รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 23 เป็นสามีภรรยาจริงๆ
สวีเฟยเฟยกับซ่งแสว่เหม่ยคล้อยตามกัน เขาลดค่าเปรียบฉันเหมือนกับโคลนตม
ถึงแม้ฉันได้คาดว่าครอบครัวเฉิงอี้เฉินคงรับฉันไม่ได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะไม่มีความเกรงใจแบบนี้ ในใจก็โกรธบ้าง ฉันต้องการหักหน้าด้วยการบอกว่าฉันกับเฉิงอี้เฉินไปจะทะเบียนกันแล้ว รีบออกไปซะ
ภายใต้แสง คือเงาสูงใหญ่ของเฉิงอี้เฉินทำให้ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะ
"พี่อี้เฉิน!สวีเฟยเฟยเห็นเฉิงอี้เฉินก็เข้าไปหาทันที แต่เขาก็ไม่สนใจเธอ ได้แต่เดินมาอยู่ข้างฉัน
เอวฉันแน่น ที่จริงและเฉิงอี้เฉินได้กอดฉันไว้ อยากจะหลบออกมา แต่เหมือนเขาจะเดาปฏิกิริยาฉันได้ และกอดฉันติดกับตัวเขาไว้แน่น
"แม่ มาได้อย่างไร"เฉิงอี้เฉินกอดฉันแล้วพูด ใจเต้นเเร็วมากอีกก้มหน้าลงโดยไม่รู้ตัว
ความโกรธเมื่อกี้ได้โดนความตื่นเต้นกลืนไปแล้ว ฉันไม่ต้องเงยหน้าดูก็เดาได้ว่าอาการของซ่งแสว่เหม่ยดุร้ายแค่ไหน
"แม่กับเฟยเฟยมาฉลองวันเกิดกับลูกไง ลูกคงไม่ใช่ยุ่งจนลืมวันเกิดนะ"น้ำเสียงของซ่งแสว่เหม่ยเหมือนจะทำอะไรไม่ถูก แต่ยังรู้สึกว่ามีสองสายตายังจ้องมองมาที่ฉัน
"อี้เฉิน ผู้หญิงคนนี้เป็นมายังไง?เธอมาอยู่ที่คฤหาสน์ของลูกได้ยังไง?"
"แม่ ผมจะแนะนำให้รู้จัก เธอคือหลัวอีอี สองวันนี้เราได้จดทะเบียนกันแล้ว"น้ำเสียงเฉิงอี้เฉิงเรียบสงบมาก ฉันกลัวจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรงๆ
"ลูกพูดบ้าอะไรของลูก!"ซ่งแสว่เหม่ยระเบิดออกมา
เฉิงอี้เฉินได้เอาทะเบียนสมรสออกมาโชว์"ผมไม่ได้พูดมั่ว นี้ครับทะเบียนสมรส"
สวีเฟยเฟสรีบเข้าไป แล้วได้หยิบทะเบียนสมรสออกมา
มองดูตัวหนังสือข้างบน ทำให้เธอถึงกับเซ และน้ำตาก็ได้ไหลออกมาทันที
"ไม่….ต้องเป็นของปลอมแน่ๆ พี่อี้เฉิน พี่จะ….พี่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้……"สวีเฟยเฟยร้องไห้ใบหน้ายังแฝงความงามอยู่ แม้กระทั้งฉันเป็นผู้หญิงยังรู้สึกหลงรักเลย
แต่เฉิงอี้เฉินยังยืนดูสวีเฟยเฟยด้วยความเย็นชา แล้วดึงเอาใบทะเบียนสมรสกลับมา
"ไม่มีอะไรที่จะเป็นไปไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้คือพี่สะไภ้ของเธอ พวกเราเป็นสามีภรรยากันแล้ว"
ซ่งแสว่เหม่ยได้แต่พยุงสวีเฟยเฟย "อี้เฉิน ลูกรู้ไหมว่าทำอะไรลงไป?เรื่องใหญ่แบบนี้ ทำไมไม่ปรึกษาแม่กับคุณย่าของลูกก่อนล่ะ?"
"แม่ เป็นผมที่แต่งงาน ไม่ใช่แม่แต่ง และก็ไม่ใช่คุณย่าที่แต่งด้วย ผมจะเลือกผู้หญิงที่ผมชอบเท่านั้น ผมอายุสามสิบสองแล้วนะ เรื่องพวกนี้ผมสามารถตัดสินใจได้เอง"
"ผมได้บอกกับคุณย่าแล้วว่าจะไม่กลับ ผมจะให้คนรถไปส่งแล้วกัน"เฉิงอี้เฉินก็ได้โทรหาคนขับรถทันที
ซ่งแสว่เหม่ยก็ไม่ได้เต็มใจ "ลูกกำลังไล่พวกเรากลับ?"
"คืนนี้ผมต้องเข้าร่วมงานเลี้ยง"ท่าทางของเฉิงอี้เฉินไม่ได้คิดอะไร "เรื่องผมกับอีอีแต่งงานกันคุณย่าก็รู้แล้วด้วย ทั้งยังสนับสนุนให้เราอยู่ด้วยกันอีก"
ใจฉันเต้นรัว ย่าของเฉิงอี้เฉินสนับสนุนให้เราแต่งงานกันจริงๆหรอ?
ฉันเงยหน้าแล้วมองไปที่เฉิงอี้เฉิน ได้เห็นตาดำที่เหมือนกับสีของหมึกที่ดำเข้ม
"คุณย่าทำไมถึง….."
เฉิงอี้เฉินได้พูดตัดบทของซ่งแสว่เหม่ย และได้ยกมือขึ้นมาดูเวลา "แม่กลับไปถามคุณย่าก็จะรู้แล้ว แม่ ผมจะไม่ทันเวลาแล้ว คืนนีัทางหุ้นส่วนต้องการจะพบอีอี"
ฉันขมวดคิ้ว ร่างกายฉันนิ่งแข็งในอ้อมกอดของเฉิงอี้เฉิน ทางหุ้นส่วนอยากเจอฉัน?
ซ่งแสว่เหม่ยมองฉันด้วยสายตาสงสัยและความไม่แน่นอน ฉันว่าเธอคงจะคิดว่าฉันมีครอบครัวเป็นคนใหญ่คนโตแน่เลย หลังจากนั้นไม่ได้พูดอะไรก็พาสวีเฟยเฟยกลับไป
ฉันไม่สบายใจ "คือว่า คืนนี้ฉันต้องไปงานเลี้ยงกับคุณหรอ?"
ฉันไม่เคยเข้าร่วมงานของบริษัท ในใจรู้สึกเป็นกังวล แต่ในสัญญาก็เขียนไว้ชัดแจน ฉันต้องร่วมมือกับเฉิงอี้เฉิน
ไม่ว่จะเป็นเรื่องงานหรือการใช้ชีวิต เพื่อทำหน้าที่ในฐานะภรรยา
"ผมโกหก"
"ห๊ะ?"ฉันขยับไม่ได้ เฉิงอี้เฉินก็ได้ปล่อยเอวฉัน
"คืนนี้ไม่ได้มีงานเลี้ยงหรอก ผมไปบริษัทก่อนนะ คุณพักผ่อนเยอะๆล่ะ"
เฉิงอี้เฉินพูดเสร็จก็ได้ออกไป ฉันอึ่งไปสักพักรู้สึกตัวที่เขาพูดแบบนั้นก็เพื่อที่จะได้ช่วยแก้หน้าให้ฉัน
ฉันมองดูคฤหาสน์ที่กว้างขวาง ก็รู้สึกไม่สบายใจมาก
ดูแล้วที่แต่งงานกับเฉิงอี้เฉินคงไม่ได้สุขสบายแน่ แม่ย่ากับลูกสะไภ้คงเป็นเรื่องสวรรค์กำหนดมั้ง?
ได้แต่ถอนหายใจ แล้วเดินตามป้าหวังขึ้นไปบนห้อง ยุ่งมาทั้งวันและฉันก็เหนื่อยมากแล้ว นอนพักบนเตียงก็เผลอหลับไป พอตื่นขึ้นมาฟ้าก็มืดแล้ว แต่เฉิงอี้เฉินยังไม่กลับบ้านเลย
ป้าหวังบอกว่าเฉิงอี้เฉินทำงานล่วงเวลา ถามฉันว่าจะทานอาหารไหม ฉันลังเลสักพักแล้วได้คิดถึงคำพูดของซ่งแสว่เหม่ย
"วันนี้เป็นวันเกิดของเขาใช่ไหม?" ฉันถามป้าหวัง
ป้าหวังพยักหน้า "ใช่ค่ะ วันนี้เป็นวันเกิดคุณชาย งานของเขายุ่งมาก น้อยครั้งที่จะได้จัดงานวันเกิด"
ลึกๆใจฉันก็คิด คนอื่นๆรู้แค่ว่าคนรวยมักใช้ชีวิตแบบเก๋ไก๋ แต่ไม่รู้ว่าเขาต้องขยันมากแค่ไหน
"ฉันใช้ครัวได้ไหม?"
"แน่นอนค่ะ คุณท่านจะทำอาหารไว้ให้คุณชายหรอคะ?"
ป้าหวังเดาออกถึงความตั้งใจของฉัน แนะนำสิ่งของต่างๆในครัวให้ฟัง ฉันได้เริ่มนวดแป้ง ป้าหวังดูท่าทางที่ฉันทำได้ชมฉัน ทำให้ฉันไปไม่ถูกเลย
พวกนี้ฉันทำมาตั้งแต่เล็ก ไม่นานเส้นแป้งฉันก็มวนเสร็จ ฉันกำลังคิดว่าจะรอเฉิงอี้เฉิงกลับมาก่อนค่อยเริ่มทำหรือยังไง ก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น
"คุณชายกลับมาแล้ว ชั่งบังเอิญจริงๆ" ป้าหวังได้ยิ้มอย่างพอใจ
ใจฉันรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เปิดไฟแล้วนำเอาเส้นที่พึ่งทำเสร็จใส่ลงในหม้อ
"กำลังทำอะไรอยู่?"
เสียงของเฉิงอี้เฉินดังขึ้นมาจากด้านหลังฉันทำให้ฉันตกใจ ฉันหันหน้าก็ได้เห็นเขายื่นอยู่ข้างๆแล้ว ป้าหวังยืนอยู่อีกด้านก็ได้แต่แอบยิ้ม
"อีอีรู้ว่าเป็นวันเกิดคุณชาย เธอเลยทำหมี่ซั่วให้คุณ"ป้าหวังพูดเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
ฉันรู้สึกเขิน "สุขสันต์วันเกิดค่ะ ที่บ้านฉันก็ทานหมี่ซั่วกันตอนวันเกิด ดังนั้นฉัน…."
"หอมจัง"เฉิงอี้เฉินยิ้มมุมปาก "ผมไปล้างมือก่อนนะ"
ฉันอึ้งได้แต่มองตามหลังเขา ในใจก็รู้สึกมีความสุข ดูเส้นในหม้อต้มสุกแล้วก็ได้ตักออกมา ได้ตักน้ำซุปใส่ถ้วย ตามด้วยผักชี ไส้กรอกและกุ้งสุกลงใส่ถ้วยอย่างปราณีต
ฉันรู้สึกไม่ดีเพราะได้ทำหมีซั่วเพียงถ้วยเดียว แต่ยังดีป้าหวังได้เตรีมอาหารเย็นไว้แล้ว อาหารที่โต๊ะดูแล้วน่าอร่อย เมื่อเทียบกับหมี่ซั่วที่ฉันเหมือนจะดูไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่
แต่เฉิงอี้เฉินก็ได้รักษาหน้าฉันไว้ เขาทานหมี่ซั่วที่ฉันทำแปบเดียวเกลี้ยงถ้วย ได้แต่มองเฉิงอี้เฉินผ่านแสงไฟอันอบอุ่น ฉันใจลอยได้แต่คิดว่าเราเป็นคู่สามีภรรยากันแล้วจริงๆหรอ