ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 592 สัตว์ร้ายแห่งแม่น้ำ
บทที่ 592 สัตว์ร้ายแห่งแม่น้ำ
……….
บทที่ 592 สัตว์ร้ายแห่งแม่น้ำ
“ผู้อาวุโส พูดแบบนี้ไม่ชวนให้น่าสงสัยเกินไปหรือ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
เขาสงสัยในถ้อยคำของชายชราไม่น้อย
ขณะชายชราได้ยิน เขาถึงกับหยุดมือก่อนจะหันกลับมามองพวกอู๋ฝาน “พวกเจ้าเป็นคนต่างถิ่นหรือ?”
“เป็นเช่นนั้นขอรับ” อู๋ฝานพยักหน้ารับ “พวกเราไม่ใช่คนแถวนี้ เพียงผ่านทางมาและต้องการข้ามไปยังอีกฟากของแม่น้ำ”
“งั้นก็ไม่แปลกใจ” ชายชราพยักหน้าตอบ “จะข้ามฟากแม่น้ำน่ะไม่มีปัญหาอะไรหรอก แต่ไม่ใช่วันนี้ แนะนำว่าให้พวกเจ้ามาแต่เช้า พรุ่งนี้ข้าพร้อมจะไปส่งอีกฟากอย่างแน่นอน”
“เป็นวันนี้ไม่ได้เพราะอะไรกันหรือขอรับ? รบกวนผู้อาวุโสช่วยแจ้งเหตุผลให้ทราบได้หรือไม่” อู๋ฝานเอ่ยถามด้วยความสุภาพ
ชายชรามองพวกอู๋ฝานก่อนจะตอบกลับ “ในแม่น้ำมีสัตว์ร้ายอยู่ ทุกสิบวันมันจะออกมาล่าหาอาหาร ใครที่กล้าข้ามฟากในช่วงเวลานั้นจะเป็นเหยื่อของมัน สัตว์ร้ายตัวนั้นโหดเหี้ยม หากหมายตาเหยื่อแล้วจะไม่ปล่อยให้หลุดรอด สุดท้ายก็กลายเป็นอาหารของมันไปจนหมดสิ้น”
“วันนี้เป็นวันที่สัตว์ร้ายนั่นจะออกมาล่าเหยื่อหรือขอรับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ก็ตามที่ว่า ลองดูรอบ ๆ สิว่านอกจากพวกเจ้าก็ไม่มีคนอื่นสัญจรมา กล่าวคือวันนี้ไม่มีใครกล้าข้ามฟาก เพราะแบบนั้นหากไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งก็รอจนถึงวันพรุ่งนี้จะดีกว่า” ชายชรากล่าวบอก
“ถ้าวันนี้สัตว์ร้ายออกมาล่าแต่ไม่มีเหยื่อ พรุ่งนี้มันจะไม่ออกมาอีกหรือ?” ลั่วเยวี่ยเอ่ยถาม
“สัตว์ร้ายนั่นไม่ได้กินเพียงแค่คน แต่ยังรวมถึงปลาในแม่น้ำ ต่อให้ไม่ได้กินคนก็ควรจะอิ่ม เพราะแบบนั้นวันพรุ่งนี้ก็สบายใจได้” ชายชราตอบกลับ
[ติ๊ง!]
ตอนนี้เองที่เสียงจักรกลอันคุ้นเคยดังขึ้นให้ได้ยิน เพราะว่ามันดังขึ้นอย่างกะทันหันจึงทำเขาต้องตกใจไปครู่หนึ่ง
[ติ๊ง ภารกิจสุ่ม : ล่ามอนสเตอร์ในแม่น้ำเงาวารี เมื่อภารกิจเสร็จสิ้นจะได้รับรางวัล ตำราวิชาภาษาสัตว์ หากภารกิจล้มเหลวจะไม่มีบทลงโทษ]
ถึงกับมีภารกิจสุ่มปรากฏขึ้นมา!
หลังอู๋ฝานได้ยินเนื้อหาของภารกิจสุ่มจึงตอบรับโดยไม่ลังเล เนื่องจากมันเป็นภารกิจที่นานครั้งจะได้พบ อีกทั้งต่อให้ล้มเหลวก็ไม่มีบทลงโทษ เมื่อสำเร็จยังมีรางวัลตอบแทน หากมีใครไม่กดตอบรับก็คงเป็นคนโง่งมเต็มที
“ผู้อาวุโส ข้าขอถามว่าแม่น้ำแห่งนี้ใช่แม่น้ำเงาวารีหรือไม่ขอรับ?” อู๋ฝานเอ่ยถามกับชายชรา
“ใช่ตามที่เจ้าว่า” ชายชราพยักหน้าตอบรับ “เอาละ อย่าได้ถามอะไรมากความ ข้าทำแบบนี้ก็เพราะเห็นแก่พวกเจ้าทั้งนั้น ตอนนี้รีบกลับกันไปก่อน ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ตอนเช้า”
ในเมื่อมั่นใจแล้วว่าใช่แม่น้ำเป้าหมาย อู๋ฝานย่อมไม่คิดจากไปไหน กระทั่งเอาเหรียญทองออกมาสามเหรียญส่งให้ชายชรา “ผู้อาวุโส พวกเราขอซื้อเรือนี้ คิดว่าเงินจำนวนเท่านี้เพียงพอหรือไม่ขอรับ?”
ชายชรามองอู๋ฝาน จากนั้นจึงมองเหรียญทองก่อนจะเอ่ยถาม “เจ้าอยากจะซื้อเรือลำนี้จริงหรือ?”
“ถูกต้องขอรับ” อู๋ฝานยืนยัน
“สหายน้อยเอ๋ย เรือนี้ไม่คู่ควรกับเหรียญทองแม้สักเหรียญด้วยซ้ำ สามเหรียญทองนี่ออกจะมากเกินไป” ชายชราตอบกลับ
“อีกสองเหรียญถือเป็นของตอบแทนที่รับฟังคำขอของข้าก็แล้วกันขอรับ” อู๋ฝานเผยยิ้มให้ “ผู้อาวุโสช่วยเล่าเรื่องของสัตว์ร้ายในแม่น้ำแห่งนี้ให้พวกเราทราบอีกหน่อยได้หรือไม่ขอรับ?”
ชายชราลังเลไปครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็พยักหน้าตอบ “ก็ได้”
หลังรับสามเหรียญทองไปแล้วเขาจึงเริ่มเล่าออกมา “หากจะถามใครสักคน ก็ถือว่าถามได้ถูกคนแล้ว ที่นี่มีคนเคยเห็นสัตว์ร้ายนั่นและยังมีชีวิตรอดอยู่ไม่มากนัก ข้าคือหนึ่งในคนเหล่านั้น ตอนนั้นข้ากำลังเตรียมจะข้ามแม่น้ำ แต่ทันใดนั้นกลับได้เห็นว่ากลางแม่น้ำปรากฏคลื่นลูกใหญ่ มันเป็นคลื่นที่สูงร่วมเจ็ดหรือสิบจั้งเลยทีเดียว ตอนนั้นมีเรือสามลำกำลังเดินทาง เพียงในชั่วพริบตา มันพัดพาเรือเหล่านั้นจนเสียการทรงตัวและพลิกคว่ำ ทั้งสามลำเป็นเรือขนาดใหญ่และแข็งแกร่งยิ่งกว่าของข้ามากนัก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคลื่นยักษ์ก็เปรียบดังใบไม้กลางสายน้ำที่ต้องถูกพัดพา ผู้คนบนเรือต่างก็ตกลงไปในน้ำ…”
“หลังจากนั้นข้าจึงได้เห็นร่างสัตว์ร้ายนั่น ลำตัวของมันทะยานออกมาจากผืนน้ำยาวกว่าสิบจั้ง แทบจะเรียกได้ว่าเป็นขุนเขาใต้น้ำผุดขึ้นมาก็ไม่ปาน ปากของมันอ้ากว้าง พร้อมกลืนกินผู้คนนับสิบเข้าไปในคราวเดียว ส่วนคนอื่นที่เหลือก็ไม่อาจรอด กระทั่งเรือลำใหญ่เหล่านั้นก็ยังแตกออกเป็นชิ้น ๆ ก่อนจะอับปางลงสู่ก้นแม่น้ำ ตาเฒ่าที่เป็นเจ้าของเรือแม้จะเจอสถานการณ์เสี่ยงตาย แต่ยังรอดกลับขึ้นฝั่งมาได้”
ชายชราบอกเล่าเรื่องราวอย่างมีสีสัน ทำเอาพวกอู๋ฝานที่รับฟังอยู่ต่างตื่นเต้นตามไปด้วย
เรื่องราวเช่นนี้ หากเป็นที่โลกความเป็นจริงคงไม่มีใครเชื่อ หากใครได้ฟังก็คงคิดว่าชายชราแต่งเรื่องขึ้นมา ทว่าที่นี่คือโลกแห่งเกม สิ่งใดประหลาดใด ๆ ล้วนมีอยู่จริงทั้งนั้น แม่น้ำที่ดูปกติธรรมดา แต่จากปากคำของชายชรา สัตว์ร้ายแห่งแม่น้ำคล้ายจะได้รับพลังอสูรจนกลายพันธุ์เป็นมอนสเตอร์ดุร้าย
ภายใต้การกัดกร่อนของพลังอสูร มันทำให้สัตว์ของฝั่งมนุษย์ไม่น้อยเปลี่ยนไปในทางดุร้าย โหดเหี้ยม และจ้องแต่จะฆ่า บ้างก็มีความรวดเร็วเพิ่มขึ้น บ้างก็มีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น
ดังนั้นคำบอกเล่าถึงสัตว์ร้ายแห่งห้วงน้ำ ลำตัวยาวกว่าสิบจั้งของชายชราจึงไม่ใช่เรื่องเกินจริงแต่อย่างใด
“หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านมานาน แต่ตาเฒ่าผู้นั้นก็ยังคงมีแผลฝังใจ เมื่อใดเห็นผู้อื่นคิดข้ามแม่น้ำจำต้องเอ่ยให้หยุด แต่หลายคนก็เป็นเหมือนดังเจ้าที่ไม่เชื่อ ดื้อดึงและยืนกรานจะข้ามฟากซะให้ได้ จากนั้นสัตว์ร้ายนั่นก็ปรากฏตัวทุกครั้งที่มีคนคิดข้ามพร้อมกลืนกินพวกเขาเข้าไป จนเวลาผ่านไป ตาเฒ่าผู้นั้นที่เอาแต่เฝ้ามองจึงเริ่มเห็นรอบการปรากฏตัวของมัน เรื่องราวของสัตว์ร้ายแห่งแม่น้ำเงาวารีจึงเริ่มแพร่กระจายออกไป หลังเรื่องราวถูกถ่ายทอดอย่างจริงจัง ผู้คนที่คิดฝืนข้ามแม่น้ำแห่งนี้ก็เริ่มลดจำนวนน้อยลง” ชายชรากล่าวบอกอย่างเชื่องช้า
“แล้วทำไมคนที่อยู่ที่นี่ไม่หาคนไปล่าสัตว์ร้ายนั่นกันล่ะขอรับ?” อูหย่าเอ่ยถาม
“คิดว่าไม่เคยหรือ?” ชายชราตอบกลับ “ตอนแรกมีคนหนุ่มสาวในหมู่บ้านลงไปในแม่น้ำด้วยกันเพื่อหาทางสังหารสัตว์ร้ายนั่น พวกเขาเป็นเด็กที่เติบโตมากับสายน้ำ ฝีมือการว่ายน้ำดีเยี่ยมไร้ข้อกังขา แต่หลังไปแล้วก็ไปลับไม่กลับมา จนกระทั่งผู้ปกครองเทศมณฑลทราบเรื่องราวจึงว่าจ้างยอดฝีมือหลายคนมาสังหารมัน แต่สุดท้ายก็ล้มเหลวกันจนหมดสิ้น พวกเขาเหล่านั้นต่างเอาชีวิตมาทิ้งในแม่น้ำ นับวันก้นแม่น้ำก็ยิ่งมีจำนวนผู้ตายกองสุม นับจากนั้นมาเรื่องราวและชื่อเสียงของสัตว์ร้ายนั่นจึงยิ่งกระจายออกไปกว้างขึ้น แต่ไม่มีใครกล้าลงแม่น้ำไปล่ามันอีกต่อไปแล้ว ทางผู้ปกครองเทศมณฑลก็ไม่ใส่ใจปัญหานี้แล้วเช่นกัน”
“สัตว์ร้ายนั่นแข็งแกร่งอย่างที่บอกเล่าจริงหรือไม่ขอรับ?” ราวกับลั่วหยางจะยังไม่เชื่อ
“ตัวเจ้ายังไม่พอถมร่องฟันมันให้เต็มเลยด้วยซ้ำ” ชายชรามองลั่วหยางก่อนจะตอบ
“แล้วพอจะรู้ไหมว่าสัตว์ร้ายนั่นมีจุดอ่อนหรือว่ากลัวอะไร?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ข้าไม่ทราบ ใครก็ตามที่เข้าไปใกล้มันไม่เคยรอดชีวิตกลับมา เพราะแบบนั้นข้าถึงแนะนำว่าไม่ควรเอาชีวิตมาทิ้ง ข้าคืนเงินให้เจ้าได้ วันพรุ่งนี้ตอนเช้าข้าจะส่งเจ้าข้ามฟากเอง” ชายชราตอบกลับ
“ไม่เป็นไรขอรับ เงินนั้นจ่ายแล้วก็จ่ายเลย ไม่ว่าพวกเราจะข้ามแม่น้ำหรือไม่ก็ยังยืนยันซื้อเรือลำนี้อยู่ดี” อู๋ฝานตอบกลับ
ภารกิจก็รับมาแล้ว ต่อให้ทราบว่ามันเป็นภารกิจยากเย็นแสนเข็ญและอันตรายแค่ไหน เขาก็คิดอยากลอง
“พวกเจ้านี่ก็นะ” เมื่อชายชราพบเห็นอู๋ฝานยืนกราน เขาก็ทราบว่าชายหนุ่มตรงหน้าหมายจะข้ามแม่น้ำในวันนี้ให้จงได้ “ในอดีตเคยมีคนอย่างเจ้ามากมาย แต่สุดท้ายเกิดอะไรขึ้น? พวกเขาลงไปอยู่ก้นแม่น้ำหรือไม่ก็ในท้องของสัตว์ร้ายนั่น หากยังไม่ฟังคำของข้า เจ้าเองก็คงต้องไปอยู่ในท้องของมันเช่นกัน”
กล่าวคำจบ ชายชราจึงเมินพวกอู๋ฝาน เมื่อได้รับเงินแล้วเขาจึงทิ้งเรือไว้และตรงกลับขึ้นฝั่ง เนื่องจากอะไรที่ควรบอกก็บอกจนครบถ้วนหมดแล้ว หากอีกฝ่ายยังยืนกรานจะข้ามแม่น้ำให้ได้ เขาก็จนใจจะห้ามปราม