รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 89 เรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลง
ฉันรู้สึกตื่นเต้น แต่เฉิงอี้เฉินก็ได้จับมือฉันเบาๆ “อีอี ปิงชิงได้พูดกับผมหมดแล้ว”
“เธอพูดอะไรบ้าง?”
เฉิงอี้เฉินได้จ้องมองฉัน ฉันก็จ้องมองเขาแบบตื่นเต้น ฉันอยากขึ้นสวรรค์จริงๆคือได้โปรดปรานใครบางคนเป็นพิเศษ ผู้ชายที่อยู้ข้างหน้าออกมาก็ได้ยื่นอยู่บนยอดเจดีย์ทอง คนอื่นหรือทำงานอย่างหนักอยากได้เงินทอง รูปร่างหน้าตา เขาเกิดมาพร้อมทั้งหมด
เขาไม่ได้ตอบคำถามฉัน อีกทั้งถอนหายใจ พูดเบาๆ “อีอี ผมจะเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลง”
ใจฉันอึ้งทันที ฉันคิดว่าเฉิงอี้เฉินเป็นอย่างนี้ความรู้สึกลึกซึ้งมากเกินไป ก็อ่อนแอ…เกินไป?
ฉันไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้เอาคำพวกนี้มาพรรณนาเฉิงอี้เฉิน แต่ว่ามองเฉิงอี้เฉินแล้วในหัวฉันก็อดไม่ได้ที่มีแผ่นหลังที่หงอยเหงาโผล่ออกมา
ตอนนี้ตัวเฉิงอี้เฉินไม่มีพลังฮึกเหิมกับอำนาจจะไประราน สายตาที่มองฉันแน่วแน่มาก แต่ต็มไปด้วยความไม่แน่ใจ
ในใจฉันรู้สึกเศร้า ไม่แน่ใจความอ่อนแอของเฉิงอี้เฉินจะเป็นเพราะฉันไหม แต่ฉันคิดว่าฉันมีส่วนเกี่ยวข้อง
“จริงแล้วคุณไม่ต้อง….”ฉันไม่รู้จะตอบยังไง มองดูเฉิงอี้เฉินเปลี่ยนเป็นอย่างนี้ ในใจฉันก็ไม่สบาย
เฉิงอี้เฉินได้จับมือฉัน พูดอย่างเด็ดขาด “ผมจำเป็นต้องเปลี่ยน”
“นี้เป็นปัญหาของผม เพียงเพราะก่อนหน้านี้ไม่ได้ตระหนักถึงแค่นั้น” เขามองฉัน “อีอี ผมขอโทษ”
ในเวลานั้นฉันไม่รู้จะตอบอย่างไร บรรยากาศได้หยุดชะงักลงไป เฉิงอี้เฉินก็ได้พูดวิเคราะห์ตัวเองไปด้วย
“ก่อนหน้านั้นผมไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงไปจากผม คิดมาโดยตลอดว่าผมดีต่อคุณทำไมคุณไม่รู้จักพอ?”เขาได้หัวเราะเยาะตัวเอง “พูดตามจริง ตอนนี้คุณเปิดไปเจอรุปของฉู่เจียอี๋อยากจะหย่ากับผม ผมโมโหมาก ผมโกรธคุณที่ไม่เห็นสิ่งที่ผมให้คุณ ดังนั้นถึงไม่อยากไปปลอบคุณ”
ฉันเม้มปาก เรื่องก่อนหน้านั้นก็ได้ลอยเข้ามาในหัวฉัน ทำให้ใจฉันปวดมาก
“ผมรู้สึกว่าที่คุณโกรธมันไม่มีเหตุผล พูดตามจริง ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนจะกล้าเอาแต่ใจกับผม หรือว่า ทั้งหมดไม่เคยมีแม้แต่คนเดียว กล้าที่เอาแต่ใจกับผม”
เฉิงอี้เฉินมองฉัน น้ำเสียงเต็มไปด้วยแรงดึงดูดที่อ่อนโยน ทั้งทุ้มต่ำ เป็นเส้นได้เข้าไปในหูทั้งประทับไว้ในใจฉัน
ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างไม่รู้ตัว ในใจรู้สึกอธิบายไม่ได้ เขาพูดแบบนี้กับฉัน คืออยากบอกอะไรฉัน?
สะท้อนความเหนือกว่าของเขาหรอ?
ไม่ใช่ เฉิงอี้เฉินตอนนี้ดูอ่อนโยนขึ้นมาก พูดตามจริงฉันกับเขาไม่เคยได้พูดคุยกันอย่างสงบแบบนี้มาก่อน
ลักษณะแบบนี้มันยากที่จะบรรยาย แต่ก่อนที่ฉันกับเฉิงอี้เฉิงอยู่ด้วยความรักกัน พูดคุยกันก็สงบเงียบ นอกจากที่พวกเราหย่ากันถึงได้ทะเราะ วันเวลาปกติเกือบจะไม่มีการทะเราะกันเลย
แต่ว่าความรู้สึกตอนนั้นกับตอนนี้ไม่เหมือนกัน
แต่ว่าเฉิงอี้เฉินตอนนี้ไม่เป็นแบบนี้ เขากำลังบอกฉันเรื่องในใจเขา บอกฉันทุกเรื่องที่อยู่ในใจเขา
“อีอี ผมตั้งแต่เด็กผมโตมากับความสุขสบายมีกินมีใช้ ผมคุ้นชินกับที่ทุกคนเคารพผม เอาใจผม ดังนั้นไม่เคนเลยที่จะไปเอาใจใคร ก็ไม่เคยคิดว่าจะมีใครควรจะให้ผมเอาใจด้วย”
เขาจับมือฉันแน่นๆ ในสายตาบ่งบอกถึงความเจ็บปวดมาก “ผมไม่อยากให้คุณเสียใจ แต่ผมไม่รู้ควรทำยังไง”
ฉันใจหายขึ้นทันที ใต้ความสว่างแสงไฟ ฉันตกใจได้มองผู้ชายที่อยู่ข้างหน้า เขายังเหมือนครึ่งปีก่อนที่ยังหล่อเหลา แต่เวลานี้ความรู้สึกเขากับฉันได้ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ให้อำนาจบาตรใหญ่
“ให้เวลาผมอีกหน่อย ผมจะเปลี่ยนแปลง ดีไหม?”
คำพูดนี้ได้เข้าไปในใจที่ที่อ่อนนุ่มที่สุด ทำให้ฉันพ่ายแพ้กับการที่แสร้งทำเป็นสงบลงไปทันที
ในหัวฉันเหมือนมีแป้งเปียกใส่ลงไปไม่รู้ควรจะครุ่นคิดยังไง แต่ข้างหน้าก็ได้รุบรู่ไปแล้ว ฉันได้พยักหน้าโดยไม่รู้ตัว อดไม่ได้ที่จะกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของเฉิงอี้เฉิน
เขาได้กอดฉันไว้แน่น หัวเขาได้มาพิงตรงที่คอของฉัน ฉันได้ยินถึงเสียงที่เฉิงอี้เฉินถอนหายใจอย่างชัดเจน แล้วหลังจากนั้นก็ได้จูบที่ปากฉันอย่างบ้าครั่ง
ความรักแลเความเกลียดชังที่พัวพันมานานกว่าครึ่งปีตอนนี้ก็ได้เริ่มโล่งใจแล้ว แต่ว่าเฉิงอี้เฉินยังไม่ได้ทำอะไร ฉันรู้สึกแต่แรกถึงความต้องการเดิมที่สุดของฉันแล้ว ฉันได้กอดเขาแน่น จูบเขาอย่างบ้าครั่ง อารมณ์ทั้งหมดที่ฉันเก็บกดมานานกว่าครึ่งปีก็ได้บอกเขาแล้ว
มีเสียงแผ่วเบาดังขึ้น ฉันอึ้งไปสักพัก การกระทำเฉิงอี้เฉินก็หยุดลง ตัวฉันก็ได้แข็งทื่อ ต้องมองตามเสียงไปที่ประตูทั้งหมดเป็นไปอย่างไม่รู้ตัว
มองเห็นป้าหวังถือของอยู่ในมือได้ยื่นอยู่ที่หน้าประตู ฉันรู้สึกว่าในหัวตัวเองมีเสียง”ปึ้ง”ทันที แก้มก็เหมือนร้อนขึ้นทันที
“อี…อีอี?เธอ มายังไง…งั้นฉัน…เข้าครัวก่อน!”ป้าหวังเห็นฉันก็ตกใจไปก็ร่วมด้วยความดีใจ แต่มองไปที่ใบหน้าเขาเก้อเขิน ก็ได้รีบหยิบเอาของเท้าก็วุ่นก็ได้วิ่งตรงไปที่ห้องครัว แม้แต่รองเท้ายังลืมเปลี่ยน
“ฉันได้แต่ก้มหน้าอาย ถ้าตอนนี้มีไข่ไก่ได้วางไว้บนหน้าฉัน ไข่ไก่นั้นไม่นานก็คงสุกพอดี
“งั้น…ฉันกลับก่อนนะ…”ฉันก็อยากหนี คืออายมาก ทำไม่เมื่อกี้ฉันถึงระงับอารมณ์ไม่ได้ล่ะ? จนถูกป้าหวังเห็นเข้าว่าฉันกับเฉิงอี้เฉินกำลัง…..
คิดถึงสายตาป้าหวังเมื่อกี้ ฉันอดไม่ได้จริงที่จะหาอะไรมาเย็บเจาะเข้าไป ทั้งที่ทำให้ฉันรับไม่ได้จริงๆ เมื่อกี้เป็นฉันที่เริ่ม….
หมดกัน ฉันไม่รู้ต่อไปจะเจอหน้าป้าหวังได้ยังไง
ฉันอายจะตายอยู่แล้ว ไม่รอคำตอบเฉิงอี้เฉินก็รับลุกวิ่งไป เฉิงอี้เฉินก็ได้จับแขนฉันไว้ ทั้งได้ดึงเขามาในอ้อมแขน
“กินข้าวแล้วค่อยกลับนะ ป้าหวังก็คิดถึงคุณมาก”
“จะยังกินอะไรล่ะ…ฉันได้อายจะตายอยู่แล้ว….”ฉันก้มหัวดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อออกจากอ้อมแขนของเขา
เสียงหัวเราะเบาๆก็ได้ดังขึ้นบนหัวฉัน เฉิงอี้เฉินก็ยิ่งออกแรงกอดฉันทำให้ฉันขยับไม่ได้ “ป้าหวังก็ชื่นใจที่เราสองคนเป็นอย่างนี้ ไม่เชื่อคุณก็ลองถามดู”
“อึย…คุณมันอันธพาล….”
“ผมเป็นอันธพาล แต่ก็อันธพาลกับคุณแค่คนเดียว” เฉิงอี้เฉินพูดเบาๆ ก็ได้ก้มหัวลงจับที่ติ่งหูฉัน
ตัวฉันสั่นไปแบบงงๆ อดไม่ได้จนได้ร้องออกมา รอให้สติกลับมาแก้มฉันคงจะมีเลือดไหลออกมา
“เธอทำอะไร!”ฉันได้มองเฉิงอี้เฉินอย่างกล่าวหา ทั้งอายทั้งโกรธ
“เรื่องที่ทำเมื่อกี้ยังไม่เสร็จ”เขาเบ้ปาก รอยยิ้มที่หล่อเหลาก็ได้แฝงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย
“ป้าหวัง ผมกับอีอีขึ้นไปข้างบนก่อน อีอีจะอยุ่รอทานด้วย”เขามองไปห้องครัวตะโกนบอก
“ได้!ป้าจะทำตอนนี้ พวกคุณค่อยๆทำ ไม่ต้องรีบ”
ฉันได้ยินที่ป้าหวังพูดเมื่อกี้ฉันอยากจะตีให้ตาย ทำไมไม่เจอกันครึ่งปี ไม่แต่เฉิงอี้เฉินก็เปลี่ยนเป็นอันธพาล แม้แต่ป้าหวังก็ยังเปลี่ยนไปแบบนี้!
เฉิงอี้เฉินมองฉันท่าทางเก้ๆกังๆก็ได้หัวเราะขึ้นมา กอดฉันขึ้นไปข้างบน