รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 75 พบเพื่อนเก่า
ฉันอึ้งไปสักพัก ได้เเต้ยิ้มเเห้ง
เหมาะสมกับจิตใจของฉันมากกว่าหรือ?
ถ้าดูจากการวิเคาระห์ของฉันเมื่อกี้ ข้อสรุปนี้ก็ถือว่าถูกต้อง เเต่ในใจของฉันยังคงมีเเต่คนที่ไม่เหมาะสมกับจิตใจของฉัน
คืนนั้นอารมณ์ของเฉินตงหลีดีขึ้นมาก เขาเล่นอยู่กับฮั่นอี้กับซีหยาในบ้านของฉันสักพักถึงจะกลับ เเละฉันก็เอาเอกสารที่เฉินตงหลีเอามา มาตรวจสอบอย่างรอบคอบอีกครั้ง
เฉิงอี้เฉินนั้นกังวัลมากกว่าฉันอีก วันรุ่งขึ้นฉันได้รับโทรศัพท์จากเฉินตงหลีทันทีที่ถึงบริษัทบอกว่าเฉิงอี้เฉินนั้นอยู่ระหว่างทางที่จะมาบริษัทเเล้ว จะเข้ามาคุยกับเราเรื่องสัญญา
ฉันเข้าสู่สถานะ "พร้อมรบ" ในทันที ก่อนออกมาจากบ้านฉันนั้นเเต่งหน้าออกมาเบาๆ เเต่เมื่อคิดว่าจะต้องพบเฉิงอี้เฉิน ฉันจึงไปห้องน้ำเเล้วเเต่งหน้าให้ตัวเองดูดี้ขึ้นยิ่งกว่าเดิม
จ้องมองไปที่ผู้หญิงในกระจกเธอดูมีความเป็นมืออาชีพมากในชุดสูท ผมสั้นประบ่าดูมีความสามราถ ลิปสติกสีเเดงกุหลาบที่คอยสนับสนุน เเต่ไม่ได้ดูก้าวร้าว ฉันหายใจเข้าลึกๆ วันนี้เป็นการเผชิญหน้ากับเฉิงอี้เฉินเเบบตัวต่อตัว เเละฉันจะปล่อยให้ตัวเองเเพ้ไม่ได้
เฉิงตงหลีกับเฉิงอี้เฉินมาพร้อมกัน ฉันยืนอยู่ตรงประตูห้องรับรอง เเละมองไปที่ชายสองคนที่อยู่ในชุดสูทเเละรองเท้าหนัง พวกเขาทั้งสองสูงเเละหล่อเหลา เเต่คนนึงดูเย่อหยิ่งไม่สนใจใคร อีกคนดูมีเเต่รอยยิ้มดูอ่อนโยนมีความมั่นใจ
ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดว่าพระเจ้านั้นชอบเล่นตลก ไม่ว่าจะเป็นเฉินตงหลีหรือเฉิงอี้เฉิน พวกเขาต่างเป็นชายในฝันของผู้หญิงนับไม่ถ้วน เเต่เป็นเพราะความผิดของฉางหยางจึงทำให้ต้องมาพัวพันกับฉัน
ฉันอดคิดไม่ได้ว่าการที่มีผู้ชายสองคนที่มีคุณสมบัติขนาดนี้มาเข้าหา มันจะทำให้ฉันดูเจ้าเลห์เกินไปหรือเปล่า?
ในขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้อยู่ เลขาก็ดึงเเขนฉันเบาๆ เเล้วฉันก็เรียกสติกลับมาจึงได้พบว่าเฉินตงหลีกับเฉิงอี้เฉินนั้นได้เดินมาถึงตรงหน้าฉันเเล้ว ฉันยิ้มเเละยื่นมือออกไป "ประธานเฉิง ยินดีต้อนรับค่ะ หวังว่าเรื่องการเซ็นสัญญาระหว่างเราจะราบรื่นนะคะ"
เฉิงอี้เฉินมองมาที่ฉันอย่างเย็นชา ยื่นมือมาจับมือของฉัน ฉันที่ยังไม่ทันได้สัมผัสถึงความอบอุ่นจากมือของเขา เขาก็ดึงมือกลับเเล้วเดินไปที่ห้องรับรอง
ฉันบีบมือด้วยความงุนงง มองไปที่หลังสูงๆของเฉิงอี้เฉินฉันก็รู็สึกหดหู่เเละอึดอัดเหมือนกับท้องฟ้าที่มีเเต่เมฆมาบดบัง
ฉันคิดว่าฉันยังรู้จักเฉิงอี้เฉินไม่ดีพอ เมื่อวานเขายังกอดฉันเเล้วอธิบายให้ฉันฟังว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องเข้าใจผิด บอกว่าเขานั้นชอบฉันจริงๆ เเต่วันนี้เขากลับเย็นชาใส่ฉันราวกลับว่าฉันเป็นคนเเปลกหน้า
ผู้ชายเเบบนี้ ฉันสมควรที่จะเข้าไปอยู่ในใจของเขาจริงหรือ?
ฉันเรียกความคิดคืนเเละเดินตามเฉินตงหลีกับเฉิงอี้เฉินเข้าไปในห้องรับรอง ถึงเเม้ว่าเฉินตงหลีจะอยู่ที่นี่ด้วย เเต่ว่าวันนี้เป็นการเซ็นสัญญาระหว่างกลุ่มบริษัทสกุลเฉิงกับบริษัทการค้าระหว่างประเทศตงหมิง เพราะฉะนั้นคนที่จะต้องเซ็นสัญญาก็คือฉัน
เฉิงอี้เฉินพูดออกมาอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลงว่า "สัญญาถูกร่างขึ้นเเล้ว ถ้าไม่มีปัญหาอะไรเราก็ลงมือเซ็นกัน"
ฉันมองไปที่เขา เเล้วหายใจเข้าลึกๆ หยิบเอกสารขึ้นมาเเล้วชี้ไปที่เนื้อหาสัญญาเเล้วถามว่า "ประธานเฉิง ฉันต้องชี้เเจงว่าในสัญญานั้นอะไรบ้าง"
ในสัญญามีจุดนึงที่ฉันใช้ปากกาทำเครื่องหมายเอาไว้ ในนั้นเขียนเอาไว้ว่าให้ฉันเป็นผู้ดูเเลโครงการนี้เเละต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อโครงการออกมาสำเร็จ เเละฉันต้องมีส่วนร่วมในการเดินทางเพื่อธุรกิจเเละการโอนย้ายงาน
เฉิงอี้เฉินมองมาที่ฉันเเล้วพูดว่า "การนำเข้าเเละส่งออกสินค้ามีหลายที่ที่ต้องใช้การเจรจา ทางกลุ่มบริษัทสกุลเฉิงไม่หาผู้ที่เหมาะสมเอาไว้ ดังนั้นจึงต้องการให้บริษัทการค้าระหว่างประเทศตงหลีมาจัดการทั้งหมด"
"เเล้วการไปทำงานนอกเมืองนอกสถานที่หรือโอนย้ายจะต้องไปที่ไหนคะ?"
"กลับประเทศ"
เฉิงอี้เฉินพูดคำพูดนี้ออกมาด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มเเละทันใดนั้นฉันก็กัดริมฝีปากของฉันเเละอดคิดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าเฉิงอี้เฉินต้องการที่จะใช้วิธีนี้เพื่อให้ฉันกลับไปที่ประเทศจีน
ฉันกำลังคิดเกี่ยวกับสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้เป็นสัญญาระยะสั้นหนึ่งปี เเม้ว่าฉันจะต้องไปอยู่ที่ประเทศจีนเป็นเวลาหนึ่งปีเเล้วไงล่ะ?
"ได้ค่ะ" ฉันตอบกลับทันทีเเละมันกลับไปอย่างลับๆมันก็ดี เพราะว่าฉันต้องกลับไปทำทะเบียนบ้านให้ฮั่นอี้กับซีหยา เพราะสุดท้ายถ้าถึงเวลาที่ขั้นตอนกำลังจะดำเนินเเล้วฉันก็ต้องกลับไปทำที่ประเทศจีนอยู่ดี
เฉินตงหลีก็ขวมดคิ้วทันทีที่ได้ยินฉันตอบตกลง เเต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เฉิงอี้เฉินก็ยังคงนิ่งอยู่เเละดูเหมือนว่าไม่มีอะไรสามารถมาเเปรปรวนความรู้สึกเขาได้
"งั้นเซ็นตอนนี้เลยไหม?"
"เซ็นเลย" เฉิงอี้เฉินพยักหน้า
การเซ็นสัญญาในครั้งนี้เป็นไปได้อย่างราบรื่น ฉันเขียนของฉันลงไปบนกระดาษ เเต่ฉันอดไม่ได้ที่จะนึกถึงครั้งล่าสุดที่ฉันกับเฉิงอี้เฉินนั้นได้เซ็นชื่อของตัวเองมันก็เป็นตอนที่ไปเซ็นใบหย่าที่สำนักงานกิจการผลเรือน
ในจินตนาการของฉันในการเซ็นสัญญาครั้งมันจะต้องมีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับเงื่อนไขของสัญญาเเละต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของตัวเองเเต่มันกลับไม่เกิดขึ้น ฉันไม่รู้ว่าควรจะดีใจที่มันเป็นไปอย่างราบรื่น หรือละอายตัวเองที่ดูไม่มีความสามารถไปสู้ เพิ่งจะวางปากกาลงเฉิงอี้เฉินก็พูดขึ้นมาทันที
"สัญญาเซ็นเสร็จเรียบร้อยเเล้ว ผมอยากจะเลี้ยงอาหารคุณผู้หญิงหลัวเพื่อเป็นการฉลองที่การเซ็นสัญญาเป็นไปอย่างราบรื่น " เขาพูดกล่าวออกมา
ฉันรู้สึกแปลกๆกับคำพูดที่เฉิงอี้เฉินพูดกับฉัน เลยพูดปฏิเสธอย่างไม่รู้ตัวว่า "ไม่เป็นไรค่ะ สัญญาเป็นไปอย่างราบรื่นดีเเล้ว ตอนเย็นฉันยังมีธุระอื่นๆอีก….. "
มันอาจจะเป็นเพราะฉันที่ขี้ขลาด เเละไม่ต้องการที่จะยุ่งหรือติดต่อกับเฉิงอี้เฉินมากเกินไป
"คุณผู้หญิงลั่วจะไปครับ หรือว่า….." เขาหยุดไปสักพักจากนั้นก็ยิ้มเเล้วมองมาที่ฉันเเล้วพูดว่า "คุุณไม่อยากเจอเพื่อนเก่าคุณหรอ? "
"เพื่อนเก่าหรออะไร?" ฉันมองไปที่เขาอย่างประหม่าเเละรู้สึกใจไม่ดี
เฉิงอี้เฉินเเค่หัวเราะออกมา เเล้วฉันก็หงุดหงิดจึงถามต่อไปว่า "ใครมา? ปิงชิงหรอ? หรือว่า…."
คำว่า "เเม่"ฉันพูดออกมาไม่ได้มันติดอยู่ในลำคอของฉัน ฉันมองไปที่เฉิงอี้เฉินอย่างร้อนรนหวังว่าเขาจะตอบฉัน เเต่เฉิงอี้เฉินก็ไม่พูดอะไรสักคำ
ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ฉันไม่ได้กลับประเทศเลย ไม่ได้พบเจอกับเเม่เลย เพราะว่าฉันไม่สามารถให้เเม่เห็นฉันในสภาพที่ท้องโตได้
ตอนนั้นฉันกลัวว่าเเม่ของฉันจะเป็นห่วง ดังนั้นก็เลยไม่ได้บอกเเม่ว่าฉันกับเฉิงอี้เฉินเลิกกันเเล้ว บอกเเม่ไปเเค่ว่าจะไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เพื่อให้ตัวเองมีคุณสมบัติเเละเหมาะสมพอที่จะเป็นภรรยาของเฉิงอี้เฉิน
ไม่นานก่อนหน้านี้ฉันได้วิดีโอคอลกับเเม่ เเม่ก็บอกว่าคิดถึงฉันมาก อยากให้ฉันรีบกลับประเทศไปหาท่าน เเม่ประทับใจเฉิงอี้เฉินมาตลอดบวกกับคำพูดที่ฉันพูดไปก่อนหน้านี้ เเละฉันไม่สงสัยเลยถ้าเฉิงอี้เฉินจะไปหาเเม่ของฉันเเล้วบอกว่าจะพามาพบฉันที่ต่างประเทศ เเม่ของฉันต้องตอบตกลงเเละมาหาฉันเเน่นอน
เมื่อมองไปที่รอยยิ้มของเฉิงอี้เฉิน หัวใจของฉันก็วุ่นวายยุ่งเหยิงไปหมด ดูเหมือนว่าเฉิงอี้เฉินจะเดาได้ว่าฉันนั้นกำลังคิดอะไรอยู่ เลยยิ้มมาที่ฉัน "ตอนเที่ยงไปทานเข้า คุณก็จะรู้เอง "
"ผมยังม่ธุระ ขอตัวไปก่อน เดี๋ยวที่อยู่ของร้านอาหารผมส่งไปให้ทีหลัง" เขาพยักหน้าให้ฉันกับเฉินตงหลี จากนั้นก็ยิ้มเเล้วลุกออกไป
มองไปที่เเผ่นหลังของเขา มันทำให้ฉันอยากพุ่งเข้าไปดึงตัวของเขาเอาไว้ เเล้วถามว่าใครกันเเน่ที่เขาจะพามา เเต่ฉันก็หยุดความใจร้อนของฉันเอาไว้ได้
ฉันไม่ควรที่จะทำเเบบนี้้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฉันยังไม่รู้ว่าจริงๆเเล้วเฉิงอี้เฉินนั้นพาใครมายิ่งไม่ควรทำ