ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 386 ภารกิจ
บทที่ 386
ภารกิจ
แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวเท้าแรกออกไป เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้รั้งผู้อาวุโสเฉินเอาไว้ก่อน แล้วกล่าวกับผู้อาวุโสเฉินด้วยน้ำเสียงที่ละอายใจเล็กน้อย “ช้าก่อนผู้อาวุโสเฉิน คนที่ข้าพามาแนะนำในวันนี้นั้นค่อนข้างจะพิเศษหน่อย ข้าคิดว่าเขาคงจะผ่านการทดสอบได้ด้วยเวลาเพียงชั่วก้านธูปเท่านั้น ขอให้ผู้อาวุโสเฉินอดทนรออยู่ต่ออีกหน่อยเถิด!”
เพราะยิ่งคนที่แนะนำมาแข็งแกร่งมากเท่าไร เหยียนเสี่ยวเฟยก็จะยิ่งได้รับรางวัลมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงได้ไม่รอช้าที่จะรั้งผู้อาวุโสเฉินเอาไว้และให้อีกฝ่ายเป็นพยานรับรู้ความแข็งแกร่งของเย่เย่ด้วยตาตัวเอง
อย่างที่คาดในตอนที่ผู้อาวุโสเฉินนั้นได้ยินที่ เหยียนเสี่ยเฟยกล่าว ก็ได้มีความตกใจปรากฏอยู่ในดวงตาของเขา และหยุดเดินทันทีแล้วหันกลับมาถามเหยียนเสี่ยวเฟยอย่างสงสัย “ต่อให้เขาแข็งแกร่งกว่าเจ้า ก็ยังต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่าครึ่งวันถึงจะผ่านการทดสอบมาได้ ผ่านการทดสอบในเวลา ชั่วก้านธูปอย่างนั้นเหรอ? เป็นไปไม่ได้!”
ตูม!
แต่ทันทีที่สิ้นเสียงของเขา ประตูห้องทดสอบที่เพิ่งปิดไปก็ได้เปิดออกมา
เย่เย่เดินออกมาจากห้องทดสอบราวกับว่าตัวเขาแค่เข้าไปเดินเล่นเฉยๆ แล้วเมื่อเขาเห็นเหยียนเสี่ยวเฟยกับผู้อาวุโสเฉินแล้ว เขาก็ได้รีบทำมือคารวะผู้อาวุโสเฉินแล้วกล่าว “ขอบพระคุณผู้อาวุโสเฉินที่อดทนรอ ข้าเย่เย่ทำบททดสอบเสร็จแล้ว ตอนนี้ข้าผ่านการประเมินของหอธารสวรรค์แล้วใช่ไหม!”
ภายในห้องที่กว้างขวางด้านหลังของเย่เย่นั้น มีหุ่นเชิดระดับราชันย์เทพที่มีสภาพกลายเป็นชิ้นๆกระจัดกระจายกองอยู่ที่พื้น ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเฉินจะไม่ได้เข้าไปตรวจดูด้วยตัวเอง แต่เขาก็รู้ว่าหุ่นเชิดตัวนั้นได้กลายเป็นซากเรียบร้อยแล้ว
ในเวลานี้ทั้งผู้อาวุโสเฉินกับเหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้มองไปที่เย่เย่ราวกับมองสัตว์ประหลาด และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรไปชั่วขณะ
แม้แต่เหยียนเสี่ยวเฟยที่ประเมินค่าของเย่เย่ไว้สูงอยู่ก่อนแล้วนั้น หลังจากที่เห็นเย่เย่ผ่านการทดสอบมาได้เพียงชั่วอึดใจเดียวแล้วนั้น ก็ได้มีความตกใจปรากฏอยู่ในดวงตาและมีความอิจฉาปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา ในหัวของเขานั้นนึกได้ถึงความน่าขายหน้าในตอนที่ตัวเขาได้พยายามอย่างหนักในการผ่านการทดสอบนี้ ทำให้ในใจของเขานั้นเต็มไปด้วยความว้าวุ่นใจ
“เจ้าชื่อว่าเย่เย่ใช่ไหม? ไม่เลวๆ!”
ผู้อาวุโสที่ได้สติคืนกลับมา ก็ได้จับจ้องมาที่เย่เย่ราวกับต้องการที่จะจดจำตัวเขาเอาไว้ แล้วจากนั้นก็ได้ผงกหัวให้เย่เย่เพื่อเป็นการยืนยัน
ถึงแม้ว่าหอธารสวรรค์ของพวกเขานั้นจะต่างไปจากพวกสำนักและขุมกำลังต่างๆในแผ่นดินว่านหลิงโดยสิ้นเชิง แต่ก็ไม่มีขุมกำลังไหนที่จะปฏิเสธการเข้าร่วมของผู้แข็งแกร่ง และเย่เย่นั้นก็แข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เขาที่เป็นยอดฝีมือจักรพรรดิเทพนั้นรู้สึกสนใจได้ ดังนั้นผู้อาวุโสเฉินจึงได้กล่าวกับเย่เย่ด้วยความกระตือรือร้นกว่าในตอนแรก
เย่เย่ที่เห็นว่าท่าทีของผู้อาวุโสเฉินนั้นค่อยๆเปลี่ยนไป ซึ่งเขาก็พอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะความสามารถของเขาเมื่อสักครู่นั้น ได้ฝังลึกลงไปใจของอีกฝ่ายแล้ว แต่เขาก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เลวร้ายอะไร อย่างไรเสียหอธารสวรรค์นั้นก็ขึ้นชื่อเรื่องของการเก็บข้อมูลของสมาชิกภายในเป็นความลับสุดยอด ดังนั้นเย่เย่จึงได้กลายมาเป็นดาวเด่นของหอธารสวรรค์ซึ่งไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการเจริญเติบโตของเขาในดินดานเทียนหนานมาก
หลังจากที่ผ่านการทดสอบแล้ว ผู้อาวุโสเฉินก็ได้พาเย่เย่ไปที่ห้องเพื่อทำขั้นตอนต่างๆให้เรียบร้อย แล้วเย่เย่ก็ได้กลายมาเป็นสมาชิกหอธารสวรรค์อย่างเป็นทางการ และในขณะเดียวกันเหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้รับค่าตอบแทนอย่างล้นหลามจากผู้อาวุโสเฉิน ซึ่งเย่เย่ก็ได้มองอย่างกัดเขี้ยวเคี้ยวฟัน
แต่เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นก็ได้แกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ หลังจากที่ได้รับของรางวัลมาอย่างมีความสุขแล้ว เขาก็ได้รีบขอบพระคุณผู้อาวุโสเฉินเป็นพันหนด้วยความภาคภูมิใจบนใบหน้าของเขา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะผู้อาวุโสเฉินอยู่ที่นี่แล้ว เย่เย่ก็คงจะอัดเขาทันทีเป็นแน่ แต่เพื่ออีกฝ่ายที่อุตส่าห์พาเขามาที่หอธารสวรรค์แล้ว เย่เย่ก็ได้ตัดสินใจที่จะเก็บอารมณ์โกรธของเขาเอาไว้ในใจชั่วคราวก่อน
ผู้อาวุโสเฉินนั้นก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สนใจความบาดหมางระหว่างเย่เย่กับเหยียนเสี่ยวเฟยมากนัก หลังจากที่เขาช่วยเย่เย่ผ่านขั้นตอนต่างๆมาเรียบร้อยแล้วนั้น เขาก็ได้อธิบายให้เย่เย่ฟังคร่าวๆถึงเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภารกิจสังหาร
“ในหอธารสวรรค์นั้น เจ้าจะได้รับภารกิจได้ 2 วิธี วิธีแรกคือหลังจากที่องค์กรได้ทำการตรวจสอบข้อมูลของเจ้าแล้ว ก็จะส่งมอบบางงานที่เหมาะสมกับเจ้าไปให้เลือกดูว่าจะทำหรือไม่ ถึงแม้ว่าเจ้าจะมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธงาน แต่ถ้าหากเจ้าปฏิเสธงานบ่อยจนเกินไป การประเมินค่าเจ้าขององค์กรก็จะลดต่ำลง ซึ่งอย่างร้ายที่สุดก็จะกำจัดให้สิ้นซาก ส่วนวิธีที่สองคือไปที่ห้องรับภารกิจเพื่อรับงานด้วยตัวเอง หลังจากที่ทำงานเสร็จแล้ว เจ้าก็จะสามารถไปที่สาขาไหนก็ได้เพื่อขึ้นเงินรางวัล ซึ่งนโยบายของหอธารสวรรค์นั้น มือสังหารแต่ละคนจะต้องทำภารกิจให้สำเร็จ 1 ภารกิจในแต่ละปี ซึ่งถ้าหากไม่สามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้เลย ก็จะถูกกำจัดโดยยอดฝีมือที่ถูกส่งมาโดยองค์กรเช่นกัน!”
ในขณะที่ผู้อาวุโสเฉินอธิบายให้เย่เย่ฟังอยู่นั้น สีหน้าของผู้อาวุโสเฉินนั้นสงบนิ่งเหมือนกับน้ำ ราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องหยุมหยิมเท่านั้น
แต่เย่เย่นั้นอดไม่ได้ที่จะตีสีหน้าเคร่งเครียดเมื่อเขาได้ยินเช่นนี้ และรู้สึกตกใจกับกฎที่เข้มงวดมากของหอธารสวรรค์ ซึ่งตัวเย่เย่เองนั้นก็ได้เตรียมใจเอาไว้แล้วตอนที่ตามเหยียนเสี่ยวเฟยมายังที่แห่งนี้ แล้วเขาก็ได้รีบขอบคุณผู้อาวุโสเฉินทันที “ขอบพระคุณผู้อาวุโสเฉินที่ช่วยเตือน ต่อจากนี้ไปข้าจะระวังตัวอย่างแน่นอน!”
เมื่อเห็นเช่นนี้ ผู้อาวุโสเฉินก็ได้ผงกหัวแล้วจากนั้นก็ได้อธิบายคร่าวๆถึงสถานการณ์ของหอธารสวรรค์สาขาเทียนหนานให้เย่เย่ฟังต่อ
เพราะว่ามีมือสังหารของหอธารสวรรค์มากมายที่มีอีกตัวตนหนึ่งในโลกภายนอก ซึ่งไม่ใช่ทั้งหมดที่มือสังหารของหอธารสวรรค์นั้นจะอยู่ที่นี่เพื่อเก็บตัวฝึกวิชา แต่ผู้อาวุโสก็ได้บอกกับ เย่เย่ว่าถ้าหากว่าเขาต้องการ ก็จะสามารถเลือกที่พักในหอธารสวรรค์เพื่อใช้เก็บตัวฝึกวิชาได้
ถึงแม้ว่าความหนาแน่นของพลังปราณในอากาศของหอธารสวรรค์นั้นจะไม่ได้ดีเท่ากับของขุมกำลังอันดับต้นๆในดินแดนเทียนหนาน แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นเหมือนสรวงสวรรค์เลยทีเดียว และที่เย่เย่กับเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นไม่พบใครเลยตอนที่มาถึงที่นี่นั้น ก็เพราะว่าในเวลานี้มือสังหารที่อยู่ที่สาขานี้ส่วนใหญ่นั้นถ้าไม่ได้อยู่ที่ห้องรับภารกิจ ก็จะอยู่ในที่พักของตัวเองเพื่อเก็บตัวฝึกวิชากันอยู่
เย่เย่จึงได้ปฏิเสธน้ำใจของผู้อาวุโสเฉิน หลังจากที่ทำขั้นตอนต่างๆเสร็จทั้งหมดแล้ว เขาก็ได้เดินตามเหยียนเสี่ยวเฟยไปยังตึกข้างๆอาคารสูงระฟ้านี้ เพื่อรับภารกิจและออกตามล่าเป้าหมายหาเงิน
“ถึงแม้ว่าข้าจะพูดไปแล้วก็ตามที แต่ข้าก็จะขอเตือนเจ้าไว้อีกที หากว่ารับงานมาแล้วนอกจากว่าผู้จ้างวานจะตายหรือว่ามีกรณีพิเศษที่ทางหอธารสวรรค์ให้เป็นโมฆะแล้ว เจ้าจะไม่ปลอดภัยจนกว่าจะสังหารเป้าหมายได้ ถ้าหากว่าครบกำหนดเวลาที่ให้ไปแล้วและเป้าหมายยังไม่ตายแล้วล่ะก็ ในขณะที่หอธารสวรรค์นั้นจะส่งนักฆ่าคนอื่นมาทำภารกิจต่อ ตัวเจ้าก็จะต้องตกเป็นเป้าหมายที่หอธารสวรรค์ต้องจัดการด้วย จำเอาไว้ด้วยล่ะ!”
“ไม่ต้องกังวล! ข้าไม่เอาชีวิตตัวเองมาล้อเล่นอย่างแน่นอน!”
เย่เย่ก็ได้ผงกหัวให้กับเหยียนเสี่ยวเฟย แล้วก็ตอบกลับไปว่าตัวเขาจะจำกฎให้ขึ้นใจ
อย่างไรเสียจุดประสงค์ที่เย่เย่มาเข้าร่วมกับหอธารสวรรค์นั้นก็เพื่อที่จะหาตั๋วทองอยู่แล้ว จึงแน่นอนว่าตัวเขานั้นย่อมจะปล่อยให้ตัวเองต้องตกอยู่ในปัญหาเพื่อเห็นเรื่องนี้เป็นเล่นๆแน่
จากนั้นทั้งสองคนก็ได้เข้าไปในอาคารข้างๆแล้วเข้าไปที่ห้องรับภารกิจที่เป็นสถานที่ที่คึกคักที่สุดในหอธารสวรรค์
ซึ่งจะพบผู้คนอยู่กันอย่างเนืองแน่นในห้องนี้ ซึ่งเกือบทั้งหมดจะเป็นมือสังหารของสาขานี้ที่มารวมตัวกัน ซึ่งบรรยากาศของมือสังหารเหล่านี้นั้นล้วนหนาวเย็นมาก แต่ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายมารวมกันอยู่ที่นี่ แต่ก็กลับไม่มีเสียงดังเอะอะในห้องนี้เลย
ที่ตรงกลางของห้องรับภารกิจนั้น จะมีกระดานป้ายขนาดมหึมาแปะงานลอบสังหารต่างๆเอาไว้ ขอเพียงมือสังหารของหอธารสวรรค์นั้นคิดว่าจะทำงานนี้ให้สำเร็จได้นั้น ก็สามารถถึงเอาแผ่นงานนั้นออกมาแล้วนำไปลงทะเบียนได้ที่โต๊ะรับลงทะเบียนที่อยู่ไม่ไกลออกไป
แต่สิ่งที่ทำให้เย่เย่รู้สึกแปลกๆในห้องรับภารกิจแห่งนี้คือนอกจากมือสังหารที่มารับภารกิจไปทำและมาเพื่อขึ้นเงินแล้ว ก็มีเพียงเจ้าหน้าที่ของหอธารสวรรค์ที่รับผิดชอบเรื่องของการลงทะเบียนอยู่ที่ด้านหลังเคาน์เตอร์เท่านั้น
จึงได้ถามเหยียนเสี่ยวเฟยอย่างสงสัย เหยียนเสี่ยวเฟยจึงได้กรอกสายตามาหาเย่เย่ แล้วตอบเย่เย่อย่างประชดประชัน “เจ้าคิดจริงๆเหรอว่าจะปล่อยให้ใครก็ได้เข้าออกออกธารสวรรค์ได้ตามใจชอบน่ะ? ผู้คนจากโลกภายนอกที่ต้องการจะจ้างวานหอธารสวรรค์นั้นมีอยู่หนทางเดียวคือต้องไปหานายหน้าประจำท้องที่ของหอธารสวรรค์เท่านั้น! ถ้าหากทุกคนรู้ที่อยู่ของหอธารสวรรค์แล้ว หอธารสวรรค์ก็คงจะไม่ได้อยู่ในแผ่นดินว่านหลิงไปนานแล้ว!”
เมื่อเย่เย่ได้ยินที่เหยียนเสี่ยวเฟยตอบกลับมา ก็ได้มีความตกใจขึ้นในสายตาของเขา และความกลัวของเขาที่มีต่อหอธารสวรรค์นั้นก็ได้เพิ่มขึ้นไปอีก
บางทีอาจเป็นเพราะกระบวนการเข้าร่วมหอธารสวรรค์นั้นมันง่ายกว่าที่เย่เย่คิดเอาไว้ จึงได้ทำให้ตัวเขาประเมินหอธารสวรรค์ต่ำเกินไปหน่อย แต่จากสิ่งที่เหยียนเสี่ยวเฟยพูดเมื่อสักครู่นี้ได้ทำให้เย่เย่ต้องระแวดระวังใหม่ และแอบเตือนตัวเองให้ทำอะไรระวังตัวมากขึ้น เพื่อที่ตัวเขาจะไม่ได้ตกเป็นเป้าของหอธารสวรรค์และกลายเป็นเป้าหมายตามล่าของคนในองค์กร
เหยียนเสี่ยวเฟยที่เห็นสีหน้าเคร่งเครียดของเย่เย่แล้ว ก็ดูเหมือนจะคาดเดาสิ่งที่อยู่ในหัวของเย่เย่ได้ เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เย่เย่นั้นกังวลมากจนเกินไป หลังจากที่คิดอยู่พักหนึ่งก็ได้ปลอบเขา “ขอเพียงแค่เจ้าสนใจแต่เรื่องของตัวเองและมีสมาธิกับการทำภารกิจของตัวเองแล้ว หอธารสวรรค์ก็จะปฏิบัติกับเจ้าอย่างไม่ดีหรอก แต่ทว่าเจ้าก็ระวังการเลือกภารกิจให้ดีก็แล้วกัน อย่าเลือกภารกิจที่ตัวเองไม่สามารถทำได้เพียงลำพังได้มา ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการขุดหลุมฝังตัวเอง และจะไม่มีใครที่ช่วยเจ้าได้ทั้งนั้น!”
เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้พาเย่เย่มาที่กระดานรับงานในขณะที่พูดแนะนำเย่เย่ไปพลาง
ในเวลานี้มีมือสังหารของหอธารสวรรค์มากมายมารวมตัวกันอยู่ที่หน้ากระดานรับงาน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะแทบไม่ค่อยพูดคุยกันเอง แต่เย่เย่ก็พอจะเห็นได้จากท่าทีของทุกคนที่เลือกงานกันอย่างตั้งใจ
เย่เย่นั้นก็ไม่ได้คิดที่จะเลือกงานไปทำอย่างส่งเดชเหมือนกัน จริงๆแล้วในระหว่างทางมาที่หอธารสวรรค์กับ เหยียนเสี่ยวเฟยนั้น เขาก็ได้ตั้งบรรทัดฐานของตัวเองในการเลือกภารกิจไว้แล้ว
ข้อหนึ่งเพราะเย่เย่นั้นไม่ต้องการที่จะสังหารผู้ที่บริสุทธิ์อย่างไม่เลือกหน้าเพื่อหาเงิน ตัวเขาจะต้องรู้ข้อมูลเกี่ยวข้องที่ชัดเจนของเป้าหมายเสียก่อนจะรับภารกิจ ขอเพียงเย่เย่นั้นคิดว่าอีกฝ่ายนั้นสมควรที่จะตายจริงๆ เขาก็จะรับงานนั้นมาและออกไปสังหารอีกฝ่ายทันที
และอีกข้อเพราะว่าตัวเย่เย่นั้นได้กลายมาเป็นเจ้าเมืองหลงเจียงแล้ว ถ้าหากว่าเป้าหมายในการทำภารกิจนั้นอยู่ไกลมากเกินไป ก็จะต้องเสียเวลาอย่างมากในการเดินทางไปทำภารกิจ ดังนั้นในช่วงนี้เย่เย่จึงตั้งใจที่จะทำภารกิจที่อยู่ในละแวกริมชายฝั่งทะเล ถ้าหากว่าเป้าหมายนั้นอยู่ไกลจากตัวเขามากไปนั้นเย่เย่ก็จะไม่รับงานนั้นมาทำแม้ว่าจะให้ค่าตอบแทนสูงก็ตามที
หลังจากที่กำหนดทั้ง 2 เงื่อนไขแล้ว เย่เย่ก็พบงานที่เหมาะสมกับตัวเขาอย่างรวดเร็ว แล้วเดินไปที่กระดานเพื่อไปดึงเอาใบงานนั้นมา
“เร็วจัง? เจ้าไม่ลองคิดให้ถี่ถ้วนอีกหน่อยเหรอ?”
เหยียนเสี่ยวเฟยที่คิดว่าเย่เย่นั้นจะใช้เวลานานในการเลือกรับงาน แต่ก็ไม่คิดว่าเย่เย่นั้นจะเลือกรับงานภายในเวลา ชั่วครู่เดียวเช่นนี้
เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เย่เย่นั้นหุนหันพลันแล่นมากจนเกินไป เขาก็ได้เดินไปหาเย่เย่และขอดูใบงานในมือของเย่เย่มาอ่าน
“เป็นงานที่เหมาะสมกับเจ้าจริงๆนั่นแหละ ไม่เลวๆ!”
หลังจากที่เห็นรายละเอียดในใบงานของเย่เย่แล้ว เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากที่คืนใบงานให้เย่เย่ ก็ได้พาเขาไปที่โต๊ะรับลงทะเบียนเพื่อเริ่มลงทะเบียน
หลังจากที่ลงทะเบียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว เย่เย่ก็ได้เก็บเอาใบงานใส่เข้าในแขนเสื้อแล้วจากนั้นก็ได้เดินตาม เหยียนเสี่ยวเฟยออกไปจากหอธารสวรรค์สาขาเทียนหนานและรีบมุ่งหน้าไปที่ละแวกริมชายฝั่งทะเล