รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 60 เอาเด็กออก
เฉิงอี้เฉินเคยบอกฉันก่อนจะทำอะไรต้องพิจารณาผลลัพธ์
ตอนนี้ที่เฉิงอี้เฉินพูดคำนี้คืออ่อนโยนมาก พูดตามจริง เคยอ่อนโยนมากแค่ไหนก็ไม่เป็นที่น่าประทับใจ
ไม่งั้น ตอนที่ถือกรรไกรแทงหน้าตัวเองทำไมไม่ไตร่ตรองผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นล่ะ?
ตอนนี้หน้าของฉันก็ได้เสียโฉมแล้ว แต่ฉันยังคงจะออกจากการควบคุมของเฉิงอี้เฉินได้ กลับกันยิ่งทำให้เคืองเขาขึ้นอีก
"ลั่วอีอี เธอท้องลูกของฉันอยู่ อย่าคิดแม้จะไปไหน"
เสียงดุๆของเฉิงอี้เฉินได้ดังขึ้นข้างหูฉัน ฉันกัดปากแน่น ตอนนี้ก็อยากจะทำลายลูกในท้องจริงๆ ฉันได้เอามือเย็นๆวางที่ท้องน้อยตลอด จะใช้แรงทำก็ทำไม่ลงแม้แต่น้อย
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองอาลัยอาวรณือะไร แต่คิดถึงลูกในท้องอาจจะได้รับอันตราย ฉันตื่นเต้นมาก อาจจะเป็นเพราะเคยสูญเสียลูกในท้องแล้ว ฉันได้แต่บอกตัวเองในใจ
"ตึงตึงตึง….."เสียงเคาะประตูดังขึ้น ยังไม่ได้ให้ฉันกับเฉิงอี้เฉินตอบ ประตูห้องก็ได้ถูกเปิดออก
"ประธานเฉิง ผมขอคุยกับอีอีสักครู่" เสียงที่คุ้นเคยดังขี้น ฉันหันหน้าไปดู หน้าของเฉินตงหลียังมีแผลอยู่
ฉันโทษตัวเองทัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน เขาคงไม่ถูกเฉิงอี้เฉินต่อย
เฉิงอี้เฉินได้เห็นตัวเขาความเย็นก็ได้ระเบิดแรง "ไปให้พ้น"
เฉินตงหลีไม่ได้ขยับ เพียงแค่มองเฉิงอี่เฉินเงียบๆ "ถ้าหากคุณอยากให้อารมณ์อีอีฮึกเหิมขึ้น คุณก็ไปให้พ้น คุณดูไม่ออกหรอ เธออยากเห็นหน้าคุณไหม?"
ฉันรู้สึกวุ่นวายใจ ไมรู้ว่าเฉินตงหลีหาฉันมีเรื่องอะไร แต่ความโกรธของเฉิงอี้เฉินไม่มีใครจะทดได้ ฉันทำให้เขาบาดเจ็บ ไม่สามารถทำให้เขาถูกเฉิงอี้เฉินเกลียดชังไปได้
"คุณเฉิน ฉันขอโทษที่เป็นเหตุให้คุณได้รับบาดเจ็บ"ฉันขอโทษเขา เหลือบมองเฉิงอี้เฉินพูด "ฉันกับเขาไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไรกัน เขาไม่ใช่แฟนฉัน ก่อนหน้านั้นที่พูดไปเพราะฉันกำลังโกรธคุณ อยากให้คุณปล่อยฉันไป ดังนั้นขอให้คุณไม่ต้องไปทำร้ายคนที่ไม่ผิดเลย"
ฉันพูดไม่ได้ประชด "ถ้าคุณไม่เชื่อล่ะก็ ไปสืบดูได้ อย่างคุณจะไปสืบเรื่องฉันกับเขามีความสัมพันธ์กันไหมก็คงไม่ยากหรอก หรือว่าคุณได้สืบดูแล้ว?"
พูดคำนี้ออกไป ฉันยิ่งเชื่อมั่นเฉิงอีเฉินได้คงเคยไปสืบค้นเฉินตงหลีแล้ว เขาสงสัยมากแบบนี้ อยากให้เรื่องราวทุกอย่างในมือได้กระจ่างสักที หลังจากฉันได้หย่ากับเขาการกระทำใดก็อยู่ในมือเขา ฉันเจอกับเฉินตงหลีตอนไหน เฉิงอี้เฉินจะไม่แน่ชัดหรอ?"
"คุณเฉิน คุณไปเถอะ ไปตอนนี้อาจยังไปขึ้นเครื่องทัน…."ฉันมีเรื่องที่ไม่เข้าใจ แต่ฉันรู้เฉินตงหลีต้องไปต่างประเทศ ถ้าถ่วงจนเสียงานเขาไป ฉันคงไม่มีปัญญาชดให้เขาแน่ๆ
แต่ว่า เฉิงตงหลีได้หัเราะ ยังมองที่เฉิงอี้เฉิน"ท่านประธานเฉิง ผมอยากคุยกับอีอีสักครู่ ถึงแม้จะเป็นสามีภรรยา แต่ก็ให้ความเคารพอีกฝ่าย ให้พื้นที่ว่างซึ่งกันและกัน คุณว่าถูกไหม?"
ฉันพูดอย่างเจ็บใจ พูดอย่างเย็นชา "เราไม่ใช่สามีภรรยา"
เฉิงอี้เฉินถูกฉันพูดขึ้น มองฉันด้วยสายตาลึกๆหน้าเฉยๆออกไป
"เปิ้ง"เสียงประตูดัง ประตูห้องได้ถูกเฉิงอี้เฉินปิดอย่างแรง ฉันสั่นโดยไม่รู้ตัว แต่มันเพราะเฉิงอี้เฉินได้ออกไปแล้วถอนหายใจเบาๆ
ฉันไม่คิดว่าเฉิงอี้เฉินจะให้ฉันกับเฉินตงหลีได้คุยกันสองต่อสอง แต่ว่าพอคิดออกอีกที เขาคือชอบใบหน้าของฉัน ฉันไม่จำเป็นต้องทำเรื่องให้เขาสนใจ ตอนนี้หน้าฉันได้พังแล้ว อาจเป็เพราะลูกในท้องของฉันแน่
"ขอโทษนะ…." ฉันมองเฉินตงหลี ขอโทษด้วยความเต็มใจ
เฉินตงหลีคงยังยิ้มอย่างอบอุ่น "ไม่เป็นไร แค่แผลภายนอก"
เขาได้ลากเอาเก้าอี้มานั่งข้างเตียง "คุณจะทำยังไงต่อไป?"
ฉันส่ายหน้า "ฉันก็ไม่รู้ ตอนนี้ฉันท้องอยู่ เขาคงไม่ยอมปล่อยฉันง่ายๆแน่ ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรื่องนี้กับคุณเลยทำให้คุณต้องลำบากมาด้วย"
ระหว่างผมกับคุณจะมาพูดคำที่เกรงใจอะไรกัน"
เฉินตงหลีพูดออกมา ฉันอึ้งสักพัก ใต้จิตสำนึกได้อยากละเว้นคำพูดที่คลุมเครือนี้พวกนี้ "คุณรีบไปสนามบินป่ะ เครื่องยังสามารถ…."
"เรื่องไปต่างประเทศไม่เร่ง ผมได้ให้เลขาเปลี่ยนให้ใหม่แล้ว"เขาพูดตัดคำพูดฉัน สายตายังมองมาที่ฉัน ทันใดนั้นได้พูด"อีอี คุณอยากไปไหม?"
ใจฉันเต้นเร็วมากอย่างบอกไม่ถูก หรือว่าเขามีวิธีทำให้ฉันออกไปได้?
หลังจากนั้นได้คิดขึ้นว่าไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้อยากรีบเร่งออกไปจากเฉิงอี้เฉิน หรือว่าฉันพอแล้วจริงๆกับความรู้สึกด้อยค่าเสมอ ข้อเท็จจริง การออกไปจากเฉิงอี้เฉินเป็นเรื่องที่ดีที่สุด
"คุณมีวิธีไหนไหม?" ฉันมองข้ามคำเรียกที่สนิทกันของเขา ใจคิดว่าเขาต้องมีวิธีพาฉันออกไปจากเรื่องนี้
เฉินตงหลีพยักหน้า สายตาค่อยๆมองลง กั้นด้วยผ้าห่มฉันรับรู้ได้ถึงเขากำลังมองไปที่ท้องน้อยของฉัน ใจฉันอึดอัดขึ้นทันที
"เฉิงอี้เฉินเป็นคนที่หยิ่งมาก พฤติกรรมของคุณวันนี้ที่ได้ตบไปที่หน้าเขา เพียงแค่คุณเอาเด็กออก เขา…"
"ไม่ได้!"ฉันพูดออกจากภายใต้สำนึก มองเตือนเฉินตงหลี
นึกไม่ถึงเขาอยากจะให้ฉันเอาเด็กออก?!
ฉันจ้องเขา ขณะนั้นฉันรู้สึกกลัวเล็กน้อย เพียงคิดว่าเขาเหมือนเป็นเพชฌฆาตที่จะมาเอาชีวิตลูกของฉันไป
เฉินตงหลีอึ้งไป อาจจะคิดไม่ถึงว่าฉันจะมีปฏิกริยาแรงอย่างนี้ แต่ในสายตาเขาได้มีความประหลาดใจ ได้กลับมาสงบลงทันที ฉันแค่รู้สึกว่าในสายตาของเขาแสดงออกมากอย่างผิดหวังกับเหงา
"ความหมายผมไม่ได้อยากให้คุณเอาเด็กออกจริงๆ"
ฉันอึ้งไปสักพัก ขมวดคิ้วไปโดยไม่รู้ตัว "คุณหมายถึงอะไร"
"อีอี ผมช่วยคุณได้" เสียงเขาต่ำลง สายตามองฉันอย่างจริงใจ
ฉันสังเกตหัวใจของเอาเต้นเร็วเรื่อยๆ ในที่สุดก็ได้พยักหน้า
เฉิงอี้เฉินไม่ได้ให้เวลานานมากก็หมดความอดทนได้มาเคาะประตู เพียงตอนนี้เฉินตงหลีได้พูดแผนของเขาหมดเสร็จ ได้ฟังเสียงเคาะประตูดังขึ้น เฉินตงหลีก็ได้ยิ้มขึ้นให้กับเฉิงอี้เฉินแล้วออกไป
ฉันมองสีหน้าที่หม่นหมองมากของเฉิงอี้เฉิน คิ้วก็ได้ขมวดแน่น ไม่รอเขาเดินเข้ามาข้างหน้า ฉันก็ได้จับเตียงลุกขึ้นนั่ง "เฉิงอี้เฉิน เรามาคุยกันหน่อยนะ"
เขาขวมดคิ้ว พยักหน้าให้ฉัน "คุยอะไร?"
"คุยเรื่องที่คุณจะยอมปล่อยฉันไป" น้ำเสียงฉันเย็นชา ได้จับผ้าปูที่นอนไว้แน่น ในใจปวดเหมือนมีเข็มทิ่มแทง
"อีอี" เขาขมวดคิ้ว "อย่าล้อเล่นได้แล้ว เมื่อวานที่ผมไม่รั้งคุณไว้ เพียงอยากให้คุณสงบจิตใจลง คุณไม่คิดว่าอารมณ์โกรธของคุณมันไม่มีเหตุผลเลยหรอ?
เขาคิดว่าฉันโกรธแบบไม่มีเหตุผล?
"คุณคิดว่าฉันโกรธแบบไม่มีเหตุผล?ได้ งั้นทำไมคุณไม่บอกเรื่องของฉู่เจียอี๋กับฉัน?ทำไมยังเอารูปของพวกคุณเก็บไว้ในลิ้นชักในห้องหนังสือ?อีกอย่าง คุณไม่ใช่ไม่มีเวลากลับบ้านมาเอาของหรอ?ทำไมถึงต้องรีบกลับมาเอา?ก็คือกลัวฉันจะไปเห็นรูปของฉู่เจียอี๋ใช่ป่ะ!
ฉันจองเฉิงอี้เฉิน คำพูดที่ฉุกระหุดพวกนั้นทำให้เฉิงอี้เฉินพูดไม่ออกทันที ฉันกัดริมฝีปากแน่น "เฉิงอี้เฉิน ฉันจะเอาเด็กออก คุณปล่อยฉันไป"