"ปั้ง" เสียงเปิดประตูห้องดังขึ้น
ฉันตกใจจนสะดุ้ง รวมถึงร่างกายของเเม่ฉันก็สะดุ้งตามไปด้วย
"แม่อย่าตกใจ อย่าตกใจ……"ฉันรีบทำให้เเม่สงบลงเเละมองไปที่เครื่องชีพจร
เครื่องชีพจรเต้นผิดปกติเเต่ยังดีที่ว่าผิดปกติได้เเปปเดียวก็กลับมาเต้นปกติเเล้ว ฉันหันหัวกลับไปก็เห็นว่าจังเหม่ยเอ๋อกับฉินจงหมิงได้เดินเข้ามาภายนห้องเเล้วเเละจิ้นเหวินเซี่ยนก็ยืนอยู่ข้างๆพวกเขาด้วย
"พวกเธอมาทำอะไร? " ฉันพูดออกไปพร้อมมองไปที่พวกเขาอย่างระมัดระวังเเละรู้สึกรำคาญในใจ
ฉันคิดไว้ตั้งนานเเล้วว่าบ้านสกุลฉินต้องมาหาเรื่องเเน่นอน เเต่ทำไมฉันถึงได้รีบร้อนย้ายเเม่มาที่ห้องผู้ป่วยธรรมดากันนะ!
มีจิ้นเหวินเซี่ยนอยู่ในโรงพยาบาล พวกเขาเเทบจะไม่ต้องกังวลเลยว่าจะหาฉันไม่เจอ นอนห้องผู้ป่วยธรรมดามันค่าใช้จ่ายไม่สูง เเต่ดูจากสภาพอาการของเเม่ฉันเเล้วมันสามารถรับความตกใจหรือมาทำให้ตื่นเต้นได้ที่ไหน?
ฉันรู้สึกโกรธจนลุกเป็นไฟ บอดี้การ์ดทั้งสองคนยืนบังอยู่ข้างหน้าฉัน ฉันนิ่งไปสักพักก็ลับมานึกได้
"ให้พวกเขาออกไปจากห้องนี้" ฉันพูดอย่างกังวลเเละไม่รู้ว่าบอดี้การ์ดสองคนนี้จะฟังคำสั่งฉันไหม
เเต่ยังดีที่พวกเขารับฟังคำสั่งของฉันเเละลงมือทำทันทีเเละลากจังเหม่ยเอ๋อกับฉินจงหมิงออกไปทัน
"ลั่วอีอี เธอกำลังจะทำอะไร? เเค่เธอลงมือทำพวกฉันก็จะเเจ้งความทันทีจะเชื่อหรือไม่เชื่อ!"จิ้นหวินเซี่ยนตะโกนออกมา
ฉันรีบไปหุบปากพวกเขาเอาไว้ เเล้วใช้เเรงทั้งหมดลากพวกเขาออกไป
"พวกเธอจะทำอะไร! " ฉันขมวดคิ้วเเล้วกัดฟันพูดออกไป
"ลั่วอีอี เธอนี่มันนังตัวดี เธอทำให้จวิ้นเฟย….." จังเหม่ยเอ๋อจ้องมาที่ฉัน
เธอยังไม่ทันได้พูดจบประโยค ฉินจงหมิงก็รีบตำหนิเธอ
"ใจเย็นลงหน่อย!" ฉินจงหมิงคว้าเเขนของจังเหม่ยเอ๋อเอาไว้ด้วยสีหน้าที่เศร้าหมอง หน้าอกเต้นอย่างรุนเเรง
จังเหม่ยเอ๋อกัดฟันเเล้วมองมาที่ฉัน มองจนอีกนิดเกือบจะสามารถกลืนกินฉันเข้าไปทั้งเป็น เเต่ก็อดไม่ได้ที่จะร้อง
"อีอี ที่พวกฉันมาหาเธอก็เพราะอยากจะมาคุยกับเธอเรื่องของฉินจวิ้นเฟย" ฉินจงหมิงมองที่ฉันด้วยหน้าเศ้รา
ฉันคาดหวังไว้ตั้งเเรกอยู่เเล้วว่าพวกเขาจะมาเเละในตอนนี้ฉันไม่มีความขี้ขลาดมีเเต่ความโกรธ
"ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับพวกเธออีก พวกเธอน่าจะได้รับหมายเรียกจากศาลเเล้ว ไว้เจอกันในศาลค่อยมาพูดเเล้วกัน"
ฉันพูดอย่างชัดเจน บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันมันทำให้ฉันรู้สึกมั่นใจ
เเต่ว่าฉันเเค่ไม่คาดคิดว่าจิ้นเหวินเซี่ยนจะเข้ามาโจมตีอย่างกระทันหัน
เธอรีบตรงเข้ามาที่ข้างหน้า บอดี้การ์ดทั้งสองก็ตอบสนองไม่ทัน ฉันจึงโดนเธอตบเข้าอย่างเเรง
"ลั่วอีอี เธอคิดเธอเป็นใครมาจากไหน! ถึงได้มาพูดจาเเบบนี้กับลุงเเล้วก็ป้า?" บอดี้การ์ดก็เดินเขาไปจับเธอเอาไว้ทันที เเต่ก็ไม่ได้หยุดเธอที่กำลังด่าอยู่
หน้าของฉันเจ็บเป็นอย่างมาก เเต่ความโกรธในใจยิ่งเเรงขึ้น
"เเล้วเธอหล่ะ คิดตัวเองเป็นใครมาจากไหน?" ฉันจ้องไปที่เธอเเละถาม "ไปเป็นมือที่สามของเขามีความสุขมากหรือ เข้ามายุ่งมากขนาดนี้ฉินจวิ้นเฟยได้บอกว่าจะเอาเธอเป็นภรรยาเเล้วหรือยัง?"
เมื่อนึกถึงตอนที่ฉันกับฉินจวิ้นเฟยยังรักกันเเล้วฉินจวิ้นเฟยก็ไปมีความสัมพันธ์กับเหวินเซี่ยนมันทำให้ฉันไม่พอใจเเละรู้สึกขยะเเขยงราวกับกินเเมลงวันเข้าไป เเต่จิ้นเหวินเซี่ยนเหมือนยังกลัวกับความน่าขยะเเขยงนี้ไม่พอ ถึงได้วนเวียนต่อหน้าฉันทุกวัน
ฉันหายใจเข้าลึกๆ เเละหันเพื่อเดินออกไป จังเหม่ยเอ๋อที่อยากจะมาจับเเขนฉันเอาไว้ เเต่ก็ถูกบอดี้การ์ดขวางเอาไว้
ฉินจงหมิงรีบเดินมาข้างหน้า "ลั่วอีอี เรื่องนี้ฉินจวิ้นเฟยทำไม่ถูกจริงๆ พวกเราสามารถชดเชยให้คุณได้ เราลองมาคุยเป็นการส่วนตัวดูไหม?"
"คุยเป็นการส่วนตัว?" ฉันนึกขำในใจ
"เพียงเเค่คุณถอนฟ้องร้องเรา เงินหมั้นก็ไม่ต้องคืนพวกเรา" ฉินจงหมินกล่าวมันอีกครั้ง
ทันทีที่ฉันได้ยินคำพูดนี้ก็ทำให้ฉันหัวเราะออกมา "ฉินจวิ้นเฟยมีค่าเเค่เท่าเงินพวกนี้เองหรือ? ก็ไม่ได้มีค่าอะไรขนาดนั้นนะ"
บ้านสกุลฉินคงจะเห็นฉันเป็นขอทานสินะ เงินหมั้นนั้นก็เเค่สองเเสนหนึ่งหมื่นกว่าหยวนเอง ก่อนหน้านี้ฉันให้พวกเขาไปแล้วหนึ่งเเสนสามหมื่น พวกเขายังจะมีหน้ามาบอกว่าไม่เอาเงินเเล้ว
"ลั่วอีอี เธออย่ามาเหยียบจมูกขึ้นหน้า" จังเหม่อเอ๋อโกรธจนตัวสั่น
ถ้าเป็นก่อนหน้านี้เธอก็คงจะลงมือทำเเล้วอะไรฉันเเล้ว เเต่เป็นเพราะมีบอดี้การ์ดสองคนยืนอยู่ตรงหน้าฉันจึงทำให้เธอไม่มีโอกาสได้ทำ
ฉินจงหมิงขมวดคิ้วเเล้วหายใจเข้าลึกๆ เเละบีบรอยยิ้มที่ดูน่าเกลียดยิ่งกว่าร้องไห้ "เเม่ของเธอต้องนอนโรงพยาบาล ฉันเข้าใจว่ามันไม่ง่ายสำหรับเธอ งั้นเอาอย่างนี้ค่ารักษาพยาบาลเธอต้องการเท่าไหร่? บอกตัวเลขมา ถ้าฉันช่วยได้ก็จะช่วย"
"ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าเกิดว่าไม่มีเรื่องราวอุบัติเหตุในครั้งนั้น เราก็ยังถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน" ฉินจงหมิงยิ้มเเละเอาเรื่องความสัมพันธ์เเละความรู้สึกเข้ามาพูด
ฉันอยากจะอ้วกเมื่อได้ยินที่ฉินจงหมิงพูดออกมา นึกไม่ถึงว่าเขาจะมีหน้ามาพูดว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน? พวกเขาเคยเอาฉันไปเป็นคนในครอบครัวเมื่อไหร่กัน?
ฉันรู้สึกขยะเเขยงมาก ไม่ต้องการจะไปพัวพันกับพวกเขาอีก "ฉันไม่ต้องการพูดเรื่องนี้เป็นการส่วนตัวอีก รอให้ศาลตัดสินทีเดียว"
ประโยคคำพูดนี้ฉันซ้อมพูดในใจมานับครั้งไม่ถ้วน ฉันเดาไว้ตั้งเเต่เเรกเเล้วว่าพวกเขามาหาฉัน
การลักพาตัวก็เพียงพอเเล้วสำหรับโทษจำคุกสิบปีขึ้นไป ฉินจวิ้นเฟยยังโดนข้อหาพยายามข่มขืนเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้รับโทษเบาๆ
ฉันนั้นคิดได้เเละบ้านสกุลฉินก็รู้ดีอย่างชัดเจนโดยธรรมชาติ บ้านสกุลฉินมีต้นกล้าเพียงต้นเดียวคือฉิน
จวิ้นเฟยเเละจะมีทางหรือที่ฉินจงหมิงกับจังเหม่อเอ๋อจะปล่อยไม่สนใจเเบบนี้?
"ลั่วอีอี เธอคิดว่าเธอจะพึ่งพาเฉิงอี้เฉินได้นานเเค่ไหนกัน? เธออย่าฝันไปไกลเลย เขาไม่มีทางที่จะชอบเธอหรอก" จังเหม่ยเอ๋อสบถคำพูดออกมาด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว
ฉันเจ็บปวดใจอย่างมาก เเละพูดออกไปอย่างเย็นชาว่า "วันที่เขาช่วยฉัน ฉันก็ทำให้พวกเธอทรมานได้ทั้งวัน เเล้วเชื่อหรือไม่ว่าฉันสามารถทำลายบ้านสกุลฉินได้ในขณะที่เขากำลังช่วยฉัน"
MANGA DISCUSSION