ระบบแหวนสุดโกงสร้างตำนานในสองโลก - บทที่ 576 อุบัติเหตุ
บทที่ 576 อุบัติเหตุ
บทที่ 576 อุบัติเหตุ
“ผม?” อู๋ฝานชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะยิ้มตอบ “ก็ตามที่ว่ามานั่นแหละครับ”
“งั้นก็คงเตรียมใจเอาไว้แล้วสินะครับ ไวน์ของที่นี่ได้รับความนิยมมาก หลายคนอยากเป็นตัวแทนขาย แต่ต่อให้ร่ำรวยแค่ไหนก็อาจช่วงชิงมาไม่ได้ครับ” คนขับรถบรรทุกเล่าออกมา
“ไวน์นี่ได้รับความนิยมขนาดนั้นเลยเหรอครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
คนขับรถข้างเคียงชี้มือไปยังแถวยาว หมายความว่าหลักฐานก็คาตาอยู่
“ประตูโรงงานเปิดแล้ว!”
อู๋ฝานกำลังจะอยากถามอีกสักหลายคำ แต่ขณะนี้เองที่มีคนตะโกนขึ้น จากนั้นกลุ่มคนขับรถบรรทุกที่มารวมตัวกันพูดคุย ต่างก็พร้อมใจกันกลับไปยังรถของตัวเอง ก่อนจะเริ่มสตาร์ตเครื่องยนต์เพื่อเตรียมขับเข้าไปขนย้ายสินค้าจากด้านใน
ชั่วพริบตาอู๋ฝานกลับต้องยืนอยู่คนเดียว
เมื่อเห็นดังนี้เขาจึงตอบรับเพียงยิ้มโดยไม่ใส่ใจ ก่อนจะหันกลับไปขึ้นรถของตัวเอง
“เถ้าแก่มาแล้ว” ด้านในโกดังของโรงงาน อู๋ฝานเห็นพวกอาจารย์หลี่กำลังยุ่งกับงาน
เพราะพวกเขายังไม่ได้รับผู้จัดการมาดูแลเพิ่มเติม อาจารย์หลี่จึงต้องควบหน้าที่ทั้งส่วนของไลน์การผลิตและการบริหารจัดการ ทุกวันจึงค่อนข้างยุ่ง แต่สภาพจิตใจดีเยี่ยม เห็นได้ชัดว่ากำลังสนุกกับชีวิตการงานในปัจจุบัน
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบขณะมองลังไวน์สุดเหนือเมฆที่ถูกขนย้ายไปขึ้นรถบรรทุกที่ต่อแถวยาว “เหมือนการขายจะค่อนข้างเป็นไปได้ด้วยดีนะครับ”
เพราะสถานการณ์ของโรงงานไวน์ดีเยี่ยม ช่วงที่ผ่านมาเขาจึงแทบไม่ต้องกังวลแต่อย่างใด และเขาก็ทราบแค่ว่าไวน์สุดเหนือเมฆได้รับความนิยมในเจียงโจวอย่างสูง ส่วนรายละเอียดที่แน่ชัดยังไม่แน่ใจมากนัก
“ไม่ใช่แค่ดีนะครับ ดีมากเลยต่างหาก” อาจารย์หลี่ตอบกลับด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดี จากนั้นจึงบอกอู๋ฝาน “ผลการประเมินที่ตัวแทนขายส่งกลับมาเห็นตรงกันครับ พวกเขาบอกว่าสุดเหนือเมฆได้รับความนิยมดีเยี่ยม ตลาดก็ตอบรับเป็นอย่างดี ทุกวันจะคอยโทรหาผมขอให้เร่งส่งสินค้าล็อตถัดไป หรือไม่ก็ขอให้เพิ่มจำนวนโควตาที่ได้รับ นอกจากนี้ยังมีตัวแทนอื่นเข้ามาติดต่อทุกวัน เพราะอยากเป็นตัวแทนจำหน่ายไวน์สุดเหนือเมฆจากราคาหน้าโรงงานครับ”
เพราะก่อนหน้านี้ไวน์สุดเหนือเมฆไม่ได้เป็นที่รู้จัก ส่วนใหญ่ยังต้องพึ่งพาการประชาสัมพันธ์โดยร้านโลกในแหวนเพื่อสร้างชื่อเสียง ช่วงเวลานั้นจึงมีคนน้อยนิดที่ติดต่อเข้ามาขอเป็นตัวแทน ส่วนที่วางจำหน่ายได้ในหลายเมืองก็เพราะฝ่ายขายของโรงงานออกไปเปิดตลาดและแนะนำสินค้า เพราะคนของเมืองอื่นยังไม่ทราบข้อมูลของสุดเหนือเมฆ ดังนั้นก่อนหน้านี้ฝ่ายขายเลยยังทำงานได้ไม่มีประสิทธิภาพมากนัก
ปัจจุบันชื่อเสียงของสุดเหนือเมฆขยายกว้างไกลออกไป ตัวแทนหลายคนต่างแวะเวียนมาถึงหน้าประตูโรงงานกันไม่หยุดหย่อน กระทั่งตระกูลใหญ่หรือบริษัทใหญ่ยังออกหน้ามาเยือนด้วยตนเอง พวกเขาต้องการหารือเรื่องความร่วมมือพร้อมแสดงความจริงใจ
“กลุ่มคนที่ต้องการเป็นตัวแทน หาเวลาเรียกรวมตัวพวกเขาให้พร้อมหน้าทีนะครับ การพูดคุยกับพวกเขาก็ต้องจดบันทึกเอาไว้ ไวน์สุดเหนือเมฆของพวกเราไม่มีปัญหาเรื่องการจำหน่าย อำนาจต่อรองอยู่กับฝ่ายเรา ไม่ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร หรือต่อให้มีอำนาจขนาดไหนก็ไม่ต้องยอมอ่อนข้อให้ครับ” อู๋ฝานบอกออกมา
เป้าหมายของอู๋ฝานคือการวางจำหน่ายสุดเหนือเมฆไปทั่วประเทศ การวางจำหน่ายในปัจจุบันยังไปไม่ถึงขั้นนั้น ทำให้เขายังต้องคอยมองหาตัวแทนที่มีประสิทธิภาพ ขณะนี้คือช่วงเวลาที่ตลาดเปลี่ยนแปลง เพราะก่อนหน้านี้ไวน์สุดเหนือเมฆไม่มีชื่อเสียง ตัวแทนจึงมีอำนาจในการต่อรองซะส่วนใหญ่ ทว่าขณะนี้ชื่อเสียงของมันได้รับการยืนยันจนสามารถยืนหยัดในตลาดได้ด้วยตัวเองแล้ว ชายหนุ่มจึงไม่มีความจำเป็นต้องกังวลเรื่องการจัดจำหน่าย อีกทั้งมันยังทำให้อำนาจต่อรองของฝ่ายเขามีแต่จะสูงขึ้น
“ทราบแล้วครับเถ้าแก่” อาจารย์หลี่พยักหน้าตอบ
เพราะอาจารย์หลี่อยู่ในส่วนทั้งการผลิตและการขายโดยตรง จึงเข้าใจดียิ่งกว่าอู๋ฝานว่าในปัจจุบันสุดเหนือเมฆได้รับความนิยมถึงขนาดไหน และยังทราบดีว่าความรู้สึกร้อนใจของตัวแทนทั้งหลายที่ต้องการเข้ามามีส่วนแบ่งนั้นเป็นอย่างไร
“ยังมีอีกเรื่องครับ” อู๋ฝานเอ่ยขึ้น “ถ้าเงื่อนไขเท่าเทียม ให้มอบสิทธิ์กับคนที่ติดต่อมาก่อนนะครับ ถือเป็นรางวัลที่พวกเขามีสายตาดีเยี่ยมเล็งเห็นค่าก่อนใคร”
อู๋ฝานเป็นคนที่รู้จักเรื่องสำนึกบุญคุณ แม้จะมีความมั่นใจในเรื่องรสชาติของสุดเหนือเมฆ และไม่ช้าก็เร็วย่อมขายได้เป็นจำนวนมหาศาล แต่ตัวแทนกลุ่มแรกคือคนที่ช่วยผลักดันการขายให้ออกไปเป็นวงกว้างมากขึ้น เขาไม่คิดใส่ใจหากจะมอบผลประโยชน์แก่พวกเขาเหล่านั้นเพิ่ม มันถือเป็นการตอบแทนสำหรับความลำบากและความกล้าที่จะตัดสินใจในช่วงเริ่มต้น
“ครับเถ้าแก่” อาจารย์หลี่ตอบรับ
อู๋ฝานสำรวจรอบ ๆ อีกครั้งก่อนจะยิ้มเอ่ยกับอาจารย์หลี่ “ช่วงนี้คุณก็ทำงานได้ดีไม่น้อยเลยนะครับ น่าเสียดายถ้าจะให้คุณรับผิดชอบแค่ส่วนของการผลิต ดังนั้นนับจากวันนี้คุณจะเป็นผู้จัดการของที่นี่ มีอำนาจรับผิดชอบทุกสิ่งอย่างในโรงงาน คิดว่ายังไงบ้างครับ?”
“ครับ!” อาจารย์หลี่รับคำอย่างยินดี “ขอบคุณเถ้าแก่ครับ วางใจได้ ผมจะทำอย่างเต็มที่ไม่ให้ความไว้ใจนี้ต้องผิดหวังครับ!”
แม้ช่วงที่อู๋ฝานไม่อยู่ อาจารย์หลี่ก็คอยรับหน้าที่ช่วยดูแลบริหารที่นี่ แต่มันไม่ใช่การแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงยังไม่มีเงินเดือนในส่วนของผู้จัดการ ขณะนี้อีกฝ่ายมอบหมายงานอย่างเป็นทางการให้ นั่นหมายความถึงผ่านการยอมรับ ในอนาคตเขาจะมีอำนาจในการบริหารจัดการได้ดียิ่งขึ้น
อาจารย์หลี่มีประสบการณ์ และยังเป็นคนเก่าแก่ของโรงงานแห่งนี้ ทั้งยังได้เป็นประจักษ์พยานถึงความเสื่อมถอยของโรงงานเดิม จนมาสู่ความรุ่งโรจน์ของโรงงานใหม่ เขาทราบดีว่าโรงงานแห่งนี้มีศักยภาพและแข็งแกร่งตรงไหน การได้เป็นผู้จัดการที่นี่จึงนับว่าเป็นเกียรติ จนเขาแทบจะมองว่าเป็นจุดสูงสุดของชีวิตการงาน
อู๋ฝานยิ้มตอบรับและพยักหน้า เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งอย่างที่นี่เรียบร้อยดีจึงไม่คิดอยู่ต่อนาน
หลังออกจากโรงงาน อู๋ฝานก็เตรียมไปเยี่ยมโรงงานเภสัชกรรม หากเทียบกับโรงงานบ่มไวน์แล้ว ทางด้านโรงงานเภสัชกรรมยังมีเรื่องน่าเป็นห่วง เมื่อใดมีเวลาเขายังต้องแวะเวียนไป
“ตึง!”
ขณะอู๋ฝานกำลังครุ่นคิดเรื่องโรงงานเภสัชกรรมอยู่นั้นเอง ก็ได้เห็นว่ารถที่อยู่เลนถนนข้าง ๆ เกิดเปลี่ยนเลนขับเข้ามาหาตนเองอย่างกะทันหัน เขาคิดหลบแล้ว แต่กลับพบว่าสายเกินไป จนสุดท้ายรถทั้งสองปะทะกัน
รถของอู๋ฝานแข็งแกร่งอย่างไรไม่ต้องกล่าวถึง แม้จะเกิดอุบัติเหตุ แต่คนที่อยู่ภายในไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
หลังหยุดรถ เขารีบลงจากรถไปตรวจสอบเรื่องราว ก่อนจะพบว่าคนของรถอีกคันก็ออกมาด้วยเช่นกัน เป็นผู้หญิงสวมใส่หมวกทรงฟักทองสีชมพูพร้อมแว่นกันแดดหน้ากว้าง
แม้ไม่ได้เห็นรูปลักษณ์ของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนเพราะมีหมวกบังพร้อมแว่นกันแดดอันใหญ่อยู่ แต่จากผิวกายที่เผยให้เห็น มันก็มากพอจะบอกได้ว่าเธอเป็นสาวงามคนหนึ่ง
“ขอโทษค่ะ เป็นความผิดของฉันเอง ฉันอยากจะเลี้ยวแต่ไม่ได้สังเกตว่ามีรถอยู่ข้าง ๆ ฉันจะรับผิดชอบเองค่ะ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” ขณะหญิงสาวคนนั้นเดินเข้ามาใกล้ เธอเผยท่าทีดี ๆ พร้อมรับผิดชอบ ทั้งยังคอยสอบถามอาการพลางขอโทษไม่ขาด ราวกังวลว่าอู๋ฝานจะได้รับบาดเจ็บ
“ผมไม่เป็นไรครับ” อู๋ฝานตอบกลับ “แต่คุณขับรถแบบนี้ไม่ดีนะครับ ครั้งนี้ผมยังตอบสนองเร็ว ถ้าครั้งหน้าเป็นคนเดินข้ามถนนหรือรถคันอื่น พวกเขาอาจไม่ได้โชคดีแบบนี้นะครับ”
“ฉันต้องขอโทษด้วยค่ะ เป็นความผิดฉันเอง เพราะไม่ได้ขับรถมานานเลยไม่ชินไปบ้าง คุณไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกับตรวจสอบรถก่อนไหมคะ? เรื่องค่ารักษากับค่าซ่อมฉันพร้อมจะรับผิดชอบค่ะ แต่ขอร้องช่วยอย่าเรียกตำรวจได้ไหมคะ?” หญิงสาวคนนั้นเอ่ยถามพลางขอร้องออกมา