รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 80 สองจิตสองใจ
ซ่งเสวี่ยเหมยอยากให้สวีเฟยเฟยมาเป็นลูกสะใภ้เธอโดยตลอด ถึงเเม้ว่าฉันจะไม่ได้ยินเกี่ยวกับการเเต่งงานของสวีเฟยเฟยกับเฉิงอี้เฉิน เเต่ฉันรู้ว่าครึ่งปีที่ผ่านมานี้เฉิงอี้เฉินกับสวีเฟยเฟยน่าจะได้เข้าร่วมงานด้วยกันหลายงาน
ฉันยังคงเเคร์เเละสนใจเรื่องพวกนี้ เเม้ว่าเฉิงอี้เฉินจะขอให้ฉันกลับไปเเล้วฉันสามารถทำอะไรได้? หลินปิงชิงบอกว่าฉันพัฒนาไปเยอะเเล้ว เเต่ว่ามีเค่ฉันคนเดียวหรอที่พัฒนา?
ฉันพัฒนาตัวเองในเวลาเดียวกันเฉิงอี้เฉินก็พัฒนาตัวเองเหมือนกัน สวีเฟยเฟยก็กำลังพัฒนาตัวเองเช่นกัน อยากที่จะตามเฉิงอี้เฉินให้ทันมันเป็นอะไรที่ยากมากที่จะทำสำเร็จ เเม้เเต่สวีเฟยเฟยฉันยังตามไม่ได้เลย
เเม้ว่าเฉิงอี้เฉินจะรักฉัน เเต่ในใจของเขาฉันไม่ใช่คนที่จะสู้เคียงข้างเขาได้ เขาถนอมฉัน ปกป้องฉัน สอนให้ฉันเติบโต เเต่ว่าทั้งหมดนี้คือเขาต้องการอยู่เหนือฉัน
กล่าวอีกนัยนึงก็คือ เฉิงอี้เฉินจริงๆเเล้วเขานั้นกำลัง "ควบคุม" ฉัน ทั้งหมดนี้คือฉันต้องเชื่อฟังเเละทำตามที่่เฉิงอี้เฉินจัดเอาไว้ ก็เหมือนกับวันนั้นที่เฉิงอี้เฉินบอกว่าฉันไม่มีสิทธิ์เลือกเพราะว่าฉันเป็นภรรยาของเขา
ฉันถอนหายใจ กลับไปอยู่กับเฉิงอี้เฉินคิดดูเเล้วมันก็ถือว่าดี เเต่มันมีความหมายอะไรหล่ะ? จะให้ฉันปล่อยให้เฉิงอี้เฉินพาผู้หญิงคนอื่นออกไปข้างนอกไปร่วมงานต่างๆ เเต่ว่าฉันต้องเป็นหญิงเเก่หน้าเหลืองที่เลี้ยงลูกอยู่บ้านหรอ?
ฉันเกิดอาการวาบหวามหนาวสั่น ส่ายๆหน้ารีบเอาของคิดเหล่านี้ออกไปจากหัว
ทั้งๆที่ไม่อยากกลับไป ฉันไปคิดเรื่องยุ่งเหยิงเละเทะพวกนี้ทำไมกัน? ฉันบ่นกับตัวเองในใจเเล้วรีบเปลี่ยนเรื่องพูด
"คุณมาทำอะไรที่นี่? มาเพื่อหาฉันโดยเฉพาะหรือ?"
หลินปิงชิงดูออกว่าฉันไม่ต้องการพูดถึงเรื่องพวกนี้อีก เเละก็ตอบฉันมาว่า "ไม่ใช่ ฉันมาที่นี่เพื่อที่มาเเลกความรู้ที่โรงพยาบาล"
"จะอยู่นานเท่าไหร่? " ตาฉันก็สว่างขึ้นมาทันที่ได้ยินคำนี้
"อย่างน้อยน่าจะครึ่งปี " หลินปิงชิงยิ้มเเล้วพูดกับฉัน
ฉันก็รู้สึกดีใจขึ้นมาทันที หลินปิงชิงจะอยู่ที่นี่อย่างน้อยครึ่งปี ก็แปลว่าในเวลาครึ่งปีนี้เราก็จะได้เจอกันบ่อยๆ มันเป็นข่าวดีสำหรับฉันมาก
เเต่ว่าหลินปิงชิงก็มาอยู่ที่ต่างประเทศเเล้ว ฉันไม่เหลือคนที่ไว้ใจในประเทศจีนอีกเเล้ว ฉันอดคิดไม่ได่ว่าควรจะพาเเม่มาที่นี่ด้วยดีไหม
ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ฉันก็เคยคิดเรื่องที่จะพาเเม่มาอยู่ที่นี่ โดยเฉพาะเมื่อตอนที่ธุรกิจของฉันไปได้ดีเเละฉันก็รับผิดชอบทุกอย่างในชีวิตได้เเล้วฉันเลยเกิดความนี้ขึ้นมา เพียงเเค่ฉันกลัวว่าเฉิงอี้เฉินตรวจเจอว่าฉันอยู่ที่ไหนเเละยิ่งกลัวว่าเขาจะรู้ว่าฉันไม่ได้เอาเด็กออก ก็เลยหยุดพักเรื่องนี้เอาไว้
เเต่ว่าตอนนี้ฉันก็ได้เจอกันเฉิงอี้เฉินเเล้ว ฉันก็ไม่มีอะไรให้ต้องวิตกกังวลเเล้ว
"หาที่อยู่ได้เเล้วยัง? ถ้ายังหาไม่ได้มาอยู่บ้านฉันก็ได้ ยังมีห้องว่างอยู่ "
"โรงพยาบาลจัดหาคอนโดไว้ให้เเล้ว เเล้วฉันก็เข้าพักเเล้ว " หลินปิงชิงยิ้มเเล้วดื่มกาเเฟ มองมาที่ฉันเเล้วพูดว่า "ไม่อยากอยู่ที่นี่เเล้ว ตอนบ่ายเธอลางานเเล้วใช่ไหม? พาฉันไปดูบ้านเธอหน่อย ฉันอยากไปดูลูกชายบุญธรรมเเล้วก็ลูกสาวบุญธรรมของฉัน"
ฉันยิ้มเเล้วพยักหน้า เช็คบิลเเละพาหลินปิงชิงกลับบ้าน เพียงเเค่รถของฉันยังไม่ขับถึงประตูหน้าบ้าน ก็เหลือบไปเห็นรถSUVสีดำจอดอยู่ที่หน้าบ้าน
นั่นคือรถของเฉิงอี้เฉิน!
ทันใดนั้นหัวใจของฉันล่วงตกลงไปอย่างหนัก ฉันเหยียบคันเร่งเเละรีบขับเข้าไปทันที
รองเท้าส้นสูงพุ่งไปที่พื้น ฉันไม่ว่างพอที่จะเปิดประตูต้อนรับหลินปิงชิง หยิบกระเป๋าของตัวเองเเละรีบพุ่งเข้าไปในบ้าน
"พี่หลิว พี่จัง! " ฉันตะโกนออกไป คิดในใจว่าทำไมฉันถึงต้องพาหลินปิงชิงไปนั่งร้านกาเเฟ เเต่ทำไมถึงไม่กลับมาบ้านก่อน
มันดูผิดปกติตั้งเเต่ตอนที่ทานข้าวเที่ยงเสร็จเฉิงอี้เฉินก็รีบออกไปทันที งั้นจะบอกว่าเขาตั้งที่จะพาหลินปิงชิงมาพบฉันเเล้วก็ทำเป็นไม่สนเรื่องลูกตอนอยู่บนโต๊ะอาหาร จากนั้นก็จะฉวยโอกาสเเอบเอาลูกไปจากฉัน
ก่อนหน้านี้เฉิงอี้เฉินเอาเเม่ของฉันมาขู่เพื่อให้ฉันอยู่ต่อ เเต่ตอนนี้เขาอยากจะใช้ลูกมาขู่เพื่อให้ฉันกลับไปหรอ!
หัวใจของฉันเหมือนถูกมือใหญ่ๆบีบเอาไว้ พี่จังกับพี่หลิวได้ยินเสียงของฉันก็รีบวิ่งออกมาจากห้องของเด็กๆ
"มีอะไรรึเปล่า? ทำไมถึงร้อนรนขนาดนี้? "
"ลูกหล่ะ? ฮั่นอี้กับซีหย่าหล่ะ?" ฉันพูดอย่างร้อนรน ใจเต้นจนกระเด็นออกมา
"อยู่….อยู่ที่ห้อง…" ฉันทำให้พี่จังตกใจ เเล้วพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
ฉันรีบพุ่งเข้าไปในห้องของลูก เห็นเด็กทั้งสองนอนอยู่ในเตียงนอน ความกังวลก็คลายลง
ทันใดนั้นเด็กทั้งสองที่เห็นฉันยิ้มอยู่ ก็ยื่นมือทั้งสองออกมาที่ฉัน ในตอนนั้นฉันเกือบจะร้องไห้ออกมา เเต่ก็ลืมที่จะไปล้างมือก่อน เเล้วเข้าไปรับเเล้วอุ้มลูกขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
"อีอี….." หลินปิงชิงเดินเข้ามายืนข้างฉันเเละพูดเบาๆ
ฉันอุ้มลูกเเล้วกอดเอาไว้เเน่นๆ กลิ่นหอมจางๆของพวกเขาก็ช่วยบรรเทาอารมร์ของฉัน หลังจากนั้นไม่นาฉันก็เงยหน้าขึ้นมองหลินปิงชิง
"นี่คือฮั่นอี้ นี่คือซีหย่า " ฉันยิ้มเเล้วพูดเเละพูดเบาๆกับเด็กทั้งสอง "ลูกรัก นี่คือเเม่บุญธรรม"
หลินปิงชิงดูอ่อนโยนลง ตามพี่จังไปล้างมือ เธอถึงยื่นมือออกไปที่ฮั่นอี้ "ฉันขออุ้มหน่อย"
ฉันยื่นลูกไปให้เธอ หลินปิงชิงก็อุ้มฮั่นอี้เอาไว้ในอ้อมเเขนด้วยความดีใจ ถึงเเม้ว่านี่จะไม่ใช่ครั้งเเรกที่เธออุ้มเด็ก เเต่เธอก็ดยังดูเกร็งๆไม่คุ้นขิน มองดูเธอที่อุ้มอย่างระมัดระวังมันก็ทำให้หัวใจของฉันอ่อนระทวย
"เมื่อกี้เธอคิดว่าพี่อี้เฉินมาเเย่งลูกไปหรอ" หลินปิงชิงที่อุ้มฮั่นอี้อยู่มองมาที่ฉันเเล้วพูดเบาๆ
ฉันเม้มริมฝีปากเเละก็พยักหน้าให้เธอ
ตอนนั้นที่ฉันรถของเฉิงอี้เฉินฉันรู้สึกตกใจจริงๆ ตั้งเด็กสองคนนี้คลอดออกมา เขาทั้งสองก็เป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตของฉัน ฉันเเทบจะนึกไม่ออกเลยว่าถ้าเฉิงอี้เฉินมาเอาลูกของไปสภาพของฉันจะกลายเป็นยังไง
หลินปิงชิงถอนหายใจเเล้วไม่ได้พูดอะไร เธออุ้มฮั่นอี้สักพัก ก็มาอุ้มซีหย่าต่อ มองไปที่เเขนเเละน่องของซีหย่าก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว
"ซีหย่าผอมเกินไปเเล้ว สุขภาพไม่ค่อยดีหรอ? "
"ใช่ ร่างกายอ่อนเเอนิดหน่อย"
ฉันท้องลูกแฝด ลูกทั้งสองก็เลยจะตัวเล็กนิดหน่อย โดยเฉพาะซีหย่า เธอคลอดออกมาร่างกายก็อ่อนเเอเเล้ว ต้องอยู่ในตู้อบไประยะนึง เเม้ว่าตอนนี้เราจะดูเเลเธอระมัดระวังเป็นอย่างดี เเต่ขนาดตัวของเธอใหญ่พอๆที่เพิ่งคลอดออกมา บางคนคลอดออกมาก็ตัวใหญ่กว่าเธอก็มี เลยทำให้เธอดูไม่เหมือนกับเด็กที่ครบหนึ่งเดือนเเล้ว
ฉันมองไปที่ซีหย่าก็รู้สึกเจ็บปวดใจ สิ่งเดียวที่น่ายินดีในตอนนี้ก็คือฉันนั้นสามารถหาเงินได้มากพอที่จะดูเเลพวกเขาดีๆได้ ถ้าเกิดว่าฉันไม่ได้มาต่างประเทศกับเฉินตงหลี เเต่ถ้าฉันยังอยู่ที่อำเภอเล่อเเล้วคลอดเด็กสองคนนี้ กลัวว่าจะใช้ชีวิตต่อไม่รอด
ในตอนนั้นไม่จำเป็นต้องกังวลว่าเฉิงอี้เฉินจะมาเเย่งลูกไป เเต่ไม่ต้องการให้เขามาฉันจึงต้องหาวิธีที่จะไม่ต้องไปขอความช่วยเหลือเขาถึงที่
ฉันกัดริมฝีปากเอาไว้เเน่นๆ เเต่เริ่มตระหนักถึงความสำคัญของงสนเเละเงินมากขึ้น
หนูน้อยทั้งสองคนเห็นฉันกลับมาก็ตื่นเต้นได้เเปปเดียวตอนนี้ก็เริ่มง่วงอีกเเล้ว เด็กๆง่วงกันหมดเเล้ว ฉันกับหลินปิงชิงก็กล่อมเด็กให้เด็กๆหลับ ขอให้พี่หลิวช่วยดูพวกเขาเอาไว้ เเล้วก็ลงไปชั้นล่างกับหลินปิงชิง
ฉันมองออกไปที่ข้างนอกหน้าต่าง ยังเห็นว่ารถSUVสีดำคันนั้นยังจอดอยู่ ฉันขมวดคิ้วเเล้วขมวดเเน่นขึ้นอีก