะพูดกันอยู่หยก ๆ ว่าผู้ชายอย่างเราเรามานั่งดื่มเหล้ากันอย่างนี้มันช่างน่าเบื่อเสียจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่า เวลานี้จะยังมีสาว ๆ สวย ๆ เดินเข้ามาในหวงถิง!”
เขาดีดนิ้วเรียกบริกร “เอาเหล้าหยกขาวมา 5 ขวด”
ผู้หญิงพวกนี้เป็นพวกที่มอมไวน์เยี่ยหลานซานไม่ใช่เหรอ? แล้วในค่ำคืนนี้ก็เดินเข้าถ้ำเสือมาเองซะด้วย ถ้าหากว่าฉืออวี้เฟิงไม่สั่งสอนพวกเขาสักหน่อยแล้วละก็ จะคู่ควรกับฉายา “กำลังหนุนของน้าเล็ก” ได้ยังไงกัน!
“…”
ผ่านไปสักพัก บริกรก็นำเหล้าชั้นดีที่ชื่อว่าเหล้าหยกขาวมาเสิร์ฟ จำนวน 5 ขวด
เหยือกห้าใบที่ทำมาจากหยกขาว มีขนาดเท่ากับขวดไวน์แดง และของเหลวใสภายในเหยือกก็ถูกแสงไฟในหวงถิงส่องผ่านจนเผยให้เห็นความใสของหยกขาวชัดยิ่งขึ้น
เมื่อเปิดฝาออก ทั้งห้องอาหารก็อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมของเหล้าขาวชนิดนี้
หานเวยอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “หอมมากเลยอะ!”
ฉืออวี้เฟิงยักคิ้ว แล้วก็สั่งการกับบริกร “เทเหล้าให้สาว ๆ หน่อย”
และเขา ก็มองดูด้วยรอยยิ้มจาง ๆ และนั่งรอเวลาเท่านั้น
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงนี้ เติบโตอยู่ในตระกูลใหญ่มาตั้งแต่เด็ก ต่างก็คุ้นชินกับเหตุการณ์หลายรูปแบบ หนุ่ม ๆทุกคนล้วนเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบทั้งนั้น เมื่อเห็นว่าฉืออวี้เฟิงทำแบบนี้เพื่อเป็นการลงโทษ พวกเขาก็จะรู้ทันและตามเกมส์ได้ในทันที
โดยเฉพาะหลิงมู่สือ ที่คอยเชียร์อยู่ข้าง ๆ “เหล้าหยกขาวเนี่ย เป็นเหล้าตัวเด็ดของหวงถิงเลยนะ ในโลกนี้จะสามารถหาดื่มเหล้าชนิดนี้ได้แค่ที่หวงถิงเท่านั้น และเหยือกนึงมีราคาถึง 5 แสนหยวน พวกคุณดื่มเลยคนละเหยือก แต่ต้องดื่มให้หมดนะ!”
พูดจบเขาก็เหลือบมองเกาซินซิน “นี่เป็นเพราะเราเห็นแก่หน้าตาของเฟยฝานเลยนะ”
“ 5 แสนหยวนเลยเหรอ?”
ตัวเลขพวกนี้น่าตกใจมาก
แม้ว่าเกาซินซินจะอยู่ในวงการบันเทิงมา 2 ปี และพอเก็บเงินได้บ้างแล้วนั้น แต่ถ้าให้เธอจ่ายเงินเพื่อดื่มเหล้าเหยือกละ 5 แสนหยวนแบบนี้ เธอคงจะเจ็บปวดและไม่ยอมเสียเงินดื่มมันแน่นอน
เธอยิ้มอย่างภาคภูมิใจก่อนจะยกแก้วขึ้นดื่ม
เมื่อได้ดื่มเข้าไปแล้ว จะรู้สึกหวานในปาก ซึ่งเป็นรสชาติที่ไร้ที่ติจริง ๆ ต่อให้เหล้าจะแรงกว่านี้อีกหน่อย ก็ยังทำให้รู้สึกอยากดื่มมันอีกอยู่ดี
10 นาทีต่อมา…
สาว ๆ ทั้ง 5 คนต่างก็เมาหัวทิ่มกันหมด
ฉืออวี้เฟิงยิ้มอย่างไม่พอใจ และต่อสายหาเฉียวเฟยฝานทันที “แฟนนายน่ะ พาเดอะแก๊งของเธอขึ้นมากินเหล้าบนหวงถิงแล้วไม่จ่าย ที่กินไปน่ะ เป็นเหล้าหยกขาวของฉันด้วย! นายฟังไม่ผิดหรอก เพราะฉะนั้นทั้งหมดก็จะเป็น 2 ล้าน 5แสนหยวน!!!”
MANGA DISCUSSION