ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 392 ห้องส่วนตัว
บทที่ 392
ห้องส่วนตัว
เฉียนยงนั้นไม่รู้ว่าเย่เย่นั้นคิดอะไรอยู่ แต่หลังจากที่ได้ยินที่เย่เย่ขอแล้ว เขาก็ได้คิ้วขมวดขึ้นมาทันที แล้วจากนั้นก็ได้แสร้งทำเป็นลำบากใจแล้วกล่าวตอบเย่เย่ “ข้าต้องขอโทษด้วยจริงๆครับคุณชายจ้าว ห้องที่ดีที่สุดทุกห้องของทางเรานั้นได้ถูกจองเอาไว้หมดแล้ว ถ้าหากคุณชายจ้าวยังยืนยันคำเดิม ข้าเกรงว่าคุณชายคงจะต้องมาใหม่วันหลังแล้ว”
เพราะเฉียนหย่งนั้นได้ตัดสินใจไว้แล้วว่าเย่เย่นั้นไม่มีคุณสมบัติมากพอที่จะอยู่ในห้องที่ดีที่สุดของหอสระมรกตของพวกเขา จึงได้ปฏิเสธคำขอของเย่เย่โดยไม่บอกราคาค่าห้องกับ เย่เย่ด้วยซ้ำ
เขาคิดว่าเย่เย่นั้นคงจะยอมถอยโดยดีต่อท่าทางลำบากใจของเขา แต่ไม่คิดว่าเย่เย่นั้นจะจ้องตอบกลับมาแล้วจากนั้นก็ได้สะบัดพัดในมือแล้วถามเฉียนหย่งด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี “หรือว่าเจ้าคิดว่าข้านั้นไม่มีความสามารถมากพอที่จะจ่ายเงินหอสระมรกตแห่งนี้? จะบอกให้นะถ้าหากว่าข้าต้องการแล้ว การที่ข้าจะซื้อทั้งหอสระมรกตของเจ้านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเลย อย่ามาดูถูกกันให้มากนักนะ!”
ประสาทสัมผัสของเย่เย่นั้นเฉียบคมมา ท่าทีที่เจ้าเล่ห์ของเฉียงหย่งนั้นไม่สามารถที่จะเล็ดลอดสายตาของเขาไปได้ ในชั่วขณะที่เขาได้ยินเฉียนหย่งปฏิเสธเขานั้นเอง เย่เย่ก็รู้ว่า เฉียนหย่งนั้นกำลังดูถูกเขาอยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะตั๋วทองของเย่เย่ที่ได้มาจากการขายแก่นภายในมังกรสองหัวนั้นได้ถูกเติมเข้าระบบเติมเงินไปแล้ว ก็จะเป็นเรื่องง่ายดายสำหรับเขาที่จะซื้อหอสระมรกตแห่งนี้ เพียงแต่ว่าในเวลานี้ตัวเขานั้นมีตั๋วทองติดตัวเย่เย่อยู่ไม่มากนัก ดังนั้นแค่ปลอมตัวนั้นก็แทบแย่แล้ว
แต่ทว่าการเข้ามาในหอสระมรกตนั้นเกี่ยวข้องกับแผนการลอบสังหารหวงต้าไห่ของเขา เย่เย่จึงได้ไม่คิดที่จะถอยง่ายๆแม้ว่าจะยากที่จะเดินหน้าต่อก็ตาม ดังนั้นเย่เย่จึงได้ไม่ลังเลที่จะทำเป็นพูดจาใหญ่โตและคิดที่จะทำให้อีกฝ่ายนั้นตกใจเสียหน่อย
แต่ทว่าเฉียนหย่งนั้นพบเจอกับผู้คนมาจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว จึงแน่นอนว่าไม่ง่ายนักที่หลอกเขา หลังจากที่ได้ยินคำพูดใหญ่โตของเย่เย่แล้ว ก็ได้มีความดูถูกปรากฏบนใบหน้าของเขาทันที แม้แต่ความกระตือรือร้นที่อยู่เปลือกนอกของใบหน้าก็ได้หายไปแล้ว และได้ตอบเย่เย่กลับไปด้วยสีหน้านิ่งๆ “คุณชายจ้าว ขอข้าพูดตามความจริงหน่อยนะ หอสระมรกตของพวกเรานั้นต่างไปจากโรงเตี๊ยมที่อื่นๆ ไม่ใช่ว่าใครจะสามารถเข้ามาในโรงเตี๊ยมเราได้ง่ายๆแม้ว่าจะมีเงินก็ตาม โดยเฉพาะห้องส่วนตัวของที่นี่นั้น จะรับเฉพาะลูกค้าที่มีฐานะจริงๆในเมืองหยวนฟางเท่านั้น ดังนั้น…..”
ถึงแม้ว่าเฉียนหย่งนั้นจะพูดยังไม่ทันจบ แต่เขาก็เชื่อว่า เย่เย่นั้นน่าจะเข้าใจที่เขาต้องการจะสื่ออย่างแจ่มแจ้งแล้ว
และเพื่อที่จะทำให้เย่เย่หยุดก่อความวุ่นวายไปมากกว่านี้ เฉียนหย่งก็ได้ส่งสายตาไปที่ยามทั้งสองคนที่อยู่ที่หน้าทางเข้าหอ แล้วยามทั้งสองคนก็ได้รับคำสั่งทันทีแล้วเดินเข้ามาหาเฉียนหย่งแล้วมองไปที่เย่เย่ด้วยสายตาที่ดุดัน ราวกับว่าพวกเขาจะลงมือทันทีถ้าหากว่าเย่เย่ไม่ยอมทำตาม
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วไม่เพียงแต่เย่เย่จะไปหันหลังกลับไปแล้ว ก็ยังมีรอยยิ้มปรากฏที่มุมปากของเขาอีกด้วย เขาจ้องไปที่เฉียนหย่งด้วยสายตาที่หมดความอดทน แล้วทันใดนั้นก็ได้เผยสีหน้าที่ไม่สนใจออกมาแล้วถามเฉียนหยงกลับไปอย่างดื้อดึง “อ้อเหรอ? ไม่ทราบว่าในสายตาของผู้จัดการเฉียนแล้ว คนที่มีฐานะจริงๆนั้นจะต้องเป็นคนอย่างไรไม่ทราบ?”
เฉียนหย่งก็ได้ขี้เกียจที่จะเสวนากับเย่เย่แล้วจึงได้หันหลังกลับไปและคิดที่จะจากไป แล้วก็ได้ตอบเย่เย่อย่างเย็นชา “มีแต่ผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงจะเป็นที่นับถือในโลกนี้ ถ้าหากว่าท่านมีความแข็งแกร่งมากพอแล้วท่านก็ย่อมที่จะมีฐานะสูงส่งอย่างแน่นอน ถ้าหากไม่มีก็ขอให้กลับออกไปด้วย!”
หลังจากที่พูดจบเฉียนหย่งก็ได้เดินจากเย่เย่ไป และคิดที่จะกลับไปที่โต๊ะเพื่อทำธุระของตัวเองต่อ แล้วยามสองคนที่อยู่ข้างๆเขาก็ได้เดินเข้าไปหาเย่เย่ ตั้งใจที่จะซัดให้เย่เย่กระเด็นออกไปจากหอสระมรกตของพวกเขา
“ถ้าหากว่าท่านพูดเช่นนั้นก็เข้าใจได้ง่ายดีสำหรับข้า!”
หลังจากที่ได้ยินคำตอบที่เย็นชาของเฉียนหย่งแล้ว เย่เย่นั้นไม่เพียงแต่จะไม่กลัว แต่ยังถอนหายใจออกมายาวๆ
ในตอนที่ยามทั้งสองคนที่อยู่ในระดับจอมเทพนั้นได้ปล่อยหมัดมาจะโดนตัวเขาอยู่นั้นเอง เย่เย่ก็ได้จับแขนของทั้งคู่แล้วโยนออกไปที่นอกหอสระมรกตในอึดใจเดียว
ตุ้มซ่า! ตุ้มซ่า!
ราวกับกระสอบทราบ ทั้งสองคนก็ได้ถูกเย่เย่เหวี่ยงตกลงไปในสระที่อยู่ข้างๆหอสระมรกต ซึ่งเสียงที่ดังออกมานี้ก็ได้ทำให้เฉียนหย่งที่กำลังจะเดินจากไปต้องตกใจ
“หา?”
เฉียนหย่งที่เห็นยามทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าของเย่เย่เมื่อสักครู่นั้น ได้ลอยตกลงไปในน้ำอย่างน่าขายหน้าแล้ว ก็ได้มองไปที่เย่เย่ด้วยสีหน้าที่หวาดกลัวขึ้นมาทันที
“เจ้าบอกเองไม่ใช่เหรอว่า ในโลกนี้มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่น่านับถือน่ะ? ข้าสงสัยจังเลยว่าด้วยความแข็งแกร่งของข้าแล้วเพียงพอที่จะเข้าพักที่หอสระมรกตของเจ้าหรือเปล่า?”
แล้วเย่เย่นั้นก็ไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงกับเฉียนหย่งต่อ หลังจากที่เขากำจัดยามทั้งสองคนที่อยู่ในระดับจอมเทพเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ได้ปล่อยพลังกดดันในระดับราชันย์เทพออกมาในทันที
ตูม!
แล้วทันใดนั้นเองทั่วทั้งหอสระมรกตก็ได้ถูกห้อมล้อมด้วยพลังกดดันที่น่ากลัวทันที ไม่เพียงแค่เฉียนหย่งแต่พนักงานคนอื่นๆในหอสระมรกตนั้นต่างก็หน้าซีดเผือดด้วยความกลัวหลังจากที่รู้สึกได้ถึงแรงกดดันนี้ และมองไปที่เย่เย่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว
“พอครับ พอแล้วล่ะครับคุณชาย! ข้าจะรีบไปจัดแจงห้องส่วนตัวที่ดีที่สุดของทางหอสระมรกตเราเดี๋ยวนี้แหละครับ!”
เดิมทีเฉียนหย่งนั้นคิดว่าเย่เย่นั้นเป็นเพียงคุณชายที่ไม่รู้ประสีประสาที่ไหน แต่ในเวลานี้เขาได้รู้สึกตัวแล้วว่าตัวเขานั้นได้มองคนผิดไป เขาจึงได้พร่ำขอโทษขอโพยเย่เย่ไปตลอดทางและพาเขาไปที่ชั้นบนด้วยตัวเอง และพาไปยังห้องที่ดีที่สุดของทางหอสระมรกต
“เจ้ายังจำที่ข้าบอกเมื่อสักครู่ได้รึเปล่า? ส่งคนไปที่เมืองหยวนฟางแล้วบอกให้คุณชายหวงต้าไห่มาคุยกับข้าที่นี่ที! ถ้าหากเจ้าทำเป็นไม่สนใจอีก ระวังข้าจะทำลายหอสระมรกตของเจ้าให้สิ้นซาก!”
ในขณะที่เย่เย่ได้ตามเฉียนหย่งไปที่ชั้นบนนั้น เขาก็ได้กล่าวเตือนอีกฝ่ายให้ทำตามที่เขาสั่งอีกหน
ในเวลานี้เฉียนหย่งนั้นไม่กล้าที่จะต้อนรับเย่เย่อย่างขอไปทีแล้ว หลังจากที่ได้ยินคำสั่งของเย่เย่แล้วเขาก็ได้รีบผงกหัวให้เย่เย่แล้วกล่าว
“ไม่ต้องกังวลนะคุณชาย ข้าจะให้ลูกน้องไปที่เมืองไปเชิญคุณชายหวงต้าไห่มาที่งานเลี้ยงในค่ำคืนนี้! เพียงแต่คุณชายหวงต้าไห่นั้นเป็นถึงบุตรชายของท่านเจ้าเมือง ถ้าหากว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการหรือว่าไม่มีเวลา ทางเราก็ไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งนั้น!”
“ถ้าหากว่ามาไม่ได้ในคืนนี้ ก็ค่อยมาในคืนพรุ่งนี้! เจ้าก็บอกกับเขาไปแค่ว่าข้าจะรอเขาอยู่ที่หอสระมรกตก็พอ!”
แน่นอนว่าเย่เย่เองก็รู้ถึงพลังของหอสระมรกตดี พวกเขานั้นไม่กล้าที่จะไปบังคับพาหวงต้าไห่ออกมาได้ ดังนั้นเย่เย่เองก็ได้เตรียมใจเรื่องนี้เอาไว้แล้ว หลังจากที่เขาได้สั่งกับเฉียนหย่งไป เขาก็ได้เข้าไปในห้องส่วนตัวที่เฉียนหย่งจัดเตรียมไว้ให้กับเขา แล้วก็เริ่มฝึกวิชา
ถึงแม้ว่าเย่เย่นั้นจะมีวรยุทธ์ถึงระดับราชันย์เทพแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเขานั้นไม่ต้องทำอะไร นอกจากทานยามังกรเทียบแล้วบรรลุขึ้นสู่ระดับจักรพรรดิเทพ
สืบเนื่องมาจากการที่เย่เย่นั้นได้พัฒนาอย่างรวดเร็วมากจนเกินไป ทำให้ระดับพลังที่อยู่ในร่างกายของเขานั้นยังห่างไกลจากระดับที่เขาจะสามารถบรรลุขึ้นสู่จักรพรรดิเทพได้ ดังนั้นก่อนที่เย่เย่จะบรรลุขึ้นสู่ระดับจักรพรรดิเทพนั้น ตัวเขาก็จำเป็นที่จะต้องใช้เวลาอย่างมากในการทำการกับเก็บพลังปราณของเขาเอาไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
นอกจากนี้กระบวนท่าทะเลสวรรค์กำเนิดน้ำนั้นก็ได้เหลืออีกเพียงขั้นเดียวในการบรรลุขึ้นสู่ระดับสูงแล้ว
ซึ่งเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงเลือกหอสระมรกตนั้นเป็นสถานที่ในการทำภารกิจนั้น นอกจากความจริงที่ว่ามันอยู่ห่างไกลจากเมืองหยวนฟางแล้ว ยังมีอีกเหตุผลก็คือที่นี่นั้นมีไอน้ำอยู่เป็นปริมาณมาก ซึ่งจะส่งผลกับการบรรลุวิชาของกระบวนท่านี้ของเขา
เนื่องจากที่นี่อยู่ใกล้กับสระน้ำ ทำให้ห้องส่วนตัวของเย่เย่นั้นมีไอน้ำอยู่เป็นปริมาณมากกว่าโรงเตี๊ยมอื่นๆใน เมืองหยวนฟาง และเพื่อที่จะฝึกกระบวนท่าทะเลสวรรค์กำเนิดน้ำในบรรลุก่อนที่จะบรรลุขึ้นจักรพรรดิเทพแล้ว เย่เย่จึงได้คิดที่จะไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่า ทันทีที่เขาเข้ามาในห้อง ก็ได้นั่งขัดสมาธิอยู่ที่เตียงและเริ่มทำการฝึกวิชากระบวนท่าในระดับราชันย์เทพให้ขึ้นสู่ระดับสูงสุดทันที
แล้วในคืนนั้นในขณะที่เย่เย่กำลังตั้งใจฝึกกระบวนท่าทะเลสวรรค์กำเนิดน้ำอยู่นั้นก็ได้พลันมีเสียงเคาะประตูที่ปลุกให้เขาตื่นขึ้นมาทันที
ก๊อกๆๆ!
เย่เย่ก็ได้ลืมตาขึ้นมาหลังจากที่ได้ยินเสียงเคาะประตู แล้วก็ได้ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาที่ประตูเพื่อเปิดประตู
ก็พบว่ามีสาวงามวัยกลางคนที่งดงามกำลังยืนอยู่เงียบๆที่หน้าประตู แล้วพอนางเห็นเย่เย่เปิดประตูออกมา นางก็ได้ส่งสายตาให้กับเย่เย่ทันที
“คุณชายจ้าว ข้าคือเถ้าแก่หอสระมรกตแห่งนี้ ท่านจะเรียกข้าว่าอวี๋เหนียงก็ได้ ข้าได้ยินมาว่าผู้จัดการเฉียนหย่งนั้นได้ล่วงเกินคุณชายจ้าวในวันนี้ ในเวลานี้ข้าจึงได้มาขออภัยคุณชายจ้าวแทนเขาด้วย ข้าหวังว่าคุณชายจ้าวจะไม่ถือสาเรื่องนี้ และอย่าได้ทำให้ชื่อเสียงของหอสระมรกตเราต้องเสื่อมเสียเพราะเรื่องนี้ด้วย!”
สาวงามวัยกลางคนที่ชื่ออวี๋เหนียงก็ได้กล่าวขณะที่เดินผ่านเย่เย่เข้ามาในห้องของเย่เย่
เมื่อเห็นว่าทุกสิ่งทุกอย่างในห้องนั้นยังคงอยู่คงเดิม นอกจากรอยถูกนั่งอยู่บนเตียงแล้ว อวี๋เหนียงก็ได้พลันเดาขึ้นมาได้ว่าเมื่อสักครู่เย่เย่นั้นน่าจะกำลังฝึกวิชาอยู่ ทำให้นางนั้นสงสัยในตัวตนของเย่เย่มากขึ้นเรื่อยๆ และอดไม่ได้ที่จะมองมาที่เย่เย่ด้วยความน่าหลงใหลในดวงตาของนาง
“ยินดีที่ได้รู้จักแม่นางอวี๋เหนียง! เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้นเพียงแค่ความเข้าใจผิดกันเท่านั้น และข้าก็ไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นขอให้แม่นางอวี๋เหนียงอย่าได้โทษตัวเองและไม่จำเป็นต้องมาขอโทษข้าถึงที่ด้วยตัวเองเช่นนี้ ไม่อย่างนั้นคนอื่นๆจะหาว่าข้าคุณชายจ้าวคนนี้เป็นคนขี้เหนียวเอาได้!”
หลังจากที่เย่เย่ได้หันไปมองที่อวี๋เหนียง เขาก็ได้พอจะเดาจุดประสงค์ที่แท้จริงของอีกฝ่ายได้ ดังนั้นเขาจึงได้รักษาระยะห่างจากอวี๋เหนียงและกล่าวอย่างสุภาพสุดๆ
เมื่อเห็นว่าเย่เย่นั้นยังคงเปิดประตูทิ้งเอาไว้หลังจากที่นางเข้ามาแล้ว อวี๋เหนียงจึงได้จ้องมองไปที่เย่เย่อย่างไม่พอใจ แต่นางก็ได้ทำเป็นไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมแล้วเดินไปที่เตียงตรงที่ที่เย่เย่ใช้ฝึกวิชาเมื่อสักครู่ด้วยท่านั่งไขว่ห้าง แล้วแสร้งตีสีหน้าทำเป็นขมขื่นและกล่าวกับเย่เย่ “ข้าอุตส่าห์มาหาท่านถึงที่ด้วยตัวเองเช่นนี้ คุณชายจ้าวก็ยังปฏิเสธที่จะบอกชื่อเต็มๆกับข้า ดูเหมือนว่าอวี๋เหนียงคงจะแก่ไปแล้วจริงๆ ถึงได้ดึงดูดความสนใจจากคุณชายที่ยังหนุ่มแน่นอย่างคุณชายจ้าวไม่ได้”
เมื่อเห็นว่าอวี๋เหนียงนั้นใช้คำพูดคำจากที่เหมือน ขวาน ผ่าซากมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว เย่เย่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกลำบากใจขึ้นมา
แต่ทว่าตัวเขานั้นก็รู้ดีถึงจุดประสงค์ที่เขาปลอมตัวมาอยู่ที่หอสระมรกตแห่งนี้ และเป็นไปไม่ได้ที่จะบอกชื่อที่แท้จริงกับนางเพียงเพราะว่าอีกฝ่ายไม่พอใจได้ ดังนั้นเย่เย่จึงได้ไม่ตอบที่ อวี๋เหนียงถามแล้วหันหน้าไปหาอวี๋เหนียงแล้วตอบ “ข้าได้ยินมาว่าเถ้าแก่ของหอสระมรกตนั้นเป็นคนลึกลับมาก แต่ข้าก็ไม่คิดมาก่อนเลยว่าจะเป็นผู้หญิง การที่แม่นางอวี๋เหนียงสามารถบริหารหอสระมรกตได้ด้วยตัวเองเช่นนี้ ทำให้ข้าคุณชายจ้าวคนนี้รู้สึกนับถือยิ่งนัก!”
อวี๋เหนียงที่สงสัยในตัวตนของเย่เย่นั้นก็ได้เริ่มที่จะสงสัยในเบื้องหลังของเย่เย่ขึ้นมาแล้ว
อย่างไรเสียก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีฐานะที่มั่นคงในเมืองโบราณใหญ่ๆอย่างเมืองหยวนฟางได้ ไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หอสระมรกตนั้นมีชื่อเสียงใหญ่โตไปไม่น้อยกว่าเหล่าคนในระดับสูงๆของเมืองหยวนฟางเลย ซึ่งเย่เย่นั้นเชื่อว่าต่อให้ อวี๋เหนียงนั้นไม่แข็งแกร่ง แต่เบื้องหลังของนางนั้นจะต้องประมาทไม่ได้อย่างแน่นอน อย่างๆในเมืองหยวนฟางนั้นก็ยังมีบางคนที่สามารถพอที่จะเอาชีวิตเขาได้
แน่นอนว่าอวี๋เหนียงที่ได้ยินคำพูดหลบเลี่ยงของเย่เย่แล้ว นางก็ได้จ้องไปที่เย่เย่อย่างไม่พอใจ และแสร้งทำเป็นรู้สึกไม่ดีและตัดพ้อกับเย่เย่ “คุณชายจ้าวไม่เพียงแต่จะไม่ตอบคำถามของข้าแล้ว ก็ยังเริ่มที่จะถามไถ่เรื่องส่วนตัวของข้าด้วย ช่างเป็นคนที่ชอบใช้อำนาจเสียจริงๆ แต่ข้าก็ชอบความเป็นลูกผู้ชายนี้ของท่าน ถ้าหากว่าคุณชายต้องการสิ่งใดแล้ว ข้าจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้ท่านพึงพอใจอย่างแน่นอน!”
ในขณะที่นางกล่าว อวี๋เหนียงก็ได้เผยขายาวๆและผิวขาวๆ ราวกับตั้งใจที่จะล่อลวงเย่เย่อย่างเป็นนัยๆ