'รักข้ามรุ่น' กับคุณลุงจอมขรึม - ตอนที่ 137 ซานซาน รอฉันหน่อย
หลังจากที่เขากลับไปใช้ชีวิตที่บ้านตระกูลกง ในทุกวันเธอก็วิ่งจ้อไปที่บ้านเขา ในตอนนี้ยังมาที่เอ็มเพอร์เรอร์กรุ๊ปอีก!
“ให้เธอออกไป”
สีหน้าของกงเส่าถิงนั้นเหมือนหมดความอดทน
น้ำเสียงที่สามารถฆ่าคนได้นั้นทำให้เลขาตัวสั่นเทาและโค้งคำนับด้วยความเคารพ “รับทราบ”
ในขณะที่เขากำลังจะออกไป กงเส่าถิงก็ถาม “เธอมาทำอะไร?”
“คุณหลิงนำแผนงานร่วมมือระหว่างหลิงกรุ๊ปมา เป็นเรื่องของซีรีส์น้ำหอมที่พัฒนาร่วมกันในครั้งนี้ …”
“……..”
กงเส่าถิงเคาะนิ้วบนโต๊ะเบาๆสองครั้งและระงับความเกลียดชังในใจ “ให้เธอไปห้องประชุมและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้”
“รับทราบ”
เลขารีบออกไปในทันที
กงเส่าถิงมองไปที่รูปถ่ายของเยี่ยหลานซานบนคอมพิวเตอร์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความคิดถึงและความรัก “ซานซาน รอฉันหน่อย”
…….
เยี่ยหลานซานเพิกเฉยต่อข่าวทั้งหมดที่เกี่ยวกับกงเส่าถิง เธอทุ่มเทพลังกายให้กับกองละคร แค่เพียงบางครั้งในยามค่ำคืนเธอก็จะนึกถึงอรุณแห่งสงครามเย็น
กงเส่าถิงกดทับร่างกายของเธอและกล่าวด้วยน้ำเสียงลึกล้ำและแข็งแกร่ง : เธอก็คิดของเธอไป ฉันก็จะทำของฉัน
ในเวลานี้เธอต้องการบอกลุงว่า : หนูไม่ต้องการการปกป้องจากลุง หนูต้องการเผชิญกับอันตรายทั้งหมดเคียงข้างลุง!
แต่อย่างไรก็ตาม เธออยากจะบอกประโยคนี้กับลุงมากแค่ไหน แต่ลุงก็ไม่ไว้วางใจในความสามารถของเขา
เช่นนี้ ดูเหมือนกับความสงบนี้ก็ได้ผ่านมาแล้วเป็นเวลา5วัน
การถ่ายละครของเยี่ยหลานซานก็ได้หยุดพัก
วันนี้เด็กที่ได้รับการช่วยเหลือจากมูลนิธิได้รับการผ่าตัด ในเช้าตรู่ เยี่ยหลานซานก็ได้พาเสี่ยวจินไปโรงพยาบาล
“คุณเยี่ย”
กัวทงผู้จัดการมูลนิธิม่ามา ก่อนหน้านี้เคยเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของบริษัทที่มีชื่อเสียง แต่หลังจากนั้นก็ลาออกจากงานที่มีรายได้สูงและแสวงหาการกุศล
ในวันนี้อายุ43ปีและได้เดินบนถนนสายนี้มาหลายสิบปีแล้ว
ในช่วงแรกของการก่อตั้งกองทุน เยี่ยหลานซานก็ได้ยินเฉิงเฉิงพูดถึงเขา สิ่งที่ประทับใจเธอมากที่สุดคือสิ่งที่กัวทงกล่าว ยอดขายที่ดีที่สุดในโลกคือการเผยแพร่ความรักและความเมตตาไปทั่วโลก
เมื่อเยี่ยหลานซานได้ยินเช่นนั้นเธอก็ตกตะลึง
นี่จะเป็นคนที่มีจิตใจดีมากขนาดไหน ถึงได้มีจิตใจที่เข้มแข็งและอ่อนโยนเช่นนี้
คนตรงหน้าสูงไม่ถึง 175 เซนติเมตร แต่คนที่มีจิตใจเมตตาและอ่อนโยนแบบนี้ เยี่ยหลานซานนับถือจากก้นบึ้งของหัวใจของเธอ “คุณกัว ตอนนี้อาการเด็กๆเป็นอย่างไรบ้าง?”
“เด็กสองคนที่ได้รับการผ่าตัดแล้ว ตอนนี้พวกเขากำลังพักฟื้น เมื่อบ่ายวานนี้เด็กน้อยคนที่สามก็ได้ถูกส่งตัวไปแล้ว ในตอนนี้กำลังเตรียมตัวผ่าตัด”
“ฉันอยากไปดูพวกเขา”
“คุณเยี่ย เชิญทางนี้”
กัวทงส่งข้อมูลในมือของเขาให้กับผู้ช่วยอาสาสมัครและพาเยี่ยหลานซานไปยังห้องพักผู้ป่วย
ภายในห้องพักผู้ป่วย เด็กหญิงตัวเล็กๆอายุไม่เกิน5ขวบมัดผมจุกสองข้าง สวมชุดของโรงพยาบาลหลวมๆและกำลังปีนป่ายเก้าอี้ตัวน้อย “ม่านม่าน”
กัวทงเดินเข้าไปและอุ้มเธอลงมาจากเก้าอี้ตัวน้อย เขากล่าวตำหนิเบาๆ “ทำไมขึ้นไปยืนสูงแบบนั้น หากตกลงมาจะทำอย่างไร?”
“คุณลุงกัว” ม่านม่านส่งยิ้มหวานให้กับเขา “เมื่อกี้พี่ชายตัวน้อยเตียงข้างๆเพิ่งจากไป เขาบอกว่าให้หนูช่วยเขามองออกไปด้านนอกหน้าต่าง”
เธอเขย่าแขนของกัวทง “เมื่อไหร่พี่ชายตัวน้อยจะกลับมา? หนูเห็นสิ่งต่างๆเยอะมาก ท้องฟ้าสีฟ้า เมฆสีขาว ต้นไม้ นกตัวน้อยแสนสวย หนูจะเล่าทุกอยากให้พี่เขาได้ฟัง”
กัวทงลูบศีรษะของเด็กสาวเบาๆ “พี่ชายตัวน้อยไปแล้ว “ไปไหน?” เด็กน้อยไร้เดียงสามีความอยากรู้อยากเห็นในดวงตาของเธอ
“ไปอยู่ในที่ที่ไร้ซึ่งความเจ็บปวดและโรคร้ายต่างๆ”
“ม่านม่านก็อยากไปด้วย”
“ม่านม่านอยากช่วยให้พี่ชายตัวน้อยได้เห็นวิวที่งดงามมากแบบนี้ หนูก็ต้องเดินทางไปทั่วทุกมุมโลกก่อนที่จะพบพี่ชายตัวน้อย จากนั้นหนูก็ค่อยเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาได้ฟัง”
“ได้เลย!”
ด้วยคำกล่าวที่หนักแน่นนั้นกระทบเข้ากับจิตใจของเยี่ยหลานซานอย่างกะทันหัน
เด็กน้อยแสนบริสุทธิ์ ยังไม่รู้ว่า พี่ชายตัวน้อย ที่เธอกล่าวถึงนั้นได้จากโลกไปแล้ว
เธออดไม่ได้ที่จะก้าวไปด้านหน้า
“หนูชื่อม่านม่านเหรอ?”
เธอจับมือสาวน้อยแล้วถาม
มือเล็กๆนั่นนุ่มน้ม อย่างไรก็ตามเนื่องจากการขาดสารอาหารตลอดในช่วงเวลานี้ ร่างกายของเธอจึงผอมแห้ง ผิวเปลี่ยนเป็นสีเหลืองและดูเหมือนว่าชีวิตก่อนหน้านี้ไม่เป็นที่พอใจมากนัก
ม่านม่านจ้องมองเยี่ยหลานซานอย่างดีใจ ดวงตาสีเข้มนั้นส่องประกายเจิดจ้า
ดวงตากลมโตจ้องมองเธออย่างไม่กระพริบตา ดวงตาของเธอนั้นเอ่อล้นไปด้วยความสุขและความรัก “พี่สาวคือนางฟ้าเหมือนที่ย่าหนูบอกไว้หรือเปล่า พี่สาวสวยมากๆ”
เยี่ยหลานซานยิ้ม เธอยื่นมือออกไปสัมผัสจมูกน้อยๆของม่านม่าน “ถ้าหากว่าพี่เป็นนางฟ้า ม่านม่านก็เป็นนางฟ้าตัวน้อย”
ในขณะนั้น พยาบาลก็ได้เดินเข้ามา “คุณกัว ม่านม่านได้เวลาผ่าตัดแล้ว”
เมื่อได้ยินคำว่า ผ่าตัด มือของม่านม่านที่จับไว้กับเยี่ยหลานซานก็แน่นขึ้นทันที
เธอจับมือของเยี่ยหลานซานไว้แน่น เธอกล่าวอย่างกลัวๆ “พี่สาวคนสวย ม่านม่านไม่อยากผ่าตัด พี่ชายตัวน้อยลอกว่าผ่าตัดเจ็บมาก”
“………”
ดวงตาที่สดใสของเด็กน้อยเต็มไปด้วยความหวาดกลัว
หัวใจของเยี่ยหลานซานสั่นเทา
เธอเอาขนมที่เตรียมมาใส่ไว้ในมือของม่านม่านและกล่าวอย่างอ่อนโยน “กินขนมอันนี้แล้วจะไม่เจ็ยเลย รอให้ม่านม่านออกมา พี่จะพาม่านม่านไปชมดอกไม้ที่สวยงามและกินพุดดิ้งนมที่อร่อยที่สุด”
หลังจากปลอบประโลมอยู่ครู่หนึ่งก็ได้พาเด็กหญิงตัวน้อยออกจากห้องพักผู้ป่วย
กัวทงถอนหายใจเบาๆ และอธิบายสถานการณ์ทั้งหมดให้เยี่ยหลานซานได้ฟัง “เธอถูกพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดทอดทิ้งเพราะโรคหัวใจ ต่อมาเธอได้รับการเลี้ยงดูจากคุณย่า และเติบโตขึ้นมาอย่างปลอดภัย เมื่อเดือนที่แล้วคุณย่าก็ได้เสียชีวิต ม่านม่านก็ไม่เหลือญาติเลยสักคน…”
แม้ว่าเยี่ยหลานซานจะถูกแม่ทิ้งตั้งแต่เธอยังเด็ก แต่พ่อของเธอก็มอบความรักทั้งหมดให้กับเธอด้วยสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่ที่ดีของเธอก็เรียกได้ว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ถูกเลี้ยงมาในสภาพแวดล้อมที่มีชีวิตที่สูงส่งและมั่งคั่ง
เป็นครั้งแรกที่เธอได้ยินเรื่องราวของม่านม่าน เธอจึงรู้ว่าบนโลกนี้ นอกเหนือไปจากราคะของชนชั้นสูง นอกเหนือจากการวางอุบายของโลกมืด มีเด็กจำนวนมากที่สิ้นหวังและต้องดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด
ในวินาทีนั้น เธอก็ได้ตัดสินใจ
ด้วยความรู้สึกที่ยากลำบากเธอจึงกดหมายเลขโทรศัพท์ของเฉิงเฉิง “พี่เฉิง ฉันต้องการเงินด่วน ต้องการเงินจำนวนมาก ช่วงนี้มีประกาศงานอะไรหรือเปล่า?”
“มีอยู่หนึ่งงาน ค่าตัวสิบล้าน แต่…” เฉิงเฉิงลังเลเล็กน้อย
“อะไรพี่?”
“ตอนเก้าโมงครึ่ง Queenออดิชั่นที่บริษัทอินเตอร์สาขาZ ฉันจะให้เธอมาลองดูก่อน แต่ฉันได้ยินข่าววงในเขาพูด…”
“……..”
หลานซานรับรู้ได้ถึงลางสังหรณ์ที่ไม่ดี
จากนั้น เฉิงเฉิงกล่าวว่า “เกาซินซินได้ติดต่อกับซีอีโอเฝิงเซียวแล้วและได้นัดพบกับฉีฉีหลี่แล้วด้วย คราวนี้ทางตัวแทนก็ได้ลงมติตัดสินแล้วว่าเป็นเกาซินซิน”
ผู้จัดการของแต่ละคนก็มีแวดวงข้อมูลของตัวเอง
เดิมทีเธอให้ความสำคัญกับการเลือกตัวแทนของQueenครั้งนี้ แต่เกาซินซินเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและยังติดต่อกับผู้สัมภาษณ์สองคนได้สำเร็จ
การต่อสู้ที่ต้องพ่ายแพ้นี้ เธอจะปล่อยให้ศิลปินของเธอไปอับอายขายหน้าได้อย่างไรกัน?
แน่——
จิตวิญญาณสงครามแพร่กระจายในสายตาของสุนัขจิ้งจอกอย่างเยี่ยหลานซาน “Brand Ambassador นี้ ฉันจะคว้ามันมาให้ได้!”