"อันนี้คือ….."ฉันมองของที่ว่างอยู่บนเตียง ฉันคว้ามันขึ้นมาทันที
มีอัลบั้มหลายฉบับไว้ไว้บนเตียง เป็นปกอัลบั้มที่มีนางแบบสวมชุดเจ้าสาวสวยๆไว้ แถมข้างในนั้นมีชุดเจ้าสาวเต็มไปหมด ผู้หญิงคนไหนเห็นเข้าก็ต้องตื่นเต้นกับสิ่งนี้
“นี้เป็นชุดเจ้าสาวที่ออกแบบโดยนักออกแบบชั้นนำ เธอลองเลือกดูว่าชอบสไตล์ไหน เดียวฉันจะหาดีไซเนอร์ตัดให้เธอ”
พอได้ยินแบบนี้ มือที่กำลังเปิดอัลบั้มหยุดชะงักเล็กน้อย เดิมทีที่ดีใจกลับหายไป เสียงของซ่งเสวี่ยเหมยและสวีเฟยเฟยดังขึ้นข้างหูทันที
ดีไซน์ของนักออกแบบชั้นนำ ราคาต้องไม่เบาแน่ๆ….
ฉันเผลอนึกถึง เค้กที่ราคาหมื่นกว่าบาทต่อปี และชาที่ราคาหนึ่งกิโลสามแสนสอง
ชุดแต่งานในวันนี้ก็เหมือนกับของพวกนั้น ทุกอย่างเป็นสิ่งของที่อี้เฉินคุ้นชินกับมันมานานแล้ว แต่กับฉันมันเป็นสิ่งที่เอื้อมแทบไม่ถึง
ฉันสามารถคิดสภาพตอนที่ใส่แล้วซ่งเสวี่ยเหมยมอง ฉันด้วยสายตาที่ดุดัน และฉัน ก็จะกลายเป็นคนที่รักเงินในสายตาพวกเขา
“อี้เฉิน ไม่จำเป็นต้องอลังการขนาดนี้…….”ฉันพูดออกมาด้วยไม่รู้ตัว
“อื้ม?”เขายักคิ้วแล้วเอามือมาโอบไหล่ฉันแล้วบอกข้างหูฉันว่า “เธอเป็นเมียฉัน มันก็ต้องจำเป็นสิ เธอจะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดแน่ๆ ”
“และอีกอย่าง ฉันจะทำให้ฉินจวิ้นเฟยเห็นตอนที่เธอแต่งงานกับฉัน ให้มันเสียใจตลอดชีวิตไปเลย”
ใจฉันแน่นไปแวบเดียว
เลิกกับฉินจวิ้นเฟย ฉันก็อยากให้เขาเห็นสภาพที่ฉันอยู่ดีเป็นสุข ยิ่งเป็นเวลาที่ได้รับการ์ดเชิญไปงานแต่ง ฉันก็เคยคิดว่าวันหนึ่งฉันจะเชิญเขามางานงานแต่งงานฉันอย่างภาคภูมิใจ
แต่ว่า…คำพูดเหล่านี้ของอี้เฉินกลับทำให้ใจฉันยิ่งยุ่งไปใหญ่
เสียงของเขาฟังดูหม่องๆ แต่พอฉันเงยหน้าเขากลับไม่เห็นสีหน้าใดใดเลย
“อี้เฉิน มันไม่จำเป็นจริงๆ ”ฉันถอนหายใจไปครั้งหนึ่ง “ฉันรู้ว่านายดีกับฉัน แต่ความดีที่เธอให้ฉันมันทำให้ฉันอึดอัด”
ฉันไม่สามารถใช้ของพวกที่เขาให้ฉันอย่างสบายใจได้ อาจเป็นเพราะคำพูดของซ่งเสวี่ยเหมยในวันนี้ทำให้ฉันคิดได้ขึ้นมา
เขามองมาทางฉันอย่าลึกซึ้ง เขาถอนหายใจแล้วดึงฉันเขาไปกอดไว้ “ฉันต้องการให้สิ่งที่ดีที่สุดให้เธอ เธอเข้าใจไหม?”
ฉันซึ้งมาก แต่กลับพูดอะไรไม่ออก อี้เฉินก้มลงมาจูบปากฉันเบาเบา”นอนเหอะ”
คืนนั้นฉันนอนท่ามกลางอกเค้า แต่ฉันกลับไม่รู้สึกสบายใจเลย ในฝันเหมือนมีมือกำลังบีบคอฉันไว้จนหายใจไม่ออก แววตาดูถูกของซ่งเสวี่ยเหมยและคำสาปแช่งของจิ้นเหวินเชี่ยน ทำให้ฉันเหงื่อท่วมตัว ฉันอ้าปากอยากจะตะโกนออกมา แต่ตะโกนยังไงก็ตะโกนไม่ออก รู้สึกแค่ว่าเจ็บคอและกระหายน้ำ
“อีอี ….ดื่มน้ำ…..”
เสียงที่คุ้นเคยดังข้างหูฉัน ฉันพยายามลืมตา สมองกลับเวียนหัวและหนักหัว น้ำที่อุ่นเข้าปาก ฉันกลืนมันแต่มันยิ่งทำให้ลำคอฉันเจ็บอย่างรุนแรง
ฉันเจ็บจนต้องขมวดคิ้ว อี้เฉินเอื้อมมือมาโอบฉันแล้วตบหลังเบาๆ ฉันนอนหลับไปอีกครั้ง
อาจเป็นเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน จนฉันไข้สูงทั้งคืน อี้เฉินบอกว่าเขารู้สึกฉันตัวร้อยเลยลุกขึ้นมาป้อนยาให้ฉัน
หลายวันที่อุณหภูมิฉันดีดีร้านร้าย ไปตรวจที่โรงพยาบาลกลับไม่มีปัญหาอะไร อี้เฉินเลยให้ฉันพักผ่อนอยู่บ้าน
ฉันไม่ได้ค้านอะไรเขา ช่วงนี้ฉันรู้สึกเหนื่อยเหมือนกัน เพื่อจะเอาโปรเจกต์กวางหมิงติ้ง ฉันแทบจะใช้ทุกนาทีทำงาน
ฉันคิดว่าฉันก็ควรให้วันหยุดกับตัวองบ้าง แต่ฉันกลับคิดไม่ถึง ว่าวันหยุดของฉันจะทำให้ฉันเห็นบางสิ่งที่ทำให้ฝันฉันพังทลาย
วันนั้นฉันได้รับสายของอี้เฉินให้ฉันหาเอกสารให้เขา ฉันหาเอกสารที่ลิ้นชักห้องสมุด ขณะที่เอาเอกสารขึ้นก็เผลอไปเห็นกรอบรูปในลิ้นชัก
เพราะความสงสัย ฉันมองไปที่ กรอบรูปอีกครั้ง แต่ว่าเมื่อเห็นรูปภาพข้างในเท่านั้น ฉันอึ่งจนพูดอะไรไม่ออก
ภาพข้างในเป็นรูปเด็กชายและเด็กหญิงคู่หนึ่งในเครื่องแบบปริญญาถือใบรับรองจบการศึกษาไว้ มือทั้งสองกอดกันด้วยรอยยิ้มที่ดูหวาน
คนในรูปคืออี้เฉินไม่มีผิด รอยยิ้มสมัยตอนนั้นยังดูเด็กๆ แต่กลับหล่อจนทำให้หันไปมองอย่างอื่นไม่ได้
แต่ว่า… ผู้หญิงในรูปที่อยู่ข้างอี้เฉิน ทำให้ฉันตะลึง
ผู้หญิงในรูปรอยยิ้มสดใส ตอนถ่ายรูปเขากำลังอยู่ในอกอี้เฉิน อี้เฉินมือหนึ่งจับใบจบ และอีกมือก็โอบเอวเธอไว้ สายตาตกอยู่ที่เธอ เป็นสายตาที่อบอุ่นมาก ซึ่งฉันไม่เคยเห็นมาก่อน
และที่สำคัญผู้หญิงในรูปก็คล้ายฉันมากๆ
ใจฉันกลับสั่นขึ้นมาทันที ผู้หญิงคนนี้คือใคร? เขาเป็นอะไรกับอี้เฉิน? ทำไมเธอเหมือนกับฉันขนาดนี้
“เธอดูอะไร”
น้ำเสียงที่เย็นชา ทำให้ฉันตกใจจนกรอบรูปตกลงพื้น แตกกระจายไปทั่ว
พอได้ยินเสียง “ตุ๊บ ”กรอบรูปก็แตกกระจายไปทั่วห้อง
อี้เฉินทำไมกลับมาบ้านละ เขาบอกว่าเขาไม่มีเวลากลับมาเอาหนังสือเซ็นสัญญา ดังนั้นให้ฉันหาแล้วเอาไปให้คนขับรถ
แต่ว่าอี้เฉินไม่รอฉันตอบเขา เขาตกใจแล้วรีบวิ่งเข้ามา ไม่พูดกับฉันสักคำโค้งตัวลงมาเก็บรูปบนพื้นด้วยสีหน้าบัดซบ
ฉันเห็นเขาที่เก็บรูปภาพอย่าระมัดระวัง แววตาที่ดำวาวบ่งบอกว่าเขารู้สึกเสียใจ
ฉันรู้สึกเจ็บใจขึ้นทันที ไม่รู้เป็นเพราะอะไร มันทำให้ฉันรู้สึกผิดและยุ่งเหยิงไปหมด
อี้เฉินกับผู้หญิงในรูปดูสนิทสนมกันมาก ความสัมพันธ์พวกเขาสองคนไม่มีทางธรรมดาแน่นอน
และอีกอย่างรูปนี้ว่างอยู่ที่โต๊ะทำงาน ถึงแม้รูปนี้จะว่างอยู่ที่ลิ้นชัก แต่ไม่มีวี่แววของฝุ่นเลย ไม่รู้ว่าตอนที่เขาอยู่คนเดียวเอาขึ้นมาดูกี่ครั้งกัน
ฉันสามารถบอกได้ว่าเขากับมาอย่างเร่งรีบก็เพราะกลัวว่าฉันจะเห็นรูปภาพนี้ ไม่งั้นคงไม่ดูกังวลขนาดนี้หรอก
“เธอพักผ่อนดีดี”อี้เฉินขมวดคิ้วแล้วเอารูปซุกเขาไปที่กระเป๋าเสื้อ และเอาเอกสารบนมือฉันไป
ฉันอึ่งจนไม่ปล่อยเอกสารให้เขา แล้วเงยหน้าถามเขาว่า”ผู้หญิงคนนั้นคือใคร”
เสียงฉันสั่นเล็กน้อย หัวใจกับเต้นแรงมาก
สวีเฟยเฟยกับจิ้นเหวินเชี่ยนเคยบอกฉันว่า “เธอคิดว่าอี้เฉินเขาชอบเธออะไร?”
แต่ตอนนั้นฉันแค่คิดว่าเธอสองคนกำลังจะหาเรื่องฉัน แต่ตอนนี้เมื่อเห็นรูปนี้แล้ว ฉันอดไม่ได้ที่จะคิดมันอีกครั้ง
อี้เฉินขมวดคิ้วแล้วตอบแบบเบื่อหน่ายว่า”เธอไม่จำเป็นต้องรู้”
วินาทีนี่ ฉันเหมือนถูกเขาใช้หมัดต่อยเข้ามาที่อกอย่างสุดแรง น้ำตาไหลออกมาอย่างควบคุมไม่ได้
“อะไรคือฉันไม่จำเป็นต้องรู้? นายคบกับฉันเพราะว่าฉันเหมือนผู้หญิงคนนี้ใช่ไหม ”ฉันกัดฟันพูดและมองเข้าด้วยสายตาที่เจ็บปวด
MANGA DISCUSSION