ซ่งเสวี่ยเหม่ยตกใจ ได้โยนเช็คใส่หน้าฉันอย่างแรง
"เธออย่าคิดว่าจะเหมือนสองห้าแปดหมื่น อย่าลืมค่ารักษาแม่เธอเป็นใครที่ออกให้ ถึงตอนนี้ก็ยังใช้เงินของตระกูเฉิงอยู่ เธอไม่คิดว่าน่าอาย?
ฉันได้กัดริมฝีปากอย่างแรง กลิ่นคาวเลือดกระจายอยู่ในปาก
ก็ใช่ เธอพูดไม่ผิด ฉันใช้เงินตระกูลเฉิงมาตลอด เริ่มแรกฉันก็ไม่ได้รับความสัมพันธ์ที่เท่าเทียม เป็นฉันที่โง่ โง่ที่คิดว่าเฉิงอี้เฉินรักฉันจริงๆถึงได้ดีกับฉันอย่างนี้
"ลั่วอีอี ฉันจะบอกเธอข้อนึง คนจะหยิ่งก็มีได้ แต่แยกแยะเวลาให้เป็น ก็อย่าไม่รู้จักชั่วดี" น้ำเสียงทุ่มๆของซ่งเสวี่ยเหม่ย มีความโกรธเล็กน้อย แต่ยังคงรู้สึกโดนคุกคามออกมา
เธอมองฉัน "เงินนี้จะรับหรือไม่รับก็แล้วแต่เธอ แต่ถ้าฉันเป็นเธอ ฉันจะรับมัน คนเราไม่ตามตัวเองก็ไปไม่รอด แม้แต่การใช้ชีวิตมีปัญหา พูดถึงการเคารพตัวเองมันก็ยังเป็นเรื่องน่าขำ"
"มีความสามารถเธอก็ควรรับเงินนี้ไปใช้ชีวิตที่สบาย อย่าบอกฉันนะว่าอยู่กับอี้เฉิงตั้งนาน เรื่องอะไรก็ทำไม่ได้"
ฉันอึ่งไปสักพัก มองซ่งเสวี่ยเหม่ยอย่างตลึง
คำพูดเธอหมายถึงอะไร?กำลังชักชวนฉันหรอ?หรือว่ากำลัง…สั่งสอนฉัน?
ท่าทางซ่งเสวี่ยเหม่ยไม่เหมือนก่อนหน้านั้น ในหัวฉันยุ่งเหยิงไปหมด และคำพวกนั้นที่เธอได้พูดออกมาไม่เหมือนครั้งก่อนนั้นที่มีการเหน็บแนมฉัน ยังอยากจะสอนบางอย่างให้ฉันจริงๆ
เพียงแค่มองตาฉัน ซ่งเสวี่ยเหม่ยไม่พูดอะไร ได้แต่ถือเอากระเป๋าตัวเองเดินเข้าไปห้องหนึ่ง
ฉันนั่งอยู่ที่โซฟาทั้งคืน เช็คใบนั้นก็ได้แต่นอนนิ่งๆอยู่บนโต๊ะ ฉันได้คิดมาก ในที่สุดได้เอาเช็คใบนั้นใส่กระเป๋า ไม่นานได้รู้เรื่องหนึ่งที่ทำให้ฉันคิดได้ว่าฉันตัดสินใจถูกแล้วที่รับเช็คใบนี้ไว้ เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้
ซ่งเสวี่ยเหม่ยได้ให้ยี่สิบล้านหยวน เงินจำนวนนี้ฉันสามารถใช้ชัวิตอยู่ดีกินดีไปตลอด แต่ฉันได้คิดคำพูดของซ่งเสวี่ยเหม่ย ฉันอยากจะใช้ชีวิตให้สบายให้เธอดู ให้คนที่ดูถูกฉันได้เห็น
วันที่สองตอนเช้าซ่งเสวี่ยเหม่ยก็ได้พาฉันไปที่อำเภอ ไม่กังวลเฉิงอี้เฉิงจะมาหรือไม่ คิดว่าเขาจะง้อให้ฉันกลับไปหาเขาไหม ถ้าเขาง้อล่ะ ฉันจะทำยังไง?
บอกตามตรง ฉันกำลังเสียใจที่กับเรื่องที่ฉันตัดสินใจทำไปเมื่อวาน ตอนนี้ฉันยังเสียใจ แต่ฉันรู้ว่าตัวเองไม่เหมาะกับเฉิงอี้เฉิน ฉันไม่แน่ใจว่าถ้าเฉิงอี้เฉินได้พูดกับฉันดีๆฉันจะยังหนักแน่นเหมือนเมื่อวานได้ไหม ฉันก็กลัวว่าตัวเองจะพูดกลับไปกลับมาทำให้ตัวเองตกอยู่ในห้วงของความเจ็บปวด
หรือว่า ทุกอย่างฉันคิดมากไป
เฉิงอี้เฉินมาอำเภอตรงเวลา เขาก็ไม่ได้พูดอะไรกับฉัน ก็ได้เดินเข้าไป ทำเหมือนฉันเป็นอากาศ ใจฉันอืดอาด ซ่งเสวี่ยเหม่ยก็ได้เร่งให้ฉันรับไปทำการอย่า
พวกเราเป็คู่แรกของวันที่ไปทำการอย่า ทุกอย่าเรียบร้อย ดูทะเบียบสมรสในมือได้กลายเป็นใบหย่า ฉันรู้สึกใจล่องลอย
"ผมไปบริษัทแล้วนะ เรื่องต่อไปแม่จัดการเลย"สีหน้าเฉิงอี้เฉินเรียบนิ่งพูดกับซ่งเสวี่ยเหม่ย พอเสร็จก็ได้ขึ้นรถไป เริ่มเองจบเองจะมองฉันเขายังไม่มองเลย
น้ำตาของฉันก็ได้ไหลออกมา
ที่แน่ๆฉันทำไม่ได้ที่จะไม่เสียใจ เฉิงอี้เฉิงก็ไม่น่าจะทำเหมือนคนไม่มีความรู้สึก หรือจะเป็นเพราะใบหน้าฉันเขาถึงจะอยู่กับฉัน แต่วันที่ได้อยู่ด้วยกัน ยังมีความอบอุ่นของเขาติดอยู่ หรือว่าไม่หลงเหลืออยู่ในใจของเขาหรอ?
ไม่มีใครจะให้คำตอบฉันได้่ ฉันเองก็ไม่สามารถจะไปถามเฉิงอี้เฉิน
ซ่งเสวี่ยเหม่ยมองฉันร้องไห้ที่อารมณ์ซับซ้อน ถอนหายใจแล้วถามฉันจะกลับอำเภอเล่อไหม
แม่ฉันอยู่อำเภอเล่อ ตอนนี้ฉันต้องการจะกลับไป แค่ไม่อยากให้ซ่งเสวี่ยเหม่ยไปส่ง
ฉันโทรไปหาหลินปิงชิงเพื่อนัดพบ ซ่งเสวี่ยเหม่ยมองฉันไม่ด่าไม่ว่า ก็ได้ออกไป ก็ได้พาฉันไปส่งที่ร้านกาแฟ
ฉันหาที่นั่งตรงหน้าต่างแล้วได้สั่งกาแฟหนึ่่งแก้ว ราคาที่นี้สูงมาก ฉันไม่เคยมาที่แบบนี้เลย แต่เป็นที่ที่เฉิงอี้เฉินชอบมาบ่อยๆ
ใช่ ฉันตั้งใจเลือกมาที่นี้ ตอนนี้ฉันอยากลองดูว่าอะไรคือชีวิตที่ฉันแตะต้องไม่ได้
"อีอี มีอะไรหรอ?ทำไมมาที่แพงจัง"หลินปิงชิงอดที่จะถามไม่ได้
เธอมองเห็นสภาพฉันก็ได้ตกตลึง ถามฉันอย่างระวัง"เธอเป็นอะไร?ร้องไห้ทำไม?"
ฉันได้ยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา หัวเราะพูด"อยากดื่มอะไร?สั่งได้เลย"
ฉันเอาเมนูให้หลินปิงชิง คิ้วของเธอได้จับเป็นปม "อีอี เกิดอะไรขึ้น?"
"ฉันกับเฉิงอี้เฉินอย่ากันแล้ว"
"อะไรนะ?อย่าแล้ว?"หลินปิงชิงได้ลุกขึ้นมองฉันอย่างตกใจ แล้วได้รีบนั่งลง
เธอได้จับมือฉันพูดด้วยนำเสียงโทนต่ำ ในสายตาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล"เรื่องเป็นมายังไง?เพราะเรื่องขอแต่งงานครั้งก่อนหรอ?เธอไม่ใช่บอกว่า พวเเธอคุยกันเรียบร้อยแล้วหรอ?"
ขอแต่งงานวันนั้นหลินปิงชิงก็อยู่ด้วย ดังนั้นวันที่สองได้ตกลงแต่งงานกับเฉิงอี้เฉินก็ได้บอกข่าวดีกับเธอ ฉังถึงได้เข้าใจหลินปิงชิงตกใจมากที่ได้ยินเรื่องที่ฉันกับเฉิงอี้เฉินอย่ากัน ก่อนนั้นไม่นานเฉิงอี้เฉินยังเตรียมเซอร์ไพรส์ให้ฉัน วันก่อนนั้นเฉิงอี้เฉินเร่งรัดจัดเตรียมงานแต่งของเรา
น่าเสียดาย ทุกอย่างนี้ไม่ได้ทำเพื่อฉัน
"ไม่ใช่เรื่องนั้น ฉันแค่รู้ว่า คนที่เฉิงอี้เฉินชอบไม่ใช่ฉัน"ฉันหัวเราะฝืดๆ "เธอรู้จักฉู่เจียอี๋ไหม?"
มือของหลินปิงชิงสั่น ใจฉันก็ได้รุ้สึกไม่ดีออกมามองเธอแบบไม่รู้ตัว
"เธอรู้จักเขา"ประโยคนี้ฉันมีน้ำเสียงที่แน่นอน
ในใจเวลานี้เหมือนทะเลที่มีพายุ พูดแล้วก็ใช่ ครอบครัวหลินปิงชิงกับครอบครัวของเฉิงอี้เฉินคบกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ มี่แท้ฉู่เจียอี๋คือผู้หญิงที่เฉิงอี้เฉินชอบมากคนนั้น หลินปิงชินจะไม่รู้เรื่องของเขาได้อย่างไร?
งั้น หลินปิงชิงรู้ไหมว่าหน้าฉันเหมือนฉู่เจียอี๋ หรือว่าเพราะอันนี้ ถึงสนใจฉัน?เข้ามาเป็นเพื่อนกับฉัน?
ใจฉันช็อค ได้ดึงมือกลับอย่างงง ตื่นตกใจมองหลินปิงชิง ร่างกายรู้สึกเย็นไปถึงกระดูก
ลูกตาของหลินปิงชิงก็โต "อีอี อย่าคิดมาก ถึงฉันจะรู้จักฉู่เจียอี๋ แต่ฉันก็ไม่ไ้สนิทกับเขา ก็ไม่เคยหน้ากัน"
"เธอรู้ไหมว่าเขาหน้าตาเป็นยังไง?"ฉันพูดอย่างผิดหวัง น้ำเสียงที่สั่น
หลินปิงชิงมองฉันนาน น้ำตายิ่งหยุดไม่อยู่
ทำไม?ทำไมหลินปิงชิงก็รู้ว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่บอกฉันเลย?
ทำไม?ทำไมคนอยู่รอบข้างฉันถึงรู้ฉู่เจียอี๋มีตัวตน มีแค่ฉันคนเดียวที่ถูกปิดไว้ในที่มืด?
จิ้นเหวินเชี่ยนบอกมีหน้าตาเหมือนกับฉู่เจียอี๋คือความโชคดีของฉัน แต่ทำไมฉันรู้สึกว่านี้เป็นภัยพิบัติของฉัน
ฉันให้คุณค่ากับมิตรภาพ ความรัก แม้เป็นการแต่งงานฉันกับจวิ้นเฟย ก็ถูกห่อหุ้มด้วยเงาของฉู่เจียอี๋
MANGA DISCUSSION