'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 19 คนน่ารักโถมตัวเข้าโอบ
ณ ห้องพักผู้ป่วย กงเส่าถิงกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างเงียบ ๆ เพียงลำพัง
แสงอาทิตย์นอกหน้าต่างเริ่มอ่อนลง และแสงอ่อน ๆ นั้นก็ส่องกระจายมาถึงตัวเขา เผยให้เห็นใบหน้าที่อ่อนโยนและเงียบสงบ
เมื่อเห็นเช่นนั้น ความงงงวยเล็ก ๆ ในใจของเยี่ยหลานซานก็จางหายไป
……
กงเส่าถิงนอนอยู่บนเตียงคนไข้ หายใจอย่างสงบนิ่งเป็นจังหวะ
ทันทีที่เขาได้รับข้อความแจ้งเตือนจากโจวไท่ เขารีบกลับรถและขับกลับมายังโรงพยาบาลอย่างไว
ในขณะที่เขากำลังจะก้าวเท้าเข้าห้องพักผู้ป่วย เขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้าที่กำลังก้าวมาตามทางเดินอย่างต่อเนื่องไม่หยุดพัก โชคดีที่เขาไม่ได้เปลี่ยนเสื้อก่อนออกไปจากโรงพยาบาล ทำให้เขาสามารถขึ้นไปนอนห่มผ้าบนเตียงคนไข้ได้เลยในทันที
วินาทีต่อมา เยี่ยหลานซานก็ผลักประตูเข้ามาในห้อง
เสียงหายใจถี่ ๆ ของเขายังไม่อาจจะสงบลงได้ เขาพยายามหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ จนเริ่มสงบลง ก่อนจะลืมตาหันไปมองเยี่ยหลานซาน
เมื่อเขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมา ก็พบกับเยี่ยหลานซานที่อยู่ตรงหน้าเขา ภาพของเยี่ยหลานซานปะทะเข้ามาในดวงตาที่สงบนิ่งของเขา เธอเรียกสติเขาด้วยการเข้ามาถามใกล้ ๆว่า “รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้วใช่มั้ยคะ?”
“อื้ม”
กงเส่าถิงขยับแขนทำท่าจะพยุงตัวขึ้น พร้อมกับถือโอกาสหายใจช้า ๆ ขจัดความตื่นเต้นออกไปด้วย “เธอช่วยพยุงฉันหน่อยได้มั้ย”
“ได้สิคะ”
แววตาของเยี่ยหลานซานเปล่งประกายออกมาทันที
เมื่อวานเขายังกินอะไรเองไม่ค่อยได้ วันนี้เขากลับสามารถลุกขึ้นนั่งได้ ฟื้นตัวได้ไวขนาดนี้ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจขึ้นจริง ๆ
เธอก้าวเข้าไปและแนบลำตัวเข้ากับเขา พร้อมกับยืดแขนอีกข้างไปโอบไหล่เขาเพื่อที่จะช่วยพยุงตัว
ภายนอกของกงเส่าถิงที่ดูเหมือนจะค่อนข้างผอม แต่พอเยี่ยหลานซานจับไปที่หัวไหล่เขา ก็สัมผัสได้ถึงกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมีพละกำลัง
อุณหภูมิร่างกายของกงเส่าถิง ถูกส่งต่อผ่านชุดผู้ป่วยผ้าบางนั้นมาถึงมือของเยี่ยหลานซาน ทำให้เธอสัมผัสได้ถึงไอความร้อน
เยี่ยหลานซานกลัวว่าเขาจะเจ็บ เธอจึงพยายามที่จะพยุงเขาด้วยแรงทั้งหมดที่เธอมี
ร่างกายส่วนบนที่นุ่มนิ่มของเธอ เสียดสีกับร่างกายของกงเส่าถิงอยู่ตลอดในขณะที่เธอกำลังพยุงตัวเขา ทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความนุ่มนวลของร่างกายเธอได้อย่างชัดเจน
เขาไม่เคยได้สัมผัสถึงความรู้สึกแบบนี้มาก่อน และด้วยความซื่อสัตย์ร่างกาย มันก็ส่งผลให้เขาไม่อาจควบคุมความคิดที่ไม่เหมาะสมบางอย่างได้ เรือนร่างของเธอในอ้อมอกเขา ในตอนที่เราทั้งคู่กำลังทำบางอย่างด้วยกัน…
ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงความคิดเพียงแค่ชั่วขณะ แต่เมื่อสัตว์ร้ายในตัวเขาได้กลิ่นของความรักใคร่ มันก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา
กงเส่าถิงหายใจหนักขึ้น
เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะไม่สามารถควบคุมสมาธิในตอนนี้ได้เลย ช่างเหมือนกับเด็กน้อยที่เพิ่งมีความรักครั้งแรกยังไงอย่างงั้น
ใจนึงก็ต้านทานความตื่นเต้นนั้นได้ แต่อีกใจนึงก็ยังทำตัวไม่ถูก อยากจะระเบิดความรู้สึกออกมา
พอเขาพยายามจะหยุดนิ่งเพื่อยับยั้งอารมณ์ของตัวเอง เยี่ยหลานซานก็ดันนึกว่าเขาเดินไม่ไหวและจะล้มลง เธอพยายามกอดเขาไว้ให้แน่นที่สุด
กงเส่าถิงกระพริบตาถี่และหายใจหนักขึ้นเรื่อย ๆ
เธอทุ่มเทกับเขามากจริง ๆ!
ความทุ่มเทนั้นมันดันไปกระตุ้นความรู้สึกที่เขากำลังพยายามจะต่อต้านอยู่
“คุณโอเคมั้ยคะ? หรือว่าแผลฉีก”
เยี่ยหลานซานหันหน้ามาดูด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
ปอยผมข้างขมับของเธอสะบัดเข้าหน้าของกงเส่าถิงเบา ๆ ทำให้เขาได้สัมผัสถึงกลิ่นวนิลาหอมอ่อน ๆอย่างชัดเจน
เดิมทีเขาจะไม่ชอบอาหารที่มีกลิ่นหอมหวานหรืออะไรที่มีรสชาติเลี่ยน ๆ แต่เมื่อได้กลิ่นหอมหวานจากเยี่ยหลานซาน เขาก็คิดว่าชาตินี้คงจะไม่มีกลิ่นไหนที่หอมเท่ากลิ่นนี้อีกแล้ว
กลิ่นหอมนี้ติดตราตรึงในใจเขา มันช่วยคลายความหนาวเหน็บและโดดเดี่ยวที่อยู่ในใจเขามานาน
ด้วยความที่เธอออกแรงมากและกังวลว่าเขาจะเจ็บแผล ทำให้ตอนนี้เธอเริ่มมีเหงื่อออกตามหน้าผาก กงเส่าถิงไม่อาจจะทนเห็นเช่นนั้นได้
จึงออกแรงนั่งพิงไปที่หัวเตียงเอง
เยี่ยหลานซานปล่อยให้เขาให้นั่งลงอย่างสบาย ๆ และสอดหมอนไปข้างหลังเอวให้เขา จากนั้นเธอถึงจะนั่งลงข้าง ๆ เตียง และซับเหงื่อบนหน้าผากของตัวเอง
เยี่ยหลานซานนั่งลงหายใจและกำลังจะเปิดปากชวนคุย ทันใดนั้นท้องของเธอก็ส่งเสียงร้องออกมา
เยี่ยหลานซานพูดไม่ออก
เผยให้เห็นเพียงแค่สีหน้าที่แดงก่ำจนลามไปถึงหู
เป็นเพราะเรื่องอื้อฉาวที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าใครเป็นคนแฉ และถึงแม้ว่าเธอจะดูเหมือนมีความสุขดีในตอนกลางวันนั้น แต่ความเป็นจริงแล้วเธอเองก็มีความกลุ้มใจอยู่ไม่น้อย ทานอะไรไม่ค่อยจะลง บวกกับเรื่องวุ่นวายที่เพิ่งเจอมาเมื่อตอนเย็น ใครจะไปคิดว่าท้องจะหิวจนร้องดังซะขนาดนี้
เห้อ น่าขายหน้าเกินไปแล้ว!
กงเส่าถิงที่เพิ่งจมดิ่งอยู่ในความงามของเธอเมื่อครู่ ก็ยิ้มออกมาพลางกดกริ่งเรียกพยาบาลเพื่อจะสั่งอาหารค่ำ
หลังจากนั้นไม่นาน หน้าแดง ๆ ของเยี่ยหลานซานก็ค่อย ๆ จางลง
เธอลูบท้องของตัวเองและทำหน้ามุ่ย “ฉันต้องขอโทษจริง ๆนะคะ ที่ทำให้คุณยิ้มออกมา”
คิดแล้วก็กลุ้มใจ
ความอับอายไม่กี่ครั้งในชีวิตของเธอ ล้วนเกิดขึ้นต่อหน้าเขาตลอด พระเจ้ายังมีอะไรที่ทำให้เธอต้องขายหน้ามากกว่านี้อีกรึเปล่า?
เมื่อหันไปก็เห็นกงเส่าถิงแอบยิ้มอยู่ เธอตะโกนลั่นในใจ แต่ก็ทำได้แค่พูดออกไปว่า “คุณนอนอยู่นี่ก่อนนะคะ ฉันจะไปเข้าห้องน้ำหน่อย”
เธออายจนไม่อยากจะนั่งต่อตรงนั้นแล้วจริง ๆ !
กงเส่าถิงกระตุกยิ้มลับหลังเธอ สายตาที่เต็มไปด้วยความรักนั้นกระจายออกมาบนใบหน้าอันหล่อเหลา
……
และเนื่องจากกงเส่าถิงสามารถทานเข้าเองได้แล้ว ครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้นั่งทานข้าวแบบหันหน้าเข้าหากัน
เยี่ยหลานซานทานเยอะเป็นพิเศษด้วยความหิว
กงเส่าถิงเห็นเธอทานอย่างเอร็ดอร่อย เขาก็รู้สึกสบายใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จ เยี่ยหลานซานก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลื่อนดูหน้าฟีดเวยโป๋ กงเส่าถิงเองก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและไม่รู้ว่าเขาดูอะไร
แต่ทั้งสองคนก็คุยกันขึ้นมาบ้างเป็นครั้งคราว
ม่านหน้าต่างขยับเล็กน้อย และเมื่อลมพัดเข้ามา ก็ทำให้ความร้อนภายในห้องถูกพัดออกไปเหมือนธรรมชาติเป็นใจ
และในขณะนั้นเอง บนเวยโป๋ก็ยังคงคึกคักด้วยข่าวอื้อฉาวของโม้เข่อซินและของอู๋เทา เป็นเวลาบ่ายเต็ม ๆ ลามมาจนถึงตอนนี้ กระแสที่ร้อนแรงบนอินเทอร์เน็ตก็ยังคงคึกคักเหมือนคลื่นที่ไม่ยอมสงบนิ่ง โดยเหล่าแฟนคลับของดาราทั้งสองคนที่มีมากมายนับไม่ถ้วนต่างก็เข้ามาออกตัวปกป้อง บวกกับผู้คนที่เล็งเห็นถึงความไม่มีศีลธรรมของดาราทั้งสองคนนั้น ก็เข้ามาทำการแสดงความคิดเห็นโจมตีกันอยู่อย่างต่อเนื่อง
เยี่ยหลานซานส่งข้อความคุยกันกับอวิ๋นซี
อวิ๋นซี [โม้เข่อซินกับอู๋เทาติดอันดับสูงสุดของเวยโป๋ น้องพี่ เดิมทีเธอก็เกือบจะติดอันดับสูงสุดได้แล้วนะ คราวนี้เธอคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ~(พร้อมกับสติ๊กเกอร์คนหล่อหน้าเศร้าที่บรรยายใต้ภาพไว้ว่า ดูความเศร้าบนหน้าหล่อๆของผมสิครับ)
พี่นี่ จะส่งข้อความมาก็ส่งแต่ข้อความสิ ทำไมต้องหัดเป็นอย่างหมอนั่นด้วย ส่งข้อความมาทีไรก็ต้องปิดท้ายด้วยการส่งสติ๊กเกอร์กวน ๆ หลงตัวเองอยู่เรื่อย!
เยี่ยหลานซานพยายามจะไม่แสดงท่าทีกลอกตามองบนออกมา เธอกดส่งสติ๊กเกอร์รูปอึ พร้อมข้อความว่า [ฝ่ายตรงข้ามปฏิเสธการรับข้อความของคุณ พร้อมทั้งโยนอึ1ก้อนมาให้คุณด้วย]
อวิ๋นซี [ฝ่ายตรงข้ามได้รับอึของคุณแล้ว และจะนำไปทำเป็นขนมเปี๊ยะลูกพลับอึให้คุณทาน]
เยี่ยหลานซานอ่านข้อความของอวิ๋นซีจบก็พูดไม่ออก
อี๋ น่าขยะแขยงจริง ๆ !
ต่อแต่นี้ไปเธอคงมองขนมเปี๊ยะลูกพลับเหมือนอย่างเดิมไม่ได้อีกแล้ว และคงทานมันไม่ได้อีกแล้วแน่ ๆ
อย่างไรก็ตาม เถียงกับอวิ๋นซีไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะพี่ชายเธอคนนี้นั้นไร้ขีดจำกัดจริง ๆ สามารถชวนด่าชวนเถียงกันได้ตลอดเวลา
เพื่อยุติความสะอิดสะเอียนเรื่องอึ เยี่ยหลานซานจึงรีบเข้าประเด็น [แล้วเสี่ยวจินล่ะ?]
อวิ๋นซี [กำลังตรวจสอบผู้ต้องสงสัยคนที่ 4 ]
เยี่ยหลานซาน [พอบอกได้มั้ยว่ามีผู้ต้องสงสัยทั้งหมดกี่คน?]
อวิ๋นซี [103คน]
เยี่ยหลานซาน [อยู่ ๆ น้องสาวพี่คนนี้ก็รู้สึกเหนื่อยใจเหลือเกิน อยากจะนอนแล้ว!]
อวิ๋นซี [นอนกับผู้ชาย?]
เยี่ยหลานซานเห็นข้อความนั้นถึงกับพิมพ์คำว่า “ไสหัวไป” แล้วกดส่งก่อนจะปิดหน้าแชทของอวิ๋นซีลง
หลังจากที่กงเส่าถิงสั่งให้โจวไท่เร่งสืบหาบุคคลที่ปล่อยข่าวของเยี่ยหลานซานเสร็จไปเรียบร้อย เขาก็เงยหน้าขึ้นและเห็นสีหน้าค้าง ๆ ของเยี่ยหลานซาน
เขาวางโทรศัพท์ลงข้างตัว และถามด้วยความห่วงใยว่า “เป็นอะไรไปเหรอ”
“ไม่มีอะไรค่ะ”
เยี่ยหลานซานหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะมองไปที่กงเส่าถิงแล้วอดไม่ได้ที่จะถามเขาว่า “ 2 วันมานี้ คุณอาบน้ำรึยังคะ?”