ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 492 ขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพ

บทที่ 492

ขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพ

มีลำแสงพุ่งลงมาจากฟ้า พุ่งลงใจกลางปากแผลบนหัวของกิ้งก่าทะเลลึกทันที!

“โฮก!”

กิ้งก่าทะเลลึกที่ถูกการโจมตีนี้ก็ได้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดซึ่งมากกว่าคราวก่อน

ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่มันตามฆ่าซ่างกวานจ้งต่อเลย ตัวของมันได้ล้มลงกระแทกกับพื้นทันที

ตูมมมม!

พื้นดินเกิดเป็นรอยแตก และพื้นดินเรียบๆนอกเมืองโม่ไห่ก็ได้ถูกตัวของกิ้งก่าทะเลลึกกระแทกจนกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่

หัวของมันได้รับบาดเจ็บสาหัส และเลือดก็ได้ย้อมหัวของกิ้งก่าทะเลลึกจนเป็นสีแดง ในตอนที่กิ้งก่าทะเลลึกได้ล้มลงกับพื้นนั้น ก็ได้มีรอยเลือดเปื้อนพื้นไปทั่วทุกหนแห่ง ซึ่งทำให้ดูแล้วน่าขนลุก

“ท่านผู้นำสมาพันธ์ พวกเราควรไปช่วยไหม?”

เหล่ายอดฝีมือของสมาพันธ์พึ่งตนเองที่อยู่ด้านนอกเมืองโม่ไห่นั้นต่างก็มีสีหน้าเป็นกังวลขึ้นมาเมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ และลูกน้องของฟู่เหว่ยก็อดไม่ได้ที่จะถามฟู่เหว่ย

แต่หลังจากที่ลังเลอยู่สักพัก ฟู่เหว่ยก็ได้ตอบกลับไปอย่างใจเย็น: “ไม่ต้องกังวล กิ้งก่าทะเลลึกไม่ได้เปราะบางอย่างที่พวกเจ้าคิดหรอก! ถึงตอนนี้มันจะบาดเจ็บสาหัส แต่ก็เป็นยากระตุ้นอย่างดีเช่นกันพวกเจ้ารอดูเถอะ!”

พอเหล่ายอดฝีมือจากสมาพันธ์พึ่งตนเองได้ยินที่ฟู่เหว่ย กล่าวแล้ว ก็ได้มีความสงสัยปรากฏในดวงตาของพวกเขา อย่างไรเสียกิ้งก่าทะเลลึกนั้นก็แทบจะหมดท่าแล้ว ถ้าหากไม่เข้าไปช่วยแล้วก็อาจจะรอดยากได้ พวกเขาจึงสงสัยว่าฟู่เหว่ยนั้นไปเอาความมั่นใจนี้มาจากไหน

แต่ก่อนที่พวกเขาจะทันได้คิดอะไร สถานการณ์การต่อสู้ก็ได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

ในขณะที่เหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นคิดที่จะเผด็จศึกและสังหารกิ้งก่าทะเลลึกจากบนท้องฟ้าอยู่นั้นเอง ก็ได้มีบรรยากาศที่น่าหวาดกลัวแผ่ออกมาจากกิ้งก่าทะเลลึกที่อยู่บนพื้น

“แย่แล้ว! ถอยเร็ว!”

เหยียนลี่หยางที่รู้สึกได้ถึงอันตรายนั้นก็ได้รีบบอกให้ เหยียนเสี่ยวเฟยหยุดทันที แล้วปราศจากซึ่งการรอช้ารีบหันหลังกลับและเหาะขึ้นฟ้า

แต่การตอบสนองของพวกเขานั้นก็ยังช้าเกินไปก้าวหนึ่ง กิ้งก่าทะเลลึกที่ยังคงนอนอยู่ที่พื้นและร้องคร่ำครวญนั้น ในตอนที่ทั้งสองคนได้บุกเข้าไป มันก็ได้หยุดร้องและดวงตาของพวกมันก็ได้เปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที

เลือดสีแดงนี้ไม่ใช่สีที่ถูกย้อมแดงด้วยเลือดบนหัว แต่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกิ้งก่าทะเลลึกเอง

ฟิ่ว!

ในแทบจะพร้อมกันกับตอนที่ดวงตาของมันเปลี่ยน หางของกิ้งก่าทะเลลึกก็ได้ตวัดมาจากไกลๆ และมีเป้าหมายที่ เหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยที่กำลังพุ่งเข้ามา

ตูม! ตูม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้น 2 ครั้งในแทบจะพร้อมๆกัน เหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยต่างก็ถูกหางของกิ้งก่าทะเลลึกฟาด และร่วงลงมากระแทกพื้นแล้วกระอักเลือดออกมา

“โฮก!”

แต่ทว่ากิ้งก่าทะเลลึกนั้นก็ไม่คิดที่จะปล่อยพวกเขาไปเช่นนี้แน่ เมื่อเห็นว่าร่างของทั้งคู่ร่วงลงมากลิ้งอยู่ที่พื้นอยู่นั้นเอง ก็ได้คิดที่จะใช้ร่างของตัวเองเหยียบเหยียนลี่หยางกับ เหยียนเสี่ยวเฟยให้จมดินทันที

ครืนนนน!

แค่เสียงกลิ้งไปตามพื้นของกิ้งก่าทะเลลึกนั้นทำเอาขนหัวลุกแล้ว ถ้าหากว่าเหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยเกิดถูกร่างของมันทับขึ้นมา หากทั้งคู่ไม่ตายก็คงเลี้ยงไม่โต

“หนีเร็ว!”

ในชั่วขณะนั้นเอง เหยียนลี่หยางก็ได้ระเบิดพลังทั้งหมดของเขาออกไป ลุกขึ้นมาแล้วเหาะขึ้นฟ้าด้วยความรู้สูงสุด แล้วฟาดฟันกิ้งก่าทะเลลึกอย่างสุดกำลังของเขา

ตูมมมม!

เกิดเสียงระเบิดอย่างรุนแรงดังก้องไปทั้งข้างนอกข้างในเมืองโม่ไห่ ถึงแม้ว่าการโจมตีของเหยียนลี่หยางจะไม่ทำความเสียหายใดๆให้กับกิ้งก่าทะเลลึก แต่มันก็ยังลดความเร็วในการกลิ้งของมันลงไปได้บ้าง ทำให้เหยี่ยนเสี่ยวเฟยนั้นลุกขึ้นมาได้ทันและเหาะขึ้นฟ้าและก้มลงมามองที่ดวงตาของกิ้งก่าทะเลลึกด้วยความกลัว

หลังจากที่เหยียนลี่หยางทำสำเร็จ เขาก็ได้เหาะถอยออกมาอย่างรวดเร็วแล้วเหาะไปหาเหยียนเสี่ยวเฟยและหายใจอย่างหอบๆ

ในเวลานี้ทั้งสองคนต่างก็มีสีหน้าหมดแรง และมีสภาพเหมือนใกล้จะหมดพลังอย่างชัดเจน แต่ทว่ากิ้งก่าทะเลลึกที่อยู่ที่พื้นนั้นก็ได้กลับมาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วมองไปที่ทั้งคู่ด้วยแววตามุ่งร้าย และไร้ซึ่งท่าทางย่ำแย่ในตอนที่มันได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อก่อนหน้านี้แล้ว

“โฮก!”

ไม่เพียงแค่นั้นแต่กิ้งก่าทะเลลึกได้เปลี่ยนรูปร่างของมันหลังจากที่คำราม ไม่เพียงแต่ร่างกายของมันจะขยายใหญ่มากขึ้นเป็นเท่าครึ่งแล้ว ก็ได้มีครีบยาวๆกางออกมาที่หลังของมัน ซึ่งดูแล้วน่าเกรงขามและน่ากลัว

หลังจากที่เหยียนลี่หยางรู้สึกได้ว่าพลังของกิ้งก่าทะเลลึกที่แข็งแกร่งขึ้นกว่าเก่าแล้ว ก็ได้มีสีหน้าหมดแรงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

“ท่านผู้นำสมาพันธ์ พวกเรา……”

เหยียนลี่หยางที่เดิมทีคิดที่จะบอกให้พวกเขาทั้งสามคนกลับเข้าเมืองไปก่อนอยู่นั้นเอง แต่พอเขาหันไปมองที่ซ่างกวานจ้งแล้วที่ยืนอยู่เงียบๆกลางอากาศแล้ว เขาก็รู้สึกได้ว่าซ่างกวานจ้งนั้นมีท่าทางที่เปลี่ยนไป

ในตอนที่เขาอยู่ในสภาพเฉียดตายในการต่อสู้กับกิ้งก่าทะเลลึกอยู่นั้นเอง ซ่างกวานจ้งก็รู้สึกได้ว่ากำแพงที่ขวางกั้นเขามานานนั้นก็ได้พังทลายลงไป

แล้วอาศัยช่วงที่เหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยกำลังดึงความสนใจของกิ้งก่าทะเลลึกอยู่นั้น ก็ได้เลือกที่จะบรรลุ ณ ตรงนั้นอย่างไม่ลังเล และบรรลุขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพ!

ตูม!

พลังปราณในอากาศเหนือเมืองโม่ไห่นั้นก็ราวกับถูกเรียกมาและก่อตัวกันเป็นพายุหมุนอยู่เหนือหัวของซ่างกวานจ้ง ทำให้พลังของซ่างกวานจ้งนั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

“จักรพรรดิเทพ!”

เหยียนลี่หยางนั้นคุ้นเคยกับพลังเช่นนี้ดี ดังนั้นในตอนที่เขาเห็นซ่างกวานจ้งได้บรรลุขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพแล้ว ตัวเขาก็ได้เผยรอยยิ้มที่ยินดีปรากฏบนใบหน้าของเขา

เหยียนเสี่ยวเฟยที่อยู่ไม่ไกลก็ได้มีสีหน้าบอกไม่ถูกปรากฏออกมา และดวงตาของเขาก็ได้เต็มไปด้วยความอิจฉาและประหลาดใจ ตัวเขาเองยังไม่รู้เลยว่าตัวเองนั้นจะบรรลุขึ้นเป็นจักรพรรดิเทพเหมือนอย่างซ่างกวานจ้งได้เมื่อไร แต่ทว่าตัวเขาเองก็รู้ดีว่าการที่ซ่างกวานจ้งบรรลุในครั้งนี้เกิดจากการสั่งสมทั้งพลังและเวลามาเป็นเวลานานมากกว่าที่เขาจะคาดคิดได้ ดังนั้นจึงได้รีบปรับอารมณ์อย่างรวดเร็วแล้วเหาะไปหา ซ่างกวานจ้งพร้อมกับเหยียนลี่หยางเพื่อคุ้มกันซ่างกวานจ้ง

กิ้งก่าทะเลลึกที่เพิ่งจะแปลงร่างตัวเองเสร็จนั้นก็เหมือนรู้สึกได้ถึงอันตรายขึ้นมา แล้วสายตาที่มองไปที่ซ่างกวานจ้งนั้นก็ได้เริ่มเต็มไปด้วยความหวาดกลัวขึ้นมา เพราะว่ามันนั้นแพ้ไฟโดยธรรมชาติอยู่แล้ว และซ่างกวานจ้งนั้นก็สามารถใช้ดาบจักรพรรดิเพลิงทำอันตรายมันได้ในตอนที่ซ่างกวานจ้งยังอยู่แค่ในระดับราชันย์เทพ

ดังนั้นหลังจากที่มันรู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของ ซ่างกวานจ้งแล้ว กิ้งก่าทะเลลึกก็ได้เลิกสนใจเหยียนลี่หยางกับ เหยียนเสี่ยวเฟยที่ตัวมันเกลียดชัง แล้วหันไปสนใจซ่างกวานจ้งที่เป็นศัตรูตัวฉกาจของมันแทน

“โฮก!”

หลังจากที่คำรามออกมาเสียงดัง กิ้งก่าทะเลที่แปลงร่างแล้วก็ได้พุ่งขึ้นฟ้าอีกหน และตัวของมันที่เทียบได้กับครึ่งเมือง โม่ไห่นั้นก็ได้กระแทกใส่ซ่างกวานจ้งกับพรรคพวกทันที

“เจ้าสารเลว! หยุดเดี๋ยวนี้!”

“รู้สึกกลัวแล้วงั้นเหรอ? แต่มันสายไปแล้ว!”

แน่นอนว่าเหยียนลี่หยางกับเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นไม่ยอมปล่อยให้มันเข้ามากวนการบรรลุของซ่างกวานจ้งในเวลานี้ ต่อให้พวกเขานั้นรู้ดีว่าในเวลานี้พวกเขานั้นไม่ใช่คู่มือของกิ้งก่าทะเลลึกก็ตามที แต่พวกเขาก็ไม่ลังเลที่จะโจมตีใส่กิ้งก่าทะเลลึก

“ท่านผู้นำสมาพันธ์ ข้าจะช่วยท่านเอง!”

“ปกป้องท่านผู้นำสมาพันธ์!”

“สู้กับสัตว์อสูร!”

จงเจิ้งหมิงกับพรรคพวกที่อยู่ในเมืองโม่ไห่นั้น เมื่อได้เห็นเหตุการณ์จากบนกำแพงแล้วก็ได้ทนไม่ไหวอีกต่อไป และต่างก็เหาะออกมาจากนอกมหาอาคมและโจมตีใส่กิ้งก่าทะเลลึกอย่างสุดกำลัง

ราชันย์เทพเกือบ 20 คน พร้อมด้วยเหยียนลี่หยางกับ เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นต่างก็ทุ่มสุดกำลังถล่มใส่กิ้งก่าทะเลลึกอย่างไม่คิดอะไรทั้งสิ้น แล้วในตอนนั้นเองที่ทั่วทั้งท้องฟ้าก็ได้เต็มไปด้วยแสงสีตระการตาและสว่างไสวอย่างสุดๆ

“โฮก!”

ถึงแม้ว่ากิ้งก่าทะเลลึกนั้นจะแข็งแกร่งขึ้นกว่าก่อนหน้านี้ แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะทะลุฝ่าการสกัดกั้นไม่ให้เข้าไปหา ซ่างกวานจ้งของเหล่ายอดฝีมือทั้ง 20 กว่าคนได้

“เจ้าพวกสารเลว นี่มันหมาหมู่กันชัด! ยอดฝีมือของสมาพันธ์พึ่งตนเองทุกคนตามข้ามา และไปสังหารพวกคนของเมืองโม่ไห่ให้หมด!”

ฟู่เหว่ยที่ยังเต็มไปด้วยความมั่นใจอยู่เมื่อสักครู่นั้น ก็ได้รู้สึกกระวนกระวายขึ้นมาหลังจากที่เห็นเช่นนี้แล้ว เขาได้รีบบอกให้เหล่ายอดฝีมือของราชันย์เทพของสมาพันธ์พึ่งตนเองพากันเหาะขึ้นฟ้า หมายที่จะเข้าไปช่วยกิ้งก่าทะเลลึกในการทำลายเมืองโม่ไห่

แต่ทว่าพวกเขาก็ยังช้าไปก้าวหนึ่ง ในขณะที่พวกฟู่เหว่ยได้เหาะไปหากกิ้งก่าทะเลลึกอยู่นั้น ซ่างกวานจ้งที่หลับตาและพยายามที่จะบรรลุอย่างเต็มที่อยู่นั้นก็ได้ลืมตาขึ้นมา!

ทันใดนั้นเองพลังของจักรพรรดิเทพนั้นก็ได้แผ่ออกไปทั่วทั้งการต่อสู้ทันที ส่วนพวกเหยียนลี่หยางนั้นก็ได้เผยสีหน้าประหลาดใจขึ้นมาเมื่อพวกเขาเห็นเช่นนี้ แต่ทว่าฟู่เหว่ยกับคนของสมาพันธ์พึ่งตนเองนั้นต่างก็แอบตะโกนว่าแย่แล้วในใจ และมีความรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในใจของพวกเขา

“ในเมื่อพวกเจ้ามาถึงที่นี่แล้ว ก็อย่าคิดว่าจะได้กลับไปเลย!”

หลังจากที่ซ่างกวานจ้งได้ลืมตาขึ้นมาก็ได้มีเจตนามุ่งร้ายที่หนาวเย็นปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา โดยปราศจากซึ่งความลังเลเขาก็ได้เหาะออกมาจากการคุ้มครองของทุกคนและมาอยู่เหนือกิ้งก่าทะเลลึก แล้วกวัดแกว่งดาบจักรพรรดิเพลิงในมือของเขาแล้วฟันลงมาที่กิ้งก่าทะเลลึกอย่างสุดกำลัง

“อ๊าง!” “อ๊าง!” “อ๊าง!”……

มังกรไฟทั้ง 9 ตัวก็ได้พุ่งออกมาจากดาบจักรพรรดิเพลิงทันที และในขณะที่กำลังพุ่งเข้าใส่กิ้งก่าทะเลลึกอยู่อย่างสุดกำลังนั้น พวกมันก็ได้ปล่อยเสียงคำรามแหลมสูงของมังกรออกมา ราวกับว่าพวกมันนั้นมีจิตวิญญาณมังกรแฝงอยู่จริงๆ

“โฮก!”

กิ้งก่าทะเลลึกที่กำลังยุ่งอยู่กับพวกเหยียนลี่หยางอยู่นั้น ก็ได้เผยซึ่งความกระวนกระวายออกมาจากในดวงตาของมันและได้รีบหันหลังและหนีไปหลังจากที่ร้องออกมา

แต่ความเร็วของมังกรไฟทั้ง 9 นั้นรวดเร็วมาก และก่อนที่มันจะหนีไปได้ไกล ร่างของกิ้งก่าทะเลลึกนั้นก็ถูกล้อมด้วยมังกรไฟทั้ง 9 ตัวแล้ว!

ตูมๆๆๆๆๆ!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างต่อเนื่องมาจากตัวของกิ้งก่าทะเลลึก พร้อมด้วยเสียงร้องที่เจ็บปวดของกิ้งก่าทะเลลึก แล้วร่างของกิ้งก่าทะเลลึกนั้นก็ได้ร่วงลงไปราวกับพระอาทิตย์ตก และกลายเป็นลูกไฟขนาดใหญ่กระแทกลงไปที่พื้นดิน

ตูมมมม!

แล้วทั่วทั้งเมืองโม่ไห่ก็ได้เกิดการสั่นสะเทือนราวกับเกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงขึ้น ทำให้ตึกรามบ้านช่องในเมืองโม่ไห่ต้องถล่มอย่างต่อเนื่อง ราวกับเป็นวันสิ้นสุดของโลก

ซู่ๆๆ!

คลื่นบนผิวทะเลที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็ได้ม้วนขึ้นมาและกลายเป็นคลื่นยักษ์ที่พร้อมจะซัดสาด แล้วเสียงของคลื่นซัดเข้าฝั่งนั้นก็ได้ทำให้ยอดฝีมือของสมาพันธ์พึ่งตนเองที่ติดตามฟู่เหว่ยมานั้นต้องรู้สึกขนหัวลุกขึ้นมา ในเวลานี้พวกเขาไร้ซึ่งความกล้าที่จะกระโดดลงทะเลและหนีไปทางทะเลเหมือนกับตอนที่มาแล้ว

“โฮก!”

หลังจากที่กิ้งก่าทะเลล้มลงกับพื้นมันก็ยังดิ้นรนอย่างรุนแรง เพื่อพยายามดับไฟที่คลอกมันและหนีไปจากที่นี่ แต่มังกรไฟที่ออกมาจากดาบจักรพรรดิเพลิงนั้นต่างไปจากไฟธรรมดาๆอย่างสิ้นเชิง ไม่เพียงแต่จะไม่ดับลงง่ายๆภายใต้การดิ้นรนของกิ้งก่าทะเลลึก แต่มันยังเผาไหม้แรงขึ้นเรื่อยๆด้วย

“ฆ่าให้หมด! อย่าให้มีใครรอดกลับไปได้!”

หลังจากที่ซ่างกวานจ้งบอกกับจงเจิ้งหมิงกับพรรคพวกจากเมืองโม่ไห่แล้ว เขาก็ได้ลงมาจากบนท้องฟ้าและทะยานลงไปหากิ้งก่าทะเลลึกหมายที่จะสังหารสัตว์อสูรยักษ์ตัวนี้

“อย่าปล่อยให้คนของสมาพันธ์พึ่งตนเองรอดกลับไป วันนี้จะเป็นวันที่สมาพันธ์โม่ไห่ของพวกเราจะทำให้ละแวกริมชายฝั่งทะเลกลายเป็นหนึ่งเดียว!”

เหยียนลี่หยางก็ได้ตะโกนบอกกับพวกเหยียนเสี่ยวเฟย แล้วจากนั้นก็ได้ไล่ตามซ่างกวานจ้งไปสังหารกิ้งก่าทะเลลึก