"แฟนของพระเอกหนุ่มถูกเปิดเผย แฟนใหม่คนนั้นก็คือสาวน้อยเกาซินซินนั่นเอง!"
"เฉียวเฟยฝานและเกาซินซินลงเอยกันเพราะละคร!"
เยี่ยหลานซานดูข่าวเหล่านี้ในขณะที่กำลังเปลี่ยนชุดและเช็ดเครื่องสำอางค์ออก
ไม่ทันไรก็เหลือบไปเห็นเกาซินซินนางเอกที่กำลังเป็นข่าวอื้อฉาวเดินเข้ามาพร้อมกับรองเท้าส้นสูงสีแดง10เซนติเมตร
เมื่อทั้งสองสบตากันรอยยิ้มยั่วเย้าก็ปรากฏขึ้นที่มุมริมฝีปากของเธอ: "พี่ เห็นข่าวเปิดตัวความสัมพันธ์ใหม่ของพี่ฝานที่เพิ่งเปิดตัวไปหรือยัง" ยังพอใจหรอ? "
ในขณะที่พูดตาเธอก็มองไปที่เยี่ยหลานซาน
หลังจากที่เธอล้างเครื่องสำอางค์ออก ปรากฏให้เห็นใบหน้าที่เล็กบอบบาง คิ้วหนาเรียงตัวสวย และดวงตากลมโตคู่หนึ่งที่มองดูแล้วมีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัด แต่ในดวงตาใสๆของเธอนั้นก็ยังฉายให้เห็นถึงความบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ลงรองพื้นทาแป้ง แต่ใบหน้าของเธอก็ทำให้คนไม่สามารถละสายตายออกไปจากเธอได้เลย
เกาซินซินมองใบหน้าของเธอด้วยสายตาที่หมั่นไส้!
เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะแม่ที่ให้กำเนิดเกิดออกมา และเติบโตมาเป็นยัยปีศาจเยี่ยหลานซาน แต่ตัวเองกลับต้องมาหลบๆซ่อนๆทำศัลยกรรม?
อยากจะกรีดใบหน้านั่นเสียจริง!
ความมืดมนฉายในดวงตาของเธอ น้ำเสียงดังและรุนแรงมากขึ้น: "มีคนมากมายตามจีบฉัน แต่ฉันไม่มองไม่สนใจด้วยซ้ำ ฉันแค่อยากจะแข่งกับพี่ พี่รู้ไหมว่าทำไม?"
ในขณะที่กำลังเก็บเครื่องสำอางค์อยู่นั้นเยี่ยหลานซานก็ชะงักไปชั่วขณะ
แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้น ก่อนที่เธอจะกลับไปทำทุกอย่างตามปกติ
เมื่อวันก่อนเฉียวเฟยฝานยังไปทานมื้อค่ำกับเธอที่ร้านอาหารอยู่เลย วันนี้จะเบี้ยวได้อย่างไร?
เกาซินซินกำลังโกหกอยู่แน่ๆ
เมื่อเห็นว่าเยี่ยหลานซานไม่สนใจเธอเลย นั่นทำให้เกาซินซินได้แต่กำหมัดแน่น
ทันใดนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็หายไปและเสียงแหลมๆก็ดังขึ้น: "พี่มันชั้นต่ำ ยังไงแม่ของฉันก็ไม่มีวันรับพี่เป็นลูกสาวนอกสมรสหรอก กล้าดียังไงมีสิทธิอะไรที่จะมามีชีวิตที่ดีกว่าฉัน!"
“……”
ดวงตาของเยี่ยหลานซานเศร้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
แต่เธอก็ยังคงก้มหน้าเก็บข้าวของของเธอต่อไป เสร็จธุระก็กะว่าจะไปถามเฉียวเฟยฝานให้ชัดเจน
เกาซินซินยั่วโมโหก็แล้ว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เยี่ยหลานซานสะทกสะท้านเลยสักนิด เธอกระทืบเท้าด้วยความโมโห: "เยี่ยหลานซาน ฉันจะแย่งผู้ชายของเธอและแย่งทุกๆอย่างที่เป็นของเธอไปให้หมด คอยดู! ฉันจะทำให้เธอได้รู้ว่าหงส์ฟ้าคืออะไรและไก่ฟ้าที่ต่ำต้อยคืออะไร! "
ทันทีที่เธอลดเสียงของเธอลงก็พลันเหลือบไปเห็นผ้าม่านของห้องแต่งตัวที่กำลังขยับ
เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยนั้น …
เฉียวเฟยฟานมาแล้ว!
แผนหนึ่งแวบเข้ามาในดวงตาของเธอ
จงใจลดเสียงให้เบาลง พร้อมกับยิ้มเย้ยใส่เยี่ยหลานซาน: "พ่อของเธอเป็นคนป่าเถื่อน เธอมันก็เหมือนกับพ่อของเธอ ยังไงเธอก็แพ้ฉัน" พูดจบเธอก็เดินตรงไปหาเฉียวเฟยฟาน
เยี่ยหลานซานขมวดคิ้วทันที
พ่อเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของเธอมาตลอด เกาซินซินสามารถรังแกกลั่นแกล้งเธอได้ แต่ไม่สามารถด่าพ่อเธอได้
อารมณ์ของเธอเริ่มเดือดเธอเริ่มหายใจแรงขึ้น เธอจับเข้าที่แขนของเกาซินซินและใช้มืออีกข้างตบลงบนใบหน้าของเธออย่างแรง
"เพี๊ยะ"
เสียงตบที่ดังชัดเจน
มือที่กำลังจะตบลงอีกครั้ง จู่ๆเกาซินซินก็เริ่มบีบน้ำตา
ในวินาทีถัดมา เยี่ยหลานซานก็ถูกผลักจนเซโดยเฉียวเฟยฝาน
แต่เธอก็สามารถทรงตัวกลับมายืนได้ เมื่อเธอหันกลับไปเธอก็เห็นเฉียวเฟยฝานในชุดที่ยังไม่ได้เปลี่ยนกำลังโอบเกาซินซินไว้ในอ้อมแขน: "ซินซินคุณเป็นอะไรไหม? เจ็บไหม? "
ในสายตาของเขามีเพียงแต่เกาซินซิน
สายตานั้นเต็มที่เต็มไปด้วยความเสน่หา แต่ทุกๆคำพูดนั้นมันแทงเข้าไปในใจของเยี่ยหลานซาน
โอเค เกาซินซินไม่ได้โกหก ใจของเฉียวเฟยฝานได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ
เฉียวเฟยฝานดันเกาซินซินไปข้างหลังของเขาเพื่อปกป้องเธอ เขาหันหน้าและมองไปที่ดวงตาของเยี่ยหลานซานราวกับหมาป่าและส่งเสียงเตือนออกมาจากลำคอของเขา: "หลานซาน มันจะมากเกินไปแล้วนะ คุณมาตบคนอื่นอย่างนี้ได้ยังไง ?”
เยี่ยหลานซานตัวแข็งอยู่ครู่หนึ่งแล้วหัวเราะออกมาอย่างโกรธเคือง: "ห๊ะ ฉันทำเกินไปหรอ? เฉียวเฟยฝาน ใครกันแน่ที่ทำเกินไป?"
“……”
เฉียวเฟยฝานรู้สึกผิดขึ้นมา ท้ายที่สุดแล้วเป็นเขาเองที่ทรยศความสัมพันธ์นั้นก่อน
เมื่อเห็นความลังเลของเฉียวเฟยฝาน เกาซินซินจึงแอบกัดฟันเบาๆ ใบหน้าที่แดงและบวมของเธอนั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกคับแค้นใจ: "พี่เฉียว ฉันรู้ว่าพี่ของฉันไม่ต้องการยอมรับความจริงนี้และฉันก็รู้ว่าพี่เขาเกลียดฉันมาก ดังนั้นฉันจึงมาหาเขาเพื่อขอโทษเขา แต่ฉันไม่คิดว่าพี่เขาจะ … "
เธอทำท่าจะร้องไห้ออกมา
แต่ตั้งใจทำเป็นกลั้นน้ำตาและสูดลมหายใจกลับไปและยิ้มออกมา: "พี่เฉียวคะ ฉันไม่เป็นไร ไม่ว่าพี่ของฉันจะใส่ร้ายฉันหรือด่าทอฉันยังไงฉันก็ทนได้ แต่อย่าโทษพี่เขาเลย "
ขณะที่พูดน้ำตาก็ร่วงหล่น
น้ำตาหยดลงบนหัวใจของเฉียวเฟยฟานทีละหยดทำให้ความรู้สึกผิดเล็กน้อยในใจของเขาหายไป
เขาถอนหายใจเบา ๆ :“ หลานซานเรื่องระหว่างซินซินกับผม …ผมตั้งใจที่จะหาโอกาสที่จะบอกคุณอย่างชัดเจน แต่ผมไม่ได้คิดว่าว่าจะได้รับการเปิดเผยจากสื่อก่อน …ขอโทษมันเป็นความผิดของผมเอง อย่าโทษซินซินเลย … "
เยี่ยหลานซานรู้สึกว่ามันน่าขัน: "เฉียวเฟยฝาน ความสัมพันธ์ของเราที่เกือบๆจะสองปีจบลงด้วยประโยค 'ฉันขอโทษ' เพียงประโยคเดียวงั้นหรอ?"
“แล้วคุณต้องการอะไร”เขาถามอย่างตรงไปตรงมา
"เหอะ"
เมื่อมองไปยังผู้ชายเลวๆกับคนที่ยืนเคียงข้างนั้น เยี่ยหลานซานก็รู้สึกว่าการพัวพันกับความสัมพันธ์นี้ต่อไปไม่มีความหมายอะไรอีก "ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอให้พวกคุณคบกันนานๆก็แล้วกัน!"
หลังจากพูดจบก็เก็บกระเป๋าของตัวเองแล้วออกไป
……
……
"บอสมีคนบุกเข้ามาในฐาน!"
ในขณะเดียวกันเสียงเจ้าหน้าที่ประกาศดังขึ้น ฐานซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาก็ส่งเสียงเตือนหมายเลข 1 ทันทีและฐานทั้งหมดก็เข้าสู่สภาวะตื่นตัวทันที
ในตอนค่ำยามพระอาทิตย์ตกกงเส่าถิงที่สวมชุดสูทสีดำและกำลังนั่งเงียบ ๆ บนขั้นบันไดของโขดหินสีฟ้าที่มีภูเขาเป็นร่มเงา
เมื่อได้ยินรายงานจากเจ้าหน้าที่ประกาศเขาก็ส่งเสียง "อืม" เบา ๆ
ปลายผมที่ร่วงตกลงมาปรกระหว่างคิ้วของเขาเล็กน้อย ไม่สามารถเดาความคิดของเขาได้เลย มีเพียงความเงียบนิ่งของบรรยากาศรอบตัวเขา ลมพัดผ่านเมฆแต่อารมณ์ของเขาไม่ได้ไหวเหมือนลมที่ผัดผ่านเลย
สายตาของเขายังคงจับจ้องไปที่สุนัขพันธุ์หนึ่งของทิเบตกว่าสิบตัวที่กำลังวิ่งไล่กันบนทุ่งหญ้าเขียวขจี
ตรงกันข้ามกันโจวไท่ผู้ช่วยที่อยู่ข้างๆเขาขมวดคิ้ว: "ใครกันที่สามารถฝ่าด่านทหารของฐานทัพได้!?"
เจ้าหน้าที่ประกาศว่า: "มีผู้หญิงคนหนึ่ง … "
ผู้หญิงหรอ?" และคนเดียว? " โจวไท่หัวเราะเยาะ: "เธอกินหัวใจหมีและความกล้าหาญของเสือดาวมารึยังไง?"
เจ้าหน้าที่ประกาศปาดเหงื่อ: "ตามการแสดงผลของมอนิเตอร์ผู้หญิงคนนั้นน่าจะเข้ามาจากภูเขาด้านหลัง ที่นั่นมีภูเขาเต็มไปหมด ถึงแม้ว่าภูเขาจะไม่สูงนักแต่ยอดเขาก็สูงชันมาก ในป่าทั้งรกและมีหมอกปลกคลุมเต็มไปหมด ดังนั้นจึงไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น … "
ในเวลาเดียวกันโทรศัพท์มือถือของกงเส่าถิงก็ดังขึ้น
ทั้งเจ้าหน้าที่ประกาศและโจวไท่เงียบ
กงเส่าถิงขยับเล็กน้อยและค่อยๆถอนสายตาจากฝูงสุนัขพันธุ์ทิเบต
เป็นฉืออวี้เฟิงหลานชายของเขาที่โทรมา
“ ลุงผมขอเล่าให้ฟังนะว่า ผมกำลังแข่งกับเจ้าสิงโตตัวน้อย แต่เมื่อทันทีที่พวกเราไปถึงยอดเขา จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งก็กระโดดลงมาจากภูเขา ตอนแรกผมคิดว่าเป็นพวกเครื่องปั้นดินเผ่าที่หล่นลงมา แต่จริงๆแล้วเป็นขวดไวน์เปล่าจำนวนมากอยู่บนยอดเขา ผมจึงเดาว่าเธอกำลังอาจจะฆ่าตัวตาย! โอ้ใช่เธอกระโดดลงมาจากเนินเขาด้านหลังฐานของลุง … "
"มีอะไรอีกไหม?"
เสียงของกงเส่าถิงแผ่วเบาเหมือนไม่สนใจ
ฉืออวี้เฟิง: เอาเถอะ แต่ไหนแต่ไรลุงก็ไม่ชอบยุ่งเรื่องวุ่นวายแบบนี้อยู่แล้ว
เขากระตุกปาก: "ไม่ ไม่มีแล้ว … "
"อืม"
กงเส่าถิงวางสายโทรศัพท์ ยังคงขี้เกียจและไม่แยแสพิงเก้าอี้สีทองที่ถูกแกะสลักอย่างพิถีพิถันโดยช่างแกะสลักไม้ เขาเงยหน้าขึ้นและเหลือบมองไปที่โจวไท่ที่อยู่ข้างๆเขา
เขากำลังดูมอนิเตอร์อย่างเฝ้าระวัง
บนหน้าจอท้องฟ้าทางทิศตะวันตกค่อยๆมืดลงและเทือกเขาสีดำมีลักษณะคล้ายปากของวาฬยักษ์เริ่มกลืนกินพระอาทิตย์ที่ตกทีละเล็กทีละน้อย
ภายใต้ท้องฟ้าสีเหลืองมีหมอกควันมากมาย
หญิงสาวสวมกางเกงยีนส์ขาสั้นและเสื้อยืดสีขาวกำลังเดินอยู่ในป่าอันกว้างใหญ่
ร่างกายของเธอดูผอมบาง และผมที่ยาวถึงเอวยุ่งเล็กน้อยและกระจัดกระจายยุ่งเหยิงตามร่างกายของเธอ
เท้าของเธอน่าจะได้รับบาดเจ็บ และเส้นทางเดินก็เป็นหลุมเป็นบ่อ แถมเธอกระเผลกทุกครั้งที่ก้าวขาเดิน
“เธอน่าจะบาดเจ็บ”
โจวไท่ซูมเข้าบนหน้าจอและเริ่มระบุตำแหน่งของสถานที่อย่างละเอียด
จนเห็นหญิงสาวในจอชัดแจ๋ว …
ดวงตาของกงเส่าถิงหยุดลง
ใบหน้านั้น
เด็กสาวคนนั้น
จะเป็นเธอได้อย่างไร?
MANGA DISCUSSION