รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 42 ต้องเกลียดฉันมากแน่ๆ
สายตาที่ตกใจแฝงไปด้วยความผิดหวังของเฉิงอี้เฉินวนเวียนอยู่ในหัวสมองของฉัน มันทำให้ฉันยิ่งปวดหัวเข้าไปใหญ่ ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนั้น และก็ไม่รู้จะตอบหลินปิงชิงยังไงด้งย และต่อไปนี้ไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปเจอเฉินยีเฉิน
รถปอร์เช่ของเฉิงอี้เฉินขับผ่านฉันไปอย่างรวดเร็ว ฉันเห็นชัดเจนว่าคนในรถคือเขา
หัวใจฉันแน่นราวกับถูกแทง ฉันวิ่งตามรถไปไม่กี่ก้าว แต่รถทิ้งไว้เพียงแค่ฝุ่น ฉันพูดอะไรไม่ออกสักคำได้แต่ยืนมองรถที่จากไป
”หาที่นั่งพักก่อนเถอะ“ หลินปิงชิง จูงมือฉันไปข้างหน้า แล้วโบกเรียกแท็กซี่ ระหว่างทางเธอโทรหาเฉิงอี้เฉินหลายสาย เขาไม่รับสักสายเลย
ระหว่างทางฉันเอาแต่กุมหน้าร้องไห้. เขาต้องเกลียดฉันแล้วแน่ๆ
เขาขอฉันแต่งงาน แต่ฉันกลับหันหน้าหนีเขา เขาต้องรู้สึกอายมากแน่ๆ
ยิ่งไปกว่านั้นเขาเป็นคนที่มีคนค่อยจับตามองเขาอยู่ตลอด. คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจกับเรื่องของเขามาก เรื่องในวันนี้จะถูกแพร่ออกไปไหมเนี่ย
ใจฉันสับสนไปหมด หลินปิงชิงลากฉันไปหาร้านกาแฟเพื่อนั่งลง เธอถามด้วยสีหน้าซีเรียสว่า ”แกบอกฉันหน่อยได้ไหม ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่ อีอี “
”ฉะฉะ…..ฉันไม่รู้ "
เมื่อฉันเห็นเฉิงอี้เฉินขอฉันแต่งงาน ความจริงแล้วฉันควรดีใจจนร้องไห้ต่างหาก แต่กลับรู้สึกกระสับกระส่ายและตื่นตระหนกก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และแล้วฉันก็หนีออกมา
”พูดจริงจริงนะ พี่อี้เฉินเขาดีกับเธอมากนะ และก็ดูจริงใจกับเธอด้วย เธอคงไม่รู้หรอกว่า เขาวางแผนจะขอเธอแต่งงานมานานมากแล้ว และในที่สุดก็ตัดสินใจเป็นวันนี้ เขาบอกว่า ถ้าหากเธอชนะโปรเจกต์กวงหมิงติ้ง มันก็จะกลายเป็นเรื่องดีสองเรื่อง แต่ถ้าเธอไม่ชนะ การขอเธอแต่งงานในวันนี้ก็อาจให้เธอมีความสุขไม่มากก็น้อย เธอจะได้ไม่ต้องมักมุ่งกับงาน เครียดกับงานตลอด “
"ฟังเขาพูดแบบนี้แล้วฉันดีใจแทนแกมากนะ ฉันอดไม่ได้ที่จะบอกเรื่องนี้กับแก แต่พี่เขาขอไว้ว่าให้เก็บเป็นความลับ เขาอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ "
ใจของฉันตอนนี้มันเจ็บจนชาไปหมด ฉันกัดฟันบอกเธอว่า”ฉันรู้ว่าเขาดีกับฉันมาก……“
"แล้วแกทำไม….."
"ฉันไม่รู้จะอธิบายยังไง"ฉันเงยหน้ามองเธอ”ฉะ ฉันก็แค่กลัว….“
"กลัว ?กลัวอะไรของแก"
ฉันดูดเนื้อข้างแก้มของฉันโดยไม่รู้ตัวและกัดฟันไปด้วย
ฉันกลัวอะไรงั้นหรอ กลัวทุกสิ่งทุกอย่างจนไม่รู้จะเริ่มพูดตั้งแต่ตรงไหน
”ฉันกับเฉิงอี้เฉินเราต่างกันมาก “ฉันถอนหายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อย น้ำเสียงแสดงให้รู้ว่าฉันทำอะไรไม่ถูก
ความแตกต่างของฉันและเขา ฉันไม่สามารถเพิกเฉยได้ ซ่งเสวี่ยเหมยไม่ชอบฉันมาโดยตลอด เขาไม่เห็นด้วยกับเรื่องที่ฉันคบกับเฉิงอี้เฉิน เรื่องนี้ฉันก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้
แม้ว่าบางคนจะเรียกฉันว่า "ผู้บริหารลั่ว"แต่ฉันก็รู้ดีว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเฉิงอี้เฉิน ฉันไม่มีหน้าจะไปเจอเขาอีกแล้ว
และสิ่งที่สำคัญ ฉันกับเขา เราคบกันเพราะ ”ร่วมงาน“ไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลยทั้งนั้น ฉันไม่รู้ว่าเขาชอบฉันตรงไหน
ฉันหยิบกาแฟขึ้นมาดื่มเข้าไปทั้งแก้ว รสชาติความขมของกาแฟกระจายอยู่ในปากของฉัน แต่สุดท้ายความขมในใจของฉันมันขมยิ่งกว่ากาแฟแก้วนั้น
ผู้หญิงบ้านๆอย่างฉัน มีทั่วถนน และอีกอย่างฉันก็เคยแต่งงานมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย ซ่งเสวี่ยเหมยพูดถูก คนอย่างเฉิงอี้เฉินอยากได้ผู้หญิงแบบไหนกัน?ทำไมต้องมาคบกับฉัน.
ฉันยอมรับว่าฉันตกหลุมความรักที่ดั่งฝันของเขาแล้ว แต่ความฝันที่สวยงามนี้ทำให้ฉันกระวนกระวายแปลกๆ
ช่วงนี้ฉันฝันถึงเฉิงอี้เฉินไล่ฉันไปอย่างเย็นชา แล้วบอกกับฉันว่าให้เลิกยุ่งกับเขา นับครั้งไม่ถ้วน ฉันกลัวว่าวันหนึ่งสิ่งที่ฉันฝันมันจะกลายเป็นจริง ยิ่งฉันรักเขามากเท่าไหร่ สุดท้ายฉันก็จะยิ่งเจ็บปวดมาเท่านั้น
หลินปิงชิงถอนหายใจอย่าเหนื่อย แต่ก็ไม่ได้ถามอะไรกับฉันมาก เธอนั่งกับฉันในร้านกาแฟเป็นเวลานานพอสมควร เขาลุกจากไปเพราะสายจากโรงพยาบาล ก่อนเธอจะไป เธอย้ำกับฉันว่า ก่อนจะทำอะไรให้ฉันพิจารณาดีดี คิดให้รอบคอบ เมื่อถึงเวลาแล้ว ก็ควรคุยกับเฉินยีเฉินอย่างตรงไปตรงมา และอย่าไปกลัวจนทำให้ต้องเสียเขาไป
ฉันนั่งคนเดียวในร้านกาแฟเป็นเวลานาน ใบหน้าของเขาปรากฏในหัวสมองฉัน ทำให้ฉันยิ่งสับสน ฉันอยู่จนกว่าฟ้ามืดแล้วค่อยโบกรถกลับบ้าน
ฉันยื่นอยู่หน้าคฤหาสน์ของเฉิงอี้เฉิน ขาของฉันขยับไม่ได้เลยและมือที่ยกขึ้นมา ก็ไม่ได้กดรหัสเข้าบ้าน
รถเปอร์เช่ของเขาจอดที่ลานจอดรถแปลว่าตอนนี้เขาต้องอยู่ที่บ้าน
ก่อนหน้านี้เขาจากไปด้วยความโกรธ ตอนนี้ต้องมาเจอหน้าฉันอีก เขาจะไล่ฉันออกจากบ้านไหมเนี่ย
ใจฉันยิ่งกังวลขึ้น ถ้าหากไม่ใช่เขาที่ทำให้ฉันอยู่บ้านตอนเข้าตัวเมืองใหม่ๆ ฉันคงจะไม่มีที่ซุกหัวนอนแน่ ทุกสิ่งทุกอย่างของฉันในที่นี่ เป็นเพราะเขาฉันเลยมี ทุกอย่างในขณะที่ฉันรับมานี้ ฉันก็เจียมตัวในความแตกต่างของเราสองคน
ฉันลังเลจะเข้าไปในบ้านดีไหม แต่จู่ๆประตูก็เปิดออก มือใหญ่คว้าร่างฉันแล้วพาฉันเข้าบ้านไป
“อ๊ะ….”ฉันอุทานออกมาอย่างตกใจ ชนเข้ากับอกใครบางคน ใจยิ่งเต้นเร็วเหมือนจะหลุดออกมา
กลิ่นควันบุหรี่พุงเข้าเต็มๆ แอลกอฮอล์ก็ไม่แพ้กัน พอพยายามลืมตา พึ่งรู้ว่าห้องนี้เต็มไปด้วยควัน
เขาสูบไปเท่าไหร่ของเขาเนี่ย
ใจของฉันเต้นแรงแม้ไม่ได้เงยหน้ามองเขา และฉันก็จิตนาการใบหน้าเค้าที่เต็มไปด้วยความเศร้าออก
ป้าหวังที่อยู่ข้างท่าทางเป็นห่วงเป็นใย มองฉันอย่างกังวล “ กลับมาแล้วเหรอ อีอี นายน้อยรออยู่ข้างในตั้งนานแล้วค่ะ ”
ฉันไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ พยายามพยักหน้าให้ป้าหวังอย่าสุดแรง
“อี้เฉิน ระ….เรามาคุยกันหน่อยไหม”
“โอเค. คุยสิ”
ฉันยังไม่ทันพูดอะไร อี้เฉินก็ยกฉันขึ้นบ่าเขาแล้วพาฉันขึ้นไปบนห้องอย่างรวดเร็ว
“พึบ!”ประตูห้องถูกเขาล็อกอย่าแน่น และฉันก็ถูกเขาโยนลงเตียงอย่างแรง
ถึงแม้ว่าเตียงจะนุ่ม แต่ทำให้ฉันตามั่วไปแวบหนึ่ง ฉันพยายามลุกขึ้นมามองสีหน้าของเขา มันทำให้ฉันกลัวจนรีบละสายตาจากเขาทันที
“พูดมาสิ เธอจะคุยอะไรกับฉัน ”เขาเอาบุหรี่ออกมาจุดแล้วสูบ พ่นควันขาวหนาออกมา สายตาเขาเต็มไปด้วยความมืดมัวที่ลบออกไม่ได้
ฉันพูดอย่างระแวงว่า “ฉันขอโทษ”
“ปัง! ”เขาต่อยไปที่กำแพงอย่าเต็มแรง “ลั่วอีอี นี้เหรอสิ่งที่เธออยากคุยกับฉัน! ”
เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธสุดๆฉันอึงกับเขามาก เพราะฉันไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน
“เพราะอะไร”เขาหันไปเขี่ยบุหรี่ทิ้ง “ทำไมเธอต้องหนี”