รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 5 พาคนกลับบ้าน
ฉันไม่เข้าใจเฉิงอี้เฉินเป็นใครกันแน่ แต่เห็นได้ชัดว่าครอบครัวของฉินจงหมิงหลังจากได้ยินชื่อนี้แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นตึงเครียด
เฉิงอี้เฉิน หยิบนามบัตรส่งมาให้ฉันหนึ่งใบ ฉันรับมาโดยไม่รู้ตัว
“เกี่ยวกับเรื่องการชดเชย คุณคิดให้ดีก่อนแล้วค่อยติดต่อผมมาก็ได้”
เฉิงอี้เฉินมองที่ฉัน แล้วกล่าวว่า "ขอโทษ" พยักหน้าให้หลินปิงชิงแล้วแยกตัวออกไปจากห้องพักผู้ป่วย ทุกๆขั้นตอนไม่ได้ทำให้ฉินจวิ้นเฟยดูได้ครึ่งหนึ่ง
ในห้องพักผู้ป่วยขณะนี้กลับมาเงียบมาก ฉันมองดูนามบัตรในมือตัวเอง ข้างบนไม่มีตำแหน่งที่ชัดเจน พิมพ์คำว่า “เฉิงอี้เฉิน” อย่างชัดเจนเพียงสามคำเท่านั้นและยังมีหมายเลขโทรศัพท์
“เขาจะเอายังไงต่อ? เงินล่ะ? เขาไม่ได้บอกว่าต้องการเงินเหรอ?” พ่อเลี้ยงได้สติกลับมาแล้วพูดอย่างกังวลใจ
จิตใจของฉันว้าวุ่น โชคดีที่ฉินจวิ้นเฟยไม่ได้บังคับให้ฉันคืนเงินในทันที เขาตกลงให้ฉันผ่อนชำระได้ แต่บังคับให้ฉันกลับบ้าน
จากคำพูดของฉินจวิ้นเฟย พวกเราสองคนยังไม่หย่ากัน เป็นเรื่องธรรมดาที่จะอาศัยอยู่ด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นฉันเป็นหนี้เงินสินสอดเขายังไม่ได้ให้ การให้ฉันอยู่ในบ้านก็สามารถเฝ้าดูฉันและลดความเสี่ยงที่ฉันจะหนีหนี้
พ่อเลี้ยงของฉันเมื่อได้ยินว่าไม่ต้องคืนเงินก็ยินดีเป็นธรรมดา ตบเบาๆที่หน้าอกแล้วรับปากว่าจะดูแลแม่ฉันเป็นอย่างดี เร่งให้ฉันกับฉินจวิ้นเฟยเลิกกันใม่หยุด
เมื่อกลับมาถึงบ้านของฉินจวิ้นเฟย ฉันรู้สึกเครียดมาก แต่ฉินจวิ้นเฟยก็ทำเหมือนกับฉันเป็นผู้บริสุทธิ์มาโดยตลอด จะดื่มจนเมามายทุกวันถึงจะกลับมา
ในระหว่างนั้นฉันใช้เวลาว่าแอบสืบค้นตัวตนของเฉิงอี้เฉินบนอินเตอร์เน็ต เมื่อเห็นข้อมูลในไป่ตู้ไป่เคอ ฉันก็ตกใจมาก
คาดไม่ถึงว่าเฉิงอี้เฉินจะเป็นประธานของกลุ่มเฉิงหมิน มิน่าล่ะฉินจงหมิง หลังจากได้ยินชื่อของเขาถึงได้ช็อคขนาดนั้น กลุ่มเฉิงหมินเป็นบริษัทข้ามชาติ และเป็นองค์กรชั้นนำของเมืองไห่ ครอบครัวของฉินจวิ้นเฟยเทียบไม่ได้กับโดยสิ้นเชิง
ฉันตกใจมากแต่ก็อดไม่ได้ที่จะคาดเดา หรือท่าทีที่เปลี่ยนไปของฉินจวิ้นเฟยที่มีต่อฉันจะเกี่ยวข้องกับฐานะของเฉิงอี้เฉิน
ชีวิตก็เหมือนกับความเงียบสงบก่อนเกิดพายุ ฉันลุ้นระทึกและกังวลใจทุกวันว่าฉินจวิ้นเฟยจะแตกหัก จนกระทั่งฉินจวิ้นเฟยพาผู้หญิงกลับมาบ้าน ฉันก็รู้ทันทีว่าเขาได้เริ่มแก้แค้นฉันแล้ว
ครั้งแรกที่เห็นฉินจวิ้นเฟยพาผู้หญิงกลับมา ฉันเหมือนพังทลายลงไป แต่ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนจากความตกใจในครั้งแรก จนถึงตอนนี้ฉันรู้สึกมึนงง ตัวฉันเองรู้สึกประหลาดใจและปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคำพูดของฉินจวิ้นเฟย เขาบอกว่าฉันนอกใจก่อน ทำไมเขาถึงจะทำไม่ได้?
ประโยคนี้ ฉันไม่มีแรงตอบโต้ ฉินจวิ้นเฟย ทำได้เพียงแค่ปล่อยให้ฉินจวิ้นเฟยทำเรื่องเหลวไหลนี้
แม่ฉันรู้เรื่องนี้แล้วก็ให้แนะนำให้ฉันอดทน เธอบอกว่าฉินจวิ้นเฟยตอนนี้กำลังโกรธฉัน ถึงอย่างไรเสียก็เป็นฉันที่ทำผิดก่อน ช่วงนี้ฉันก็ต้องอดทน รอฉินจวิ้นเฟยหายโกรธ พวกเราก็ขจัดความเกลียดชังเก่าๆแล้วผ่านมันไปด้วยดี
ถ้าฉินจวิ้นเฟยไม่อยากอยู่กับฉันจริงๆ ก็หย่ากันไปเสียเลยไม่ดีกว่าเหรอ?
เดิมทีจิตใจฉันสับสนวุ่นวายกับการพูดเกลี้ยกล่อมนี้ ดังนั้นในเดือนนี้ ฉันผ่านการตำหนิตัวเองและอับอายขายหน้ามาตลอดเวลา ในใจกลับรอคอยโดยตลอด หวังว่าหลังจากระบายความเกลียดชังฉินจวิ้นเฟยจะเปลี่ยนใจได้
แต่จนถึงคืนนี้ ฉันก็ได้รู้ว่าความคิดนี้มันไร้สาระมากขนาดไหน
ข้างนอกประตู เสียงออดอ้อนเป็นจังหวะนั้นเหมือนคำสาปที่มักจะเข้าหูฉันอยู่เสมอ ฉันจับผ้าห่มไว้แน่นคลุมหัวตัวเอง ในใจรู้สึกวุ่นวายมาก
ฉินจวิ้นเฟยพานางแบบ พาเน็ตไอดอล แล้วก็พานักศึกษาสาวกลับมา พวกนี้ฉันก็ทนได้ แต่ฉันคิดไม่ถึงว่าฉินจวิ้นเฟยจะพาคนที่ฉันรู้จักกลับมา
ไม่ผิดแน่ ฉินจวิ้นเฟยวันนี้กลับพาผู้หญิงคนหนึ่งกลับมา และผู้หญิงคนนี้ฉันรู้จัก เป็นจิ้นเหวินเชี่ยนเพื่อนร่วมงานของฉันในโรงพยาบาลนี่เองที่
ในใจของฉันสับสนวุ่นวาย ทันใดนั้น ประตูห้องของฉันถูกเปิดออกอย่างแรง วินาทีถัดมผ้านวมที่คลุมอยู่บนร่างกายก็ถูกเปิดออก