“ฉันไม่รู้ แล้วก็ไม่อยากรับรู้ด้วย!”
ในเมื่อพูดกันไม่รู้เรื่องก็เงียบเสียดีกว่า!
ไม่นานพวกเขาก็ถึงแยกไฟแดง ตอนนี้เยี่ยหลานซานมีแผนอยู่ในใจแล้ว เธอมองไปที่เฉียวเฟยฝานอย่างใจเย็น “เรื่องที่นายลักพาตัวฉันขึ้นรถมาวันนี้ ฉันจะไม่ติดใจเอาความอะไรกับนาย แต่ฉันขอแนะนำนายไว้อย่างนึง ว่าหลังจากนี้เราควรกลับไปเป็นคนที่ไม่รู้จักกันจะดีกว่า”
เมื่อเธอพูดจบ เฉียวเฟยฝานก็เหยียบเบรกทันที
เยี่ยหลานซานเปิดประตูและลงไปอย่างภาคภูมิใจ
เธอปิดประตู ปั้ง! และแอบถูกใจอยู่เล็ก ๆ
ทั้ง ๆ ที่ตกลงกันแล้วว่าจะกลับไปเป็นคนไม่รู้จักกัน แต่ทำไมมันถึงรู้สึกจี๊ด ๆ ในใจจังนะ
เฉียวเฟยฝานจ้องมองเธอจากด้านหลัง จนเธอหายวับไปท่ามกลางรถที่กำลังจอดต่อ ๆ กันในจราจรที่ติดขัดนั้น
จนกระทั่งเจ้าของรถคันหลังบีบแตรขัดจังหวะเขา
เขาตกใจเสียงแตรจนได้สติและรีบขับรถต่อ
และในตอนที่เขาเหยียบคันเร่งอยู่นั้น ตัวเขาเองก็เพิ่งจะนึกได้ว่าที่มาพบเธอวันนี้ ก็เพื่อที่จะขอให้เธอยุติการก่อเรื่องที่น่ารังเกียจนั้นซะ แล้วออกมาขอโทษสื่อ ขอโทษประชาชนทุกคน แต่เมื่อเขาเผชิญหน้ากับท่าทีที่เยาะเย้ยและเฉยชาของเธอนั้น เขาคาดไม่ถึงเลยว่าจะลืมพูดเรื่องสำคัญออกไป…
เขากำหมัดทุบลงบนพวงมาลัยด้วยความโกรธจนเสียงแตรรถดัง
และในที่สุดโจวไท่ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาได้ทันเวลา และได้เห็นเยี่ยหลานซานเดินลงมาจากรถพอดี
เขาหายใจออกมาอย่างโล่งใจ
และอยากจะรายงานกงเส่าถิงซักหน่อยว่าเธอไม่เป็นอะไรมากแล้ว ทันทีที่เขาจอดมอเตอร์ไซค์ลงข้างทางและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ก็ถูกเยี่ยหลานซานจับได้ “พี่โจว!”
โจวไท่ตกใจพูดอะไรไม่ออก มือไม้สั่นทั้ง ๆ ที่จับโทรศัพท์อยู่
และท่าทางที่กำลังจะกดโทรศัพท์ก็หยุดชะงักลง
เยี่ยหลานซานเดินเข้ามาจากด้านหน้า และมองเขาด้วยความแปลกใจที่โจวไท่นั้นสวมสูทขี่มอเตอร์ไซค์ “พี่โจว บังเอิญจริง ๆ เลยค่ะ ไม่คิดว่าจะเจอพี่ที่นี่!”
โจวไท่ทำตัวไม่ถูกได้แต่ยิ้มออกไป “แหะ ๆ ใช่ บังเอิญจริง ๆ เลยเนอะ”
แล้วเธอก็ถามต่อ “พี่มีธุระเร่งด่วนรึเปล่าคะ?”
“หา?”
โจวไท่พยายามปกปิดความล่อกแล่กของสายตาเขา “มะ ไม่มีครับ”
“งั้นก็ดีเลยค่ะ ตอนนี้รถกำลังติดอยู่ด้วย คงจะเรียกรถยากมาก พี่โจวช่วยขับพาฉันไปโรงพยาบาลทีเถอะค่ะ ไปเยี่ยมพี่ใหญ่ของพี่โจกัน” เยี่ยหลานซานพูดจบก็ขึ้นนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์เรียบร้อย
โจวไท่อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ขาดเนื่องจากความตื่นตระหนกของตัวเอง ทำเอาลิ้นแข็งจนพูดไม่ออก
อยากจะพูดว่าไม่เป็นไรก็พูดไม่ออก!
อยากจะพูดอะไรก็พูดไม่ได้!
ในตอนนี้ คุณเยี่ยก็นั่งซ้อนท้ายเรียบร้อยแล้ว ทำให้เขาไม่มีโอกาสจะรายงานเจ้านายของเขาเลย
ทำได้เพียงสะอื้นอยู่ในใจ และเร่งเครื่องไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ
หวังว่าฉันจะพอซื้อเวลาให้บอสได้เตรียมตัวใหม่อีกครั้งทันนะ
เขาคิดไว้อย่างสวยงาม
แต่เยี่ยหลานซานเห็นว่าเขาขับมอเตอร์ไซค์ช้ามาก ซึ่งช้ากว่าคุณป้าที่ขี่จักรยานไฟฟ้าตามถนนเสียอีก และมันทำให้ความอดทนของเธอนั้นเริ่มจะหมดลง
เธอตบบ่าของโจวไท่เบา ๆ เพื่อเรียก “พี่โจว พี่จอดมอเตอร์ไซค์เถอะ”
“ ห๊า? ได้ครับ!”
โจวไท่จอดรถลงข้างทาง
แอบดีใจเพราะคิดว่าคุณเยี่ยอาจจะเปลี่ยนใจไม่ไปกับเขาแล้ว แต่กลับพบว่า เยี่ยหลานซานลงจากรถก็ผลักเขาให้ไปนั่งข้างหลังของมอเตอร์ไซค์และเธอก็กระโดดขึ้นควบด้านหน้ามอเตอร์ไซค์ในท่าทางที่เท่ห์ไม่เบา
โจวไท่อดไม่ได้ที่จะกระตุกมุมปากยิ้ม “คุณเยี่ย ขี่มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเป็นด้วยเหรอครับ?”
“มันแน่นอนอยู่แล้วค่ะ”
ในขณะที่เยี่ยหลานซานขี่มอเตอร์ไซค์อยู่นั้น เธอก็เม้มริมฝีปาก คิ้วขมวดและไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่
“เกาะแน่น ๆ นะคะ!”
ทันทีที่พูดจบ รถก็พุ่งไปข้างหน้าเร็วขึ้นเหมือนจรวด
ท่ามกลางลมที่ปะทะตัวทั้งคู่ โจวไท่เกาะท้ายรถแน่น ทั้งตัวเขาถูกลมตีจนสภาพจากที่เนี้ยบ ๆ ก็กลายเป็นยุ่งเหยิงเล็กน้อย
ทักษะการขับขี่ของคุณเยี่ยนั้นเท่ห์เหนือใครจริง ๆ
ขอร้องล่ะ ช่วยเพิ่มความเป็นกุลสตรีอีกสักนิดจะได้มั้ยเนี่ย!?
เขาเกาะท้ายรถแน่นเพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองตกลงไป แม้แต่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความหาบอสยังทำไม่ได้
ภายในใจของเขานั้น ความสิ้นหวังนี้น่ากลัว ๆ พอ ๆ กับความตายเลย
บอสครับ รบกวนเบามือกับผมด้วยนะครับ!
…………
กงเส่าถิงเฝ้าดูโจวไท่ขึ้นรถมอเตอร์ไซค์และขี่ตามรถไล่ตามรถคันที่ลักพาตัวเยี่ยหลานซานไป จากนั้นเขาก็ตัดสายวิดีโอคอลและรีบเหยียบรองเท้าแตะวิ่งออกมาจากโรงพยาบาล ดูเหมือนจะไม่มีวันไหนที่ได้อยู่อย่างสงบเลย
ผู้อำนวยการโรงพยาบาลที่เพิ่งจะเลิกงาน ก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งในชุดผู้ป่วยของโรงพยาบาลวิ่งผ่านเขาไป
ท่าทางคล่องแคล่วและแข็งแรงนั้น
กับแผ่นหลังที่คุ้น ๆ ตานั้น
ทำไมยิ่งมอง…ยิ่งรู้สึกว่าเหมือนเจ้านายของเขาซึ่งเป็นประธานใหญ่ของเอ็มเพอเรอร์กรุ๊ปคนนั้นนะ
พอเขาขยี้ตา ชายคนนั้นก็หายไปเสียแล้ว
แต่เมื่อนึกถึงท่าทางเฉยเมยและหยิ่งผยองของท่านประธานใหญ่ ผู้ที่นิ่งสงบชนิดที่ว่าถ้าเกิดฟ้าถล่มก็คงไม่อาจทำให้เขาขมวดคิ้วได้
เขาจึงทำได้เพียงแค่ถอนหายใจและพูดออกมาว่า “สายตาคนแก่ละมั้งเนี่ย”
จากนั้นก็เดินต่อไปอย่างช้า ๆ
กงเส่าถิงตรงดิ่งไปที่ลานจอดรถของโรงพยาบาล
โรงพยาบาลแห่งนี้ เป็นโรงพยาบาลส่วนตัวของเขา ไม่สิ ถ้าพูดให้ถูก ที่นี่ก็คือสถานที่พักฟื้น รักษาร่างกายส่วนตัวที่เขาทุ่มเงินจำนวน 3 พันล้านของตัวเองเพื่อสร้างมันขึ้นมา
ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ในโรงพยาบาล ความเชี่ยวชาญของแพทย์ คุณภาพของพยาบาลและสภาพแวดล้อม รวมถึงอาหารการกินล้วนแล้วแต่ใช้ส่วนผสมที่คัดสรรเอาแต่สิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดสารพิษทั้งหมด
ค่าเข้าพักรักษาเพียง 1 คืนก็เท่ากับเงินจำนวนมากเลยทีเดียว
ผู้ที่สามารถมาที่นี่เพื่อพบแพทย์หรือพักฟื้นที่นี่ได้ มีเพียงบุคคลสำคัญของวังหลวงเท่านั้น
ลานจอดรถกว้างขวางที่ซึ่งมีรถจอดอยู่ไม่มากนักในตอนนี้ แต่รถที่จอดอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นรถยี่ห้อหรูลิมิเต็ตระดับสากลทั้งสิ้น
และรถของกงเส่าถิง ก็คือ บูกัตติ เวย์รอน สีเงินที่มีเพียง 2 คันในโลก
แวบเดียวเขาก็เข้าไปในรถ สตาร์ทเครื่องยนต์และขับออกไปทันที
ในหัวของเขานั้น ได้วางแผนตามล่ารถคันที่ลักพาตัวเยี่ยหลานซานไว้เรียบร้อยแล้ว เขาคำนวณเส้นทางของรถคันนั้นและรีบขับตามไปโดยเร็ว
เมื่อถึงทางแยกที่ห่างจากโรงพยาบาลมาหนึ่งกิโลเมตร รถมอเตอร์ไซค์สีดำกับรถบูกัตติ เวย์รอนสีเงิน แล่นสวนกันไปอย่างเร็ว
โจวไท่จำรถคันนั้นได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น เขาส่งเสียงเรียกอย่างน่าสงสาร แววตาแสดงออกอย่างเด่นชัดว่าเหมือนกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่โหดร้าย
และเขาไม่สนใจความปลอดภัยของชีวิตตัวเองแล้วในตอนนี้ เขาปล่อยมือที่เกาะท้ายรถไว้แน่นก่อนหน้านี้ และคว้าโทรศัพท์ออกมาด้วยมือที่สั่นระริก
“พี่โจว เป็นอะไรรึเปล่าคะ?”
เสียงของเยี่ยหลานซานดังออกมาผ่านสายลม
แค่โจวไท่ปล่อยมือออกจากท้ายรถ ร่างกายของเขาก็เริ่มโอนเอนไปซ้ายทีขวาที
และประจวบเหมาะกับที่เยี่ยหลานซานกำลังขี่เข้าโค้งพอดี ทำให้เขาเกือบจะตกลงไป
เขาตกใจจนตาแดงก่ำ ละความพยายามในการจะกดโทรศัพท์และเอื้อมไปเกาะท้ายรถไว้อย่างเดิม
ดีที่ ร่างกายเขาตอบสนองต่อความกลัวนั้น ในสมองยังมีความกลัวจนต้องเปลี่ยนใจหันกลับมารักชีวิตตัวเอง
เขากลั้นความรู้สึกนั้นไว้ไม่ไหว พูดออกมาอย่างตะกุกตะกักว่า “คุณเยี่ยครับ ช่วยหยุด ช่วยหยุดรถทีครับ ผมกำลังจะอ้วกแล้…”
ชึ่บบ!
หลังจากเสียงเบรกดังออกมา รถก็เริ่มหยุดอยู่กลางถนน
โจวไท่ที่กำลังก้าวลงจากรถก็กลายเป็นล้มลงไปบนพื้นเลยทีเดียว
เมื่อเท้าของเขาได้แตะถึงพื้น ขาของเขาก็อ่อนแรงลง ตัวอ่อนเหมือนจะปลิวไปตามลม และคิดว่าตอนนี้ระบบร่างกายของเขาคงอยากจะพูดคำ ๆ นี้ออกมา “จบเกมส์”
เขาไม่สนภาพลักษณ์อาชาแห่งเทพเจ้าของตัวเองอีกต่อไปแล้ว เขานั่งยอง ๆ ข้างถนน ทำท่าจะอาเจียน และในขณะเดียวกันก็แอบหยิบโทรศัพท์ออกมาส่งข้อความหากงเส่าถิง
[บอสครับ กลับโรงพยาบาลด่วนเลยนะครับ คุณเยี่ยกำลังจะถึงในไม่ช้าครับ]
ซิวว!
เสียงข้อความถูกส่องออก
เสียงนั่นทำให้เขาแทบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
ตลอดทางโจวไท่ไม่ได้รายงานความคืบหน้าให้กับเจ้านายของเขาเลย และด้วยท่าทางแปลก ๆ ของเขาก็ทำให้เยี่ยหลานซานอดสงสัยไม่ได้
และคิดว่าเขาทำตัวแปลก ๆ ไปหมด
ผ่านพ้นความวุ่นวายมากมายจนมาถึงโรงพยาบาลได้ในที่สุด เยี่ยหลานซานเร่งฝีเท้าไปยังห้องผู้ป่วย เธอผลักประตูเข้าไปในห้องโดยไม่ได้เคาะประตู
MANGA DISCUSSION