รักของเรา เริ่มต้นจากคืนนั้น - ตอนที่ 14 ไต่ขึ้นไปที่สูง
เฉิงอี้เฉินออกไปจากที่นี่เเละฉันได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากปากของหลินปิงชิงทั้งหมด
ฉันถูกเฉิงอี้เฉินอุ้มไปเข้ารับการตรวจรักษา เเต่ฉินจวิ้นเฟยและจิ้นเหวินเซี่ยนไม่เเม้เเต่จะปรากฏตัวหรือตามมาเลยหลังจากที่เกิดเรื่อง
ฉันไม่รู้ว่าเเท้จริงเเล้วเฉิงอี้เฉินนั้นพูดอะไรกับฉินจวิ้นเฟยไปบ้าง เเต่จากที่เฉิงอี้เฉินพูดเมื่อกี้ว่าฉินจวิ้นเฟยนั้นยอมที่จะหย่ากับฉันเเล้ว ดังนั้นมีความเป็นไปได้ที่เฉิงอี้เฉินอาจจะขู่บ้านสกุลฉิน
เเต่เเค่ไม่คิดว่าบ้านสกุลฉินจะยอมได้เร็วขนาดนี้
มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นเเล้วประตูห้องผู้ป่วยของฉันอยู่ๆดีก็ถูกผลักออก เเล้วคนที่เดินเข้ามาก็คือจังเหม่ยเอ๋อกับฉินจวิ้นเฟย เเละเเน่นอนอีกคนที่ขาดไม่ได้คือจิ้นเหวินเซี่ยน
"ยินดีกับเธอด้วยนะ ที่ไต่ขึ้นไปที่สูงได้เร็วขนาดนี้" จังเหม่ยเอ๋อก็พูดแปลกๆทันทีที่เห็นฉัน
เธอจ้องมองมาที่ฉันด้วยสายตาที่ดุร้ายราวกับจะลุกเป็นไฟ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ได้คาดคิด
"พวกเธอมาทำอะไรที่นี่?" หลินปิงชิงลุกขึ้นมายืนอยู่ข้างหน้าของฉันอย่างกระทันหัน พร้อมกับทำมือปกป้องฉันที่่อยู่ข้างหลัง
จิ้นเหวินเซี่ยนยิ้มแปลกๆพร้อมพูดว่า "พวกฉันจะไปทำอะไรได้? เเล้วนี่ไม่ใช่ว่าจะหย่าหรอ?จะมัวนอนอยู่ทำไมหล่ะ? รีบลุกขึ้นมาซิ ไต่ขึ้นไปอยู่ที่สูงเเล้วทำเป็นร่างกายบอบบางหรอ?"
"หย่า?"
พวกเขาที่มาหาฉันอย่างร้อนรนก็เพียงเพื่อที่จะทำเรื่องหย่าให้ฉันหรือ?
ฉันอดที่จะสงสัยไม่ได้ว่าสรุปเเล้วเฉิงอี้เฉินทำอะไรลงไปกันเเน่ ถึงทำให้บ้านสกุลฉินร้อนรนได้ขนาดนี้
"ลั่วอีอี นับว่าเธอเก่งมากนะ ที่สามารถทำให้เฉิงอี้เฉินช่วยเหลือเธอได้ขนาดนี้" ฉินจวิ้นเฟยก็พูดออกมาจากที่เงียบมาตลอด
ใบหน้าเขาดูมัวหมอง ใต้ตาก็มีรอยช้ำเเถมมุกปากก็ยังบวมอีก
"อย่างไรก็ตามอย่าได้ฝันว่าจะได้เเต่งงานเข้าไปอยู่ในครอบครัวที่ร่ำรวยอย่างนั้น เขาไม่ต้องผู้หญิงที่ชอบมั่วไปทั่วอย่างเธอหรอก" คำพูดมันเต็มไปด้วยคำดูถูกเเละเยาะเย้ย
ฉันแม้มริมฝีปากเอาไว้อย่างเเน่นเเละมองไปที่หน้าของฉินจวิ้นเฟย
ก่อนที่ฉันจะเป็นลมเเล้วสลบไป ใบหน้าของยังดีอยู่เลย เเล้วทำไมตอนนี้้ใบหน้าของเขาถึงได้หมดสภาพอย่างนี้
เฉิงอี้เฉินเป็นคนทำหรือ?
ในใจของฉันรู้สึกดีใจจนไม่สามารถบรรยายได้
ตลอดในช่วงเดือนนี้ที่ผ่านมา ฉินจวิ้นเฟยทำกับฉันไว้หลายอย่างมาก เเต่ตอนนี้เห็นเขาอยู่ในสภาพนี้เเล้ว ฉันรู้สึกดีใจมาก
"จะมัวชักช้าอยู่ทำไมหล่ะ? รีบๆเซ็นใบหย่า พวกฉันจะได้ไปยื่นที่สำนักกิจการพลเรือน" จังเหม่ยเอ๋ออดทนไม่ไหวเเละฉันก็เห็นว่าเธอนั้นโกรธ เเต่เธอก็อดกลั้นเอาไว้
เรื่องราวเปลี่ยนไปอย่างกับในหนัง ก่อนหน้านี้เป็นฉันที่ต้องขอร้องให้ฉินจวิ้นเฟยหย่ากับฉัน เเต่ตอนนี้กลับกลายเป็นพวกเขาที่ทนไม่ไหวจนต้องมาขอหย่า
ฉันพร้อมกับหลินปิงชิงได้ไปสำนักงานกิจการพลเรือนกับพวกเขาทันทีที่่ได้ใบหย่า หลังจากที่ยื่นใบหย่าเเล้วฉันก็ถอนหายใจแรงๆด้วยความโล่งอกโล่งใจ
ทุกอย่างเป็นไปได้อย่างราบรื่น จนฉันเเทบจะไม่อยากเชื่อเเละรู้สึกไม่สบายใจ
"เราก็หย่ากันเเล้ว คุณก็ควรให้เฉินอี้เฉินหยุดได้เเล้ว" เสียงของฉินจวิ้นเฟยดังมาจากด้านหลังของฉัน
ฉันตกใจจนสะดุ้งเเล้วหันหน้าไปมองเขาเเละขมวดคิ้ว "หยุด?"
"หึ ยังทำเป็นไม่รู้เรื่องอีก" ฉินจวิ้นเฟยยิ้มเยาะ
จังเหม่อเอ๋อเดินมาข้างหน้าเเละกัดฟันพูดว่า "เฉิงอี้เฉินบอกว่าถ้าไม่ยอมหย่ากับเธอ วันเเรกบ้านสกุลฉินจะต้องเสียเงินห้าล้าน วันที่สองจะต้องเสียเงินสิบล้าน ลั่วอีอีเธอรู้ไหมว่าเป็นเพราะเรื่องนี้บ้านสกุลฉินต้องเสียเงินไปเท่าไหร่! "
หลังจากที่ได้ยินเรื่องนี้ฉันก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมบ้านสกุลฉินถึงได้กังวลเเละรีบร้อนที่จะหย่าขนาดนี้ ไม่คิดว่าเฉิงอี้เฉินจะถึงขั้นใช้วิธีนี้มาช่วยฉัน เเต่จะว่าไปสำหรับบ้านสกุลฉินก็ต้องวิธีเเบบนี้เเหละดีที่สุด
ฉินจวิ้นเฟยมองมาที่ฉันอย่างไม่คลาดสายตา "ลั่วอีอี ฉันคงประเมินเธอต่ำเกินไป"
ฉันแอบยิ้มในใจ "ไม่ใช่เเค่เรื่องหรอกที่คุณประเมินฉันต่ำไป"
"นังตัวดี"
"ก็ยังไม่เท่าคุณ! " ฉันตวาดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์
ฉินจวิ้นไม่คิดว่าฉันจะตอบเขาไปแบบนั้น หลังจากนั้นสองวินาทีเขานึกอยากจะมาตีฉัน เเต่หลินปิงชิงก็มายืนขวางเอาไว้ ในเวลาเดียวกันจังเหม่ยเอ๋อกับจิ้นเหวินเซี่ยนก็เข้ามาห้ามเขาเหมือนกัน
"จวิ้นเฟย เธออย่าตื่นเต้น อย่าตื่นเต้น….เธอลืมสิ่งที่เฉิงอี้เฉินพูดเเล้วหรือ? "จิ้นเหวินเซี่ยนถามด้วยความเร่งรีบ
ฉันงงพร้อมกับขมวดคิ้ว นี่เฉิงอี้เฉินยังพูดอะไรอีก
"ลั่วอีอี เธอคิดจะจับต้นไม้ใหญ่อย่างเฉิงอี้เฉิน ก็จับไว้ให้เเน่นๆเเล้วกัน! " ฉินจิ้นเฟยโมโหร้ายอย่างกับสัตว์ป่า ทั้งจิ้นเหวินเซี่ยนเเละจังเหม่ยเอ๋อก็เหมือนจะเอาเขาไว้ไม่อยู่
ฆลินปิงชิงจึงถือโอกาสรีบลากฉันขึ้นรถ แต่เมื่ออยู่บนรถฉันก็ได้รับข่าวร้ายอีกเรื่อง ทำให้ความดีใจของฉันที่ได้หย่ามันหายไปในทันที
ความวุ่นวายของฉินจิ้นเฟยในวันนี้ทำให้เกิดผลกระทบที่เลวร้ายมาก เเม้เเต่หลินปิงชิงยังถูกหัวหน้าโรงพยาบาลเรียกไปคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้
ถึงเเม้ว่าหลินปิงชิงจะช่วยฉันพูดดีเเค่ไหน เเต่ฉันก็ยังถูกโรงพยาบาลไล่ออกอยู่ดี
ฉันเป็นหนี้เฉิงอี้เฉินอยู่เเล้วหนึ่งแสน อาการป่วยของเเม่ฉันก็ยังไม่ดีขึ้น ยังต้องใช้ค่าใช้จ่ายอีกเยอะ เงินหนึ่งแสนก็อาจจะไม่พอ
นอกจากนี้ยังมีเงินหมั้นของฉินจวิ้นเฟยอีก…..
ถึงเเม้ว่าฉันจะหย่ากับเขาไปเรียบร้อยเเล้ว เเต่ฉันเชื่อว่าบ้านสกุลฉินไปปล่อยฉันไปง่ายๆเเน่
ฉันต้องการเงิน แต่ฉันก็ตกงาน โรงพยาบาลเทศบาลเป็นโงรพยาบาลที่ดีที่สุดในเมืองเเละฉันถูกไล่ออกจากที่นี่ เเล้วฉันจะหางานได้ที่ไหนอีก
เมื่อนึกถึงเรื่องพวกนี้ ฉันก็มีความรู้สึกอยากร้องไห้เเต่น้ำตาไม่ไหล
"อีอี" หลินปิงชิงก็พูดขึ้นทันที "เรื่องที่พี่ใหญ่เฉิงพูดเอาไว้ สรุปเธอจะเอายังไง"