064
ฉากที่เฉิงอี้เฉินปรากฏตัวต่อหน้าฉันในวันนั้นกลับมาปรากฏขึ้นอีกครั้ง ฉันจำได้ว่าเขายื่นสูบบุหรี่ตรงระเบียง ความหล่อพุ่งออกมาจากร่างของเขา จากนั้นเขาก็กอดฉันไว้ …
ฉันไม่อยากคิดถึงเรื่องนี้อีกต่อไป ใบหน้าของเฉินตงหลีนิ่งไปชั่วขณะ ทำให้ฉันเริ่มรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ทั้งฉันและเฉินตงหลีไม่เคยพูดถึงเรื่องเฉิงอี้เฉินเลย เพียงแค่ฉันไม่อยากหลบเหมือนตอนที่อยู่ในอำเภอเล่อ และคอยบังคับตัวเองไม่ให้สนใจเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัทสกุลเฉิง
ฉันไม่ได้ตั้งใจไปสนใจเฉิงอี้เฉิน เพียงแต่ตั้งเป้าหมายไว้ที่กลุ่มบริษัทสกุลเฉิง ฉันจำสิ่งที่ซ่งเสวี่ยเหมยพูดได้อย่างดีว่าต้องทำบางอย่างให้เป็นชิ้นเป็นอัน ดังนั้นที่ฉันเรียนรู้การค้านำเข้าและส่งออกกับเฉินตงหลี เพราะฉันรู้ว่ากลุ่มบริษัทสกุลเฉิงก็มีธุรกิจนี้เช่นกัน
ฉันไม่คิดว่าจะต้องถึงขั้นสามารถบดขยี้บริษัทสกุลเฉิงได้ นั่นเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ในละครเท่านั้น ทั้งหมดที่ฉันคิดมีเพียงฉันต้องเติบโตไปจนถึงระดับที่เฉิงอี้เฉินและซ่งเสวี่ยเหมยอยู่ ทำให้คนที่เคยดูถูกฉันไม่สามารถเยาะเย้ยฉันได้อีกต่อไป
เฉินตงหลีถอนหายใจ "คุณรู้ไหม? วันนั้นผมอยู่ตรงทางเข้าชุมชนของคุณ"
ฉันตะลึงและไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เฉินตงหลีพูดต่อ: "ผมมองรถของเฉิงอี้เฉินขับออกไป และไม่คิดเลยว่าคุณจะอยู่ในรถของเขา"
"หลังจากนั้นผมก็ได้ข่าวว่าคุณทำงานอยู่ในกลุ่มบริษัทสกุลเฉิง ผมอยากติดต่อไปหาคุณแต่ก็ไม่คิดว่าคุณกับเฉิงอี้เฉินกำลังจะแต่งงานกัน วันนั้นผมเมามาก ผมเอาแต่คิดว่าผมปล่อยคุณไปครั้งที่สองแล้ว ตอนนั้นผมก็คิดอีกว่าถ้าผมบอกคุณว่าผมชอบคุณมานานแล้ว ในตอนที่คุณโดนฉินจวิ้นเฟยรังแกคุณจะขอความช่วยเหลือจากผมไหม?”
ฉันกัดริมฝีปากแน่น รู้สึกเจ็บจมูกและลำคอเหมือนมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในนั้น ฉันมองไปที่เฉินตงหลีที่อยู่ตรงหน้า ฉันรู้มานานแล้วว่าเขาคอยใส่ใจฉันเป็นพิเศษแต่ไม่รู้เลยว่าเขาใส่ใจฉันมานานขนาดนี้
ฉันไม่รู้จะตอบคำถามของเขาอย่างไร ถ้าฉันรู้ว่าเขาชอบฉัน ฉันจะขอความช่วยเหลือจากเขาไหมนะ?
ฉันตกอยู่ในภวังค์แต่แล้วฉันก็คิดทวนคำถามนี้นับครั้งไม่ถ้วนและข้อสรุปสุดท้ายก็คือไม่
หรือไม่ฉันคงไม่มีมิตรภาพที่ดีกับเฉินตงหลีในตอนแรก ตอนนั้นฉันไม่ได้รู้สึกเกลียดฉินจวิ้นเฟยเหมือนกับที่ฉันเกลียดเฉิงอี้เฉินในตอนนี้ ตอนนั้นฉันแค่รู้สึกเศร้าเสียใจที่ฉินจวิ้นเฟยนอกใจฉันและถูกบ้านสกุลฉินบังคับให้จ่ายเงินคืน
อย่างไรก็ตามไม่ว่าฉันจะหมดหนทางแค่ไหนฉันจะไม่ไปยืมเงินจากเฉินตงหลี ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากรู้ว่าเขาชอบฉัน ฉันยิ่งไม่มีทางติดต่อเขาอีก
เฉินตงหลีไม่รอคำตอบและยื่นแหวนเพชรมาตรงหน้าฉัน
เขาดูจริงจังมากและพูดอย่างเคร่งขรึม: "อีอี ผมปล่อยคุณไปสองครั้งแล้วแต่โชคชะตาก็ทำให้คุณปรากฏตัวต่อหน้าผมอีกครั้ง ผมคิดว่าครั้งนี้ผมจะไม่มีทางปล่อยคุณไปอีก"
“ผมหวังว่าคุณจะให้โอกาสผมได้ดูแลคุณและลูกๆ” น้ำเสียงและดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ
ฉันตัวแข็งทื่อเมื่อได้ฟังสิ่งที่เขาพูดและใบหน้าของฉันก็รู้สึกชาไปหมด
ตกใจแต่ก็รู้สึกหวั่นไหว? ฉันไม่รู้ว่าควรแสดงความรู้สึกออกมาอย่างไรในตอนนี้ และฉันก็ไม่คาดคิดว่าฉินตงหลีจะพูดแบบนี้กับฉัน ยิ่งไม่เคยคิดด้วยว่าหลังจากแยกทางกับเฉิงอี้เฉินจะมีคน ๆหนึ่งที่ตั้งใจเอาใจใส่ฉันแบบนี้
ฉันพูดไม่ออกและร้องไห้ออกมาโดยไม่สนอะไรอีกแล้ว เฉินตงหลีไม่คิดมาก่อนว่าฉันจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงเช่นนี้ เขารีบลุกขึ้นแล้วหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตาให้ฉัน
"อย่าร้อง อย่าร้อง เคยพูดว่า… ร้องไห้หลังคลอดไม่ได้ไม่ใช่หรอ? … "
เสียงของเฉิงอี้เฉินดูกังวลและลุกลี้ลุกลนเล็กน้อย แต่ฉันก็ยังคงร้องไห้อย่างไม่มีสติ
ออกจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและมาอยู่ต่างถิ่นที่ไกลจากบ้านเกิด ในฐานะผู้หญิงตั้งครรภ์ที่ต่อสู้ดิ้นรนกับภาระต่างๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาฉันพยายามพยุงตัวเองด้วยลมหายใจเพียงเฮือกเดียว
ฉันอยากถอดใจนับครั้งไม่ถ้วนและบ่อยครั้งที่ฉันอยากร้องไห้ออกมาตอนฉันเหนื่อย แต่ในที่สุดฉันก็อดทนกับมันแล้วผ่านมาจนได้
นี่คือเส้นทางที่ฉันเลือกเองและก่อนที่ฉันจะเลือกเส้นทางนี้ฉันเองก็รู้ว่ามันยากมากที่จะผ่านไปได้ ฉันคิดว่าถ้าออกจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยและผู้คนที่ห่วงใยฉัน ฉันต้องบังคับตัวเองให้เติบโตขึ้นและแบกรับทุกอย่างด้วยตัวเอง แต่สิ่งที่เฉินตงหลีพูดไว้มันเข้ามาจี้จุดที่เปาะบางที่สุดในหัวใจของฉัน ทำให้สิ่งที่ฉันเก็บไว้ด้านในช่วงหลายเดือนก่อนได้ประทุออกมา
ฉันรู้สึกเหนื่อยจนจะตายแล้ว ในที่สุดฉันก็ร้องไห้จนหลับไป หลังจากนั้นเฉินตงหลีก็ล้อฉันว่าฉันยังนอนหลับได้ในช่วงเวลาที่เคร่งเครียดขนาดนี้ ทำให้เขาเสียหน้าจริงๆ ฉันรู้สึกโชคดีอยู่บ้างที่ยังสามารถนอนหลับได้ ไม่อย่างนั้นฉันก็ไม่รู้ว่าจะจัดการกับสถานการณ์นั้นอย่างไร
เนื่องจากเป็นการคลอดธรรมชาติ ฉันจึงฟื้นตัวเร็วและหลังจากหลับไปคืนเดียวก็รู้สึกได้รับการฟื้นตัวอย่างมาก
ฉันทำงานหนักเกินไปในระหว่างตั้งครรภ์อีกทั้งฉันยังคลอดก่อนกำหนดสุขภาพของเด็กทั้งสองไม่ค่อยดีนัก โดยเฉพาะลูกสาวมีน้ำหนักตัวน้อยเกินไปและเธอมีอาการดีซ่านในคืนนั้น ทำให้ถูกส่งตัวไปที่ห้องไอซียูเด็กทารกแรกเกิด
เฉินตงหลีต้องการปกปิดฉันในตอนแรก แต่ในวันรุ่งขึ้นฉันไม่สามารถเจอลูกๆได้ทำให้ฉันกังวลจนแทบทนไม่ไหว ดังนั้นเขาจึงจำเป็นต้องบอกอาการของน้องสาวให้ฉันฟัง
ฉันรีบลงจากเตียงและวิ่งไปที่ห้องไอซียูเด็กทารกแรกเกิด มองดูเด็กที่นอนอยู่ในตู้อบผ่านกระจกบานหนา เธอยังเด็กมากและทั้งร่างกายของเธอเหลืองซีดไปหมด
หัวใจของฉันเหมือนโดนมีดปักลงกลางอก ฉันเม้มปากแน่นเพื่อไม่ให้ได้เสียงร้องไห้
ตั้งแต่มาต่างประเทศฉันแทบจะไม่เคยร้องไห้เลย แต่ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงตอนนี้น้ำตาของฉันกลั้นยังไงก็กลั้นไว้ไม่อยู่ เดิมทีฉันคิดว่าความเกลียดชังที่มีต่อเฉิงอี้เฉินทำให้ฉันมีเกาะป้องกันไว้แล้ว แต่ตอนนี้เด็กสองคนนี้กลับกลายเป็นจุดอ่อนของฉันไปแล้ว
"ไม่ต้องกังวล ไม่เป็นไร เด็กๆต้องไม่เป็นไร … "เฉินตงหลี ปลอบฉันอย่างต่อเนื่องพร้อมกับตบไหล่ฉันเบาๆ
ฉันพยักหน้าไม่หยุด แต่หัวใจที่ของฉันไม่สามารถปล่อยวางได้เลย
อารมณ์ของฉันส่งผลโดยตรงต่อสภาพร่างกายของฉัน ฉันเป็นห่วงลูกจนกังวลมากไป ตอนนี้ในปากของฉันฟองไปหมดแม้แต่ กลืนน้ำลายยังลำบาก ฉันไม่รู้ว่าเป็นเพราะฉันไม่สบายเลยทำให้ไม่มีน้ำนมหรือเปล่า แม้แต่จะให้นมลูกก็ยังลำบาก จึงทำได้แค่ให้นมผงลูกๆเท่านั้น
เพียงไม่กี่วันน้ำหนักของฉันก็ลดลงอย่างมาก เมื่อมองไปที่กระจากราวกับคนที่มีเพียงหนังหุ้มกระดูก ฉันอดไม่ได้ที่จะยิ้มขมขื่น
คนอื่น ๆ กังวลว่าจะอ้วนขึ้นหลังคลอด พวกเขามัวแต่ยุ่งเกี่ยวกับการเอารูปร่างของตัวเองกลับคืนมา ยังดีที่ฉันไม่เป็นเช่นนั้นเพราะฉันผอมลงกว่าก่อนตั้งครรภ์ซะอีก
เฉินตงหลีมองมาที่ฉันอย่างทุกข์ใจ เขาทำได้แค่ขอให้พี่เลี้ยงทำอาหารให้ฉันด้วยวิธีอื่น แต่ฉันก็ยังกินไม่ลงอยู่ดี
โชคดีที่ร่างกายของลูกดีขึ้นทุกวันในที่สุดเขาก็ออกจากห้องไอซียูทารกแรกเกิด ฉันอุ้มลูกไว้ในอ้อมแขนและมือของฉันก็สั่นเล็กน้อย เมื่อมองไปบนใบหน้าที่ปราศจากคราบเหลืองของเธอ ในที่สุดฉันก็สามารถวางใจลงได้บ้างแล้ว
ไม่นานฉันก็ออกจากโรงพยาบาล เฉินตงหลีหาพี่เลี้ยงเด็กแทนฉัน และดูแลฉันกับลูกๆพร้อมกับพี่เลี้ยง
เด็กโตขึ้นเร็วมาก ซึ่งในแต่ละวันก็โตขึ้นอย่างแตกต่างกัน ในที่สุดฉันก็สามารถวางใจได้สักที
แต่เมื่อฉันคิดว่าทุกอย่างกำลังดีขึ้น ฉันก็ได้พบเขาอีกครั้ง ผู้ชายที่ทำให้ความรักของฉันหมดหวังและผู้ชายที่ทำให้หัวใจของฉันแตกสลาย
MANGA DISCUSSION