รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 82 จงใจยั่วโมโห
“พวกเราดูแลเขาให้ดีๆ” เฉิงอี้เฉินมองดูซีหย่าพูดเบาๆ
ฉันสะดุ้ง ในใจละลอกคลื่นน้อยลอยขึ้น คำพูดนี้ควรใช้กับครอบครัวปกติคงจะอบอุ่น แต่ฉันกับเฉิงอี้เฉินอย่ากันแล้ว….
ฉันเม้มปากไม่ได้พูดต่อเขา แต่กลับได้อุ้มฮั่นอี้ขึ้นมา “อุ้มฮั่นอี้อีกคนป่ะ”
เฉิงอี้เฉินพยักหน้า พี่หลิวได้อุ้มซีหย่าจากเฉิงอี้เฉินออกมา เฉิงอี้เฉินเครียดดูท่าทีของพี่หลิวเหมือนเป็นห่วงพี่หลิวจะทำให้ซีหย่าหลุดมือ
ใจฉันยิ่งอ่อนนุ่มลง เอาฮั่นอี้วางไว้ที่อ้อมกอดของเฉิงอี้เฉิน ท่าทางของเขาดูชินขึ้นอีกนิด ดูฮั่นอี้ในอ้อมกอดของตัวเองกำลังยิ้ม อีกทั้งฮั่นอี้ก็กำลังลืมตากลมๆคู่นั้นมองเฉิงอี้เฉินสักครู่ ในสายตานั้นแสดงออกถึงความประลาดใจน้อยๆ แต่ก็ไม่ร้องสักแอะ
“ฮั่นอี้หรือซีหย่าเขารู้จักหรอ?อยู่อ้อมแขนพี่อี้เฉิงเรียบร้อยมาก ตอนที่ฉันอุ้มก็ไม่ไว้หน้าฉันเลย” หลินปิงชิงหยั่งเชิงพูด ฉันตระหนักได้แล้ว หลินปิงชิงมาครั้งนี้ก็เพื่อจะช่วยเฉิงอี้เฉินติดตาม
ฉันรู้แก่ใจของเขาต้องอยากให้คืนดีกับเฉิงอี้เฉินแน่ นีไม่ใช่ความเห็นแก่ตัวของเธอ อีกใครๆก็คงคิดว่าเฉิงอี้เฉิงดี ฉันต้องขอบคุณฟ้าดินที่ได้อยู่กับเขาถึงจะถูก แต่ถึงที่ฉันทำมันคือ “แสวงหาความตาย”
ฉันแกล้งทำเป็นไม่เข้าใจความหมายของเธอ สายตามองไปที่ตัวฮั่นอี้กับซีหย่า เวลานั้นพวกเขาก็ได้มองตากันและกัน เหมือนจะมีการความอบอุ่นน้อยๆราวกับว่าไม่มีอะไรที่กำลังกระจายของระหว่างทั้งสอง
หรือว่า จะเป็นความสัมพันธ์ของสายเลือดจริงๆ?ฮั่นอี้กับซีหย่าก็เชื่อฟังทันที หรือจะรับรู้ได้จริงๆ เทียบกับคนแปลกหน้าดูเหมือนจะพวกเขาจะมีความระมัดระวังโดยธรรมชาติ ก่อนนั้นอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่ต่อหน้่าร้องไห้งอแง แต่พออยู่ในอ้อมกอดเฉิงอี้เฉิน พวดเขาเชื่อฟังมาก
“เขาชื่อฮั่นอี้หรอ?”เฉิงอี้เฉินอุ้มเคลื่อนย้ายเขาอย่างระวัง
“อึม”ฉันตอบ ยังลังเลนิดนึงก็ได้ตอบ “ลั่วฮั่นอี้ ลั่วซีหย่า”
ฉันพูดสองชื่อนี้ออกมา เงยหน้ามองเฉิงอี้เฉิน ท่าทีของเขานิ่งแข็งสักพัก สีหน้าก็ไม่ปกติน้อยๆ แต่ก็เม้มปากไม่พูดอะไรสักคำ
บรรยากาศหดหู่ ฉันก็วุ่นวายอะไรไม่เข้าใจถึงได้เอาชื่อสกุลลูกออกไป ฉันคิดว่าอาจจะใช่วิธีนี้มาใช้เป็นข้ออ้างการแยกจาก ตอนนี้ก็มาทางเฉิงอี้เฉินทีมี “อำนาจ”ทุกอย่าง
ดูเขาอุ้มฮั่นอี้มาพูด ใจฉันหนักอึ่ง เดินขึ้นไปอุ้มฮั่นอี้ “ให้พวกเขานอนเถอะ”
“ผมอยากอยู่กับเขาอีกสักหน่อย”
“พวกเขาเหนื่อยแล้ว”พูดเสียงนิ่งๆ ก็ได้ยื่นมือไปอุ้มฮั่นอี้ เฉิงอี้เฉินในจิตสำนึกได้ปกป้อง แต่ก็กลัวฮั่นอี้ได้รับบาดเจ็บ ก็ได้ยื่นส่งให้
แต่สีหน้าเขามองท่าทีฉันเปลี่ยนอย่างหมดหวัง ปากก็เม้มไว้แน่น ลึกๆของดวงตาดูออกถึงความไม่มีความสุข ท่าทางเหมือนพายุลูกใหญ่ได้ถล่มเข้ามา
“ลงไปข้างล่างเถอะ” ฉันมองเขาพูด ใจเต้นสักพักก็นเต้นอย่างเร็วทั้งมความสุขุมมาก
ฉันอาจจะมีความเจ้าเล่ห์แล้ว ในใจคงมีความโกรธบ้าง เพราะเฉิงอี้เฉินไม่ได้ถามถึงปัญหาการดูแลลูกเลย
มีคำพูดบางคำพูดแล้วก็ไม่ตาย แต่รอการตายนั้นน่ากลัว ตอนนี้ฉันก็เหมือนคนที่รอความตาย ไม่รู้เฉิงอี้เฉินตอนไหนเขาจะพูดถึงปัญหาการดูแลลูกออกมา ยิ่งไม่รู้เลยทำไมเขามาอยู่ต่างประเทศตั้งไกลที่จะมาเป็นเพื่อนบ้านฉัน เขาจะทำเรื่องอะไรกันแน่ ทำให้ฉันนอนไม่หลับ
สาตาเฉิงอี้เฉินจ้องฉันลึกๆ หางตาสามารถมองเห็นหลินปิงชิงสีหน้าที่ดูกังวล
“เฉิงอี้เฉิน คุยกันหน่อยนะ”ฉันมองเฉิงอี้เฉินไม่อยากหันกลับมา
เขามองฉันอย่างเงียบขรึมพูดขึ้น “ได้ คุยกันหน่อย”
“ปัญหาการดูแลลูกทั้งสอง ฉันไม่ให้คุณออก”ฉันมองเขาอย่างแน่วแน่
เฉิงอี้เฉินขมวดคิ้ว หลินปิงชิงก็ได่มองอย่างเป็นกังวลแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร อีกอย่างเป็นเรื่องของฉันกับเฉิงอี้เฉิง ถึงเธอคือเพื่อนฉันแต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาห้ามฉันได้ในเรื่องนี้
ไม่นาน เขาพูดขรึมๆออกมา “ผมไม่อยากจะเลี้ยงดูแน่”
คำพูดนี้หมายถึงอะไร?
ถึงแม้ฉันไม่ได้อยากจะให้เขาได้มีการดูแลลูกๆแล้ว แต่เฉิงอี้เฉินเป็นพ่อของเด็กๆ หรือว่าเขาไม่อยากจะดูแลลูกๆของเขาเลยหรอ?ถ้างั้นทำไมเขาดูอบอุ่นจังตอนที่อยู่กับลูกๆ?เขายังจะมาดูเด็กทั้งสองคนทำไม?
ในความมึนงงฉันได้รู้สึกว่าเฉิงอี้เฉินเขาทำกับลูกๆเหมือนเป็นสัตว์เล็กๆ อารมณ์ดีแล้ว รู้สึกแปลก เขาก็มาดู อารมณ์ไม่ดี ไม่ชอบแล้ว ก็เอาเด็กทั้งสองนี้ทิ้งไว้ข้างหลัง
“คุณไม่ต้องเลี้ยงดูคือดีที่สุด นี้คือคำพูดที่คุณพูดเอง อีกแปบนึงเราเซ็นสัญญา”ฉันพูดอย่างเย็นชา หลันหลังหากระดาษกับปากตา
ฉันนั่งบนโซฟามือก็ได้รีบเขียน แต่แรงเยอะไปเหมือนจะจับปากกาในมือหักครึ่งให้ได้ ในใจโกรธแค้นอย่างมาก ฉันโกรธแทนตัวเอง ก้ได้โกรธแทนลูกทั้งสองคน
ฉันเงยหน้ามองเขาอย่างเกลียดชัง” ถึงยังไงคุณก็ไม่รับดูแล ฉันหวังว่าต่อไปคุณจะไม่มารังควาญฉันกับลูกๆอีก อีกอย่างฉันก็ไม่อยากจะอธิบายถึงเรื่องราวที่วุ่นวายของพวกเขาให้เขาได้รู้”
“เซ็นสัญญาป่ะ!” ฉันได้เลื่อนสัญญาไปข้างหน้าเขา
เฉิงอี้เฉินสีหน้านิ่งๆมองดูฉัน สายตาก็ได้มองไปที่กระดาษที่อยู่บนโต๊ะ
มือก็ไม่ยื่นไปจับกระดาษขึ้นดู สายตาเขาหยุดดูบนกระดาษ ริมฝีปากที่ดูจะเซ็กซี่ได้เบะปากโค้งเล็กน้อย
ในใจขัด อยากจะถามเฉิงอี้เฉินว่าเขาหัวเราะอะไร เขาก็ได้เงยหน้ามองฉัน หลังจากนั้นเขาก็ได้สองมือฉักกระดาษออกเป็นส่วนๆ
“คุณทำอะไร!”ฉันอึ้งไปสักพัก จ้องเขาอย่างโกรธแค้น
เฉิงอี้เฉินยังยกมือขึ้น ทันไดนั้นกระดาษที่ฉีกเป็นชิ้นก็ได้โปรยปรายลงมาเหมือนกันเกล็ดหิมะ
“ผมไม่แย่งดูแลลูกๆ เพราะการดูแลพวกเขาไม่ใช่หน้าที่ผมแต่แรกอยู่แล้ว”เฉิงอี้เฉินพูด คำพูดนี้ซัดออกอย่างดัง
ทันใดเขาเดินไม่กี่ก้าวก็มาอยู่ข้างหน้าฉัน มือที่อุ่นๆของเขาก็ไม่มาจับที่คางฉันให้เงยขึ้น
ใจฉันได้เต้นเร็วมากจิตใต้สำนึกอยากจะหลบไป มือที่อยู่ที่คางก็ได้เพิ่มแรงขึ้นอีก
เฉิงอี้เฉินมองฉัน ในตาลึกๆมีความที่รู้สึดโกรธมากๆ ลึกๆยังมีความรู้สึกหดหู่ เขาพูดคำคำขึ้น “อีอี ผมมีความอดทนที่รอให้คุณเปลี่ยนใจ ผมเคยบอกคุณแล้ว ผมมาครั้งนี้เพื่อี่มารับภรรยากับลูกของผมกลับบ้าน”
“ลั่วฮั่นอี้ ลั่วซีหย่า….”เขาพูดเสียงเบาๆ ในหน้ายิ้มอย่างแรง “ชื่อเพราะมาก คุณชอบให้ลูกใช้นามสุลของคุณก็ตามแต่คุณ ผมไม่แคร์เรื่องนี่”