รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 52 กลัวเสียหน้า
ในใจเจ็บปวด น้ำตาก็ได้ไหลออกมาอีกรอบ "ฉันไม่ได้ ฉันเพียงแต่อยากออกไป ขอร้องล่ะ…."
พูดจริงนะ ฉันไม่รู้ว่าตอนนี้เฉิงอี้เฉินมองฉันด้วยความรู้สึกอะไร แต่ฉันไม่รู้จะเผชิญหน้ากับเขายังไง
ก่อนหน้านั้นฉันพูดถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ไม่ต้องหลบหลีก ต้องกล้าที่จะเผชิญหน้า แต่นอนนี้ฉันก็เหมือนนกกระจอกเทศตัวหนึ่ง เพียงแต่อยากจะเอาหัวฝังลงไปในดิน ไม่ต้องเผชิญกับเรื่องอะไร
แยกทางกับเฉิงอี้เฉิน จะเป็นคำตอบที่ฉันเลือกแล้ว
"อีอี"เฉิงอี้เฉินขมวดคิ้ว ในดวงตาที่แฝงด้วยความเสียใจ
ใจฉันเหมือนมีเข็มมาแทง เขากำลังเป็นห่วงฉันหรอ?หรือว่าเป็นห่วงคนที่ใบหน้าเหมือนที่กำลังร้องไห้?
ความโกรธกับความเสียใจได้มาเวลาเดียวกัน ฉันพูดอย่างเย็นชา"ท่านประธานเฉิงคุณไม่จะเป็นต้องหาฉัน ฉัน
เคยหย่ามาแล้ว เคยแท้งมาแล้ว ครอบครัวฐานะแย่มาก ฉันรู้อยู่แก่ใจว่าไม่เหมาะกับคุณ"
"ฉันรู้ เพราะคุณชอบที่ใบหน้านี้ของฉัน"ฉันกัดฟันพูด
เงยหน้ามองเฉิงอี้เฉิน เวลานี้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาได้ถูกปกคลุมไปแล้ว ความโกรธก็ได้เพิ่มขึ้น
เขาโกรธอะไร?หรือที่โกรธเป็นเพราะคำโกหกได้ถูกเปิดออกมาแล้ว?ที่ฉันโดนโกหกตั้งนาล่ะคืออะไร?
"เฉิงอี้เฉินคุณรู้ว่าฉันเกลียดคุณมากทีสุดคืออะไรไหม?"ฉันมองเขาอย้างโกรธแค้น ในที่สุดก็ได้พูดคำว่า"เกลียด"ออกมา
ใช่ ตอนนี้ฉันกำลังเกลียดเขา และยังรู้สึกเกลียดมากว่าครั้งก่อนที่เขาไปทำให้งานแต่งฉันได้ถูกยกเลิก
"ถ้าคุณบอกฉันก่อน ว่าคุณชอบที่ใบหน้าของฉัน แล้วค่อยคุยกันเรื่องสัญญาฉันอาจจะรับมันได้ ถึงแม้ว่าฉันจน ฉันต้องการเงิน และยังต้องการพึ่งคุณไปแก้แค้นฉินจวิ้นเฟย!"ฉันพูดด้วยความประชด ในใจยังเดาแรกๆที่เขามาคุยกับฉันเรื่องสัญญา อาจจะเพราะใบหน้าของฉัน
"แต่ว่าเฉิงอี้เฉิง!ทำไมคุณไม่พูด?ทำไมต้องให้ฉันคิดว่าคุณชอบฉันจริงๆ?"
ฉันกรี๊ดดังๆในเขา เวลานั้นน้ำตาก็ไหลเหมือฝนกำลังตก
ก่อนหน้านี้ไม่นานฉันได้คุยเรื่องแต่งงานกับเฉิงอี้เฉินให้แม่ฟัง แม่ยังสนับสนุนให้ฉันตามไล่ความสุขของตัวเอง แต่ตอนนี้ความสุของฉันมันกลายเป็นการโกหกฉากนึง
"ลั่วอีอี!"
"เฉิงอี้เฉิน เราอย่ากันเถอะ"ฉันไม่สนใจคำพูดเย็นชาของเขา มองอย่างโกรธแค้น"ตอนนี้การศัลยกรรมกำลังเป็นที่นิยม คุณมีเงินตั้งมากมาย ถ้าชอบใบหน้าแบบนี้ คุณก็หาใครสักคนไปทำมันขึ้นมาก็ได้!"
ฉันพูดด้วยความโกรธแค้น ได้ลากกระเป๋าออกจากประตูไป
พึ่งเดินออกจากประตูก็ได้เห็นซ่งเสวี่ยเหม่ยกำลังยืนที่บนบันได เห็นได้ชักว่ากำลังจะเดินขึ้นมา
เฉิงอี้เฉินมองเห็นเธอก็ตกใจ "แม่ มาได้ยังไง?"
"ฉันเรียกมาเอง"ฉันพูดขัดเขา ยิ่งรู้สึกเจ็บใจมากขึ้น พูดขึ้นมาก็แฝงด้วยความเย็นชา
ฉันมองไปที่ซ่งเสวี่ยเหม่ย "รบกวนคุณพาฉันออกไปจากที่นี้ ใบหย่าฉันจะเซ็นตอนนี้"
ฉันเป็นห่วงว่าเฉิงอี้เฉินจะไม่ตกลง ดังนั้นระหว่าที่ซ่งเสวี่ยเหม่ยเดินทางมาที่คฤหาสน์ก็ได้บอกเธอแล้ว เธอต้องการให้ฉันอย่ากับเฉิงอี้เฉินถึงได้ตกลงช่วยฉัน
ซ่งเสวี่ยเหม่ยขมวดคิ้วมองมาที่ฉัน เหมือนกำลังสงสัยคำพูดเหล่านี้ว่าจะจริงหรือไม่จริง เฉิงอี้เฉิงจับแขนฉันไว้ มองฉันด้วยความโกรธ"หลัวอีอี เธอป้วนพอแล้วรึยัง?"
"ฉันป่วนหรอ?"
เริ่มเจ็บที่แขนขึ้นมาแม้แต่ฉันหายใจยังเย็นๆ ฉันจ้องเขาน้ำตาก็ได้ไหลออกมาอีกแล้ว
"เฉิงอี้เฉิน ฉันไม่เล่นกับคุณแล้วได้ไหม?คุณไม่ต้องเสแสร้งเอาความรู้สึกดีๆมาโกหกฉันแล้วได้ไหม? คุณเป็นแบบนี้…ทำให้ฉันคิดว่า คนที่คุณรักคือฉันจริงๆ!"
ฉันร้องไห้กรีดร้องออกมา ทั้งตัวได้อ่อนลงแบบไม่มีแรง เวลานี้ร้องให้อย่างปวดใจ
ทำไม?
ทำไมฉันได้แต่โดนผู้ชายโกหก?
ฉินจวิ้นเฟยโกหกฉัน เฉิงอี้เฉินก็จะโกหกฉัน แต่เทียบกันฉินจวิ้นมีใหม่แล้ว ตอนนี้ฉันเกลียดเฉิงอี้เฉินมากกว่า
ฉันที่ฉันลำบากมากที่สุดคือเฉิงอี้เฉินให้ความหวังกับฉัน ทำให้ฉันคิดว่าเขาคือสวรรค์ส่งอัศวินขี่ม้ามาช้วยฉน แต่ ก็คือเขา ที่ผลักฉันให้จมลึกลงไปกับความสิ้นหวัง
ซ่งเสวี่ยเหม่ยอึงไปสักพัก "อี้เฉิง แม่ก็รู้ว่าทำไมลูกถึงได้แต่งงานกับลั่วอีอี แต่ฉู่เจียอี๋ก็ได้เสียชีวิตไปตั้งหลายปีแล้ว ลูกก็คงจะดูออกแล้ว"
น้ำเสียงซ่งเสวี่ยเหม่ยมองออกว่ากำลังถอนหายใจ ใจฉันก็รู้สึกเจ็บปวดอีกรอบ ผู้หญิงคนนั้น ชื่อว่าฉู่เจียอี๋
เฉิงอี้เฉินเม้มปากแน่น ได้ดึงฉันอย่างแรง ฉันดิ้นอย่างแรงก็สะบัดออกไม่ได้ ในมจก็รีบยกมือขึ้นไปตบเขาหนึงครั้ง
เสียงดัง"เปี๊ยะ" เวลาเหมือนได้หยุดลงไป
"ลั่วอีอี เธอกล้าตบอี้เฉิง!ซ่งเสวี่ยเหม่ยตกใจพูดออกมา แล้วได้รีบเดินมาดูหน้าของเฉิงอี้เฉิน
สีหน้าของเฉิงอี้เฉินยิ่งเย็นชายังคงจบแขนฉันไว้อย่างแน่น"คุณเกลียดผมขนาดนั้นเลยหรอ?"
"ใช่ ฉันเกลียดคุณ!เกลียดจนอยากจะตีคุณให้ตาย!"ฉันกัดฟันพูด มองเขาไม่มีท่าทีจะถอย
เฉิงอี้เฉินมองฉันอย่างเย็นชาไม่นาน ใจฉันกังวล ทันไดเขาก็ปล่อยแขนฉัน
"ได้ ผมจะอย่าให้คุณ"
น้ำเสียงที่เย็นชาทำให้ใจฉันได้อึ้งทันที ฉัยไม่ได้ดีใจเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามฉันตื่นตกใจจนไม่มีคำจะบรรยาย
น้ำตาไหลอย่างไม่หยุด ฉันกัดปากแน่นไม่พูดอะไรสักคำ ซ่งเสวี่ยเหม่ยแสดงสีหน้าอย่างมีความสุข
"ใช่แล้ว อี้เฉิงลูกไปพักผ่อนก่อนเถอะ พรุ่งนี้ค่อยไปดำเนินการ"ซ่งเสวี่ยเหม่ยยิ้มพูดกับเฉิงอี้เฉิน ได้ตบไปที่แขน
ของเฉิงอี้เฉินอย่างเบาๆ สายตาของเขามองมาที่ฉันยังคงเต็มไปด้วยความรังเกียจ
"ไปเถอะ ฉันได้เตรียมที่อยู่ไว้ให้เธอแล้ว"
ฉันมองไปที่เฉิงอี้เฉินอย่างไม่รู้ตัว เหมือนไฟช็อตได้รีบเก็บสายตาตัวเองกลับมา
ลั่วอีอี หยุดโง่ได้แล้ว!ตั้งแต่ต้นจนจบเฉิงอี้เฉินรักนั้นไม่ใช่เธอ แต่เป็นเพียงแค่ใบหน้าของเธอ ใบหน้าของเธอมันเหมือนกับฉู่เจียอี๋!
คือเธอต้องเดินออกไป ตอนนี้เธอยังจะลังเลอะไรล่ะ?
ฉันหายใจลึกๆแล้วได้เดินตามซ่งเสวี่ยเหม่ยออกไป เธอได้เตรียมใว้ให้ในโรงแรมห้าดาว เหมือนจะแกล้งฉันเพราะเป็นโรงแรมที่ตอนนั้นฉันได้เคยพักกับฉินจวิ้นเฟย
หรือว่าจะกลับฉันกลับคำ ซ่งเสวี่ยเหม่ยไม่ได้กลับ เป็นห้องเพรสซิเดนที่กว้างขวางฉันได้เคาะฉันก้มลงนั่งที่โซฟา ซ่งเสวี่ยเหม่ยก็ได้นั่งอีกด้านแล้วได้มองมาที่ฉัน เหมือนอยากจะดูฉันให้ออกอย่างไงอย่างนั้น
"เธอกับฉันคิดไม่ค่อยจะเหมือนกัน"ซ่งเสวี่ยเหม่ยพูด
ฉันเม้มปากไม่พูด ไม่มีอารมณ์จะสนใจเธอ
เธอพูดต่อ"แท้จริงแล้ว ตั้งแต่เห็นหน้าเธอครั้งแรกฉันก็รู้เหตุผลของอี้เฉิงว่าทำไมชอบเธอ ฉะนั้นฉันแนะนำให้เธอออกไปจากเขา ก็เป็นผลดีต่อเธอ"
เป็นผลดีต่อฉัน?
ฉันคิดว่ามันน่าตลก พูดประชด "งั้นก็ขอบคุณมากๆ"
ซ่งเสวี่ยเหม่ยถูกฉันทำให้สำลักแล้วได้ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ได้หยิบเช็คออกมาจากกระเป๋าหนึ่งใบวางไว้ที่ข้างหน้าฉัน
"ตอนนี้จะอย่าก็ดี ก่อนหน้านั้นที่ฉันสัญญาก็ทำให้ได้แล้ว เงินนี้เธอเอาไว้ นับว่าเป็นเวลาดีๆที่ๆด้อยู่ด้วยกัน คำพูดอื่นก็อย่าพูดมั่วล่ะ"
ฉันมองไปที่เช็คเห็นตัวเลขเป็นพวงตกใจอึ้งสักพัก นี้คือซ่งเสวี่ยเหม่ยให้ค่าปิดปากฉันหรอ?
เมื่อกี้เธาพูกว่าฉันกับเธอคิดไม่เหมือนกัน ตั้งแต่แรกไม่ใช่จะเอาเงินมาฟาดหัวฉันหรอ?
หน้าฉันเต็มด้วยรอยยิ้ม เบ้าตาก็ชื้นขึ้น สายตาก็ได้มองไปที่ซ่งเสวี่ยเหม่ย ฉันพูดเป็นคำๆ"วางใจเถอะ ฉันไม่พูดแน่นอน ฉันกลัวพูดแล้ว….จะอายคน"