รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 61 ผมมองคุณผิดไป
"แน่ใจหรอว่าจะทำแท้ง?" เฉิงอี้เฉินเสียงต่ำ
ฉันกำผ้าปูที่นอนแน่นและพยักหน้าให้เขา ฉันไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไปเพราะกลัวตัวเองจะเผยความรู้สึกผิดให้เขาเห็น
เฉิงอี้เฉินโกรธขึ้นมาทันที "โอเค!ได้!ผมจะจัดการเรื่องผ่าตัดให้คุณเดี๋ยวนี้!"
"ปัง" ประตูถูกปิดอย่างแรง หัวใจของฉันรู้สึกยับยู่ยี่ไปหมดและฉันไม่รู้สึกโล่งใจเลย
เฉิงอี้เฉินทำทุกอย่างอย่างรวดเร็ว ไม่นานหมอก็บอกให้ฉันไปที่ห้องผ่าตัด ฉันเดินตามพวกเขาไปถึงหน้าประตู เฉิงอี้เฉินยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย เขามองฉันด้วยสายตาที่เย็นชาดูซับซ้อนจนเดาไม่ออก เขากดริมฝีปากแน่นและไม่พูดอะไร
ทันใดนั้นฉันก็เดินไปด้านข้างเฉิงอี้เฉิน เขามองฉันเดินด้วยสายตาที่มีคลื่นเล็กน้อย และฉันก็มองเห็นถึงความตื่นเต้นที่ซ้อนอยู่ในดวงตาของเขา ก่อนเฉิงอี้เฉินจะพูดบางอย่างออกมา ฉันพูดแทรกขึ้นด้วยน้ำเสียงอย่างเย็นชา: "หลังผ่าตัดเสร็จคุณปล่อยฉันไปได้ไหม?"
ฉันมองไปที่เขาโดยไม่จำนนแม้แต่น้อย
เวลาดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ เฉิงอี้เฉินกัดฟันแน่นกล้ามเนื้อบนใบหน้าของเขาสั่นไปหมด ฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อยแต่ก็กำหมัดแน่น ในเวลานี้ความเจ็บปวดบนฝ่ามือเตือนฉันว่าไม่สามารถถอยได้แล้ว
เฉิงอี้เฉินหัวเราะออกมา แต่เป็นเพียงเสียงหัวเราะที่แสร้งขึ้นเท่านั้น "ลั่วอีอีถ้าคุณทำแท้ง ผมเฉิงอี้เฉินนับจากนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับคุณอีก"
"โอเค!" ฉันกลืนน้ำลายและยิ้มให้เขาแม้ว่าหัวใจของฉันจะสั่นสะเทือนด้วยความเจ็บปวดก็ตาม
ฉันมองไปที่เขาและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: "คุณต้องไม่ใช้แม่ฉันเป็นเครื่องมือในการขมขู่ฉันและคุณจะต้องไม่รบกวนชีวิตของฉันอีกต่อไป"
"ตกลง"
คำพูดเพียงคำเดียวฝังอยู่ในใจฉัน มีความสุขเหมือนกับเรื่องอื่น ๆ ในอดีตที่เฉิงอี้เฉินเคยรับปากกับฉัน แต่ในตอนนี้ฉันไม่รู้สึกถึงความสบายใจหรือมีความสุขเลย ฉันอยากจะพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและถามเขาว่าทำไมเขาถึงตอบว่า "ตกลง"
เพียงแต่ฉันเลือกที่จะไม่ทำ เพราะฉันรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์ที่จะทำเช่นนั้น
พยาบาลพยุงฉันเข้าไปในห้องผ่าตัด เตรียมให้ฉันนอนบนเตียงผ่าตัด ขาของฉันถูกแยกออก อุปกรณ์ที่เย็นเฉียบทำให้ร่างกายของฉันสั่นไปทั้งตัว ภายใต้ฤทธิ์ของยาชาฉันเริ่มรู้สึกมึนๆ
“ ตูมตูมตูม…ตูมตูมตูม…”
"เปิดประตู…"
ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตูอย่างแรง ฉันรู้สึกว่าถึงมือหมอที่กำลังสั่น ฉันมองไปที่ประตูด้วยความรู้สึกง่วงซึมและร่างของเฉิงอี้เฉินก็พุ่งเข้ามาทันที
เขาก้าวมาด้านหน้าและมองมาที่ฉัน ทันใดนั้นหมอก็ห้ามเขาอย่างรวดเร็ว
“ คุณเฉิง คุณเข้ามาไม่ได้”
"เด็กล่ะ?เด็ก … " เสียงของเฉิงอี้เฉินหยุดลงทันทีเพราะเห็นคราบเลือดที่เต็มไปหมด
ฉันมองไปที่เขาในขณะที่ฉันนอนอยู่บนเตียงผ่าตัด ฉันเห็นดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจอย่างชัดเจน "คุณบอกว่าคุณจะปล่อยฉันไป"
เสียงของฉันอ่อนลงราวกับว่าเพียงแค่ลมพัดมาทุกอย่างก็จะหายไป
เฉิงอี้เฉินมองมาที่ฉัน ความผิดหวังและเกลียดชังอย่างรุนแรงก็ปรากฏออกมาจากดวงตาที่ดำลึกคู่นั้น
"ลั่วอีอี! คุณมันใจร้าย! ผมมองคุณผิดไป"
เขาพูดอย่างขมขื่นและหันหลังจากไป เมื่อได้ยินเสียงปิดประตูอย่างหนักแน่นในที่สุดหัวใจของฉันก็ร่วงหล่นลงมา แต่แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างช่วยไม่ได้
พยาบาลและหมอในห้องผ่าตัดได้แต่มองหน้ากันไปมา หมอสั่งให้พยาบาลออกไปก่อน หมอช่วยพยุงฉันขึ้นอีกครั้ง ไม่นานเฉินตงหลีก็เดินเข้ามาจากอีกช่องทางหนึ่ง
“ ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
"อืม … " ฉันสะอื้นและพยักหน้า "เขาไปหรือยัง?"
"ไปแล้ว."
ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก หัวใจของฉันเหมือนถูกโซ่ล่ามไว้อย่างหนักหน่วง ความเกลียดชังของเฉิงอี้เฉินทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ แต่ฉันก็รู้ดีว่าในที่สุดฉันก็มีโอกาสที่จะถอยห่างจากเขา
ทั้งหมดนี้เป็นแผนของเฉินตงหลี ฉันไม่ได้ทำให้เด็กแท้ง หมอที่เพิ่ง "ผ่าตัดทำแท้ง" ก็เป็นหมอที่เฉินตงหลีเตรียมไว้ เขามีธุรกิจในอำเภอเล่อ ดังนั้นเขาจึงรู้จักพื้นที่นี่ดีกว่า เฉิงอี้เฉินและหาคนรู้จักได้ไม่ยาก
แน่นอนว่าฉันใช้ยาชาจริงแต่ปริมาณของยาชาไม่มากนัก มันจะทำให้ฉันดูอ่อนแรงลงเท่านั้น เพื่อลดช่องโหว่ที่จะเกิดข้อผิดพลาด ส่วนคราบเลือดที่เฉิงอี้เฉินเห็นนั้นเป็นคราบเลือดของผู้หญิงที่เพิ่งออกจากห้องผ่าตัดเมื่อกี้ เมื่อเฉิงอี้เฉินเห็นเช่นนั้นเขาก็เลยคิดว่าฉันได้รับการผ่าตัดจริงๆ
ฉันนอนพักในห้องผ่าตัดสักพัก เฉินตงหลีให้คนนำชีวิตที่ไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็น "เด็กทารกในครรภ์"ไปฝัง หลังจากนั้นฉันก็ออกไปพร้อมกับกับเฉินตงหลีและรีบตรงไปที่สนามบิน ในกระบวนการทั้งหมดเฉิงอี้เฉินก็ไม่เคยปรากฏตัวอีกเลย
ฉันนั่งอยู่บนเครื่องบินมองไปด้านนอกที่ค่อยๆเลือนราง ในหัวของฉันก็เต็มไปด้วยความว่างเปล่า
ฉันว่าเฉิงอี้เฉินต้องเกลียดฉันมากแน่ๆ ถ้าฉันได้เจอเขาอีกครั้งจะเป็นยังไงกันนะ?
การที่ฉันเลือกออกมาจากชีวิตเฉิงอี้เฉินอย่างเจ็บปวดและยากลำบาก ฉันไม่รู้เลยว่าฉันทำถูกหรือเปล่า ในตอนนี้ฉันแค่อยากจะหนีออกไปให้ไกลเท่านั้นเอง
เครื่องบินลงจอดอีกฟากหนึ่งของมหาสมุทร ทุกอย่างดูแปลกมากสำหรับฉัน ฉันอยู่ในสถานที่ที่เฉินตงหลีจัดให้เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของที่นี้ บางทีอาจเป็นเพราะความไม่คุ้นเคย อาการป่วยของฉันเลยรุนแรงขึ้นอย่างมาก ฉันอาเจียนด้วยความคลุมเครือเป็นเวลาหลายวัน และไม่สามารถกินอะไรได้เลย
เฉินตงหลีหาพี่เลี้ยงมาเพื่อดูแลฉัน พาฉันไปโรงพยาบาลหลายครั้งและพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อบรรเทาอาการป่วยของฉัน ฉันรู้ว่าเฉินตงหลีปฏิบัติต่อฉันดีกว่าเพื่อนทั่วไปฉันรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่รู้จะปฏิเสธอย่างไร
ตอนนี้ฉันเหมือนคนจมน้ำที่จะต้องจับท่อนไม้ที่ลอยอยู่ให้ได้ และเฉินตงหลีก็เป็นดั่งท่อนไม้ท่อนนั้น
ฉันคิดว่าฉันทำได้แค่รอให้สุขภาพของฉันดีขึ้นและทำงานอย่างหนักเพื่อตอบแทนบุญคุณของเฉินตงหลี
โชคดีที่หนึ่งสัปดาห์ต่อมาสภาพร่างกายของฉันค่อยๆดีขึ้นและฉันเริ่มเรียนรู้การค้านำเข้าและส่งออกภายใต้การจัดการของเฉินตงหลี ในระหว่างนั้นฉันได้ติดต่อหลินปิงชิง เธอรู้สึกประหลาดใจอย่างมากที่ได้ข่าวจากเฉิงอี้เฉินว่าฉันทำแท้งแล้ว ฉันไม่ได้บอกหลินปิงชิงว่ามันเป็นแค่แผนการหลอกลวง เพราะก่อนหน้านี้เฉิงอี้เฉินก็รู้เรื่องการตั้งครรภ์ของฉันจากหลินปิงชิง
สำหรับเรื่องนี้ฉันไม่โทษหลินปิงชิงอยู่แล้วเพราะฉันรู้ว่าเธอก็ทำเพื่อฉัน อยากให้โอกาสในความสัมพันธ์ของฉันกับเฉิงอี้เฉินเกิดขึ้นอีกครั้ง ตอนนี้ฉันไม่มีทางออกอื่น ทำได้เพียงขอให้ถ้าเธอมีเวลาช่วยดูแลแม่ของฉันเท่านั้น
หลังจากตอนนั้นแม่ไม่รู้เลยว่าระหว่างเรื่องของฉันกับเฉิงอี้เฉินเกิดอะไรขึ้นบ้าง เธอคิดว่าฉันมาต่างประเทศเพื่อเรียนด้วยความคิดที่ว่าฉันจะได้คู่ควรกับเฉิงอี้เฉิน ดังนั้นเรื่องโกหกนี้หลินปิงชิงต้องช่วยฉันเพื่อความราบรื่น
ในไม่กี่เดือนฉันก็เข้าใจเกี่ยวกับงานด้านการค้านำเข้าและส่งออก เฉินตงหลีให้ฉันทำงานเป็นผู้จัดการในสาขาแห่งหนึ่ง ฉันจัดการกับงานต่างๆทั้งที่ท้องฉันก็โตขึ้นทุกวัน ออกไปหาลูกค้าทุกๆที่ การดำเนินงานของสาขานั้นมีประสิทธิภาพขึ้นอย่างมาก พนักงานของบริษัทที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของฉันก็หันมาชื่นชมฉันมากขึ้น
เฉินตงหลีเอาแต่บอกฉันว่าอย่าเพิ่งหมดหวัง แค่ฉันคิดถึงสิ่งที่ซ่งเสวี่ยเหมยพูดอยู่เสมอ ฉันจะต้องทำให้ได้
เนื่องจากวันครบกำหนดคลอดของฉันใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ เฉินตงหลีเอาแต่พูดให้ฉันลาคลอดซ้ำแล้วซ้ำเล่า ฉันเห็นด้วยกับเฉินตงหลี อีกทั้งฉันก็ท้องลูกแฝดด้วย ท้องของฉันใหญ่เกินไป เคลื่อนไหวก็ไม่ค่อยสะดวกนัก
แม้ว่าฉันจะพยายามอย่างเต็มที่ แต่ฉันก็ไม่เคยคิดที่จะประมาทเรื่องความปลอดภัยของฉันกับลูก ๆ เพียงแต่ว่าก่อนที่จะลาคลอดฉันไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นกะทันหัน