เฉิงอี้เฉินทานข้าวเสร็จได้ไปห้องหนังสือ ฉันอาบน้ำเสร็จก็ได้นอนบนเตียงใหญ่ ในใจรู้สึกผิดหวังอย่างบอกไม่ถูก
ฉันเยาะเย้ยตัวเอง แต่งงานมาแล้วสองครั้ง ก็ได้แต่อยู่ห้องคนเดียว ดูแล้วโชคของการแต่งงานคงแย่มากจริงๆ
"ป๊อก ป๊อก ป๊อก….."ได้ยินเสียงเคาะประตูฉันก็รู้สึกตื่นเต้น และได้ลุกขึ้นไปเปิดประตู
เฉิงอี้เฉินยืนอยู่นอกประตู หน้านิ่งๆ "พรุ่งนี้จะพาเธอไปตรวจที่โรงพยาบาล"
"ไม่ใช่พึ่งตรวจมาหรอ?"ฉันพึ่งออกจากโรงพยาบาลวันนี้ สิ่งควรจะตรวจไม่ใช่ตรวจไปหมดแล้วหรอ
"ไปตรวจครรภ์ที่โรงพยาบาลเอกชน ต้องออกสมุดบันทึกการฝากครรภ์"
ตอนนั้นฉันก็ได้เข้าใจว่า สมุดฝากครรภ์กับสมุดผู้ป่วยคืออันเดียวกัน สามารถบันทึกการเปลี่ยนแปลงของครรภ์ได้ ถ้าหากมีเหตุฉุกเฉินก็ตรวจสอบย้อนหลังได้
"รู้แล้ว พรุ่งนี้กี่โมง?"
"จะออกตอนแปดโมงตรง"
ฉันพยักหน้า เวลานั้นฉันไม่รู้จะพูดอะไรดี
แม้ว่าเฉิงอี้เฉินจะเป็นสามีของฉัน แต่ฉันก็รู้จักเขาด้วยอินเตอร์เน็ตที่มีข้อมูลที่จำกัด ต่อหน้าเขา ฉันไม่มีคำที่จะพูดจริงๆ แต่เขาก็มองฉันแบบเงียบๆ
ในกลางคืนทีมืดมิด บรรยากาศก็ดูอบอุ่นขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ฉันกระแอมแล้วพูด "ไปพักผ่อนเถอะ"
ฉันกำลังทำท่าจะปิดประตู แต่เขาได้ก้าวขึ้นมาข้างหน้า
จากจิตใต้สำนึกให้ฉันถอยหลังไป เงยหน้ามองเฉิงอี้เฉินใจเต้นรัวเหมือนกำลังตีกลองอยู่
ดวงตาเรียบเฉยของเฉิงอี้เฉินทำให้ฉันดูไม่ออก ฉันได้ตลึงกับแขนที่แข็งแรงของเขามาโอบกอดที่เอวของฉัน
"คุณจะทำอะไร!"ฉันตกใจ ท่าทางนี่ดูมีเลศนัยมาก
เฉิงอี้เฉินมองดูฉันแบบนิ่งๆ มือได้โอบกอดแรงขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงที่อู้อี้ "เราเป็นสามีภรรยาแล้วนะ"
ฉันรู้สึกตกใจ คำพูดนี้เขาจะหมายถึงอะไร?
ในหัวฉันมันยุ่งเหยิงไปหมด แม้ว่าเราเป็นสามีภรรยา แต่ความสัมพันธ์ของเรามันไม่ได้เกิดจากความรัก
"เราแค่ร่วมมือกัน…"เสียงของฉันสั่นเครือ
"เนื้อหาสัญญาเขียนไว้ชัดเจนแล้ว คุณต้องทำหน้าที่เป็นภรรยาที่ดี รวมกับแก้ไขกับสิ่งที่ร่างกายของผมต้องการ
เวลาที่เขาพูดดูนิ่งมาก เหมือนเป็นการต่อรองราคาระหว่างนักธุรกิจสองคน
ตาฉันมองดูใบหน้าของเขายิ่งมองยิ่งเข้ามาใกล้ ประหม่าจนจะหายใจไม่ออก เฉิงอี้เฉินก็ได้ปล่อยฉันออก
"คุณต้องรีบคุ้นเคยกับการที่ผมสัมผัสคุณ"น้ำเสียงเฉิงอี้เฉินดูเงียบสงบ "ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้ผมจะมาปลุกนะ"
ดูเขาออกไป ฉันก็รีบปิดประตูทันที คิ้วขมวดจนยุ่งไปหมดแล้ว
เขาจะหมายถึงอะไรกันแน่?
ใจฉันสับสน นอนไม่หลับทั้งคืน วันที่สองตาก็คล้ำเป็นหมีแพนด้าไปโรงพยาบาลกับเขา
บรรยากาศที่โรงพยาบาลดีมาก การตรวจก็เป็นไปอย่างราบรื่น หมอบอกลูกแข็งแรงดี วันก่อนที่เลือดไหลออกมานั้นไม่มีผลกระทบอะไร
ฉันถอนหายใจแบบโล่งอก แล้วเอามือจับไปที่ท้องน้อย ได้เผลอมองเฉิงอี้เฉิน ตกใจมากที่เห็นรอยยิ้มที่มุมปากของเขา กำลังถามหมอเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระวังของคนท้อง
เฉิงอี้เฉินดูจะเป็นห่วงเด็กคนนี้มาก คงไม่ใช่ใช้เขาเป็น"เครื่องมือ"ในการสืบทอดมรดกมั้ง?
ความสุขได้แพร่กระจายอยู่ในใจฉัน ตรวจเสร็จเฉิงอี้เฉินได้รับโทรศัพท์ก็ได้ไปที่บริษัทันที ฉันก็ได้นัดเจอกับหลินปิงชิง เฉิงอี้เฉินได้โทรบอกคนขับรถให้ไปส่งฉัน
ตัวฉันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ไม่ต้องพูดถึงความสัมพันธ์การร่วมมือกันของฉันกับเขา เขาคือ"นายจ้าง" ส่วนฉันคือ"พนักงาน" ไม่ใช่เลยที่จะให้เขาขับรถไปรับไปส่ง
ช่วงนี้เขายุ่งมากจริงๆ เขายังพาฉันมาตรวจครรภ์ด้วยตัวเองทำให้ฉันซึ้งใจมาก
คิดไม่ถึงว่าฉันออกมารอรถที่หน้าประตูจะได้เจอจางเหม่ยเอ๋อกับจิ้นเหวินเชี่ยน
เห็นฉันอยู่ที่นี้พวกเขาถึงกับสะดุ้งไปสักพัก แต่แล้วจางเหม่ยเอ๋อก็รีบเดินเข้ามาหาฉันด้วยท่าทีที่กร้าวร้าว
"หลัวอีอีนังตัวดี ดูแกจะหลบไปทางไหน!"
ครั้งนั้นมาป่วนฉันที่โรงพยาบาลจนฉันเป็นลม หลังจากนั้นก็ไม่ได้เห็นเขาเลย ดูเหมือนคนของเฉิงอี้เฉินจับเขาไว้
ใต้จิตสำนึกฉันถอยหลังหลบ บอดี้การ์ดที่อยู่ข้างฉันก็เดินมาข้างหน้าจับมือของจางเหม่ยเอ๋อไว้
"หลัวอีอี เธอทำอะไรของเธอ!"จิ้นเหวินเชี่ยนตะโกนขึ้น ทำให้เป็นจุดสนใจของคนอื่นในทันที
มีบอดี้การ์ดอยู่ด้วยฉันก็โล่งใจไม่น้อย ฉันมองจางเหม่ยเอ๋อกับจิ้นเหวินเชี่ยนด้วยความสงสัย โรงพยาบาลนี้เป็น
โรงพยาบาลแม่และเด็ก นอกจากสูตินรีเวชแล้วสาขาอื่นก็ไม่มีเลย เขาสองคนมาทำอะไรที่นี่?
ฉันตกตลึงเล็กน้อย ที่อยู่ในมือเขาเห็นเป็นแฟ้มแบบเดียวกันกับของฉัน
"เธอมาสูตินรี?"จางเหม่ยเอ๋อจ้องมาที่ฉันโดยไม่คาดคิด
ฉันส่งสัญญาณให้บอดี้การ์ดปล่อยมือ ความคิดเริ่มนิ่ง
จางเหม่ยเอ๋ออายุก็ห้าสิบกว่าแล้ว ถ้าจะท้องคงไม่ใช่เรื่องง่าย อีกทั้งถ้าเธอท้องคงไม่ให้จิ้นเหวินเชี่ยนมาด้วยแน่
มีคำตอบแล้ว แฟ้มนั่นเป็นของจิ้นเหวินเชี่ยนแน่ๆ
ตอนนี้จางเหม่ยเอ๋อมากับจิ้นเหวินเชี่ยน อาจจะเป็นจิ้นเหวินเชี่ยนที่ท้อง อีกอย่างเป็นลูกของฉินจวิ้นเฟย?
จิ้นเหวินเชี่ยนดึงแขนของจางเหม่ยเอ๋อไว้ มองฉันแบบตื่นตัว "ใช่ ฉันท้อง แม่มาตรวจเป็นเพื่อนฉัน"
"แม่?"
ฉันหัวเราะ "ฉินจวิ้นเฟยพึ่งจะอย่ากับฉันแล้วก็ติดคุกไม่ใช่หรอ?พวกเธอแต่งงานกันตอนไหน?"
สีหน้าจิ้นเหวินเชี่ยนแดงขึ้น เดินมาก็ด่าฉัน แต่จางเหม่ยเอ๋อก็ได้ดึงเธอไว้
จิ้นเหวินเชี่ยนขมวดคิ้วจ้องฉัน "ใครคือพ่อของเด็กในท้องเธอ?"
ฉ้นเข้าใจในข้อสงสัยของจางเหม่ยเอ๋อแล้ว ก็มีกลิ่นไม่มีมา ฉันตั้งใจถามกลับ "เธอคิดว่ายังไงล่ะ?"
ฉันกับฉินจวิ้นเฟยคบกันมาตั้งนาน หลังจากแต่งงานก็ได้อยู่ด้วยกันตั้งหลายเดือน จ่างเหม่ยเอ๋อต้องสงสัยว่าลูกในท้องเป็นของฉินจวิ้นเฟยแน่ๆ
พูดเสร็จก็ลืมไปเลยว่าบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างๆคือเฉิงอี้เฉินจัดมาให้ ก็ไม่ได้คิดว่าคำพูดนี้จะสร้างปัญหามาให้ยังไงบ้าง
"ลูกในท้องของเธอคือลูกของฉินจวิ้นเฟย?" จางเหม่ยเอ๋อขมวดคิ้วจนบิดเบี้ยว
จิ้นเหวินเชี่ยนตรึงเครียด "แม่คะ เด็กนี่จะเป็นลูกของฉินจวิ้นเฟยได้ยังไงกัน!ในเมื่อจวิ้นเฟยไม่ได้แตะต้องเธอ แม่ดูผู้ชายสี่คนนี้สิไม่รู้ใครคือพ่อของเด็ก"
ฉันมองจิ้นเหวินเชี่ยนแล้วหัวเราะ "เขาไม่ได้แตะต้องฉัน แต่เขาแตะต้องเธองั้นหรอ?วันนั้นเขาพาเธอกลับไปก็ไม่ได้ทำอะไรเธอไม่ใช่หรอ"
"เธอ…."จิ้นเหวินเชี่ยนก้าวเข้ามา ตะคอกว่า "พวกเราก็ใช่ว่าจะมีแค่ครั้งเดียว!"
"ออ~แสดงว่าเธอกับเขาแอบทำอะไรตั้งหลายครั้งงั้นหรอ" ฉันหัวเราะแบบเย็นชา
ถึงแม้ในใจจะเกลียดมาก แต่คำพูดที่ออกมามันนิ่งเงียบมาก
คนรอบๆบริเวณนี้กำลังซุบซิบนินทา โรงพยาบาลเอกชนนี้ถึงคนจะไม่เยอะ แต่พวกเขาก็เป็นคนเช่นกัน
ฉันเจตนาพูดขึ้นดัง มองจางเหม่ยเอ๋อว่า "จิ้นเหวินเชี่ยนพูดถูก ระหว่างฉันกับฉินจวิ้นเฟยไม่ได้มีอะไรเลย เด็กคนนี้ก็ไม่ใช่ของเขาแน่นอน แต่ว่า ตอนนี้ฉันกับเขาอย่ากันแล้ว ฉันจะท้องกับใครก็ไม่ใช่เรื่องของพวกคุณ"
MANGA DISCUSSION