รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 26 ถอดถอนการฟ้องร้อง
คำพูดของเฉิงอี้เฉินฉันไม่่ได้คิดอะไรมาก จริงแล้วฉันสามารถลองงานใหม่ๆได้ แต่ว่านอกจากการแพทย์แล้วฉันก็ทำไม่เป็น งานอื่นผลตอบแทนก็ไม่สูงเท่าเป็นหมอ
ไม่กี่วันนี้ฉันได้ปรับตัวการใช้ชีวิตที่คฤหาสน์ของเฉิงอี้เฉิน งานของเขายุ่งมาก ทุกวันออกเช้ากลับดึก เราก็แค่ได้ทานอาหารเช้าด้วยกัน อาหารค่ำก็กลับบ้างครั้งที่ได้กลับมาทาน
ฉันก็สุขสบาย วันปกตินอกจากไปเยี่ยมแม่แล้วก็อยู่บ้านทบทวนเตรียมตัวสอบ
เพียงแต่วันนี้ฉันได้รับโทรศัพท์ ทำลายความสงบสุขของวัน
เป็นสายโทรมาจากศาล ว่าฉันได้ยกเลิกดำเนินคดีกับฉินจวิ้นเฟยแล้ว มีเอกสารบางส่วนจะส่งกลับให้ฉันจึงโทรมาสอบถามที่อยู่
ฉันถึงกับมึนงง เป็นไปได้ยังไงที่ฉันจะยกเลิกดำเนินคดีกัยฉินจวิ้นเฟย? ฉันเกลียดจนอยากให้เขาติดคุกตลอด
ฉันได้ถามศาลว่าไม่ใช่ทำผิดนะ แต่ทางนั้นบอกว่าทนายได้ยกเลิกแล้ว ขั้นตอนทำเรียบร้อยแล้ว ถ้ามีปัญหาให้ฉันไปคุยกับทนาย
เรื่องฟ้องร้องฉินจวิ้นเฟยคือเฉิงอี้เฉินรับผิดชอบ ทนายก็เป็นคนที่เขาหามา ถ้าถอดถอนแล้ว เฉิงอี้เฉินจะรู้ไหม?
ฉันวางสายโทรศัพท์ก็รีบโทรหาเฉิงอี้เฉิน แต่เขาปิดโทรศัพท์
เหมือนเอาใจไปวางบนกองไฟ ฉันร้อนใจได้แต่เดินวกไปวนมาอยู่ในห้อง แต่ก็ยังคิดเหตุผลที่เฉิงอี้เฉินปล่อยตัวฉินจวิ้นเฟยออกมาฉันต้องเผชิญกับอะไรอีก
ในใจก็มีอย่างนึงทำให้อารมณ์เสีย เฉิงอี้เฉินมีอิทธิพลมาก ถ้าเขาไม่ตกลง ทนายก็ไม่กล้าถอดถอนแน่
แต่เราก็เซ็นสัญญากันแล้วหนิ เฉิงอี้เฉินเปลี่ยนใจแล้วหรอ?
ไม่ได้ ฉันต้องไปคุยกับเขาให้รู้เรื่อง
ฉันรีบร้อนออกไป ป้าหวังได้แต่ตะโกนตาหลัง ฉันไม่สามารถที่จะสนใจมันได้
ฉันได้ยืนอยู่หน้าบริษัทสกุลเฉิง หายใจลึกๆแล้วเดินเข้าไป เดินไปไม่กี่ก้าวก็โดน รปภ.ขวางไว้
"คูณผู้หญิง โปรดแสดงบัตรด้วยครับ"รปภ.ทำอย่างเป็นทางการ
ใจฉันมีไฟกำลังเผา"ฉันต้องการพบเฉิงอี้เฉิน"
รปภ.อึ้งสักพัก "ได้นัดไว้ไหมครับ?"
ฉันกัดฟันพร้อมได้มองไปที่เขา หรือความโกรธฉันทำให้เขาตกใจ รปภ.พูดใส่วิทยุ ไม่นานก็มีคนมาพาฉันขึ้นไปห้องทำงานของเฉิงอี้เฉิน
ห้องทำงานกว้างมาก ทำความสะอาดแบบไม่มีที่ติ แต่ไม่พบแม้แต่เงาของเฉิงอี้เฉิน
"ท่านประธานกำลังประชุม โปรดรอสักครู่ค่ะ"เลขาพูด และยังมองฉันก่อนจะออกไป
มีผู้หญิงบ้าวิ่งมาอยู่หน้าบริษัทสกุลเฉิงแล้วยังจะพบท่านประธานใหญ่ของพวกเขาอีก เฉิงอี้เฉินก็ยังให้ฉันเข้ามา เลขาก็คงอดสงสัยไม่ได้แหละ
ฉันไม่มีเวลาจะไปสนใจความรู้สึกใคร ฉันนั่งรอเขาที่ห้องทำงานตัวก็สั่นไม่หยุด ยิ่งคิดเรื่องนี้ยิ่งเหมือนว่าเฉิงอี้เฉินจะรู้เรื่องแล้ว เพียงแต่อยากจะถามให้แน่ใจเท่านั้น
ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ค่อยได้ยินเสียงเปิดประตู ฉันรีบลุกขึ้นเดินไปข้างหน้าเขา
เห็นหน้าฉันสีหน้าของเขายังนิ่งเรียบเหมือนเดิม "มีเรื่องอะไรหรอ?"
ฉันขมวดคิ้วแน่น "ศาลบอกว่าฉันยกเลิกการฟ้องร้อง มันหมายถึงอะไร?"
เขามีการหลบตา เม้มปากพูด "ผมอธิบายได้"
"อธิบาย?เฉิงอี้เฉิน!เราเซ็นสัญญาแล้วนะ คุณผิดสัญญา!"ฉันตะโกนถามเขา ในใจไม่รู้ว่าโกรธหรือว่าทุกข์ใจ
อยู่กับฉินจวิ้นเฟยที่นั้นฉันถูกเหยียดหยามมากแค่ไหน ทำให้ฉินจวิ้นเฟยติคุก คือสิ่งที่ฉันปรารถนา
สีหน้าของเขาไม่สู้ดีนัก มองฉันแต่ไม่พูด ใต้สายตาลึกๆของเขาทำให้ฉันอยู่ไม่สุข
ใช่ไม่ได้จริง ฉันต้องเผชินหน้ากับฉินจวิ้นเฟย จะมีหน้าไปเจอกันเฉิงอี้เฉินยังไง? ที่ฉันพูดไม่ดีกับเขา จริงๆยิ่งคุณดีกับฉันฉันก็ยิ่งถือดี
ฉันบังคับตัวเองให้มองเขา ไม่มีท่าทีจะสะดุ้ง
ตอนนี้ฉันกังวลอยู่สามเรื่องคือ หนึ่งคือสุขภาพแม่ฉันกลับมาแข็งแรง สองคือคลอกลูกอย่างราบรื่น สามคือให้ฉินจวิ้นเฟยได้รับบทเรียน
ก่อนหน้านั้นฉินจวิ้นเฟยได้จับตัวฉัน ถ้าวันนี้เขาไม่ได้รับการสั่งสอนต่อไปนี้เขาจะไม่ทำมากกว่านี้หรอ?ฉันแค่กลัวว่าต่อไปคงใช้ชีวิตอยู่อย่างไม่สงบสุข
"คนตระกูลฉินมีของบางอย่า ผมต้องการมัน เป็นการแลกเปลี่ยนตระกูลฉินให้ผมถอนคำฟ้อง"
ฉันกัดปากแน่น"คุณเลยผิดสัญญางั้นหรอ"
"ผมจะชดใช้ให้คุณ"
ฉันเจ็บใจ "ชดใช้หรอ?"คุณจะชดใช้ยังไง?เฉิงอี้เฉิน คุณคิดว่าจะให้เงินฉันใช่ไหม มันสามารถแก้ไขได้ทุกอย่างหรอ?"
ชดใช้!ชดใช้!ชดใช้!
เฉิงอี้เฉินก็พูดแต่ชดใช้ เขาแค่อยากแสดงให้เห็นว่าเขามีความรับผิดชอบ หรืออยากจะชดเชยฉันจริงๆ?
แต่ตอนนี้ ฉันยังไม่ได้รับการขอโทษจากเขาเลย หรือนี้เรียกว่าการชดใช้ สำหรับฉันแล้วเหมือนกับว่าเขายื่นอยู่ข้างบนเพื่อที่จะให้ทานเท่านั้น แต่ฉันกลับเลือกได้เฉพาะที่เขาได้จัดไว้ให้ก็เท่านั้น
ตอนแรกเพื่อให้ฉันคลอดลูก เขาตกลงจะดูแลแม่ของฉัน ตกลงจะช่วยฟ้องฉินจวิ่นเฟย ตอนนี้ตระกูลฉินเอาของที่เขาต้องการออกมา เขาก็กลับเปลี่ยนใจ
นี้คือลักษณะของนักธุรกิจหรอ?ไม่ว่าของอะไรก็สามารถเอามาเป็นข้อแลกเปลี่ยน แล้วเด็กในท้องฉันล่ะ คงไม่ใช้เบี้ยที่จะได้มาเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนหรอกนะ?
ฉันรู้สึกเย็นไปถึงกระดูก ตัวสั่นไปหมด ฉันคงไม่ให้ลูกต้องโตมากับพ่อแบบนี้แน่
"ฉันไม่ต้องการการชดใช้!เฉิงอี้เฉิน เป็คุณที่ผิดสัญญาก่อน สัญญาของเราถือเป็นโมฆะ เงินที่ค้างฉันจะคืนให้คุณแน่
ฉันหันหลังกลับ แขนฉันก็ถูกดึงไว้ กลิ่นบุหรี่ทั้คุ้นเคยลอยมาก จากนั้นก็ได้ชนเข้ากับหน้าอก
"ขอโทษ"เฉิงอี้เฉินขมวดคิ้ว"คนตระกูลฉินพบของที่ระลึกของพ่อผม เขาปฏิเสธข้อเสนอของผม เพียงแค่ต้องการให้ผมถอนฟ้อง ผมไม่มีหนทางที่จะปล่อยวาง"
เฉิงอี้เฉินอธิบายให้ฉันฟัง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความอ่อนโยน "ผมสัญญาว่าจะทำให้ตระกูลฉินได้รับบทเรียนแน่"
ฉันใจสั่น อดที่จะมองเขาไม่ได้ สายตาเขาดูลึกซึ้ง ทำให้ฉันหลง
"คุณจะรับประกันยังไง"ฉันพูดเสียงแหบๆ เชื่อในคำพูดเขาไปแล้วหน่อยนึง
ได้ยินหลินปิงชิงบอกว่า พ่อของเฉิงอี้เฉินเสียชีวิตในอุบัติเหตุทางอากาศ แม้แต่กระดูกก็หาไม่เจอ ถ้าตระกูลฉินหาเจอของที่ระรึกของพ่อเขาจริงๆละก็ มันเป็นสิ่งที่มีความหมายกับเขามากๆ
เฉิงอี้เฉินเม้มปาก"คุณเป็นภรรยาผมแล้ว ช่วยภรรยาระบายความโกรธเป็นเรื่องที่ถูกต้องอยู่แล้วไม่ใช่หรอ?"
อึ้งไปสักพัก แก้มก็เริ่มแดงขึ้น ทำให้ได้รีบหลบหน้าเขา
เขารู้อยู่แก่ใจว่าเราแต่งงานกันไม่ใช่เพราะความรัก….
ท่าทางของเฉิงอี้เฉินดูอ่อนโยน ได้ยกมือเอาผมของฉันคาดไว้ที่หลังหู"ผมจะพาคุณไปทานข้าว"
เฉิงอี้เฉินจับมือฉันออกไป คิดว่าเขาคงจะพาฉันออกไปทานข้างนอก คิดไม่ถึงว่าจะพาฉันมาทานที่โรงอาหารของบริษัทแทน
ท่าทางเขาเหมือนกำลังจะเปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา คิดถึงคำพูดเขาตอนอยู่ในห้อง ทำให้ฉันซึ้งใจมาก
ไม่สนว่าฉันกับเขาจะแต่งงานกันด้วยเหตุผลอะไร อย่างน้อยเขาก็ได้ให้เกียรติฉัน
สายตาของทุกคนทำให้ฉันอยู่ไม่เป็น แต่เฉิงอี้เฉินก็ไม่ได้สนใจ แถมยังคีบอาหารให้ฉันอย่างสุขุมอีก
มองดูเฉงอี้เฉิน คิ้วก็เริ่มขมวดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เพราะฉันได้คิดถึงแม่และพ่อเลี้ยงของฉัน