ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 411 ปลิดชีพงูยักษ์
ชั่วขณะที่มิติเปลี่ยนแปลง อันหลินก็พบว่าตัวเองมาถึงดินแดนสีชาดแห่งหนึ่ง
ประตูสีขาวด้านหลังเขาหดตัวช้าๆ สุดท้ายก็หายลับไป
บนนภาเป็นชั้นเมฆสีแดงก่ำที่ทอดยาวไร้ที่สิ้นสุด มีเปลวไฟร้อนระอุพวยพุ่งทะลุชั้นเมฆเรื่อยๆ บ้างก็ระเบิดกลางอากาศ บ้างก็ตกกระทบพสุธาประหนึ่งม่านฝนสีโลหะ เผยคมเขี้ยวของมันแด่โลก
อุณหภูมิรอบข้างสูงอย่างมหันต์ คลื่นร้อนไม่ขาดสาย ไอก็บิดเบี้ยวอย่างไร้สุ้มเสียง หากนักพรตกายแห่งมรรคขั้นเจ็ดโผล่มาที่นี่ เกรงว่าคงยืนหยัดไม่ได้สักวินาทีเดียว
“ท่าทางจี้หย่งฟาง ซ่างกวนอี้กับหยางหยวนจะแยกย้ายกันไปตามหามายาเพลิงวิหคชาดกันแล้ว” ม่อไห่ยืนเอ่ยยิ้มๆ ข้างกายอันหลิน
“มายาเพลิงวิหคชาดจะก่อตัวและปรากฏอีกครั้งทุกๆ หลายปี ปริมาณน้อยนิด พวกเราหกคนเป็นคู่แข่งกัน พวกเขาย่อมต้องรีบฉกฉวยโอกาสเป็นธรรมดา” หลู่เจียจื้อพูดอย่างไม่ทุกข์ร้อน
อันหลินมองเทือกเขาและแผ่นดินที่กว้างไกลสุดลูกลูกตาอันไกลโพ้น ตกอยู่ในภวังค์อย่างไม่รู้ตัว “ได้ยินว่าในกายของอสูรยิ่งใหญ่ของคุกวิหคชาดจะมีมายาเพลิงวิหคชาดแฝงอยู่พอสมควร จะมีให้เห็นในแดนพิศวงเช่นกัน สุดท้ายก็คือมายาเพลิงวิหคชาดบนชั้นเมฆนั่น”
“เพียงแต่มายาเพลิงในชั้นเมฆจะเลื่อนลอยไม่นิ่ง แถมยังมีพลังเพลิงที่น่ากลัวจู่โจมไม่หยุด ยากที่สุด ไม่รู้ว่าพวกเจ้าคิดจะเลือกเส้นทางไหน”
ม่อไห่มองท้องฟ้าแวบหนึ่ง พูดอย่างจนปัญญาว่า “ข้าไม่ใช่ศิษย์น้องสวีเสี่ยวหลานที่ดึงดูดตัวร้ายสักหน่อย ลูกไฟในชั้นเมฆน่ะช่างมันดีกว่า ข้าคิดว่าต่อกรกับอสูรสักตัว! วิธีแบบนี้ง่ายและป่าเถื่อนที่สุด!”
“ข้าไปหาแดนพิศวงทางตะวันตกแล้วกัน เพราะพลังต่อสู้ของข้าไม่สูง แต่พลังป้องกันตัวไม่เลวเลย” หลู่เจียจื้อพูด
ทางตะวันตกของคุกวิหคชาดมีแดนพิศวงที่ไม่มั่นคงนานาชนิด ส่วนทางเหนือกลับเต็มไปด้วยอสูรบรรพกาลที่ยิ่งใหญ่ทั้งหลายแหล่ ทิศตะวันออกเป็นทะเลเพลิงสีชาดที่กว้างใหญ่ไพศาล ทิศใต้ได้ยินว่ามีขุมทรัพย์ล้ำค่าเป็นล้นพ้นอยู่ แต่มันเป็นแดนอันตรายที่มีอัตราการตายสูงกว่าร้อยละเก้าสิบ ลูกศิษย์ทั่วไปจะไม่เลือกไปที่นั่น
“เช่นนั้นข้าก็จะไปหาอสูรด้วยดีกว่า ข้อดีอื่นข้าไม่มี มีแต่สู้เก่งนี่แหละ” หลังอันหลินใคร่ครวญครู่หนึ่ง ถึงได้พูดขึ้นมา
“ฮ่าๆ ๆ…เช่นนี้ก็ดี ข้ารู้อยู่แล้วว่า สหายอันหลินชอบอยู่กับอัจฉริยะอันดับหนึ่งอย่างข้ามากกว่า” ม่อไห่ตบไหล่อันหลินแล้วหัวเราะร่าพูดว่า “ในเมื่อข้ารับปากผู้อาวุโสจูแล้ว ก็ต้องดูแลเจ้าให้ดีแน่นอน เราเคลื่อนไหวพร้อมกันดีกว่า มายาเพลิงวิหคชาดอันแรกให้เจ้า!”
อันหลินมองม่อไห่ด้วยความซาบซึ้ง พูดจริงจังว่า “งั้นดี พวกเราปฏิบัติการพร้อมกัน พยายามคว้ามายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูงมาให้ได้!”
“มันต้องอย่างนั้นอยู่แล้ว ในฐานะที่หนึ่งของรุ่นหนุ่มสาว หากไม่ได้มายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูง จะไม่กลับ!” คำตอบของม่อไห่ก็หนักแน่นมากเช่นกัน
มายาเพลิงวิหคชาดแบ่งออกเป็นชั้นต่ำ ชั้นกลางและชั้นสูงสามระดับ ยิ่งได้มายาเพลิงวิหคชาดที่ระดับสูงมากปานใด เช่นนั้นพลังงานที่ได้ยามรับพลังเพลิงวิหคชาดก็จะยิ่งบริสุทธิ์และมหาศาลมากเท่านั้น
“งั้นข้าขอตัวก่อนนะ ขอให้ทุกท่านปลอดภัย!”
หลู่เจียจื้อเห็นทั้งสองที่ฮึกเหิมก็ยิ้มน้อยๆ เริ่มขี่กระบี่เหินสู่ทางตะวันตก
ม่อไห่มองอันหลิน “งั้นพวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะ”
“ได้เลย!” อันหลินพยักหน้า จากนั้นก็ขี่ก้อนอิฐลอยขึ้น
ม่อไห่ใช้ดาบโบราณสีแดงเล่มหนึ่ง พุ่งขึ้นฟ้าตามหลังอันหลิน
ทั้งสองกลายเป็นลำแสงสองเส้น มุ่งหน้าสู่ทางเหนือของคุกวิหคชาด
อันหลินทอดมองพสุธาที่ไกลโพ้น ค้นหาร่องรอยของอสูรที่อาจโผล่มาให้เห็น
อสูรที่ปรากฏกายที่นี่ไม่มีการแบ่งระดับความสามารถที่ชัดเจน สิ่งเดียวที่วิเคราะห์ความสามารถของพวกมันได้พอสังเขปก็คือ วิเคราะห์จากระดับความบริสุทธิ์ของพลังเพลิงที่พวกมันปล่อยออกมา
อสูรพวกนี้ล้วนเป็นอสูรธาตุไฟ อสูรเพลิงสามัญ อสูรเพลิงวิญญาณ อสูรเพลิงพสุธา อสูรเพลิงสวรรค์
อสูรเพลิงสามัญเป็นอสูรที่ธรรมดาที่สุด ภายในไม่มีมายาเพลิงวิหคชาด อสูรเพลิงวิญญาณมีมายาเพลิงวิหคชาดชั้นต่ำในอัตราที่แน่นอน อสูรเพลิงพสุธามีมายาเพลิงวิหคชาดชั้นกลางในอัตราที่แน่นอน อสูรเพลิงสวรรค์มีมายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูงในอัตราที่แน่นอน
เป้าหมายของม่อไห่ก็คืออสูรเพลิงสวรรค์ แม้ความสามารถของเขาอยู่แค่ระดับแปลงจิต แต่พกอาวุธลับของสำนักมาแล้ว ต้องได้อสูรเพลิงสวรรค์มาให้ได้
อันหลินกลับต้องการรวบรวมเพลิงพลังให้มากกว่า เพื่อให้อันฉีหลินอิ่มในคราวเดียว จึงอยากลองช่วงชิงมายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูงด้วยเช่นกัน
ครืน
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ ธรณินก็สั่นสะเทือน คล้ายว่ามีคลื่นเพลิงถาโถมมาไกลๆ
อันหลินมองแผ่นดินที่ไกลโพ้น เปลวไฟสีเหลืองลุกลามมาอย่างทรงพลัง
“นี่เป็นหนูเพลิง กินเพลิงพิภพเป็นอาหาร เป็นอสูรเพลิงสามัญ พวกเราไม่ต้องไปสนใจมัน”
ม่อไห่ไม่อยากมองแม้แต่แวบเดียว เบือนสายตามองบริเวณอื่นต่อไป
อันหลินกลับมองคลื่นเพลิงที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ บนพื้นอย่างสนอกสนใจ
หนูสีม่วงที่มีขนาดใหญ่กว่าวัว เนื้อตัวมีเปลวไฟลุกโชนหลายร้อยตัว วิ่งห้อผ่านไปอย่างอึกทึกครึกโครม ประหนึ่งพรมเปลวไฟที่เคลื่อนไหวบนพื้น น่าสนใจมาก
อันหลินกับม่อไห่เหาะไปไกลเรื่อยๆ พบเจอทั้งแดนลี้ลับอย่างลมเพลิงอนธการ เพลิงอุกกาบาต และถูกฝูงนกเพลิงโจมตี แต่ล้วนถูกพวกเขาขจัดด้วยความสามารถที่แก่กล้า
หนึ่งชั่วยามต่อมา พวกเขาก็มาถึงหมู่เขาสูงตระหง่าน
ภูเขาทุกลูกที่นี่ล้วนสูงหลายพันเมตร บางลูกถึงขั้นสูงเสียดชั้นเมฆ ไม่รู้ว่าสูงเท่าใด
ครืน
แผ่นดินสั่นสะเทือนเลือนลั่นโดยพลัน
เห็นภูเขาลูกหนึ่งที่อยู่ไกลออกไปพ่นหินหนืดสีแดงฉานจำนวนมหาศาลออกมา หินที่ปกคลุมด้วยหินหนืดกลายเป็นลูกไฟกลิ้งตกลงพื้น เป็นเหมือนดอกไม้ไฟสีเลือดที่เบ่งบาน ทำให้พื้นที่ในรัศมีหลายลี้กลายเป็นแดนอันตราย
“บริเวณที่มีภูเขาไฟเคลื่อนตัวรุนแรงมักจะมีอสูรยิ่งใหญ่อยู่ ไป พวกเราไปดูกันหน่อย!” ม่อไห่ที่เห็นภาพนี้ตาเป็นประกาย ชิงขี่ดาบพุ่งไปทางที่ภูเขาไฟระเบิดก่อน
อันหลินเหาะตามหลังม่อไห่ ชื่นชมทัศนียภาพที่เหมือนวันสิ้นโลก
ทั้งสองเข้าใกล้ศูนย์กลางภูเขาไฟขึ้นทุกที สุดท้ายก็ใกล้ไม่ถึงพันจั้ง
“ช้าก่อน! ข้าเจองูยักษ์ผลึกกาฬ!”
ม่อไห่หยุดกึก ส่งสัญญาณให้อันหลินค่อยๆ ร่อนลง
ภูเขาไฟยังปะทุไม่หยุด เสียงดังกึกก้องสะเทือนฟ้าดิน แต่การร่อนลงของทั้งคู่กลับเงียบเชียบ
“เห็นหรือไม่ ตรงสันเขานอกสามลี้ มีงูยักษ์ที่รูปร่างคล้ายภูหินอยู่ตัวหนึ่ง!” ม่อไห่ชี้ตำแหน่งหนึ่งทางตะวันออกเฉียงเหนือแล้วพูดอย่างตื่นเต้น
ตอนแรกอันหลินยังทำหน้างุนงง แต่เมื่อมองไปยังบริเวณที่ม่อไห่ชี้ ก็เห็นงูยักษ์สีดำยาวร่วมร้อยจั้งตัวหนึ่งกำลังเลื่อนไปตามภูเขา มุ่งหน้าสู่ภูเขาไฟลูกนั้น เก็บงำกลิ่นอาย
โชคดีที่ม่อไห่อ่อนไหวต่อคลื่นพลังเพลิงอย่างยิ่งยวด มิเช่นนั้นคงไม่มีทางเห็นมัน เพราะมันไม่ต่างอะไรกับสีก้อนหินของภูเขาเลยสักนิด แม้แต่นัยน์ตาก็เป็นสีดำสนิท
ทั้งคู่เก็บงำกลิ่นอายค่อยๆ เข้าใกล้
“งูยักษ์เพลิงกาฬตัวนี้เป็นอสูรเพลิงพสุธา ความสามารถเทียบเท่านักพรตระดับแปลงจิต พวกเราจะบุ่มบ่ามไม่ได้เด็ดขาด จำต้องวางแผนให้ดี หาโอกาสเหมาะสมลงมือทันที” ม่อไห่กระซิบ
อันหลินพยักหน้าอย่างขึงขัง “ได้เลย!”
ม่อไห่ยิ้มอย่างปลื้มใจ กำลังจะบอกเล่ากลยุทธ์
ปัง
เสียงระเบิดรุนแรงดังขึ้นทันใด!
ร่างสีขาวมีปีกแหวกอากาศด้วยความเร็วที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า กระบี่สีดำในมือห้อมล้อมด้วยกระแสลมสีขาว ระเบิดลำแสงอันน่าสะพรึง
ระยะห่างหลายร้อยจั้ง กลับถึงในชั่วอึดใจ!
งูยักษ์ผลึกกาฬเบิกตากว้าง จดจ้องบริเวณหนึ่งด้วยความหวั่นวิตก มันเพิ่งแผ่เปลวไฟประหนึ่งผลึกหินสีดำออกมา ลำแสงสีขาวที่พุ่งพรวดมาก็กลายเป็นเส้นสีขาวเจิดจ้า กะพริบหายไป
ศีรษะขนาดใหญ่ของงูยักษ์ขาดสะบั้น โลหิตกลายเป็นฝนเพลิงทะลักออกมา ลมหายใจดับสูญ
ม่อไห่มองแผ่นหลังที่มีปีกยืนตระหง่านกลางเวหา อ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก
ไหนล่ะแผนการที่ที่ตกลงกัน รอจังหวะลงมือที่ว่าล่ะ
เจ้าทำเช่นนี้ทำให้ข้ากระอักกระอ่วนยิ่งนัก!
อันหลินหันหลังกลับมาถามยิ้มๆ ว่า “เป็นอย่างไร ลงมือฉับไวของข้าพอใช้ได้ไหม”
มุมปากของม่อไห่กระตุกยิกๆ จากนั้นก็พยักหน้าอย่างนับถือชื่นชม “สหายอันหลิน เจ้าวางมาดเท่ได้…รวดเร็วฉับไว ข้าน้อยนับถือ!”