รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 43 ไม่เชื่อใจฉัน
เขาจ้องมองมาที่ฉัน ดวงตาที่ลึกล้ำของเขาเต็มไปด้วยความโกรธและขุ่นมัว
ฉันทั้งรู้สึกผิดและรู้สึกเจ็บแทนเขา เพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเองและทำอะไรไม่คิดของฉันในวันนี้ ฉันไม่คำนึงถึงความรู้สึกของเขา หนีออกมาแบบนี้เพราะตัวเองรู้สึกวู่วาม และไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาจะคืออะไร
“ฉัน……”ฉันอยากอธิบายกับเขา
กำลังจะอธิบาย เขาก็พูดขึ้นมาว่า “เพราะผู้ชายคนนั้นใช่ไหม!”
ฉันอึ้งกับคำพูดของเขา “ใคร?”
เขามองฉันแล้วตอบเสียงทุ้ม “เฉินตงหลี”
พอฉันได้ยินเขาพูดแบบนี้ฉันอึงไปทันที ตอนที่เขาไปรับฉันที่เขตเล่อฉันเคยโทรหา เฉินตงหลี และฉันก็บอกเขาว่าเฉินตงหลีเป็นเพียงผู้ป่วยของฉันและฉันก็ไม่เคยพูดถึงชื่อของเฉินตงหลีให้เขาฟัง
ฉันรู้สึกขนหลุกขึ้นทันที ฉันจ้องเขาด้วยตาโต “นี้ นายแอบสืบเรื่องฉันเหรอ”
เขาเม้มริมฝีปากและมองฉันด้วยสายตาที่น่ากลัว
“เพราะอะไร” ถ้าเขาอยากรู้อะไรเกี่ยวกับเฉินตงหลีก็ถามฉันได้ ฉันไม่คิดจะปิดบังอะไรเขาอยู่แล้ว แต่เขาไม่ถามอะไรฉันเลย กลับไปสืบเรื่องพวกนี้ลับหลังฉัน
เขาเชื่อใจฉันงั้นเหรอ?
“เฉิงอี้เฉิน นายสืบเรื่องทุกอย่างของฉันเลยเหรอ?”ฉันพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเล็กน้อย
เขาจ้องฉัน แล้วบอกว่า. “ฉันแค่อยากรู้จักเธอมากขึ้น…. ”
“รู้จักกันมากขึ้นงั้นหรอ?”น้ำเสียงฉันดังขึ้นโดยไม่รู้ตัว “แล้วฉันละ! ฉันอยากจะรู้จักนายให้มากขึ้น ฉันต้องหาสืบจากที่ไหน ?!”
ตาฉันร้อนวูบทันที ความรู้สึกของฉันเหมือนกลืนชาขมเข้าไปแล้วอยากจะคายออกมาให้หมดเลยทีเดียว เพราะมันขมจนทำให้กระเพาะชา
ฉันเริ่มเข้าใจแล้วละ ทำไมฉันต้องวิ่งหนีเขาตอนขอฉันแต่งงาน เขาดีกับฉัน แต่การกระทำของของทำให้รู้สึก ฉันไม่ได้รับการเคารพและความรู้สึกสบายใจจากเขาเลย
เขาทำแบบนั้น เพราะเขามีอำนาจที่จะสืบเรื่องของฉัน แต่เขาไม่เคยคิดจะคุยกับฉันก่อนจะไปทำเรื่องพวกนี้เลย
ฉันพูดเสมอว่าความรู้สึกที่ฉินจวิ้นเฟยมีต่อฉันมันเป็นเพียงแค่”การให้” แต่ตอนนี้ดูจากเฉิงอี้เฉินแล้ว มันทำไมจะไม่เป็นจริงละ
สุดท้ายแล้ว ฉันเองที่หวังสูงกับเขามากเกินไป สมแล้วที่ต้องเจออะไรแบบนี้
“เฉิงอี้เฉิน เราสองคนมันไม่เหมาะสมกัน ฉันจะพยายามย้ายออกจากบ้านนี้ให้เร็วที่สุด “ ฉันกัดฟันพูด โดยไม่มองหน้าเขา พูดจบฉันอยากจะลงเตียง
เขาเอามือมาจับแขนฉันไว้ “ไม่เหมาะสมกับฉันงั้นหรอ?แล้วเธอเหมาะกับใคร เหมาะกับเฉินตงหลีงั้นหรอ!”
เข้าพูดเสียงดังข้างหูฉัน เสียงเขาฟังดูโกรธมาก
อารมณ์โกรธและความรู้สึกน้อยใจของฉันก็เริ่มมากขึ้น ฉันพยายามสะบัดมือเขาทิ้ง “ปล่อยฉัน! เฉินตงหลีเกี่ยวไรกับเรื่องนี้ ทำไมนายต้องลากเฉินตงหลีเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องด้วย ”
แต่คำพูดของฉันไม่เข้าหูเขาเลย เมื่อฉันพยายามดิ้นรนทำให้เขายิ่งโกรธไปใหญ่ และแน่นอนเขาใช้แรงเยอะขึ้น มือเขาเหมือนเหล็กที่ไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ อีกมือหนึ่งของเขากดฉันแน่นจนฉันล้มลงเตียง
เขาก้มลงมาจูบฉันอยากรุนแรง มือใหญ่ทับอยู่ในร่างกายฉัน ร่างกายฉันลุกเป็นไฟ ตัวเริ่มสั่น รู้เพียงว่าเขาคือคนที่อันตรายที่สุดในตอนนี้ แต่การกระทำของเขากลับทำให้ฉันหยุดความรู้สึกนี้ไม่ได้
“เราเข้ากันไม่ได้งั้นหรอ?”เขากัดปากฉันแล้วพูดเสียงต่ำข้างหูฉัน
มือใหญ่ของเขาใช้แรงเยอะขึ้น จนเสื้อของฉันถูกปลดออก
เขาจะ…..
ฉันเบิกตาทันทีเมื่อรู้เขาจะทำอะไร ตัวฉันยิ่งสั่นเข้าไปอีก เขาจะทำอะไรไม่ดีในสถานการณ์แบบนี้งั้นหรอ? นี่เรากำลังทะเลาะกันไม่ใช่หรอ? เขาคิดว่าฉันเป็นคนแบบไหนกัน!? ไม่คำนึงถึงความรู้สึกฉันเลยหรอ?
เขาไม่ให้แม้แต่โอกาสปฏิเสธเขา เขาบังคับฉัน แล้วค่อยค่อยเอนตัวลงมาเข้าใกล้ฉันมากขึ้น
ฉันเผลอร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาจงใจกดแรงเข้ามาอีก วินาทีนี้ทำให้ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไป
“ลั่วอีอี เราไม่เหมาะสมกันงั้นหรอ? หืม!?”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธ จากนั้นยิ่งใช้แรงมากขึ้น
ฉันกรีดออกมาทันที หน้าฉันร้อนจนจะลุกไหม้เป็นไฟ
“ไม่มีใครเข้าใจว่าเธอต้องการอะไร มากกว่าฉันหรอก ”
เสียงของเขาดังขึ้นข้างหู ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร ฉันหมดเรียวแรงที่จะต่อต้านเขา
บ้างครั้งอาจะทำให้เห็นถึงเข้าเข้าใจฉันมากแค่ไหน เขาเร่งไปที่จุดอ่อนของฉัน ทุกอย่างค่อยๆกลายเป็นการทรมานที่อบอุ่น ยิ่งทำให้ฉันรู้สึกเสียใจมากขึ้น
“เราไม่เหมาะสมกันหรอ?”เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ข่มขื่น เขาแกล้งทำเป็นหนีห่าง
ฉันอยากจะเอื้อมมือไปจับอะไรไว้ แต่กลับจับไม่ได้อะไรไม่ได้เลย วินาทีนั้นทำให้ฉันร้องไห้ออกมาทันที
“อยากได้ไหม”เขาพูดด้วยเสียง
ฉันกันริมฝีปากไว้ ข่มใจตัวเองไม่ให้พูดสิ่งที่อยากพูดในตอนนี้ออกมา เฉิงอี้เฉินมองฉันที่พยายามจะดิ้นรน กลับขมวดคิ้ว และยิ่งกดแรงลงมาเหมือนเป็นการลงโทษ
เขาทำให้ฉันพอใจกับการกระทำของเขาและทำให้ฉันรู้สึกถูกข่มขู่ในขณะเดียวกัน เขารู้ดีว่าฉันต้องการอะไร แต่ฉันเกลียดความรู้สึกที่ถูกเขาบังคับไว้ในฝ่ามือของเขา กลับทำอะไรไม่ได้
ฉันพยายามกัดปากไว้ไม่ให้ออกเสียง แต่เขาเหมือนไม่พอใจที่ฉันทำแบบนี้ ยิ่งกดแรงลงมาจนฉันทนไม่ได้
คืนนี้เป็นคืนที่ยาวนาน ฉันนอนจนไม่มีเสียงพูด ตาทั้งบวมและแดง. จนสุดท้ายฉันไม่สามรถรับรู้ถึงความรู้สึกอะไรอีกต่อไป กลับดีที่เขาแค่อยากระบาย ไม่ได้ทำอะไรเยอะไปกว่านี้
เขาเอื้อมมือมากอดฉันจากข้างหลัง ฉันหลับโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว ไม่แม้แต่ขยับตัว ฉันแอบร้องไห้ทั้งคืน คืนนั้นเฉิงอี้เฉินก็คงนอนไม่หลับหรอก ฉันได้ยินเสียงถอนหายใจของเขาทั้งคืน
เมื่อวานเราทั้งสองต่างอารมณ์หวั่นไหว นอนโดยไม่ปิดผ้าม่าน แสงแดดยามเช้าส่องมายังห้อง คนที่กำลังแกล้งหลับอย่างฉันยังไม่สามรถแกล้งต่อไปได้
ฉันขยับตัวที่แข็งทื่อเล็กน้อย สูบลมหายใจเข้าแล้วลุกจากที่นอน ไม่พูดอะไรสักคำเดินตรงไปที่ห้องน้ำ
เรื่องเมื่อวานที่ว่าจะย้ายออกจากบ้านนี้ฉันไม่ใช่พูดเล่นๆ ตอนนี้ฉันคว้าโปรเจกต์กวงหมิงติงจากมือฉินจวิ้นเฟยมาได้แล้ว และก็เอาคลิปเสียงที่คุยกับจิ้นเหวินเซี่ยนให้เขาแล้ว ฉันแก้แค้นให้ลูกฉันสักที
ฉันไม่ควรที่จะยุ่งอยู่กับฉินจวิ้นเฟยอีกต่อไป เรื่องของเมื่อวานยิ่งทำให้ฉันคิดได้ เราสองคน”ไม่เหมาะสม”กันจริงๆ
มองตาที่บวมของตัวเองจากกระจก ใจมันชาไปสุดๆถอนหายใจอย่างเบาๆมือเอื้อมไปเอาแปลงสีฟันแต่กลับเห็นแก้วน้ำคู่ที่ว่างไว้บนโต๊ะ มันทำให้ฉันรีบหลบไปทางอื่น แต่ทั้งหมด ไม่ว่างจะเป็นผ้าขนหนู ของใช้ทุกอย่างในห้องน้ำนี้ มันสะดุดตาฉันทุกอย่าง
พวกนั้นเป็นของใช้ที่อแบบเดียวแตกต่างแค่สี ไม่งั้นก็แบบเดียวกันเเต่เป็นชายหญิง ทำให้นึกถึงวันเวลาที่มีความสุขด้วยกัน
แต่ในตอนนี้ มันกลายเป็นเพียงของความแดกดันไปแล้ว
ตาฉันร้อนวูบ รีบเงยหน้าขึ้นไม่ให้น้ำตามันไหลลงมาอีก แต่กลับมองเห็นเฉิงอี้เฉินยื่นมองฉันอยู่หน้าประตูอย่าง งงๆ