'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 20 หลานซาน เวลาของเราสองคนยังเหลืออีกเยอะนะ
อาบน้ำเหรอ?!
คำสองคำนี้ เหมือนกระสุนหลอกที่พุ่งเข้ามาในสมองของกงเส่าถิง แววตาที่เฉยชาเริ่มเกิดอาการล่อกแล่ก
เขาส่ายหัวช้า ๆ พร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่อาจจะเห็นกันได้ง่าย ๆ “ยังเลย”
เยี่ยหลานซานยิ้มพลางถอนหายใจออกมา “ว่าแล้วเชียว”
เธอเองก็เช่นกัน เนื่องจากอุบัติเหตุตกจากหน้าผาครั้งนั้น เธอก็ไม่ได้อาบน้ำไป 2 วันเต็ม ๆ 2 วันนี้ที่อากาศร้อนมาก ๆ แต่น้ำก็ยังไม่ได้อาบ มันทั้งอึดอัดและเหนียวตัวจริง ๆ
เธอมองหน้าเขาด้วยความเห็นใจที่ไม่ได้อาบน้ำมา 2 วันเหมือนกัน น้ำตาใสคลอเบ้าดูแล้วน่าขันทั้งคู่
รู้จักกันได้เพียงแค่ 3 วัน ทุกครั้งที่เธอมองมาที่เขา ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ที่สง่างามของเขาที่ปรากฏต่อหน้าเธอ การที่เขาอยากให้เธอมีชีวิตที่ดี หรือพูดกับเธออย่างใจเย็นว่า “ไม่เป็นไร” ในตอนที่เธอต้องเผชิญกับปัญหาหรือความผิดพลาด เขาในทุก ๆ อิริยาบถนั้นช่างอ่อนโยน บริสุทธิ์และหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
เขาทั้งไม่สบายและอาบน้ำเองไม่ได้ด้วย คงจะทรมานมากกว่าเธอแน่ ๆ
เธอเม้มปากก่อนจะพูดออกไปว่า “ไม่อย่างนั้น…”
กงเส่าถิงกำลังรอให้เธอพูดว่า "ฉันจะอาบน้ำให้คุณเอง" และเขาก็เตรียมพร้อมที่จะผงกศีรษะแล้วด้วย
ถึงแม้ว่ามันจะเสี่ยงต่อการถูกเธอจับได้ว่าเขาไม่ได้บาดเจ็บเนี่ยนะ!?
แต่เยี่ยหลานซานมักจะทำให้ความมั่นใจของเขาสลายหายไปอยู่เรื่อย “คุณชายกงคะ ช่วยบอกเบอร์โทรศัพท์ของพี่โจวให้ฉันหน่อยค่ะ ฉันจะให้เขามาอาบน้ำให้คุณ”
และยังพูดเตือนเขาด้วยความเห็นใจอีกว่า “แต่ต้องระวังหน่อยนะคะ ระวังอย่าให้โดนแผล”
กงเส่าถิงพูดไม่ออก
ใบหน้าที่แสนเย็นชาของเขายักคิ้วขึ้นเล็กน้อยเพื่อตอบรับ
เพื่อระงับความสิ้นหวังเล็ก ๆ ในใจ เขาจึงพูดเบา ๆ ขึ้นว่า “ไม่ต้องแล้ว ฉันไม่ชอบเปลือยกายต่อหน้าเพศเดียวกัน”
“งั้น…คุณอยากจะหาใครซักคนที่เป็นเพศตรงข้ามมาอาบน้ำให้คุณเหรอคะ?”
เยี่ยหลานซานกำลังครุ่นคิดว่าเธอควรจะออกเงินจ้างสาวสวยมาค่อยดูแลเขาดีหรือไม่
และถ้าหากว่าเขาชอบใจผู้ดูแลสาวสวยด้วยละก็ คืนนี้ เธอเองก็จะได้ไม่ต้องนอนเฝ้าไข้เขาที่โรงพยาบาล
แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือ เมื่อเธอหาตัวคนที่ผิดสัญญาและเปิดโปงเรื่องที่เธอเข้าฉากแทนเกาซินซินเจอแล้วละก็ เธอจะต้องกลับไปที่กองละครทันที งานในกองละครนั้น ไม่เหมือนงานที่อื่น การถ่ายทำละครมีทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน เธออาจจะต้องเข้าฉากได้ตลอดเวลา จึงไม่มีเวลามากพอที่จะไป ๆ มา ๆโรงพยาบาลกับกองละครได้
แล้วแววตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมา
กงเส่าถิงที่ผ่านอะไรมาเยอะ จนถึงขั้นไม่มีอะไรที่จะรอดสายตาเขาไปได้ แต่กลับไม่สามารถรู้ถึงความคิดตอนนี้ของเยี่ยหลานซานได้เลย
ก่อนที่เธอจะผลักไสเขาให้ผู้หญิงคนอื่น เขาบอกเธอว่า “ฉันเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณแล้วก็รักความสะอาด ฉันจะเปิดเผยร่างกายของฉันต่อภรรยาในอนาคตเท่านั้น”
หัวโบราณแล้วก็รักความสะอาดงั้นเหรอ?
ภรรยาในอนาคตเหรอ?
เยี่ยหลานซานกระพริบตาปริบ ๆ ด้วยความสงสัย
อ้าว
ผู้ชายคนนี้หลงยุคหนิ!
ดู ๆ ไปเขาก็น่ารักเหมือนกันนะ ชายที่มีฐานะร่ำรวย เคยชินกับการพบปะสังคมของคนชั้นสูง รอบกายห้อมล้อมไปด้วยสิ่งยั่วยุต่าง ๆ ที่สามารถดื่มด่ำได้อย่างเต็มที่ คิดไม่ถึงเลยว่าจะรักษากายและใจให้สะอาดไว้ได้จนถึงตอนนี้
เธอจึงอดไม่ได้ที่จะถาม “คุณชายกง สะดวกใจที่จะตอบมั้ยคะ ว่าปีนี้คุณอายุเท่าไหร่?”
“11 พฤศจิกายนนี้ฉันก็จะอายุครบ 30 ปีพอดี”
วันที่ 11 เดือน 11
เกิดวันที่เท่านี้ ง่าย ๆ แบบนี้เลยแฮะ
แน่นอนว่าสิ่งที่ทำให้เยี่ยหลันซานตกใจมากขึ้นไปอีกก็คือ “ ถ้าอย่างนั้น คุณลุงอายุ 30 ปีแล้ว แต่ก็ยังบริสุทธิ์…?”
ประเด็นนี้เป็นเรื่องส่วนตัวเกินไป เยี่ยหลานซานกระแอมออกมาและพูดตัดบท “คุณนอนแต่ในห้องมา2วันแล้ว คงจะเบื่อน่าดู เดี๋ยวฉันไปถามคุณหมอดูหน่อยดีกว่านะคะ ว่าจะสามารถพาคุณออกไปสูดอากาศด้านนอกได้รึเปล่า”
พูดจบเธอก็รีบวิ่งออกไป
กงเส่าถิงจ้องไปที่เธอโดยไม่กระพริบตา และนั่นทำให้เขาเห็นว่าหูของเธอกำลังแดง
บริสุทธิ์?
แม้ว่ามันจะฟังดูไม่น่าเชื่อ แต่เขาก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ
ใครใช้ให้เขาในวัยหนุ่มที่กำลังคึกคะนองได้เจอกับเด็กสาวอย่างเธอล่ะ? มันเป็นสาเหตุที่หลังจากนั้นไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้หญิงคนไหน เขาก็ไม่มีความรู้สึกกับใครเลย จนตรวจพบว่าเขากลายเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกทางเพศไปซะอย่างงั้น เป็นเหตุให้เขาโสดมาโดยตลอด เหมือนกับวันเกิดเดือนเกิดของตัวเองไม่มีผิด ――(วันที่11เดือน 11 เป็นวันคนโสดของจีน)
แม้แต่เขาเองยังเคยรู้สึกเลยว่า ชีวิตของเขาเองคงจะต้องอยู่แบบนี้ไปตลอด
แต่ ณ ตอนนี้ เธอผู้นั้นก็ได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว
ด้วยกลิ่นที่หอมหวาน จนน่าอัศจรรย์ เธอมาอยู่ตรงหน้าเขาแล้วจริง ๆ
ยิ่งได้สัมผัส ก็เหมือนโดนวางยา
ที่ทำให้สมองของเขานั้นคิดถึงแต่ภาพเธอ
พลางนึกถึงตอนที่เธอพยายามจะพยุงเขาจนร่างกายของทั้งคู่นั้นแนบชิดติดกัน
เขาจับไปที่ไหล่ของตัวเอง
ถึงจะผ่านไปแล้ว แต่เขาก็ยังสัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มที่ยังอยู่บนตัวเขา ความรู้สึกนั้นชัดเจนจนเขาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมาด้วยความรู้สึกปลื้มปริ่ม
—
วันทั้งวันที่แสนจะร้อนอบอ้าว แต่ในยามค่ำคืนกลับเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ทุกคนรู้สึกเย็นสบายที่สุด
ความสวยงามของพระจันทร์เสี้ยว กับแสงจันทร์สีขาวบริสุทธิ์
ด้วยอาณาเขตของโรงพยาบาลที่ปิดกั้นแสงสีเสียงจากในเมืองหลวง ทำให้สัมผัสได้ถึงสายลมยามค่ำคืนที่พัดมา มองเห็นดวงดาวที่อยู่ไกลโพ้นส่องแสงระยิบระยับ ตัดกับไฟข้างทางเหมือนแสงสีเงินที่ส่องแสงลงสู่พื้นดิน
ทั้งคู่ข้ามถนนสายเล็ก ๆ ที่ประดับไปด้วยพุ่มไม้เขียวชอุ่ม แล้วเยี่ยหลานซานก็เข็นกงเส่าถิงเข้าไปยังทางเดินกลางสวน โดยที่อากาศในตอนนั้นกำลังดีมาก ๆ
กงเส่าถิงที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้น
บนตัวของเขามีผ้าห่มผืนบางที่เยี่ยหลานซานคลุมไว้ให้ และเมื่อเธอหยุดรถเข็นลง เธอก็ลงไปนั่งตรงหน้ากงเส่าถิงและดึงผ้าห่มบนตัวเขา ให้ลงมาคลุมขาทั้ง 2 ข้างไว้
“รู้สึกดีขึ้นมั้ยคะที่ได้ออกมาสูดอากาศ”
เธอจัดแจงรวบผ้าห่มผืนบางเสร็จก็เงยหน้าขึ้นมาถาม
ความสดใสของเธอถูกเงาต้นไม้บังเป็นจุด ๆ ทำให้เห็นหน้าของเธอไม่ค่อยชัด
กงเส่าถิงส่งยิ้มให้กับเธอ “ฉันสบายดี เธอเข็นฉันมาตลอดทาง นั่งพักสักหน่อยเถอะ”
“ค่ะ”
เยี่ยหลานซานนั่งลงบนม้านั่งตรงข้ามเขา และนั่งลับลมยามค่ำคืนนี้ที่กำลังพัดผ่านผิวกายเธออย่างเย็นสบาย
“สำเนียงการพูดจาของเธอ ไม่เหมือนกับคนในวังหลวงเลย เธอไม่ได้เติบโตมาในวังหลวงใช่มั้ย?” กงเส่าถิงถาม
เรื่องเกี่ยวกับเธอในความทรงจำของเขานั้น ก็มีเพียงใบหน้าของเด็กสาวที่เย่อหยิ่งเมื่อ 5 ปีก่อนเท่านั้น ส่วนอย่างอื่นก็ไม่มีแล้ว
และในตอนนี้ เขาก็อยากจะรู้จักเธอให้มากขึ้น
หลังจากที่ได้นั่งพักจนรู้สึกผ่อนคลายลง เยี่ยหลานซานก็เอนตัวไปพิงเสา แสดงท่าทางของคนขี้เกียจออกมา
เธอยิ้มให้เขาก่อนจะตอบไปว่า “ใช่แล้วค่ะ”
สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ตัวของทั้งคู่ตอนนี้นั้นเงียบเกินไป จนทำให้ความรู้สึกนึกคิดนั้นโลดแล่นได้ดี เธออดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงช่วงเวลา 2 ปีก่อน
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอ โดยที่ดูไม่ออกเลยว่าเธอกำลังนึกถึงอะไรอยู่
ด้วยรอยยิ้มนั้นของเธอ ทำให้กงเส่าถิงอยากจะรู้จักเธอมากยิ่งขึ้น “พอจะเล่าเรื่องราวในอดีตของเธอได้รึเปล่า”
“เมื่อก่อนน่ะเหรอ..”
แล้วแววตาของเยี่ยหลานซานก็เปลี่ยนเป็นแววตาที่ว่างเปล่าทันที ดูเหมือนกำลังนึกย้อนไปในอดีต
แววตาของเธอที่ส่องประกายอยู่ตอนแรกก็ค่อย ๆ หรี่ลง
สายตาของเธอมองต่ำลง เหมือนเรื่องที่นึกถึงนั้นมันทิ่มแทงใจเธอจนไม่อยากที่จะนึกถึงมันต่อ “ดูเหมือนลมจะแรงขึ้นนะคะ เรากลับกันเถอะค่ะ”
กงเส่าถิงจ้องมองเธออยู่พักใหญ่ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ
อารมณ์ของเธอหดหู่ลงเล็กน้อย
เห็นได้ชัดจากการเร่งฝีเท้าของเธอ
กงเส่าถิงรู้สึกได้ว่าเธอดูเหมือนกำลังหลบเลี่ยงอะไรบางอย่าง แล้วเขาก็เข้าใจเธอ
เอาล่ะ หลานซาน ถ้าในตอนนี้เธอยังไม่อยากจะพูด ฉันก็จะไม่ถาม แต่สักวันนึง ฉันอยากให้เธอเต็มใจและตัดสินใจบอกเล่าทุก ๆ เรื่องให้ฉันฟังด้วยตัวของเธอเอง
เวลาของเราสองคนยังเหลืออีกเยอะนะ