เครื่องบินได้ลงจอดที่สนามบินเมืองไห่ ก็ช่วงเวลาที่เครื่องบินลงจอด ทันใดฉันก็ตื่นเต้น รู้สึกเครียด ตอนนี้ไม่รู้จะบรรยายอารมณ์อย่างไร ฉันจำวันที่ฉันจากไปเมื่อครึ่งปีก่อนได้ชัดเจน ฉันชีวิตลำบากยากแค้น เคยคิดว่าจะไม่กลับมาเยียบที่นี่อีก
เพียงแต่ว่าคิดไม่ถึง ผ่านไปครึ่งปี ก็ต้องได้กลับมาที่นี่อีก แต่ว่าฉันกับฉันเมื่อครึ่งปีก่อนเหมือนคนสองคน แต่ฉันรู้ กลับมาครั้งนี้ยังต้องเผชิญหน้ากับปัญหาอีกหลายอย่่าง
ฉันหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายรู้สึกสบายอกสบายใจขึ้นมาก พี่จางกับพี่หลิวอุ้มลูกเดินตามหลังฉัน ฉันไปรับกระเป๋าอย่างคุ้นชิน พาพี่จางกับพี่หลิวออกจากสนามบิน ขึ้นเท็กซี่ที่ได้จองไว้ก่อนแล้ว
รถได้วิ่นบนถนนอย่างเร็วแต่ก็ขับได้อย่างราบรื่น ฉันเปิดโทรศัพท์ อย่างที่คาดไว้โทรศัพท์ทั้งข้อความที่นับไม่ถ้วนและสายที่ไม่ได้รับได้เด่งขึ้นมาอย่างเร็ว
เฉินตงหลี หลินปิงชิง เฉิงอี้เฉิน ยังมีป้าหวัง…..
ฉันเปิดดูที่ละข้อความ อารมณ์สงบอย่างบอกไม่ได้
ตอนที่ตัดสินใจกลับประเทศนั้นฉันก็พอจะเดาได้ว่าพวกเขาจะมีปฏิกิริยายังไงกันบ้าง แต่ยังไงฉันก็จะทำแบบนี้ ตังแต่ดัดสินใจจะเอาแต่ใจสักครั้ง ฉันก็ต้องเอาแต่ใจให้สุดๆ
ฉันเขียนสามข้อความแบ่งส่งให้เฉินตงหลี เฉิงอี้เฉิน ยังมีป้าหวังบอกพวกเขาว่ามาถึงอย่างปลอดภัย จากนั้นก็โทรไปหาหลินปิงชิง โทรไปแจ้งด้วยตัวเองว่าทุกอย่างปลอดภัยดี
หลินปิงชิงอยู่ในสายได้ต่อว่าให้ฉัน ว่าเธอพึ่งไปฉันก็กลับ ตั้งยังปิดบังเธอ แต่สุดท้ายเธอก็สนุบสนุนกับสิ่งที่ฉันเลือก ให้ฉันใช้ประโยชน์จากนี้ใช้เวลาทบทวนเข้าใจกับความคิดของตัวเอง ต้องทบทวนให้ดีๆค่อยตัดสินใจเลือก
ฉันวางสายแล้ว หลังจากนั้นก็ปิดเครื่อง เพราะว่าเมื่อกี้ที่คุยกับหลินปิงชิงอยู่นั่นก็มีสายจากเฉินตงหลีกับเฉิงอี้เฉินโทรเข้ามา ตอนนี้ฉันไม่อยากจะอธิบายเรื่องอะไรให้พวกเขาฟัง ส่วนงานของการค้าต่างประเทศตงหลี ก่อนขึ้นเครื่องฉันก็ได้ส่งอีเมล์แจ้งลาหยุดประจำปีไปแล้ว
ในไม่กี่วันนี้ฉันอยากจะปล่อยวางให้สบายใจ
ฉันได้นั่งพิงไปที่เบาะรถ ได้รับฮั่นอี้จากมือพี่จาง สีหน้าฮั่นอี้ดูร่าเริง ยิ้มตลอด แต่ซีหย่าพอลงจากเครื่องมาก็ได้แต่นอน ฉันก็ไม่ได้กวนเขา
มองดูลูกทั้งสองหน้าตาที่ไร้เดียงสา ใจฉันก็โล่งไปมาก เพียงแค่รถได้จอดที่ประตูโรงพยาบาล ใจฉันได้กังวลขึ้นอีกครั้ง
ในที่สุดก็ได้กลับมาแล้ว……..
ฉันได้จิตนาการหลายครั้งตอนที่กลับมาเจอหน้าแม่อารมณ์ฉันจะเป็นยังไง ตื่นเต้น?ดีใจ?หรืออารมณ์อะไรสักอย่าง
แต่ว่าฉันคาดไม่ถึง เวลาที่จะเจอหน้าจริงๆ ฉันก็กระวนกระวายใจ
ฉันหายใจเข้าลึกๆก็เดินเข้าไป ได้ผลักประตูห้องเขาไป
เห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งเงียบๆมองไหนอกหน้าต่าง เหมือนกำลังรออะไร จมูกฉันแสบ อดไม่ได้เรียก "แม่……"
หลังจากที่เธอได้ยินเสียงเรียกแม่ ตัวอึ้งอย่างเห็นได้ชัด เหมือนไม่คอยเชื่อเท่าไหร่ ได้รับหันหน้ามา
"อีอี!"แม่ฉันเห็นฉันทั้งตกใจทั้งดีใจ ก็ได้รีบลงมาจากเตียงผู้ป่วย
"แม่ ฉันกลับมาแล้ว!"ตอนนี้ฉันก็ควบคุมอารมณ์ตื่นเต้นไม่ได้ แปบเดียวฉันก็ไปถึงอ้อมแขนของแม่ รู้สึกเหมือนตอนเด็กๆที่ได้รับความเสียใจ กลับถึงบ้านก็รีบเข้าไปในอ้อมแขนแม่อย่างนั้น น้ำตาหยุดไม่อยู่ก็ได้ไหลออกมา
"ดูลูกสิ โตขนาดนี้แล้ว ยังชอบร้องไห้อีก"
แม่ได้จับหัวฉันเบาๆ พูดอย่างอ่อนโยน ถึงเธอจะพูดแบบนั้น แต่ ฉันก็เห็นชัดเจน แม่ฉันก็ได้แอบเช็ดน้ำตาอยู่
ฉันรู้ ครึ่งปีนี้ถุงฉันจะได้รับความทุกข์ยากลำบาก แต่ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านี้ ได้รับความลำบากใจมากว่าฉันตั้งหลายเท่า
"กลับมาแล้วก็ดี….กลับมาแล้วก็ดี…."เสียงสะอึกออกมา ได้กอดฉันไว้แน่น น้ำตาก็ไหลไม่หยุด
ในใจฉันก็ทรมาน ไม่อยากออกจากอ้อมแขนของแม่ฉัน เหมือนหับความอ่อนแอกับความหนักใจทั้งหมดระเบิดออกมา
เวลาผ่านไปนาน อารมณ์ของฉันกับแม่ก็ค่อยๆสงบลงไป
ฉันเช็ดน้ำตา เรียกให้พี่จางกับพี่หลิวเข้ามา "แม่ นี้คือฮั่นอี้ นี้คือซีหย่า"
ฉันยิ้มให้แม่ฉันดูลูกๆทั้งสอง แม่ฉันเห็นเด็กทั้งสองก็ทั้งตกใจทั้งดีใจ ทั้งได้อุ้มพวกเขาจากอ้อมแขนของพี่จางกับพี่หลิว
"หน้าตาน่ารักน่าชัง น่ารัก…"แม่ฉันมีความสุขเป็นทีสุด ฉันเห็นเธอดีใจแบบนี้ ฉันก็รู้สึกดีใจ ได้แต่โทษตัวเองเล็กน้อยที่ไม่อาจจะกลับมาเร็วกว่านี้ แบบนี้แม่ฉันก็ได้ดีใจไปนานแล้ว
แต่ว่า แม่ฉันพูดคำต่อมาในเวลานั้นทำให้ฉันลำบากใจ
"เฉิงฮั่นอี้ เฉิงซีหย่า อึม เพราะ พวกเธอคนเคยเรียนหนังสือก็ไม่เหมือนกัน ตั้งชื่อก็ไพเพราะมาก"แม่ฉันก็ยิ้มน้อยๆ
แม่ของฉันเป็นคนที่หัวโบราณ เธอเข้าใจว่าอะไรคือแต่งอะไรก็ตามกับอันนั้น ปฏิกิริยาแรกธรรมดาที่ลูกจะใช้นามสกุลพ่อ ลูกใช้นามสกุลกับแม่ มันเป็นสิ่งเหลือเชื่อสำหรับเธอ
ได้ยินแม่เรียกฮั่นอี้กับซีหย่านั้น ในใจฉันก็ไม่ค่อยเหมาะสม แต่ว่า ฉันจะบอกเธอได้ยังไงว่าลูกใช้นามสกุลกับฉัน ถ้าฉันพูดออกไป แม่ฉันต้องรู้ว่าข้างในต้องมีปัญหาแน่ๆ แต่ ถ้าไม่พูด หรือว่าลูกต้องใช้นามสกุลเฉิงจริงๆ?
ฉันลังเลสักพักแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ตอนนี้ก็ยังไม่ได้แจ้งเข้าทะเบียนบ้าน จะเรียกยังไงก็แค่เป็นคำที่ใช้แสดงความสัมพันธ์เท่านั้น เรื่องนี้ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ รอฉันคิดได้แล้วค่อยว่ากัน
แม่ฉันอุ้มลูกไปได้สักพัก ฉันเป็นห่วงร่างกายเธอจะทนไม่ไหว ถึงค่อยเอาลูกออกจากอ้มแขนของเธอ แต่แม่ฉันพึ่งวางลูกลงก็ได้มองไปรอบๆ คิ้วก็ได้ขมวดขึ้นเบาๆ
"อีอี อี้เฉิงล่ะ?เขาไม่ได้มากับลูกหรอก?"แม่ฉันถามแบบงง
ฉันได้อค้งไปสักพัก ในใจก็เหมือนไม่มีแรงเท่าไหร่
ในใจแม่ฉันฉันกับเฉิงอี้เฉินยังรักกันดีอยู่ อี้กทั้งไม่กี่วันก่อนแม่ฉันได้โทรมาหาฉันเฉิงอี้เฉินรับสาย ทั้งยังพูดกับเธอเรื่องแต่งงานกับฉันพวกนั้น พวกเราคงคิดไม่ว่ายังไงคงคิไม่ถึงว่าฉันกับเฉิงอี้เฉินได้หย่ากันไปแล้ว อีกทั้งลูกสาวของเธอตอนนี้ยังไม่ได้รับคำขอจากเฉิงอี้เฉิน
ฉันยิ้ม "อี้เฉินงานยุ่ง ฉันกลับมาก่อน"
สีหน้าของฉันเป็นธรรมชาติได้พูดโกหกแม่ฉันไป ฉันกับเฉิงอี้เฉินได้ผ่ายเรื่องพวกนั้นฉันก็ไม่อยากบอกให้แม่รู้ เหนามสกุลลูกก็เหมือนกัน พวกนี้รอไปถึงสุดท้ายค่อยบอก หรือไม่อาจจะเปลี่ยนยุ่งกันไปใหญ่
แม่ฉันถอนหายใจ "ก็จริง อี้เฉินเป็นบอสใหญ่ ก็ยุ่งเป็นธรรมดา แม่ว่าลูกผอมไปแล้วนะ หรือว่าอยู่ไฟไม่นาน?"
"แม่จะบอกให้ การอยู่ไฟหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญกับผู้หญิงมาก ถ้าดูแลไม่ดีอาจจะล้มป่วยได้ง่าย"สีหน้าที่กังวลของแม่มองมาที่ฉัน
ฉันยิ้มให้เธอ "ที่ต่างประเทศไม่มีการอยู่ไฟ"
แม่ฉันอึ้ง สีหน้าก็กังวลไปใหญ่ ฉันได้รับบอก "แต่ว่าวางใจได้ อี้เฉิงได้หาแม่นมให้แล้ว ฉันได้ทำตามกฏที่ตกทอดมาจากบรรพบุรุษ
MANGA DISCUSSION