จากนั้น เย่เสวี่ยจู๋ไม่เจอเฉินซิงเหย้าติดต่อกันเป็นอาทิตย์
คนในบริษัทบอกว่า ทั้งอาทิตย์นี้เฉินซิงเหย้าไปทำงานนอกสถานที่
อ้วนโต่งก็บ่นในบริษัท: “เฮ้อ ข่าวใหม่! พวกเธอรู้ว่าประธานเฉินของพวกเราครั้งนี้ไปทำงานนอกสถานที่กับใคร?”
ไม่รอคนอื่นถาม อ้วนโต่งก็อดไม่ได้ที่จะพูดต่อ: “ข้อมูลที่ฉันได้มา ครั้งนี้ประธานเฉินบินไปอเมริกา ไปกับเจียงซินเหยา! จุ๊ๆๆ ……ชายหญิงบินไปอเมริกาสองต่อสอง ไปก็ไปเป็นอาทิตย์ พั่บๆๆ ก็ทำได้เจ็ดแปดครั้งแล้ว! ”
สือเสี่ยวหรันพูดแทรก : “อ้วนโต่ง สมองของคุณไม่สกปรกแบบนี้ได้ไหม! ฉันได้ยินว่าไปทำงานครั้งนี้ นอกจากเจียงซินเหยาไปกับประธานเฉิน ยังมีรองประธานและผู้ช่วยคนอื่นๆ ไปด้วย! มีเวลาพั่บๆๆ กันอย่างที่คุณคิดที่ไหน?”
“อันนี้เธอไม่รู้ใช่ไหมล่ะ? ” สีหน้าอ้วนโต่งยิ้มแย้ม “ผมจะบอกคุณ ผู้ชาย ถ้าอย่างพั่บๆๆ กับคุณ ไม่สนว่าอยู่ที่ไหนก็สามารถพั่บๆๆ กับคุณได้ แม้แต่ที่โต๊ะทำงานของคุณก็สามารถมีอะไรได้ทันที คุณเชื่อไหม? ”
เย่เสวี่ยจู๋ฟังถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็ร้อนตัว เธอมองไปที่โต๊ะทำงานของสือเสี่ยวหรันตัวนั้นอย่างรวดเร็ว คิดถึงคืนนั้นเมื่ออาทิตย์ก่อน สถานการณ์ที่มีเสน่ห์ของเฉินซิงเหย้าที่กดดันตัวเองลงบนโต๊ะของสือเสี่ยวหรัน อดไม่ได้ที่หน้าแดงใจเต้น เธอยกแก้วน้ำดื่มคำหนึ่ง รีบดื่มไปหน่อย เกือบจะสำลักตัวเองตาย!
รอจิตใจสงบลง เธอถอนหายใจด้วยความโล่งอก ในสมองของเธอก็ปรากฏความร้อนรนบ้าคลั่งของเฉินซิงเหย้าในคืนนั้น เสียงหอบหายใจหยาบของของเขาเหมือนยังอยู่ข้างหู……
ที่แท้คืนนั้น เขาจะไปแล้วเลยมาหาตัวเอง……เมื่อก่อนเขาก็เป็นแบบนี้ ทุกครั้งที่ก่อนออกไปทำงานนอกสถานที่ จะเรียนตัวเองไปตลอด ไม่ทรมานเธอให้ปางตาย จะไม่ปล่อยให้เธอกลับไป
ที่แต่เย่เสวี่ยจู๋คิดไปตกคือ ตอนนี้เขามีเจียงซินเหยาแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังเรียกหาตัวเอง?
ผ่านไปแล้วอีกหนึ่งอาทิตย์ ในที่สุดเย่เสวี่ยจู๋ก็ได้รับเงินเดือนเดือนที่สองจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์เป่าฮว๋ากรุ๊ป รวมกับเงินเดือนเดือนแรก เธอคำนวณ หัดค่าใช้จ่ายส่วนตัวกับค่าเช่าของตัวเองออก ในที่สุดเธอก็สามารถคืนเงินให้กับลู่เฉิงได้แล้ว
เธอส่งข้อความให้หลู่เฉินทันที ถามเขาช่วงบ่ายว่างไหม เธออยากนัดเขาออกมา เลี้ยงข้าวเขาด้วย และคืนเงินให้เขา
ตอนลู่เฉิงได้รับโทรศัพท์ของเธอ มีความสุขมาก แต่บอกว่าตัวเองอยู่ข้างนอก ต้องรออาทิตย์กลับมาถึงจะไปเจอเธอได้
เมื่อเย่เสวี่ยจู๋รับรู้ ให้เขาตั้งใจทำงาน ทุกอย่างรอกลับมาค่อยว่ากัน
ก็เป็นคืนที่เย่เสวี่ยจู๋กับลู่เฉิงคุยโทรศัพท์เสร็จ เย่เสวี่ยจู๋ได้รับสายแจ้งทวงค่าใช้จ่ายจากโรงพยาบาล!
โรงพยาบาลแจ้งเย่เสวี่ยจู๋ในโทรศัพท์ ให้รีบไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอ ถ้ายังช้าอีก จะย้ายแม่เธอออกจากแผนกผู้ป่วยใน
เย่เสวี่ยจู๋ขอร้องให้โรงพยาบาลให้เวลาเธออีกหน่อย แต่โรงพยาบาลบอกว่า วันนี้เป็นวันจ่ายวันสุดท้ายแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะว่าพวกเธอจ่ายตามเวลาตลอด ก็คงเชิญออกไปนานแล้ว ไม่ว่ายังไงวันนี้โรงพยาบาลต้องการให้เย่เสวี่ยจู๋ ไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล
ตอนนี้เย่เสวี่ยจู๋ได้แค่ตอบ บอกว่าหลังตัวเองเลิกงาน จะไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลด้วยตัวเองแน่นอน
หลังจากวางสายจากโรงพยาบาล เธอคิดตั้งนาน ในที่สุดก็โทรถามเฉินซิงเหย้าว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เมื่อก่อนถึงเฉินซิงเหย้าจะไม่พอใจในตัวเธอ แต่ว่าค่ารักษาพยาบาลของแม่ไม่เคยขาด แต่ว่าครั้งนี้ ทำไมเขาบอกว่าขาดจ่ายค่ารักษาก็ขาดจ่ายไปเลย?
เย่เสวี่ยจู๋มีอารมณ์ที่กังวลมาก โทรหาเฉินซิงเหย้าที่อยู่ไกลถึงอเมริกา โทรศัพท์ของเฉินซิงเหย้าดังตลอด แต่ไม่รับสายเลย
เย่เสวี่ยจู๋ไม่ตายใจ แล้วก็โทรอีกหลายสาย เฉินซิงเหย้าก็ยังไม่รับ
เย่เสวี่ยจู๋ร้อนรนเหมือนมดที่อยู่ในหม้อร้อน หาเฉินซิงเหย้าไม่เจอจริงๆ เธอทำได้แค่หลังเลิกงาน เอาเงินเก็บทั้งหมดของเธอออกมา เงินเดือนสองเดือน รวมกับเงินหนึ่งปึกนั้นที่ครั้งก่อนเฉินซิงเหย้าโยนให้เธอ เอาไปจ่ายที่โรงพยาบาลพร้อมกัน
ถึงแม้เย่เสวี่ยจู๋จะเอาที่มีทั้งบ้านทั้งตัวไปจ่ายค่ารักษาพยาบาล แต่ก็ยังไม่พอ
โรงพยาบาลเห็นการบันทึกการจ่ายเงินของเธอดี แล้วก็มีงานที่ดีทำ ยอมให้เธอจ่ายเงินที่ขาดภายในสิบวัน
เย่เสวี่ยจู๋ขอบคุณโรงพยาบาลมากที่ให้เวลาเธอ
สิบวันไม่พอสำหรับค่าพยาบาลมาเธอจะหาได้ แต่พอสำหรับรอเฉินซิงเหย้ากลับมา
แค่เฉินซิงเหย้ากลับมา ค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอก็มีความหวัง
ผ่านไปไม่กี่วัน เฉินซิงเหย้ากลับมาจากทำงานอเมริกาคนเดียว
เย่เสวี่ยจู๋ก็มีความหวังแต่เช้า มองโทรศัพท์ไม่หยุด เธอรอเฉินซิงเหย้าโทรเรียกตัวเอง ถ้าแบบนี้เธอก็สามารถพูดกับเขาเรื่องค่ารักษาพยาบาลแม่ของเธอ
แต่ว่าช่วงเช้าผ่านไปแล้ว เฉินซิงเหย้าไม่โทรมาเลย
เย่เสวี่ยจู๋รู้สึกเศร้ามาก แล้วก็หวังว่าอ้วนโต่งจะส่งแปลนให้ตัวเอง ให้ตัวเองเอาเข้าไปให้เฉินซิงเหย้าในห้องทำงาน แต่ว่าตั้งแต่ความเข้าใจผิดได้รับการแก้ไข อ้วนโต่งไม่ให้เย่เสวี่ยจู๋เข้าไปส่งแปลนอีกเลย ทุกครั้งอ้วนโต่งจะไปส่งแปลนที่ห้องทำงานของเย่เสวี่ยจู๋เอง
วันนี้ก็เช่นกัน
เย่เสวี่ยจู๋มองอ้วนโต่งที่เข้าไปส่งแปลนที่ห้องทำงานของเฉินซิงเหย้าออกมา เหม่อลอย
อ้วนโต่งยังมาที่โต๊ะเธอใช้แรงเคาะโต๊ะ: “คุณเอ๋อเหรอ?ห๊ะ?ไม่ต้องทำงานเหรอ?งานที่ผมให้คุณแก้เสร็จแล้วหรือยัง?ไม่อยากทำแล้วใช่ไหม?”
เย่เสวี่ยจู๋ถอนหายใจเบาๆ เธอไม่อยากทำแล้วจริงๆ ตามความสามารถและความพยายามของเธอ เธอทำจนตาย ก็รวบรวมค่ารักษาพยาบาลของแม่เธอไม่ได้
ตอนนี้เธอเต็มไปด้วยความกังวลใจ จะมีกะจิกกะใจทำงานได้อย่างไง?
ตอนบ่าย เย่เสวี่ยจู๋ตั้งใจใช้เหตุผลไม่สบาย ลาครึ่งวัน อ้วนโต่งพบว่าวันนี้สีหน้าเธอไม่ดีแต่เช้า ก็ไม่ได้ทำให้เธอลำบากใจ อนุมัติการลาของเธอ
หลังจากเย่เสวี่ยจู๋ ไม่ได้กลับห้องเช่าทันที แต่ไปที่แผงขายของเล็ก ๆ ข้างถนน ซื้อลูกพีชหลายลูกนำเข้าที่ราคาแพงแสนเจ็บปวด
หลังจากกลับห้องเช่าล้างลูกพีชให้สะอาด ห่อด้วยแลปขาวสะอาด ใส่เข้าไปในถุง แล้วถือไปตึกบริษัทอย่างเงียบๆ อีกครั้ง ครั้งนี้เธอตั้งใจไม่เข้าหน้าประตู แต่ไปทางประตูหลัง ไปถึงชั้นจอดรถใต้ดินของบริษัท เธอจำรถของเฉินซิงเหย้าได้ หลังหาเจอ ใช้โอกาสที่ไม่มีใครอยู่ถือถุงที่เต็มไปด้วยลูกพีช ซ่อนอยู่หลังรถของเขา
ผ่านไปสักพัก ถึงช่วงประมาณเลิกงาน เฉินซิงเหย้าก็ปรากฏ
ระยะห่างช่วงหนึ่ง เธอก็ได้ยินเสียงเท้าเขาที่สม่ำเสมอ เธอจำเสียงเท้าเขาได้ ตอนเรียนมัธยมปลาย ทุกครั้งที่เฉินซิงเหย้ามาหาเย่จื่อที่ห้อง เขาจะเข้ามาทางหลังห้อง เดินผ่านที่นั่งของเธอ แล้วค่อยถึงที่นั่งของเย่จื่อ
เริ่มตั้งแต่ตอนนั้น เย่เสวี่ยจู๋ก็แยกเสียงเท้าของเขาได้แล้ว หนักแน่น มีแรง มีจังหวะเฉพาะของเขา
เฉินซิงเหย้ากดเปิดล็อกกุญแจรถแต่ไกล เย่เสวี่ยจู๋ก็รีบยืนขึ้นจากหลังรถเขาทันที
ตอนเฉินซิงเหย้ามองเห็นเธอจากระยะไกล ไม่ได้แปลกใจมาก เขาไม่เพียงไม่แปลกใจ ยังยกมุมปาก ยิ้มไปทางเธออย่างอธิบายไม่ได้ รอยยิ้มนั้นซับซ้อนเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีการถากถาง
MANGA DISCUSSION