ในค่ำคืนฉันได้ไปถึงห้องผู้ป่วยของแม่ฉัน เห็นฉันกลับมาอักครั้้งแม่ฉันก็ตลึงสักพัก ทั้งยังมองสีหน้าไม่ค่อยดีของฉันออก
“อีอี เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”แม่ฉันถามขึ้นด้วยความเครียด
ฉันได้พูดสั้นๆ “แม่ ฉันมาทำเรื่องให้แม่ออกโรงพยาบาล ที่บ้านจัดการเรียบร้อยแล้ว”
“มีเรื่องอะไร?ทำไมดึกอย่างนี้?พรุ่งนี้ไม่ได้หรอ?อีอีบอกความจริงกับแม่มา เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม์”สีหน้าแม่ฉันยังกังวล
ฉันก็ได้เม้มปาก “วันนี้ฉันได้เจอกับฉินจวิ้นเฟยแล้ว”
“ฉินจวิ้นเฟย?”แม่ฉันก็ตลึงไป ทั้งได้จับมือฉัน”เจอเขาที่ไหน?”
“ที่โรงพยาบาล”ฉันตอบ “เขาว่าอยากจะอยู่ด้วยกันกับฉัน จากนั้นภรรยาของเขาก็ติดต่อฉันมา เธอรู้ว่าแม่อยู่ที่นี้ ฉันกลัวว่าเขาจะมาป่วนอีก ดังนั้นเรารีบออกจากโรงพยาบาล”
“อ๋อ ได้ ได้!แม่…แม่เก็บของก่อนนะ”
ฉันก็ได้พยักหน้าแล้วได้วุ่นวายเก็บเอาของตัวเอง ฉันอยากจะปลอบอารมณ์ของแม่ฉัน แต่ว่าตอนนี้ตัวฉันเองก็ไม่ได้นิ่งมาก เพียงแค่ได้ไปช่วยแม่ฉันเก็บของใส่กระเป๋า
ถึงแม้ว่าโรงพยาบาลที่แม่ฉันพักอยู่ที่อำเภอเล่อ บ้านฉินจวิ้นเฟยอยู่ที่เมืองไห่ ดังนั้นฉันไม่ใจจิ้นเหวินเชียนอยู่ที่ไหนแน่ ยิ่งเป็นห่วงว่าจิ้นเหวินเชียนจะป่วนเรื่องใหญ่
หนังศีรษะก็เริ่มชา ในใจก็กังวล โชคดีฉันกับแม่ออกมาจากโรงพยาบาลอย่างราบรื่น ได้ตรงไปขึ้นรถแท็กซี่ ฉันถึงถอนหายใจอย่างสบายใจ
“แม่ ไม่เป็นไร ห้องที่ฉันจองกว้างมาก ถึงตอนนั้นเราพักด้วยกัน แม่ก็ได้เจอหน้าซีหย่ากับฮั่นอี้ทุกวัน”ฉันได้ยิ้มปลอบใจแม่ฉัน
ฉันเห็นแม่ฉันพยักหน้า ก็ได้ค่อยๆยิ้มขึ้นมาแต่ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมา ฉันมองแม่ฉันออกจะพูแต่ไม่พูด รู้ว่าเธอต้องเป็นหัวเรื่องฉินจวิ้นเฟยกับจิ้นเหวินเชียนแน่ แต่ตอนนี้ยังอยู่บรถแท็กซี่ พวกเราไม่อยากจะพูดมาก
พี่จางกับพี่หลิวมองเห็นหันไปรับกลับมา เมื่อกี่ที่ฉันได้รีบออกไปพวกเธอเป็นห่วงมาก เห็นฉันกลับมาถึงได้วางใจ
“คุณป้าพักอยู่ห้องข้างบนนั้นใช่ไหม?ตรงนั้นรับแสงดี พักก็สบาย ฉันไปช่วยปูที่นอนนะ”พี่จางมองฉันแล้วพูด ฉันได้พูดขอบคุณเธอไป ทั้งได้ดื่มน้ำหนึ่งแก้วถึงใจเย็นลง
ฉันพาแม่เดินชมห้องนี้รอบๆ หลังจากนั้นก็ให้ไปอาบน้ำล้างหน้าพักผ่อน ในใจยังคงวุ่นวายเล็กน้อย สุดท้ายก็ได้ถือเอาไวน์ขวดหนึ่งมาเปิด
ฉันยืนที่ระเบียงตากลม ในมือก็ถือโทรศัพท์ ระดับการดื่มเหล้าก็ไม่ดี ทั้งยังไม่ได้ดื่มเหล้านานทำให้ระดับเหล้าแย่ขึ้น เพียงได้ชิมไปแค่ไม่กี่คำก็เริ่มเวียนหัวขึ้นเรื่อยๆ
มองออกไปนอกหน้าต่างดูเมืองนีออน ในหัวของฉันมีภาพแสงกะพริบนับไม่ถ้วน ในที่สุดฉันก็ได้โทรไปที่เบอร์หนึ่ง
ความจะของคนบางครั้งมันชั้งยิ่งใหญ่จริงๆ หลังจากออกจากฉินจวิ้นเฟยก็ได้ลบการติดต่อทั้งหมดของฉินจวิ้นเฟย แต่ว่าฉันตอนนี้ยังคงจำเบอร์มือถือของเขาได้แม่น
เพียงแต่
ไม่นานก็มีเสียงดังขึ้น มือถือได้โทรออก
“ฮัลโล นี้ใคร?”
ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ฉันก็ได้กลั่นหายใจไม่ให้ออกมา
“ฉินจวิ้นเฟย!รบกวนคุณให้ดูภรรยาคุณดีๆ อย่ามาก่อกวนฉัน ยิ่งไม่ต้องมาก่อกวนแม่ฉัน!”ฉันพูดออกมาอย่างโกรธเกรี้ยว กับจิ้นเหวินเชียนความโกรธที่ไม่ได้ออกมาในที่สุดก็มาลงที่ฉินจวิ้นเฟย
ฉินจวิ้นเฟยที่อยู่ในสายนั้นก็ได้อึ้งอย่างเห็นได้ชัด ผ่านไปสักพักถึงได้ถามกลับอย่างไม่น่าเชื่อ “อีอี?คุณคิออีอีไหม?”
“ใช่ ฉันเอง”ฉันพูดอย่างเย็นชา ในหัวมีภาพออกมามากมาย
เวลานี่ฉันกำลังคิด จะต้องทำยังไงกันแน่ถึงจะทำให้ฉินจวิ้นไม่พอใจจิ้นเหวินเชียน ทำให้เขายิ้งอยากจะขอหย่า
“จิ้นเหวินเชียนหาคุณ?”ฉินจวิ้นเฟยรีถามต่อ ในเสียงมีทั้งโกระและแปลกใจ
“อึม”ฉันตอบกลับ “เธอบอกพอกลับมาก็อ่อยคุณ แล้วก็ด่าฉันเป็นฉาก ยังว่าจะไปป่วนแม่ฉันอีก”
“เขาพูดบ้าอะไรกัน?”เวลานี้จวิ้นเฟยโกรธ “ไม่ต้องเป็นห่วง ผมไม่ให้เขาไปก่อกวนแน่”
ได้ยินที่ฉินจวิ้นเฟยรับปาก ฉันก็อยากจะหัวเราะทันที เขาดูแบบนี้หมายถึงอะไร?อยากจะปกป้องฉัน?วันนี้เขาได้ยินฉันบอกว่าคลอดแล้วสองในเวลานั้นท่าทางเหมือนได้กินฉี่พร้อมขึ้นมาที่หัวฉัน ทำให้ฉันยิ่งอยากหัวเราะ
“คุณไปบอกเธอว่าตอนนี้แม่ฉันไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว เธออยากจะไปป่วนคงหาตัวแม่ฉันไม่เจอ ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันว่างล่ะ”ฉันก็ได้วางสายทันที ได้มองหน้าจอโทรศัพท์อย่างตกใจ แต่ฉินจวิ้นเฟยก็ได้โทรกลับมา
เขาโทรมาคืออะไร?ฉันจะต้องรับสายไหม?
ฉันก็อยากจะชักนำฉินจวิ้นเฟยจริงๆทำให้ฉินจวิ้นเฟนหย่ากับจิ้นเหวินเชียน แต่ฉันไม่อยากพูดคุยกับฉินจวิ้นเฟยมาก ฉันยุ่งมาทั้งวันแล้ว ฉันเหนื่อยมากจริงๆ
ฉันก็ได้กดวางสาย แต่ผ่านไม่กี่วินาที โทรศัพท์ก็ได้ดังขึ้นอีก ฉันก็ได้วางสาย ฉินจวิ้นเฟยยังโทรมาอีก ในเวลานี้เหมทชือนเป็นภาพที่ฉันกับจิ้นเหวินเชียนก่อนหน้านนี้
จากนั้นวางสายฉินจวิ้นเฟยติดต่อกันไปสี่ครั้งโทรศัพท์ก็ไม่ได้ดังขึ้นอีก ฉันก็ได้ถอนหายใจ นึกว่าฉินจวิ้นเฟยจะยอมแพ้แล้ว ก็ได้ดื่มเหล้าอีกคำก็ได้เอาโทรศัพท์ไปชาร์ตแบ็ตเตอร์รี่ ก็ได้ไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ
เพียงแค่อาบน้ำเสร็จออกจากห้องน้ำออกมาก็ได้เห็นวีแชทฉันก็มีการขอเพิ่มเป็นเพื่อนขึ้นมาอีกครั้ง
รูปโปร์ไฟร์เป็นรูปฉินจวิ้นเฟย หมายเหตุก็ได้เขียนประโคยหนึ่งว่า”อีอี เพิ่มผมหน่อย ผมคือจวิ้นเฟย”
ฉันลังเลสักพัก แล้วก็ได้ปิดเครื่องโทรศัพท์ ก็ได้เอาตัวเองไปล้มนอนบนเตียง
ฉันเหนื่อยจะบ้าแล้ว ได้ทำการเดินทางระหว่างต่างประเทศ จากนั้นไปหาแม่ฉันที่โรงพยาบาลทั้งยังยุ่งเรื่องงาน ตอนเย็นยังถูกจิ้นเหวินเชียนทรมาน ตอนนี้ในหัวฉันมันยุ่งมาก แต่ฉันพึงได้นอนลงบนเตียงไม่นาน ฉันก็หลับไป
เช้าขึ้นฉันก็ได้ตื่นขึ้น ในห้องเงียบก็เงียบสนิทไร้เสียงใดๆ ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ก็พบว่าเก้าโมงกว่าแล้ว
พูดขึ้นคือว่า เมื่อคืนเวลาที่ฉันนอนก็จะเช้าแล้ว นอนถึงตอนนี้ก็ไม่แปลกอะไร แต่ว่าฉันต้องรีบเร่งกับเวลาที่คลาดเคลื่อนให้กลับมาเหมือนเดิม
ฉันกดเปิดวีแชท ข้างในมีการเพิ่มเพื่อนเยอะมาก นอกจากฉินจวิ้นเฟยกับจิ้นเหวินเชียนแล้ว แต่ว่าครั้งนี้เธอได้เปลี่ยนวีแชท ถ้าไม่ใช่ที่เธอเขียนข้อความด่าฉันทิ้งไว้ ฉันคงเดาไม่ถูกว่าเป็นเธอ
ฉันยิ้มขึ้นที่มุมปาก ได้กดยินยอมรับฉินจวิ้นเฟยกลับมาเป็นเพื่อน หลังจากนั้นก็ปฏิเสธการเป็นเพื่อน ทั้งยังไปกดราบงานเธอ
หลังจากตื่นนอนจิตใจของฉันปลอดโปร่งมากขึ้น ร่างกายผ่อนคลายลงมาก ฉันได้คิดดีแล้ว ไม่อยากติดต่ออะไรกับจิ้นเหวินเชียนอีก เพราะฉันเข้าใจแล้ว สำหรับจิ้นเหวินเชียนคือความผิดพลาดที่ใหญ่มากก็คือให้ฉินจวิ้นเฟยหย่ากับเธอ ทั้งยังทำให้เธอไม่มีอะไรติดออกมาด้วย
นี้คือสสิ่งที่จิ้นเหวินเชียนกลัวที่สุด พอดีเป็นเรื่องที่ฉันจำเป็นต้องทำ
MANGA DISCUSSION