ขณะที่นั่งเฮลิคอปเตอร์ เธอสูดอากาศที่บริสุทธิ์และปลอดโปร่งจากภายนอก หัวใจของเธอก็ค่อยๆสงบลง
หลังจากที่วุ่นวายแล้ววุ่นวายเล่าอยู่ตลอดทั้งคืน เรื่องราวต่างๆก็ได้สิ้นสุดลง ในที่สุดเธอก็หมดเรี่ยวแรง เธอเอนกายลงในอ้อมแขนของกงเส่าถิงและหลับไป
………
บนเรือไข่มุก
ทหารรับจ้างต่างถูกควบคุมตัวจนเสร็จสิ้น กงฉีหลินได้นำกองกำลังจากบ้านตระกูลกงมาและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับกองทัพของเสนาฉือชานโหมวที่อยู่บนเรือ
เมื่อเห็นคนสวมเครื่องแบบของกองทัพปรากฎตัว สีหน้าของเยี่ยอีเหรินก็เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“จบแล้ว มันจบแล้ว…”
ในเวลานั้นการเดิมพันครั้งสุดท้ายของเธอก็ได้สิ้นหวังแล้ว คาดไม่ถึงเลยว่า…ยังคงยืนอยู่ผิดฝ่าย…ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึงในการให้ลูกสาวคอยขจัดสิ่งกีดขวางให้หมดสิ้น เกรงว่าแม้แต่ตระกูลเกา เธอก็ยังจะไม่สามารถรักษาไว้ได้
เธอไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของฉืออวี้เฟิงและเป่าจิงเหริน เธอดึงเกาซินซินและรีบไปหาเกาเซิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะปรึกษาหารือ
ในขณะที่เธอรีบออกมาโดยไม่ทันระวัง เธอก็ชนเข้ากับโจวไท่
“ขอโทษด้วย ขอโทษ”
เธอไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเธอวิ่งชนใคร ในขณะนั้นเธอรีบขอโทษและจากไป
โจวไท่จ้องมองแผ่นหลังของเธอและขมวดคิ้ว “นั่นไม่ใช่แม่และน้องสาวของคุณเยี่ยเหรอ?”
ครั้งหนึ่งเขาเคยช่วยกงเส่าถิงสืบข้อมูลของเยี่ยหลานซาน เขารู้และเข้าใจว่าคุณเยี่ยถูกแม่และน้องสาวของเธอปฏิบัติตัวใส่อย่างไร
ทันทีที่สิ้นเสียงเขา ก็มีเสียงถอนหายใจอย่างเหยียดหยามดังขึ้นผสมปนเปมาด้วยความรู้สึกที่ดูถูกและถากถาง “เมื่อเผชิญอันตรายคนที่ผลักหลานซานออกไปโดยที่ไม่ลังเลนั่นสมควรเป็นแม่และน้องสาวเธอเหรอ?”
“คุณชายฉือ คุณเป่า”
โจวไท่หันกลับไป เขาเห็นฉืออวี้เฟิงและเป่าจิงเหริน หลังจากก้มหัวเล็กน้อยให้ทั้งสองคนแล้วเขาก็ถามว่า “พวกคุณเป็นอย่างไรบ้าง?”
“พวกฉันไม่เป็นอะไร” ฉืออวี้เฟิงถามอย่างร้อนใจ “ลุงกับป้าล่ะ?”
“Bossพาคุณเยี่ยไปโรงพยาบาล”
“พวกเขาบาดเจ็บเหรอ?”
ในขณะนั้นทั้งฉืออวี้เฟิงและเป่าจิงเหรินต่างก็ร้อนใจ
โจวไท่เองก็ไม่แน่ใจ “เห็นท่าทางของBossแล้ว อาจจะเป็นคุณเยี่ยที่อาการไม่โอเค ผมเองก็ไม่ค่อยแน่ใจสถานการณ์เท่าไหร่นัก แต่ผมมั่นใจว่าทั้งสองนั้นไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรรุนแรง”
“งั้นก็ดี”
เมื่อกล่าวถึงเช่นนี้ ฉืออวี้เฟิงก็มองไปยังทิศทางที่เยี่ยอีเหรินกับเกาซินซินจากไปด้วยสายตาเกลียดชังพร้อมก่นด่าสาปแช่ง “ถ้าไม่ใช่เพราะหลานซานเห็นแก่ความชอบธรรมที่มีต่อแม่ที่ต่ำตมของเธอ พวกเราก็ไม่ต้องมาเจอกับความลำบากแบบนี้! นังผู้หญิงตัวดี ฉันล่ะอยากเตะส่งเธอลงไปในทะเลให้ฉลามกินเสียจริง!”
โจวไท่ขมวดคิ้ว นึกถึงความเยือกเย็นของเป่าจิงเหรินเมื่อครู่ เขาก็พอจะคาดเดาอะไรบางอย่างได้ “พวกเธอทำเรื่องอะไรที่ไม่ดีกับคุณเยี่ยหรือ?”
หลังจากที่เป่าจิงเหรินได้เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้กับเขาฟังแล้วก็ยังเพิ่มเติมความคิดเห็นของตัวเองเข้าไปว่า “คุณไปเล่าทุกอย่างตามความเป็นจริงให้กับกงเส่าถิงฟัง สถานการณ์จะต้องทำอย่างไรต่อก็ให้เขาคิดหาวิธีเอา”
“รับทราบ!”
ยิ่งโจวไท่ได้ฟังเขาก็ยิ่งรู้สึกขุ่นเคืองมากยิ่งขึ้น สีหน้าของเขาอึมครึม
แต่ท้ายที่สุดแล้วอีกฝ่ายก็เกี่ยวข้องกับคุณเยี่ย เขาเองก็ไม่สามารถที่จะลงมือตามใจตนเองได้
เขาเพียงได้แค่ระงับเปลวไฟภายในใจและจัดการธุระเรื่องราวก่อน “รองประธานกงยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ ผมจะให้ลูกน้องพาคุณทั้งสองออกไปก่อน”
“ฉีหลินมาแล้วเหรอ?!!”
สายตาของเป่าจิงเหรินส่องประกายเจิดจ้า
สายตาของเธอจ้องมองไปยังประตูทางเข้าอย่างรวดเร็ว
ท่าทางนั้น….
ฉืออวี้เฟิงกุมขมับและบ่นพึมพำเบาๆ “พี่เป่า เมื่อกี้ยังบอกว่าเป็นเทพธิดาแห่งความเย็นชาที่สูงส่ง? แต่ทำไมพอเห็นเจ้าสิงโตน้อยถึงได้กลายเป็นหญิงสาวที่หมกหมุ่นเช่นนี้? รักนวลสงวนตัวนิดนึง!”
“………”
ตั้งแต่แรกเป่าจิงเหรินก็ไม่ได้ยินเสียงที่บ่นพึมพำของเขา สายตาของเธอยังคงเพ่งเล็งไปที่กงฉีหลิน บนใบหน้าของเธอแสดงถึงรอยยิ้มที่บานสะพรั่ง
ท้องฟ้าในเวลานี้นั้นมืดมิด มีเพียงไฟในห้องโดยสารเท่านั้นที่ส่องสว่าง กงฉีหลินยืนอยู่ตรงทางเข้านั้นและแสงบริเวณนั้นก็ช่งสลัว เขากำลังอดทนฟังการรายงานจากลูกน้อง
“คุณชายรอง อุปกรณ์ป้องกันของที่นี่ถูกถอดออกหมดและได้ติดต่อสถานีตำรวจในพื้นที่เพื่อทำการสอบสวนแล้ว
คนของตระกูลกงมันคุ้นชินในการเรียกกงเส่าถิงว่าคุณชายกงและเรียกกงฉีหลินว่าคุณชายรอง
ที่บ้านตระกูลกง ชื่อนี้แสดงถึงสัญลักษณ์ของอำนาจและสถานะ
“อืม”
กงฉีหลินตอบอย่างเฉยเมยจากนั้นก็เห็นร่างที่งดงามเดินเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็ว
เธอมักจะชอบสีแดงที่สะดุด สีนั้นมีเสน่ห์และโดดเด่น
แสงสว่างจ้าปกคลุมร่างที่น่าหลงใหลของเธอ เธอยังคงสง่างามเช่นเคย
เขาค่อยๆละสายตาจากนั้นก็ออกคำสั่งแก่ลูกน้อง “ไปได้แล้ว”
“รับทราบ!”
……….
เป่าจิงเหรินยืนนิ่งอยู่ตรงหน้ากงฉีหลิน สายตาของรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหลจ้องมองใบหน้าของกงฉีหลินที่งดงามราวกับหยก
ท่าทางและสีหน้าเขาสุขุมและเฉยเมย
ขอบแว่นสีทองนั้นปกปิดคิ้วเรียวสวยของเขา เขาไม่จำเป็นจะต้องจงใจแสดงหรืออะไร ต่อให้เขาเพียงแค่ยืนอยู่เฉยๆ เขาก็จะมีสิ่งที่แสดงออกมาโดยธรรมชาติก็คืออารมณ์อันสูงส่งและสง่างาม
เป่าจิงเหรินเหลืบมองเขา สายตาที่เย่อหยิ่งก็ค่อยๆกลายเป็นสายตาที่นุ่มนวล
“ฉีหลิน”
ริมฝีปากแดงของเธอค่อยๆกล่าว สายตาของเธอเต็มไปด้วยอารมณ์ที่เปิดเผย
สายตาที่จ้องมองอย่างสว่างสดใส กงฉีหลินขมวดคิ้วแน่น “ทำไมคุณถึงอยู่ที่นี่?”
“ทันทีที่ฉันกลับจากต่างประเทศ ฉันก็จะมาหาคุณไง ใครจะรู้ว่ากงเส่าถิงที่ไม่ชอบงานเลี้ยงจะมางานนี้ด้วยตัวเอง ฉันกลัวว่าจะไม่ได้เจอคุณ!” ใบหน้าที่น่าหลงใหลของเธอกำลังกล่าวถึงสิ่งที่ไม่น่าพอใจ
กงฉีหลินแสร้งทำเป็นไม่เห็น เขากล่าวอย่างสุภาพว่า “ผมจะให้คนไปส่งคุณกลับ”
เป่าจิงเหรินจ้องมองเขาด้วยความไม่พอใจ “ไม่เอา ฉันอยากให้คุณไปส่ง”
กงฉีหลิน “…..”
ความเงียบของเขาเป็นการปฏิเสธ สิ่งที่ทำให้เป่าจิงเหรินปวดใจมากยิ่งขึ้นก็คือ ผู้ชายคนนี้แสดงเจตจำนงที่มั่นคงของเขาด้วยความเฉยเมยที่มีต่อเธอ
เป่าจิงเหรินตื่นตระหนก
เธอกัดริมฝีปากล่างเบาๆ “เฮ้ คุณช่วยทำตัวแบบคนที่มีความรู้สึกกับฉันบ้างจะได้ไหม?”
“ผมยังมีธุระ”
กงฉีหลินหมุนตัวและคิดจะจากไป
เป่าจิงเหรินรีบคว้ามือเขาไว้และดึงมือเขา “ฉีหลิน!”
กงฉีหลินหันศีรษะกลับมาอย่างเฉยเมย เขามองไปที่เธออย่างไม่แยแส ไม่มีความรู้สึกใดๆบนใบหน้าที่งดงามนั้น “ปล่อย”
“…”
ในตอนนี้เป่าจิงเหรินไม่เพียงแต่ตื่นตระหนก หัวใจของเธอยังเจ็บปวดมากอีกด้วย
แม่***
ไอฉีหลินบ้า เขามักจะชอบพูดแบบนี้เพื่อกระตุ้นจิตใจของเธออยู่เสมอ?!
ในขณะที่เขาไร้ซึ่งความรู้สึกแต่กลับมีสายตาที่สามารถบังคับผู้อื่นได้ เป่าจิงเหรินก็ค่อยๆเบาแรงลงและปล่อยมือเขาในที่สุด แต่เธอก็กลับไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขาและกล่าวอย่างอุกอาจว่า “กงฉีหลิน เราต่างก็หลับนอนด้วยกันแล้วแล้วก็พูดกันว่าจะคอยอยู่ด้วยกันเสมอ แต่ทำไมคุณถึงปฏิบัติกับฉันอย่างเย็นชาแบบนี้……?”
กงเส่าถิงขัดบทสนทนาของเธอ “ถ้าคุณจะมาพูดเรื่องนี้ ผมคิดว่าผมไม่มีเวลามาคุยกับคุณ”
หลังจากพูดเสร็จเขาก็อ้อมเธอไป
เป่าจิงเหรินคว้ามือเขาไว้อีกครั้ง สายตาของเธอนั้นมุ่งมั่น “ฉันจะบอกคุณ ถ้าวันนี้คุณกล้าที่จะเดินจากไป ฉันจะเข้าหาคุณในที่สาธารณะนี่แหละ!!”
กงฉีหลิน “…..”
เขาควบคุมอารมณ์ของเขาให้คงที่และไม่กระทำการที่ไม่เหมาะสม คิ้วของเขาค่อยๆเลิกขึ้นอย่างห้ามไม่ได้และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชา “หากว่าคุณต้องการทำแบบนั้นจริงๆผมเองก็ไม่มีอะไรจะพูด”
“คุณ———”
เป่าจิงเหรินแทบอยากจะฆ่าเขา!
หึ!
คิดเหรอว่าเธอไม่กล้า!???
เธอจงใจเอนกายแนบชิดกับร่างกายของเขา เธอค่อยๆสะกิดบริเวณจุดอ่อนของเขาอย่างไม่อาย
รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของชายคนหนึ่งที่ค่อยๆฟื้นตัว เธอหัวเราะเบาๆอย่างจงใจ ลมหายใจที่แผดเผาอยู่บริเวณจมูกของเขา “พี่รอง จริงๆแล้วพี่ก็ต้องการฉัน ใช่ไหมล่ะ?”
MANGA DISCUSSION