ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 371 ปกป้อง
บทที่ 371
ปกป้อง
ความตั้งใจของผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้ถูกเปิดเผยออกมาผ่านคำพูดของเขา!
แต่เหยียนลี่หยางที่อยู่ตรงหน้าผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นก็ไม่คิดที่จะหลีกหนีไปไหน!
“ดูเหมือนว่าสายตาของท่านแล้ว ความรักในครอบครัวหรือศีลธรรมมันจะไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับกำไรและขาดทุนเลยสินะ! ถ้าเช่นนั้นแล้วข้าก็จะไม่ร้องขออีก ถ้าท่านยังยืนยันที่จะไล่ตามเขาไปแล้วล่ะก็ข้ามศพข้าไปก่อน!”
เหยียนลี่หยางก็ได้มองไปที่ผู้อาวุโสเป่ยซานด้วยสายตาที่เย็นยะเยือกและไร้ซึ่งความกลัวในดวงตาของเขา ราวกับว่าตัวเขานั้นละทิ้งซึ่งความเป็นความตายของตัวเองไปแล้ว
เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้มีสีหน้าบอกไม่ถูกเมื่อเขาเห็นเช่นนี้ นอกจากจะมีความลังเลในใจแล้วก็ยังมีแววตาสับสนในดวงตาของเขาอีกด้วย
แต่ทว่าผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นไม่ปล่อยให้พวกเขานั้นมีโอกาสได้ต่อรองอะไรอีก หลังจากได้ยินที่เหยียนลี่หยางพูดออกมาอย่างแน่วแน่ไม่สั่นคลอนแล้ว ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ดูเหมือนจะยอมแพ้เรื่องของเหยียนลี่หยางแล้วจึงได้ซัดโจมตีใส่ เหยียนลี่หยางอย่างไร้ปรานี
ตูม!
ฝ่ามือเงาในอากาศก็ได้ปรากฏออกมา แต่เพราะคราวนี้ระยะใกล้มาก พลังของกระบวนท่านี้จะได้ทรงพลังมากกว่าหนก่อน
“เสี่ยวเฟยรีบไปเร็วเข้า! ข้าจะต้านเอาไว้ให้เอง!”
หลังจากที่เหยียนลี่หยางหันกลับมาและตะโกนบอกกับเหยียนเสี่ยวเฟย เขาก็ได้กวัดแกว่งกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพอย่างสุดกำลังเพื่อเผชิญหน้ากับผู้อาวุโสเป่ยซาน
ซู่!
นี่เป็นครั้งแรกที่กระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพนั้นได้สำแดงอิทธิฤทธิ์ที่แท้จริงของมันในโลกนี้ ราวกับมีหมู่ดาวทะยานลงมาจากสวรรค์ชั้น 9 ทำให้ทุกคนไม่เห็นอะไรนอกจากกระบี่ที่สว่างไสว
ตูมมม!
ในขณะที่ฝ่ามือเงาในอากาศได้ปะทะเข้ากับหมู่ดาวนั้น ท้องฟ้าเหนือลานกว้างจวนเจ้าเมืองก็เหมือนจะถูกฉีกขาดออกจากกัน หมู่มวลก้อนเมฆก็ได้กระจัดกระจายหายไปในทันที และแม้แต่แสงอาทิตย์ก็ยังเหมือนจะหายไปจากควันหลงของการระเบิด ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือน่านฟ้าได้
“อุ่ฟ!”
ในชั่วขณะที่เกิดการระเบิดนั้น เหยียนลี่หยางก็ได้ถูกผลักจนกระเด็นออกมาจากแรงระเบิดที่รุนแรงอย่างสุดๆ ทำให้เขาต้องกระอักเลือดออกมาจากปากคำโต และสีหน้าของเขาก็ได้ซีดเผือดลงมากกว่าแต่ก่อน
เหยียนเสี่ยวเฟยที่ได้ยินคำพูดของเหยียนลี่หยางก็ได้รีบเหาะหนีออกไป ในขณะที่เหยียนลี่หยางต่อสู้กับผู้อาวุโสเป่ยซาน แล้วก็ได้หายลับสายตาของทั้งคู่ไปในชั่วพริบตา
เหยียนลี่หยางก็ได้เผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเห็นเช่นนี้ ส่วนเขายังคงหยัดยืนอยู่กลางอากาศตรงหน้าของผู้อาวุโสเป่ยซาน ราวกับว่าตัวเขานั้นพยายามอย่างเต็มที่เพื่อกันไม่ให้ ผู้อาวุโสเป่ยซานไปไล่ล่าเหยียนเสี่ยวเฟย
“เจ้านี่มันช่างแกว่งเท้าหาเสี้ยนเสียจริงๆ!”
หลังจากที่กระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพนั้นได้ปัดป้องการโจมตีของฝ่ามือเทพพันกรไปได้ ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้จ้องไปที่ เหยียนลี่หยางอย่างตกตะลึงราวกับตกใจในพลังของ เหยียนลี่หยาง แต่ก็เท่านั้นแม้แต่การระเบิดที่น่ากลัวเมื่อสักครู่นี้ก็ยังไม่สามารถที่จะผลักให้ผู้อาวุโสเป่ยซานถอยไปได้แม้แต่นิดเดียว แน่นอนว่าผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นไม่เก็บเอาความตั้งใจของ เหยียนลี่หยางมาอยู่ในสายตาของเขาเลย
หลังจากที่พูดกับเหยียนลี่หยางอย่างเย็นชา ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้บุกเข้ามาอีกหน แล้วตัวของเขาก็ได้มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเหยียนลี่หยางในทันทีและคว้าเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว
“หลีกไปซะ!”
เหยียนลี่หยางที่เห็นผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นคิดที่จะจับเขาด้วยมือข้างเดียวแล้ว ก็ได้รีบกวัดแกว่งกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพไปที่ผู้อาวุโสเป่ยซานแล้วโจมตี
ก็ได้มีแสงจากหมู่ดาวทะยานลงมาจากท้องฟ้าอีกหน ราวกับสายธารทางช้างเผือกได้หลั่งไหลลงมาแล้วม้วนเข้ากลับกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพแล้วพุ่งทะยานใส่ผู้อาวุโสเป่ยซานทันที
ทุกคนในลานกว้างนั้นต่างก็ตกใจ และรู้สึกทึ่งกับพลังที่แท้จริงของเหยียนลี่หยาง เพราะเป็นที่รู้กันว่าวรยุทธ์ของเขานั้นอยู่แค่ในระดับสูงสุดของราชันย์เทพ แต่เขานั้นกลับสามารถระเบิดพลังที่เทียบเท่ากับระดับจักรพรรดิเทพขั้นต้นได้ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงจริงๆ
โดยเฉพาะเหล่าลูกหลานในตระกูลเหยียน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเคยได้ยินเรื่องราวในอดีตของเหยียนลี่หยางมาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นเหยียนลี่หยางที่สู้อย่างจริงจังเช่นนี้ด้วยตาตัวเอง ในเวลานี้พลังที่เหยียนลี่หยางได้ระเบิดออกมานั้นเทียบได้กับพลังของจักรพรรดิเทพเลย ซึ่งเกือบทุกคนต่างก็ต้องยอมรับในพลังของเหยียนลี่หยาง แม้แต่เหล่าผู้จงรักภักดีต่อ เหยียนเทียนหรานมากที่สุดนั้นก็ยังต้องยอมรับ ว่าพลังของ เหยียนลี่หยางนั้นไม่มีใครในบรรดารุ่นเยาว์ของตระกูลเหยียนนั้นเทียบได้เลย
แต่ทว่าผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นเคยเห็นกระบวนท่าเจ็ดดาราสะท้านเทพมาแล้วหนหนึ่งนั้น ในคราวนี้จึงไม่ได้ตกใจอีกแม้แต่น้อย
ในขณะที่เหยียนลี่หยางได้กวัดแกว่งกระบี่วิเศษใส่เข้าอยู่นั้น ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้เปลี่ยนกระบวนท่าของเขาทันที แล้ว ฝ่ามือที่ควรจะคว้าตัวเหยียนลี่หยางก็ได้เปลี่ยนมาเป็นไหล่ของ เหยียนลี่หยางแล้วซัดเขาทันที!
ตูม!
ไม่ว่ากระบวนท่าของเหยียนลี่หยางนั้นจะอลังการมากสักแค่ไหน แต่ก่อนที่กระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพจะปะทะกับผู้อาวุโสเป่ยซานนั้น ทั้งตัวของเขาก็ได้ถูกผู้อาวุโสเป่ยซานซัดจนตกลงสู่พื้นอย่างรุนแรง
ฝุ่นและควันก็ได้คละคลุ้งไปทั่ว ปกคลุมทั้งตัวของ เหยียนลี่หยางเอาไว้ แล้วกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพก็ได้ตกลงมาสู่พื้นพร้อมกับแสงส่องไสวเมื่อสักครู่ก็ได้หายไปแล้ว
“แค่กๆๆๆ!”
หลังจากที่เหยียนลี่หยางตกลงสู่พื้น เขาก็ได้ลุกขึ้นมาอย่างตัวสั่นๆ แล้วเงยหน้ามองไปที่ผู้อาวุโสเป่ยซานด้วยดวงตาที่ไร้พลัง แม้ว่าตัวเขานั้นจะสามารถต่อกรกับจักรพรรดิเทพทั่วๆไปได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ต่อหน้าผู้อาวุโสเป่ยซานที่อยู่ในระดับสูงสุดราชันย์เทพแล้วก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี
รอบๆลานกว้าง เหล่าผู้ชมต่างก็มองไปที่เหยียนลี่หยางด้วยสายตาที่หลากหลาย มีทั้งความตกตะลึงและอิจฉารวมถึงเห็นอกเห็นใจและสะเทือนใจ อย่างไรเสียผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นก็เป็นถึงยอดฝีมือในระดับสูงสุดจักรพรรดิเทพ แม้ว่าเหยียนลี่หยางนั้นจะมีพรสวรรค์มากเพียงใด ตัวเขาในเวลานี้ก็ไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้อาวุโสเป่ยซานได้เลย
แม้ว่าจะมีอาวุธวิเศษอย่างกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพในครอบครอง เหยียนลี่หยางก็ยังไร้พลังเกินกว่าจะหยุดผู้อาวุโสเป่ยซานจากการไล่ฆ่าเหยียนเสี่ยวเฟยได้ แค่จะยืนอยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสเป่ยซานก็ยังไม่ต้องพูดถึงเลย
ภายใต้แรงกดดันที่แข็งแกร่งของผู้อาวุโสเป่ยซาน ไม่ว่าจะเหยียนลี่หยางหรือเหยียนเสี่ยวเฟ่ยก็ดูท่าว่าจะจบไม่สวยทั้งคู่แน่!
ท่ามกลางผู้คนหมัดของเย่เย่ก็ได้กำแน่นขนัด แล้วจากนั้นก็ได้ค่อยๆคลายมือออกมา แล้วสีหน้าของเขาก็ได้ค่อยๆผ่อนคลายลงจากความลังเลใจ
ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นเพื่อนของเหยียนลี่หยาง แต่ในเวลานี้ตัวเขานั้นเป็นถึงตัวแทนของเมืองโม่ไห่ในตระกูลเหยียน ถ้าหากเย่เย่ผลีผลามเข้าไปช่วยเหยียนลี่หยางแล้ว ต่อให้สามารถกันไม่ให้ผู้อาวุโสเป่ยซานไปไล่ล่าเหยียนเสี่ยวเฟยได้ก็ตามที แต่ความสัมพันธ์ระหว่างเมืองโม่ไห่กับตระกูลเหยียนก็คงจะได้ตกลงอยู่ในจุดต่ำสุด
ถ้าหากผู้อาวุโสเป่ยซานเกิดเปิดศึกกับเมืองโม่ไห่ขึ้นมาเพราะเรื่องนี้แล้ว บาปของเย่เย่ก็คงจะหนักหนานัก ดังนั้นในเวลานี้เขาจึงไม่สามารถคิดถึงแค่ตัวเขากับเหยียนลี่หยางได้ แต่ต้องใคร่ครวญถึงชีวิตอีกหลายพันในเมืองโม่ไห่อีกด้วย ท่ามกลางความสิ้นหวัง เย่เย่ทำได้แค่เพียงยืนนิ่งอยู่ตรงที่เดิม แล้วปล่อยให้ผู้อาวุโสเป่ยซานซัดเหยียนลี่หยางจนตกลงพื้น
เหนือน่านฟ้าผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้จ้องมาที่เหยียนลี่หยางที่อยู่บนพื้นอย่างดูถูก จากนั้นก็ได้หันหน้าไปแล้วไล่ตามไปยังทิศทางที่เหยียนเสี่ยวเฟยหนีไป
ถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านไปจากเมื่อสักครู่นี้นานพอสมควร แต่ในปัจจุบันเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นยังหนีไปไม่พ้นจากระยะรับรู้ของผู้อาวุโสเป่ยซาน ตัวเขานั้นเชื่อว่าด้วยความเร็วเต็มที่ของเขาก็จะใช้เวลาไม่นานนักที่จะไปปรากฏอยู่ตรงหน้าของ เหยียนเสี่ยวเฟย เมื่อถึงเวลานั้นต่อให้เหยียนเสี่ยวเฟยดวงแข็งเพียงใด ก็จะต้องพบกับจุดจบอยู่ดี
“อย่าแม้แต่จะคิด!”
ในขณะที่ทุกคนกำลังคิดว่าเหยียนลี่หยางนั้นคงจะไม่สามารถมาขวางผู้อาวุโสเป่ยซานได้แล้ว แต่กระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพนั้นยังคงอยู่ถูกเหยียนลี่หยางเก็บกลับมาอีก
แล้วแสงจากหมู่ดาวที่ส่องไสวมากขึ้นกว่าเดิมก็ได้ทะยานลงมาจากฟากฟ้าอีกครั้ง แล้วเข้ามาห้อมล้อมกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพในมือของเหยียนลี่หยาง
ในขณะเดียวกันก็ได้มีการสั่นไหวเกิดขึ้นมาจากกระบี่เจ็ดดารา แล้วเหยียนลี่หยางก็ได้เหาะขึ้นสู่อีกฟ้าอีกหนแล้วฟาดฟันใส่ผู้อาวุโสเป่ยซานด้วยกระบี่ในมือ แล้วแสงจากหมู่ดาวที่หลั่งไหลเข้าไปรวมที่กระบี่วิเศษนั้นก็ได้ระเบิดออกมาทันที และเกิดเป็นทะเลหมู่ดาวพุ่งเข้าบดขยี้ผู้อาวุโสเป่ยซาน
ตูมมมม!
พลังที่น่ากลัวนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้ผู้ที่มองดูอย่างเย่เย่จะรู้สึกหวาดกลัว แม้แต่ผู้อาวุโสเป่ยซานเองก็ยังต้องมีใบหน้าที่เคร่งเครียดปรากฏออกมา
ก่อนหน้านี้เหยียนลี่หยางใช้พลังของกระบี่เจ็ดดาราได้เพียงแค่ 30% เท่านั้น แต่ก็ทำให้เขามีพลังที่เทียบเท่ากับจักรพรรดิเทพแล้ว แต่ในเวลานี้ตัวเขาได้ทุ่มพลังปราณทั้งหมดเพื่อดึงเอาพลังของกระบี่เจ็ดดารามาใช้ถึง 50% ซึ่งได้ทำให้เกิดเป็นหมู่ดาวพุ่งเข้าถล่มใส่ผู้อาวุโสเป่ยซานรุนแรงมากกว่าแต่ก่อน
“หลีกไป!”
มีความกระวนกระวายในสีหน้าของผู้อาวุโสเป่ยซานและได้รีบใช้ฝ่ามือเทพพันกรเข้าปะทะกับหมู่ดาวบนท้องฟ้าทันที
ตุบๆๆๆ!
เกิดการระเบิดขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเหนือฟากฟ้า และบรรยากาศที่รุนแรงก็ได้เข้าห้อมล้อมทั่วทั้งเมืองโบราณ เหยียนเป่ย ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้พากันเงยหน้ามองขึ้นท้องฟ้าและต่างก็มีแววตาที่หวาดกลัวปรากฏในดวงตาของพวกเขา และคิดว่าจุดจบของโลกนั้นได้มาถึงแล้ว
ส่วนเย่เย่กับคนอื่นๆที่อยู่ด้านล่างของการระเบิดนี้ ต่างก็รับรู้ได้อย่างชัดเจนว่านี่คือพลังจากกระบวนท่าของเหยียนลี่หยาง ถ้าหากไม่ใช่จากความจริงที่ว่าทำให้เหล่ายอดฝีมือระดับสูงสุดราชันย์เทพยังต้องรู้สึกหวาดกลัวและความแข็งแกร่งก็ยังเหนือกว่าระดับสูงสุดราชันย์เทพทั่วๆไปแล้ว ก็เกรงว่าในเวลานี้เช่นเดียวกับคนอื่นๆในลานกว้าง พวกเขาก็คงถูกกดจนจมลงกับพื้นจากควันหลงของการระเบิดเมื่อสักครู่จนไม่สามารถลุกขึ้นมายืนได้แล้ว
จนที่สุดหลังจากที่เสียงดังแสบแก้วหูจากการระเบิดได้หายไปแล้ว แสงดาวจากกับฝ่ามือเงาบนท้องฟ้าก็ได้หายไปพร้อมกัน แล้วทุกคนก็ได้กลับคืนสู่สภาพปกติแล้วกลับมาเงยหน้ามองบนฟ้าอีกหน
บนท้องฟ้าเหยียนลี่หยางที่ใช้พลังปราณเพื่อดึงเอาพลังของกระบี่เจ็ดดาราสะท้านเทพมาใช้นั้น จนในที่สุดก็หมดเรี่ยวแรงและตกลงจากท้องฟ้า
ถึงแม้ว่าผู้อาวุโสเป่ยซานที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นจะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ผมและเสื้อผ้าของเขาก็ได้ยุ่งเหยิงไปหมด ใบหน้าของเขาก็ยังย่ำแย่มากดูแล้วน่าขายหน้ายิ่งนัก ทำให้ผู้อาวุโสเป่ยซานมองไปที่เหยียนลี่หยางที่กำลังตกลงไปด้วยความตกตะลึงและโกรธ แล้วเขาก็ได้หันหน้าและจ้องมองไปยังทิศทางที่เหยียนเสี่ยวเฟยหนีไป ใบหน้าของเขาก็ได้โกรธจนเขียวคล้ำมากขึ้นไปอีกจนแทบจะคลั่งแล้ว
เพราะหลังจากที่เหยียนลี่หยางได้เข้ามาขัดขวางเมื่อสักครู่ เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้หายไปจากระยะรับรู้ของผู้อาวุโสเป่ยซานแล้ว ในเวลานี้อย่าว่าแต่จะไล่ตามเหยียนเสี่ยวเฟยเพื่อฆ่าเขาเลย เหยียนเสี่ยวเฟยหนีไปยังทิศทางไหนแล้วก็ยังไม่รู้เลย ทำให้ใบหน้าของเขานั้นไม่ดีอย่างสุดๆ
อีกทางด้านหนึ่งเย่เย่ที่เห็นเหยียนลี่หยางกำลังตกลงมาจากฟากฟ้านั้น เขาก็ได้รีบเหาะมาและช้อนรับเขาได้ทันการ
แต่ทว่าก่อนที่เย่เย่จะได้หยิบเอายารักษาออกมารักษาอาการบาดเจ็บให้เหยียนลี่หยาง ผู้อาวุโสเป่ยซานที่ถูก เหยียนลี่หยางขัดขวางเมื่อสักครู่นี้ก็ได้มาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาทันที
“ส่งเขามาให้ข้า ข้าจะเอาเขาไปเข้าคุก และจะไม่ให้ใครมาพาเขาออกไปโดยปราศจากซึ่งคำสั่งของข้า!”
ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้จ้องมองไปที่เหยียนลี่หยางที่กำลังหมดสติอย่างโมโห ในเวลานี้เขานั้นเหมือนจะผิดหวัง เหยียนลี่หยางอย่างสุดๆ และปราศจากซึ่งความอาลัยอาวรณ์ใดๆในน้ำเสียงของเขา
เย่เย่ที่รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีในใจนั้นก็ได้รีบถามผู้อาวุโสเป่ยซาน “ท่านคิดที่จะทำอะไรกับเขา?”