ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 602 ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง
บทที่ 602 ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง
……….
บทที่ 602 ความรู้สึกที่เปลี่ยนแปลง
“หวังเหวินถิง เธอทำอะไรน่ะ?” ระหว่างทางกลับจากสระว่ายน้ำ เสี่ยวอวิ๋นถามกับหวังเหวินถิง
เมื่อครู่นี้ถังอวี่เฟยไม่ใช่คนเดียวที่เห็นพฤติกรรมเข้าหาอู๋ฝานของหวังเหวินถิง เสี่ยวอวิ๋นที่ว่ายน้ำอยู่ก็เห็นเช่นเดียวกัน
“ฉันพูดหรือทำอะไรงั้นเหรอ?” หวังเหวินถิงขมวดคิ้ว
“ฉันหมายถึงเรื่องที่เธอเข้าหาอาจารย์อู๋เมื่อกี้นี้ มันหมายความว่ายังไง” เสี่ยวอวิ๋นเอ่ยถามตามตรง
“หมายความว่ายังไงงั้นเหรอ เธอกังวลรึไง?” หวังเหวินถิงตอบกลับมาราวกับไม่ชอบใจ
“เธอคิดจะจีบอาจารย์อู๋งั้นเหรอ?” เสี่ยวอวิ๋นยังคงถาม
หวังเหวินถิงไม่เคยมีท่าทีเข้าหาใครแบบนี้มาก่อน แม้ครั้งแรกที่ได้พบอู๋ฝานจะเข้าใจผิดว่าชายหนุ่มเป็นแฟนของเยี่ยเฟยเฟย อีกทั้งเธอยังบอกเองด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายเป็นแค่คนบ้านนอก และเอ่ยคำดูถูกอีกมากมาย ทว่าขณะนี้พฤติกรรมของเธอเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน ใครที่พบเห็นย่อมเกิดความสงสัย
“แล้วยังไงล่ะ? อาจารย์อู๋เป็นแฟนของเธองั้นเหรอ? จะคิดเรื่องนี้ไปทำไม?” หวังเหวินถิงตอบกลับ “จะไปไหนก็ไป อย่ามาทำให้ฉันเสียเวลา”
สิ้นคำ เธอก็เมินเสี่ยวอวิ๋นพร้อมเดินตรงออกไปนอกมหาวิทยาลัย หวังเหวินถิงไม่ค่อยอยู่หอพัก ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับพวกเยี่ยเฟยเฟยทั้งสามคนจึงไม่ได้ดีอะไร
‘เพราะฉันไม่คิดน่ะสิว่าอู๋ฝานนั่นจะเป็นเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน’ หวังเหวินถิงพึมพำอยู่ในใจขณะเดินไป
นักศึกษาในมหาวิทยาลัยเจียงโจวหลายคนต่างก็ทราบเรื่องที่อู๋ฝานเปิดร้านอาหาร แต่น้อยคนที่จะทราบว่าเขาคือเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน หวังเหวินถิงทราบมาได้ก็เพราะเธอมักจะออกไปข้างนอกอยู่บ่อยครั้ง
เดิมหวังเหวินถิงดูหมิ่นอู๋ฝานเหมือนอย่างที่เสี่ยวอวิ๋นเคยทราบจริง ๆ ต่อให้อีกฝ่ายเป็นอาจารย์ แต่ความประทับใจที่หวังเหวินถิงมีให้ชายหนุ่มก็ไม่ได้เพิ่มขึ้นมากมายอะไร กระทั่งรู้สึกว่าอีกฝ่ายทั้งบ้านนอกและยากจนข้นแค้น
ทว่าเพราะความบังเอิญ หวังเหวินถิงได้ทราบเรื่องที่อู๋ฝานเป็นเถ้าแก่ของร้านโลกในแหวน ครั้งนั้นถึงกับทำให้เธอตกใจจนไปไม่เป็นเลยด้วยซ้ำ ความประทับใจที่เคยมีให้อีกฝ่ายจึงพลิกกลับด้าน ภาพของชายหนุ่มในใจของเธอจึงเปรียบดังเพชรน้ำเอกอย่างไรอย่างนั้น คิดดูสิว่าตอนนี้ในเจียงโจวตัวตนของเถ้าแก่ร้านโลกในแหวนเป็นอย่างไร? หวังเหวินถิงทราบดีว่าหากเธอได้เป็นเถ้าแก่เนี้ยของร้านดังกล่าวขึ้นมา เธอจะได้ก้าวเข้าสู่แวดวงชนชั้นสูงของเจียงโจวทันที
สถานการณ์แปรเปลี่ยนเป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะหวังเหวินถิงคือคนที่บูชาเงินทองและอำนาจ ตลอดมาเธอรู้สึกว่าคนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยถึงจะเหมาะสมกับตัวเอง ภาพจำในตอนแรกของเธอต่ออู๋ฝานที่ยากจนข้นแค้น มันถูกแทนที่ด้วยความร่ำรวยและความหล่อเหลา
เพราะเหตุนั้นเธอจึงพยายามเข้าหาอีกฝ่าย
“น่าโมโห น่าโมโหเกินไปแล้ว!” เสี่ยวอวิ๋นที่กลับมาถึงหอพักยังโกรธกับคำพูดคำจาของหวังเหวินถิงไม่หาย
“หวังเหวินถิงน่ะสิ!” เสี่ยวอวิ๋นตอบกลับเสียงดังราวกับต้องการระบายออกมา
“เธอไปมีเรื่องกับหวังเหวินถิงมาอีกแล้วเหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยถาม
“ฉันก็ไม่ได้อยากมีเรื่องอะไรกับเธอหรอก แค่เห็นว่าเธอพยายามเข้าหาอาจารย์อู๋ก็เลยถามว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่แค่นั้นเอง” เสี่ยวอวิ๋นตอบกลับ
เสี่ยวอวิ๋นทราบว่าอู๋ฝานและเยี่ยเฟยเฟยไม่ได้คบกันหรืออะไร ดังนั้นจึงหยุดหยอกล้อเรื่องนี้ไปนานแล้ว
อีกทางหนึ่ง เยี่ยเฟยเฟยกลับหัวใจเต้นผิดจังหวะในยามได้ยินชื่อของอู๋ฝาน เธอถึงกับหน้าแดงระเรื่อเขินอายอย่างไม่เป็นธรรมชาติ
นับตั้งแต่ที่พ่อแม่ของเธอเข้าใจผิดว่าเป็นคนรักกับอู๋ฝาน เยี่ยเฟยเฟยก็ไม่เคยกลับไปที่บ้านหลังนั้นอีกเลย แม้จะไม่ได้ไป แต่เธอก็มักจะมีความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในใจอย่างไม่อาจคาดเดา โดยเฉพาะตอนที่เห็นอู๋ฝานในมหาวิทยาลัย ตนจะรู้สึกกระอักกระอ่วนใจอย่างบอกไม่ถูก
เหตุการณ์ที่ห้องน้ำครั้งก่อนส่งผลกระทบต่อเยี่ยเฟยเฟยมากกว่าที่อู๋ฝานคาดคิด ในฐานะคนที่เติบโตมากับครอบครัวที่เข้มงวดเรื่องการรักนวลสงวนตัว ตั้งแต่เด็กเธอไม่เคยมีความรักเลยสักครั้ง นอกจากพ่อแล้วเธอยังไม่เคยจับมือกับผู้ชายคนอื่นด้วยซ้ำไป เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำคืนนั้นจึงเป็นแผลฝังใจของเยี่ยเฟยเฟย แต่เมื่อพ่อและแม่ของเธอมาถึงจึงต้องเก็บเรื่องเหล่านี้เอาไว้ในใจชั่วคราว และหลังครอบครัวของเธอเดินทางกลับ เธอก็หลบหน้า ก่อนจะกลับมาที่มหาวิทยาลัยอีกครั้งหนึ่ง
แม้จะสะกดความรู้สึกเอาไว้ได้ แต่ก็ไม่สามารถทำให้มันเลือนหายไป ทุกครั้งเมื่อถึงช่วงกลางดึก เธอมักจะนึกถึงเรื่องในวันนั้นจนหน้าแดงเขินอายขึ้นมา หัวใจถึงกับเต้นรัวเร็ว ความรู้สึกที่เคยมองอู๋ฝานเป็นแค่เพศตรงข้ามธรรมดาราวกับเริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อย
พ่อแม่ของเธอเข้าใจผิดคิดว่าเธอรักชอบกับอู๋ฝาน ทำให้เยี่ยเฟยเฟยยิ่งสับสน แม้จะเป็นการหลอกให้พวกท่านวางใจชั่วคราว แต่ความรู้สึกที่มีให้อีกฝ่ายในใจของเธอนั้นเริ่มเปลี่ยนแปลงไป จนแตกต่างจากเพื่อนเพศตรงข้ามคนอื่นทีละน้อย สำหรับหญิงสาวแล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นคืนนั้นคือสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือน
ช่วงเวลาที่ผ่านมา เยี่ยเฟยเฟยอยากจะแวะกลับไปมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่สุดท้ายก็ไม่ทราบว่าหากเจอหน้าอู๋ฝานแล้วเธอจะทำหน้าอย่างไรตอบ จนสุดท้ายก็ละทิ้งความคิดนั้นไป
แน่นอนว่าหากเยี่ยเฟยเฟยกลับไปตอนนี้ เธอก็คงไม่พบชายหนุ่ม เนื่องจากอู๋ฝานย้ายออกไปเรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้เมื่อได้ยินเสี่ยวอวิ๋นพูดว่าหวังเหวินถิงพยายามจะเข้าหาอู๋ฝาน หากเป็นก่อนหน้านี้เธอคงหัวเราะตอบโดยไม่คิดสอบถาม ทว่าตอนนี้ไม่ใช่ ความรู้สึกในใจของเธอมันปั่นป่วนจนยากจะอธิบายออกมา
“แล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นล่ะ? ฉันจำได้ว่าหวังเหวินถิงมองเหยียดอู๋ฝานมาตลอดเลยไม่ใช่เหรอ?” เยี่ยเฟยเฟยจ้องหนังสือในมือตัวเองพลางแสร้งทำเป็นถามไปเรื่อย
“ใครจะรู้ล่ะ” เสี่ยวอวิ๋นไม่พบอะไรที่น่าสงสัยแม้แต่น้อย ทั้งยังโกรธกับคำพูดและท่าทีของหวังเหวินถิงไม่หาย “ช่วงคาบเรียนว่ายน้ำวันนี้เธอพยายามจะเข้าหาอาจารย์อู๋โดยการส่งน้ำให้ แต่อาจารย์ก็ไม่รับ สุดท้ายเธอเลยไปนั่งข้างอาจารย์อู๋และคุยกันจนกระทั่งหมดคาบเรียน ก่อนหน้านี้เธอไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย”
หลังฟังเธอเองก็ยังสงสัย ตนไม่ทราบว่าเพราะอะไรหวังเหวินถิงถึงเปลี่ยนท่าทีอย่างกะทันหันแบบนี้
“บางทีอาจจะเพราะเธอเห็นอู๋ฝานกระหายน้ำเลยส่งให้ดื่มละมั้ง?” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ
“พวกเราไม่ได้เพิ่งจะรู้จักแม่นั่นวันนี้วันแรกนะ คนอย่างยัยนั่นไม่ทำอะไรที่ขาดทุนและนับถือแค่เงินทองเท่านั้น การกระทำของเธอจะไร้ความหมายได้ยังไง?” เสี่ยวอวิ๋นถามออกมา
เยี่ยเฟยเฟยพยักหน้าตอบ “ไม่รู้”
“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเองก็ขี้เกียจจะพูดแล้ว” เสี่ยวอวิ๋นตอบกลับ “จะยังไงฉันก็เชื่อว่าอาจารย์อู๋ไม่มีทางชอบคนอย่างแม่นั่นแน่”
“ก็อาจไม่ใช่แบบนั้น” เสี่ยวหรูที่ไม่ได้พูดอะไรจนถึงตอนนี้พูดขึ้นมา “แม้พวกเราจะไม่ชอบหวังเหวินถิงเพราะนิสัย แต่ก็ต้องยอมรับว่าเธอเป็นคนสวย เรียกได้ว่าเกือบจะเท่าเฟยเฟยด้วยซ้ำ ถ้าเธอคอยตามจีบอาจารย์อู๋ไม่ห่าง สุดท้ายอาจารย์อาจจะหลงไปกับคำพูดของแม่นั่น ต่อให้พวกเรารู้ว่านิสัยยัยนั่นเป็นยังไง แต่อาจารย์อู๋ไม่รู้นะ”
“เธอพูดถูก” เสี่ยวอวิ๋นคิดตามก่อนจะตอบกลับ
“ฉันไม่คิดว่าอู๋ฝานจะชอบคนอย่างหวังเหวินถิงหรอกนะ” เยี่ยเฟยเฟยเอ่ยขึ้นมา
“เพราะอะไรเธอถึงมั่นใจขนาดนั้น?” เสี่ยวอวิ๋นถามด้วยความสงสัย
“ฉัน… ก็แค่สันนิษฐาน” เยี่ยเฟยเฟยตอบกลับ
“สันนิษฐานก็ไม่ใช่ว่าจะแม่นยำเสมอไป” เสี่ยวอวิ๋นพูดตอบ “มีคำกล่าวที่ว่าน้ำหยดลงหินทุกวันหินยังกร่อนเลยไม่ใช่เหรอ? ถ้าหวังเหวินถิงพยายามเข้าหาไม่หยุด บางทีเธออาจจะทำสำเร็จก็ได้”
ทันใดนั้นเยี่ยเฟยเฟยก็รู้สึกหงุดหงิดใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เธอไม่อาจอธิบายได้ว่าเพราะอะไรถึงเกิดความรู้สึกนี้ และสุดท้ายเธอถึงกับไม่มีสมาธิจะอ่านหนังสือเลยด้วยซ้ำ
……….