ระบบเติมเงินข้ามภพ - บทที่ 366 มีดบิน
บทที่ 366
มีดบิน
เหยียนลี่หยางก็ได้มองไปที่เย่เย่อย่างซาบซึ้ง จากนั้นเขาก็ได้ตีเหล็กขณะยังร้อนและพูดเกลี้ยกล่อมผู้อาวุโสเป่ยซานต่อ “ผู้อาวุโส การให้เหยียนเสี่ยวเฟยได้เข้าร่วมงานประลองยุทธ์ประจำตระกูลนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนคาดหวัง ข้าจึงได้หวังว่าผู้อาวุโสจะอนุญาตให้เหยียนเสี่ยวเฟยเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ในครั้งนี้เพื่อเห็นแก่สถานการณ์โดยรวมของตระกูลเหยียนด้วย!”
หลังจากที่เขาได้ทำการร้องขอต่อผู้อาวุโสเป่ยซานอีกหน การพูดคุยในลานกว้างก็ได้ค่อยๆหายไป แล้วเกือบทุกคนก็ได้หันหน้าไปมองผู้อาวุโสเป่ยซานที่อยู่อีกด้านของลานกว้าง
หลังจากที่ผู้อาวุโสเป่ยซานนิ่งเงียบอยู่พักใหญ่ๆ ก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกอื่น จนในที่สุดเขาก็ได้เปลี่ยนใจแล้วกล่าวกับเหยียนเสี่ยวเฟย “เพื่อเห็นแก่ที่ผู้คนมากมายที่ขอร้องเพื่อเจ้าแล้ว ข้าจะยกเว้นให้เจ้าสักครั้ง! และหวังว่าความสามารถของเจ้าจะไม่ทำให้ผู้คนสนับสนุนเจ้านั้นต้องผิดหวัง!”
ผู้อาวุโสเป่ยซานก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย และเย่เย่ก็เหมือนจะได้ยินน้ำเสียงที่ประชดประชันแฝงออกมาด้วย
อย่างไรเสียหลังจากเรื่องในครั้งนั้น ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่ผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นจะเชื่อใจเหยียนเสี่ยวเฟยได้ ส่วนเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้ยอมตกลงให้เหยียนเสี่ยวเฟยเข้าร่วมนั้น นอกจากจะเพราะสถานการณ์บีบบังคับแล้ว แต่เหตุผลหลักๆเพราะว่าเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นไม่สามารถที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของ เหยียนเทียนหรานได้
แต่ทั้งหมดนี้ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบใดๆกับอารมณ์ของ เหยียนเสี่ยวเฟย เมื่อได้ยินว่าผู้อาวุโสเป่ยซานนั้นอนุญาตให้เขาท้าชิงกับเหยียนเทียนหรานแล้ว เขาก็ได้รีบก้มหัวให้อย่างนับถือกับผู้อาวุโสเป่ยซาน “ขอขอบคุณในความกรุณาของท่านด้วย ข้าเหยียนเสี่ยวเฟยจะทะนุถนอมโอกาสที่ท่านผู้อาวุโสมอบให้อย่างแน่นอน!”
ที่บนเวทีเหยียนเสี่ยเฟยก็ได้หันหน้าไปหา เหยียนเทียนหลานอีกหน ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยไฟสู้อย่างเต็มเปี่ยม ราวกับว่าตัวเขาได้มุ่งมั่นที่จะเอาชนะเพื่อเอายาอุษาชาด
เมื่อเห็นเช่นนี้เหยียนลี่หยางกับเย่เย่ก็ได้พลันกลับไปยังที่เดิมของพวกเขา แล้วดวงตาของเหยียนลี่หยางก็ได้จับจ้องไปที่ เหยียนเสี่ยวเฟยที่อยู่บนเวทีด้วยความคาดหวัง ราวกับว่าตัวเขานั้นเชื่อใจในตัวของเหยียนเสี่ยวเฟยอย่างหน้ามืดตาบอด แต่ทว่าความกังวลในสายตาของเย่เย่นั้นก็ได้มีมากขึ้นเรื่อยๆ
“ลุยเลย!”
“อย่ามัวชักช้า สู้กันเลย!”
“เจ้าคนมาใหม่ ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้พวกเราต้องผิดหวัง!”
รอบๆลานกว้าง เหล่าผู้ชมที่เห็นเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นมีสิทธิ์ที่จะเข้าร่วมการประลองแล้วก็ได้พลันตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น ราวกับว่าพวกเขาต้องการที่จะเห็นเหยียนเสี่ยวเฟยสร้างปาฏิหาริย์ และจัดการทำให้เหยียนเทียนหรานนั้นตกจากเวทีไป
แต่ผู้คนส่วนใหญ่นั้นก็ยังคิดว่าเหยียนเทียนหรานนั้นจะต้องเป็นผู้ชนะมากกว่า พวกเขาจึงได้ทำสีหน้าดูหมิ่น เหยียนเสี่ยวเฟยที่มากลางคันเช่นนี้ และสนับสนุนทั้งสองฝ่ายนั้นต่างก็ตาต่อตาฟันต่อฟัน ทำให้บรรยากาศนั้นเหมือนจะดุเดือดยิ่งกว่าทั้งสองคนที่กำลังเผชิญหน้ากันบนเวทีเสียอีก
“นายน้อย ข้าขอล่วงเกินด้วย!”
เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้เมินเฉยต่อการเร่งเร้ารอบๆลานกว้าง ส่วนเหยียนลี่หยางที่อยู่ด้านล่างของเวทีนั้นก็ได้ไม่ได้หันไปมองที่เขาอีก หลังจากที่กล่าวนิดหน่อยกับเหยียนเทียนหรานแล้ว เขาก็ได้บุกเข้าไปหาเหยียนเทียนหรานราวกับสายฟ้าทันที ซึ่งแรงกดดันที่ทรงพลังนี้ทำให้ทุกคนที่อยู่บริเวณผู้ชมต่างก็มีหน้าตกใจ
“เสี่ยวเฟย ลุยเลย!”
เมื่อเหยียนลี่หยางที่ตอนแรกเป็นกังวลเห็นเช่นนี้แล้ว เขาก็ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก แล้วก็ตะโกนเชียร์ เหยียนเสี่ยวเฟยด้วยน้ำเสียงที่ยินดี
ถึงแม้ว่าเหยียนลี่หยางจะรู้ดีว่าเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นจะไม่ทำอะไรที่ตัวเองไม่มั่นใจ แต่อย่างไรเสียความแข็งแกร่งของ เหยียนเทียนหรานนั้นก็เหนือใครในตระกูลเหยียนจริงๆ ถ้าหาก เหยียนเสี่ยวเฟยเกิดบาดเจ็บสาหัสขึ้นมาหรือว่าถูกสังหารโดย เหยียนเทียนหรานแล้วเพราะความประมาทคู่ต่อสู้แล้ว เหยียนลี่หยางก็คงจะรู้สึกเสียใจอย่างแน่นอน
โชคยังดีที่เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นยังเป็นเหยียนเสี่ยวเฟยที่เขารู้จัก แม้ว่าเหยียนลี่หยางนั้นจะไม่รู้ว่าเขาแข็งแรงดีจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างไร แต่เมื่อเห็นเหยียนเสี่ยวเฟยแสดงวรยุทธ์ของเขาออกมาแล้วนั้นก็พบว่าไม่น่าจะด้อยไปกว่าระดับสูงสุดราชันย์เทพเลย เหยียนลี่หยางจึงได้คลายกังวลของเขาจนหมด และเกือบจะมั่นใจว่าเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นอาจจะเอาชนะศึกนี้ได้
นอกจากเหยียนลี่หยางแล้ว ถึงแม้ว่าลูกหลาน ตระกูลเหยียนคนอื่นๆนั้นจะต้องผงะกับวรยุทธ์ของ เหยียนเสี่ยวเฟยที่อยู่ในระดับสูงสุดของราชันย์เทพแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่คิดว่าเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นจะมีความสามารถมากพอที่จะทำให้เหยียนเทียนหรานตกจากเวทีได้ อย่างไรเสียหากว่าไม่ใช่ยอดฝีมือระดับสูงสุดราชันย์เทพแล้ว ก็คงจะพ่ายแพ้ต่อ เหยียนเทียนหรานหรืออาจจะถูกฆ่าด้วยซ้ำ ถ้าหากมีคนที่คิดว่าขอเพียงแค่มีวรยุทธ์ถึงระดับสูงสุดราชันย์เทพแล้วจะสามารถต่อกรกับเหยียนเทียนหรานหรือแม้แต่เอาชนะเขาได้นั้น ก็คงจะอ่อนหัดเกินไปแล้ว
ซู่ม!
เมื่อเหยียนเสี่ยวเฟยได้จัดผ่าช่องว่างไปแล้วกลับมาปรากฏตัวตรงหน้าของเหยียนเทียนหรานแล้ว เหยียนเทียนหลานก็ได้ตกตะลึงไปพักหนึ่งก่อนหน้านี้ ถึงได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้
ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขานั้นจะตึงเครียดมากขึ้น แต่ เหยียนเทียนหรานก็ยังมองไปที่เหยียนเสี่ยวเฟยด้วยสายตาที่ดูถูก และในขณะเดียวกันกับที่เหยียนเสี่ยวเฟยกำลังจะต่อยเขานั้น เหยียนเทียนหรานก็ได้ยกขาขึ้นมาเร็วกว่า และได้เตะเข้าไปที่ท้องของเหยียนเสี่ยวเฟยทันที
ยาวหนึ่งชุ่นแข็งแกร่งมากขึ้นหนึ่งชุ่น ถึงแม้ว่าหมัดของ เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นจะเฉียบคม แต่ก่อนที่หมัดของเขาจะไปถึงตัวเหยียนเทียนหรานอยู่นั้นเอง เหยียนเทียนหรานก็ได้ซัดเข้าไปที่ท้องของเขาด้วยขาข้างหนึ่ง ซึ่งได้ทำให้เหยียนเสี่ยวเฟยต้องกระเด็นถอยออกไปข้างหลังอย่างรวดเร็ว
“หึ! ข้าก็นึกว่าเจ้าจะทรงพลังเสียอีก? ที่แท้เจ้าก็ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นเลย!”
หลังจากที่เหยียนเทียนหรานเตะเหยียนเสี่ยวเฟยจนกระเด็นออกไป เขาก็ได้พุ่งเข้าไปหาเหยียนเสี่ยวเฟยในทันทีเพื่อพุ่งเข้าไปหาเหยียนเสี่ยวเฟยแล้วต่อยเหยียนเสี่ยวเฟยเข้าไปอีกหน ราวกับคิดที่จะทำให้เหยียนเสี่ยวเฟยกระเด็นออกนอกเวทีไป
“เสี่ยวเฟย ระวัง!”
ด้านล่างของเวที แม้ว่าเหยียนลี่หยางนั้นจะมั่นใจในตัวของเหยียนเสี่ยวเฟยอย่างเต็มเปี่ยม แต่เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้แล้วก็ยังทำให้เหยียนเสี่ยวเฟยต้องเหงื่อตก
ลูกหลานตระกูลเหยียนคนอื่นๆต่างก็มีสีหน้าต่างกันออกไป มีบางคนที่ผิดหวังในขณะที่คนอื่นๆมีสีหน้าที่พึงพอใจ
แต่ทว่าในชั่วขณะนั้นเอง เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้กลับตัวกลางอากาศ
เมื่อเห็นว่าเหยียนเทียนหรานนั้นได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว ก็ได้มีรอยยิ้มแปลกๆปรากฏบนใบหน้าของเหยียนเสี่ยวเฟย แล้วก็ได้มีดบินขนาดเท่ากับฝ่ามือปรากฏขึ้นมาในมือของเขา 3 เล่มพร้อมกัน
“แย่แล้ว!”
หลังจากที่เหยียนเทียนหรานเห็นรอยยิ้มบนหน้าของ เหยียนเสี่ยวเฟยแล้ว ตัวเขาก็รู้สึกได้ถึงอันตรายขึ้นมา แล้วก็ได้รีบกลับตัวแล้วหลบออกไปด้านข้างทันที
ฟิ้วๆๆ!
ในขณะที่เหยียนเทียนหรานหายตัวไป จุดตรงที่เขาอยู่นั้นก็ได้ผ่านไปโดยมีดบิน 3 เล่มทันที แล้วก็มีเสื้อผ้าชิ้นหนึ่งที่ถูกปักติดกับพื้นเวทีด้วยมีบินราวกับศพ ถ้าหากเหยียนเทียนหรานนั้นเคลื่อนไหวช้ากว่านี้สักนิด สิ่งที่จะปักติดอยู่กับพื้นเวทีนั้นก็คงจะไม่ใช่เศษผ้าแต่เป็นตัวเหยียนเทียนหรานไปแล้ว
“ชิ!”
หลังจากที่เห็นจิตสังหารที่ซ่อนเร้นของเหยียนเสี่ยวเฟยแล้ว ลูกหลานตระกูลเหยียนที่เพิ่งจะแสดงสีหน้าดูถูก เหยียนเสี่ยวเฟยเมื่อสักครู่ต่างก็มีสีหน้าตกตะลึงขึ้นมาทันที
แม้แต่เหยียนลี่หยางที่มั่นใจในตัวของเหยียนเสี่ยวเฟยมาตลอดนั้น ก็ไม่คาดคิดว่าไพ่ตายของเหยียนเสี่ยวเฟยนั้นจะเป็นมีดบินธรรมดาๆเหล่านั้น
“มีฝีมือกระจิริด แต่กลับกล้าแสดงความสกปรกให้เห็นรึ?”
หลังจากที่เหยียนเทียนหรานตกใจกับมีดบินของ เหยียนเสี่ยวเฟย ใบหน้าของเขาก็ได้มืดดำขึ้นมาทันที และในขณะเดียวกันความดูถูกเหยียนเสี่ยวเฟยของเขานั้นไม่เพียงแต่จะไม่หายไปแต่ยังมีมากขึ้นกว่าเดิม
อย่างไรเสียมีดบินนั้นก็เป็นอาวุธลับ และเมื่อพวกมันถูกเปิดเผยออกมาก็มักจะไร้พิษสงอีก เหยียนเทียนหรานที่ผงะตอนที่เห็นเหยียนเสี่ยวเฟยใช้มีดบินนั้น ในเวลานี้เขาได้ระวังตัวแล้วและเป็นไปไม่ได้ที่เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นจะใช้ลูกไม้เดิมได้อีก
หลังจากที่เหยียนเทียนหรานหลบมีดบินของ เหยียนเสี่ยวเฟยมาได้ เขาก็ได้พุ่งเข้าหาเหยียนเสี่ยวเฟย เขาตั้งใจที่จะย่นระยะระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อทำให้เหยียนเสี่ยวเฟยนั้นไม่มีโอกาสที่จะใช้มีดบินได้อีกหน ส่วนเหยียนเสี่ยวเฟยที่ในเวลานี้ลงมายืนอยู่ที่เวทีนั้น เขาก็ได้ต่อยเหยียนเทียนหรานที่กำลังเข้ามาหาสวนกลับไป ความแข็งแกร่งในระดับสูงสุดของราชันย์เทพนั้นก็ได้ระเบิดออกมาจากทุกทิศทุกทาง
ทั้งสองหมัดก็ได้ปะทะกันเกิดเป็นลูกบอลพลังแสงปรากฏอยู่ตรงกลางเวที แล้วลูกบอลพลังแสงนี้ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นมาหลังจากที่ขยายขนาดมากขึ้นเรื่อย ผลักเอาทั้ง เหยียนเสี่ยวเฟยและเหยียนเทียนหรานกระเด็นออกไปข้างหลัง และยากที่จะตั้งหลักได้
ฟิ่วๆๆ!
แต่ในขณะที่เหยียนเทียนหรานตั้งหลักได้อยู่นั้นเอง เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้มองไปที่เขาแล้วขว้างมีดบิน 3 เล่มใส่เขาอีกหน แล้วเหยียนเทียนหรานนั้นก็ได้เกือบถูกห้อมล้อมด้วยพลังกดดันที่รุนแรง
“หายไปซะ!”
ถึงแม้ว่าเหยียนเทียนหรานนั้นจะมีสีหน้าที่เคร่งเครียด แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด แล้วเขาก็ได้แสดงกระบวนท่าของเขาถล่มใส่มีดบินทั้งสามเล่มด้วยสายฟ้าสงัด ซึ่งในขณะที่ เหยียนเทียนหรานได้
เปรี๊ยะๆ!
สายฟ้าสงัดนั้นใช่ว่าจะไม่มีเสียงเลย แต่มันได้ชื่อนี้ก็เพราะว่าเสียงของมันนั้นดังมากเสียจนคนอื่นๆไม่ได้ยินเสียงอื่นเลย
ซึ่งในขณะที่มีดบินทั้ง 3 ถูกจัดการด้วยหมัดเดียวนั้น ก็ได้มีสายฟ้าพุ่งออกมาจากหมัดของเขา แล้วแปรเปลี่ยนเป็นมังกรสายฟ้าที่ดุดันและถล่มใส่มีดบินทั้ง 3 เล่มออกมาจากกลางอากาศ และบุกเข้าไปหาเหยียนเสี่ยวเฟยที่อยู่ฝ่ายตรงข้าม
เปรี๊ยะๆ!
เสียงคำรามของสายฟ้าก็ได้ดังขึ้นมาทำให้รู้สึกแสบแก้วหู แล้วการปรากฏตัวของเขี้ยวกับกรงเล็บมังกรนั้นก็ได้ทำให้เหงื่อออกจากตัวของเหยียนเสี่ยวเฟยได้เช่นกัน
แต่ทว่าตัวของเหยียนเสี่ยวเฟยก็ยังคงเยือกเย็นได้อย่างสุดๆ ในตอนที่มังกรสายฟ้าได้ปรากฏตัวออกมาพุ่งเข้าหาเขานั้น ตัวเขาก็ยังคงได้ยืนอยู่ที่เดิมโดยปราศจากซึ่งการหลบหลีกแต่อย่างใด แล้วในขณะเดียวกันก็ได้ยื่นมือออกมาแล้วชี้ไปที่มีดบินทั้งสามเล่มที่กำลังตกอยู่
ฟิ่วๆๆๆๆๆ!
แล้วมีดบินทั้ง 6 เล่มนั้นก็ได้กลับมามีชีวิตขึ้นมาทันที ท่ามกลางสายตาตกใจของทุกคนนั้น แล้วพวกมันก็ได้บินเข้าไปหาเหยียนเทียนหรานที่อยู่ไม่ไกลออกไปพร้อมกัน
“ที่แท้เจ้าก็เป็นผู้บำเพ็ญเพียรวิญญาณนั่นเอง!”
เหยียนเทียนหรานก็ได้มองดูอย่างตกใจ แล้วก็ได้รีบบังคับให้มังกรสายฟ้ากลับหลังหันแล้วพุ่งเข้าใส่มีดบินทั้ง 6 เล่ม! และในขณะเดียวกันตัวเขาก็ได้รีบถอยออกมาอยู่มุมหนึ่งของเวที ราวกับว่าตัวเขานั้นหวาดกลัวมีดบินของเหยียนเสี่ยวเฟย
สิ่งที่เรียกว่าผู้บำเพ็ญเพียรวิญญาณนั้นก็คือผู้ที่มีพลังอย่างของเทพหรือเซียนที่ต่างไปจากคนธรรมดาๆ ซึ่งผู้บำเพ็ญเพียรประเภทนี้จะสามารถใช้พลังของเขาควบคุมอาวุธจากระยะไกลได้โดยผ่านวิธีการพิเศษ และพลังรบของเหล่าผู้บำเพ็ญเพียรวิญญาณนี้นั้นก็เกือบจะเทียบเท่าระดับสูงสุดของจอมยุทธ์ที่อยู่ในระดับเดียวกัน และเพราะวิชาที่คาดเดาไม่ได้นี้ ถ้าหากว่าไม่มีความแข็งแกร่งที่เหนือกว่าอีกฝ่ายแล้วก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเอาชนะพวกเขาได้
เหยียนเทียนหรานก็ไม่คาดคิดว่าเหยียนเสี่ยวเฟยที่หายตัวไปจากตระกูลเหยียนนั้นไม่เพียงแต่จะรอดตายแล้วแต่ยังกลายมาเป็นผู้บำเพ็ญเพียรวิญญาณในระดับสูงสุดของราชันย์เทพอีกด้วย แล้วการดูถูกเหยียนเสี่ยวเฟยเมื่อสักครู่นั้นก็ได้หายไปแล้ว แล้วดวงตาของเขาก็ได้มองหาเหยียนเสี่ยวเฟยอย่างเคร่งเครียด
ที่ด้านล่างของเวที เหยียนลี่หยางก็ได้ประหลาดใจพอๆกันเมื่อเขาเห็นวิชาของเหยียนเสี่ยวเฟย
แต่ไม่เหมือนกับเหยียนเทียนหราน เหยียนลี่หยางนั้นรู้สึกยินดีกับเหยียนเสี่ยวเฟยจากก้นบึ้งของหัวใจ และในขณะเดียวกันความกังวลของเขาก่อนหน้านั้นก็ได้หายไปจนหมดสิ้นแล้ว อย่างไรเสียพลังของผู้บำเพ็ญเพียรวิญญาณนั้นก็เป็นที่รู้กันไปทั่วทั้งแผ่นดินว่านหลิง ขอเพียงเหยียนเสี่ยวเฟยสู้ต่อไปโดยไม่ทำอะไรแผลงๆก็พอ ต่อให้ไม่สามารถเอาชนะเหยียนเทียนหรานได้ ก็อย่าได้ทำอะไรที่เอาตัวเองเข้าไปเสี่ยงเลย
“ตอนนี้ก็น่าจะรู้ผลกันแล้ว มันจบแล้วล่ะ!”
ตรงกลางของเวที หลังจากที่เหยียนเสี่ยวเฟยก็ได้ทำให้ เหยียนเทียนหรานนั้นต้องอยู่ในจุดบอด ก็ได้หยิบเอามีดบินออกมาอีก 3 เล่มออกมาจากในแขนเสื้อแล้วก็ได้โยนพวกมันใส่ เหยียนเทียนหรานอีกหน
เปรี๊ยะๆ!
ถึงแม้ว่ามีดบินทั้งสามเล่มนั้นจะถูกมังกรสายฟ้าโจมตีใส่ทันทีแล้วตกลงสู่พื้น แต่มันก็ได้กลับมาบินพุ่งเข้าใส่ เหยียนเทียนหรานใหม่ภายใต้การควบคุมของเหยียนเสี่ยวเฟย
ฟิ่วๆๆ~~!
แล้วมีดสั้นทั้ง 9 เล่มก็ได้หมุนวนรอบตัว เหยียนเทียนหรานไม่หยุดหย่อน และปิดทางหนีของ เหยียนเทียนหรานไว้ทั้งหมดราวกับเป็นตาข่ายอากาศ และภายใต้การควบคุมของเหยียนเสี่ยวเฟย พวกมันก็ได้เริ่มพุ่งเข้าโจมตีใส่เหยียนเทียนหราน
ตุบๆๆๆ!
ถึงแม้ว่าเหยียนเทียนหรานนั้นจะเหวี่ยงหมัดของเขาออกไปเพื่อต้านการโจมตีของมีดบินอยู่นั้น เขาก็ได้ควบคุมมังกรสายฟ้าเข้าโจมตีมีบินอย่างสุดกำลัง แต่อย่างไรเสีย 2 มือหรือจะสู้ 4 มือ ใช้เวลาไม่นานนักเหยียนเทียนหรานก็ได้มีบาดแผลบนร่างกายซึ่งน่าตกใจยิ่งนัก