ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม - ตอนที่ 317 อย่าคิดแตะต้องนักพรตแดนมังกร
คาคาชิก็ถูกบีบคั้นจนมีน้ำโหแล้วเช่นกัน มือถือดาบนินจาเริ่มประมือกับเฉินจิ่งเทียนแล้ว
โจนินสองคนก็ร่วมรบด้วยเช่นกัน ใช้คาถาทั้งหลายแหล่บ่อยครั้ง อาศัยช่องโหว่โจมตีเฉินจิ่งเทียน
ไม่คิดว่าเฉินจิ่งเทียนจะเคลื่อนใบมีดยังเหลือที่ว่าง[1] อาศัยเพียงเพลงกระบี่ที่ประณีตยิ่ง แต่ก็กำราบคาคาชิได้อยู่หมัด
“บัดซบ ทั้งๆ ที่มีสมญานามว่ายอดอัจฉริยะด้านยันต์ในแดนมังกรแท้ๆ ทำไมเพลงกระบี่ถึงได้แข็งแกร่งขนาดนี้!” คาคาชิยิ่งสู้ก็ยิ่งตกใจ เขาถูกลำแสงมากมายหลายเส้นพันธนาการ ประหนึ่งติดอยู่ในโคลนตม แม้แต่การเอาตัวรอดยังเป็นความเพ้อฝัน
เฉินจิ่งเทียนยิ้มบางๆ แม้จะอ้วนแต่ก็ฝันอยากเป็นเซียนกระบี่
ที่เขามีฉายาว่ายอดอัจฉริยะด้านยันต์ มันเป็นเพราะตอนที่เก็บตัวอยู่ในบ้าน จึงวาดยันต์แก้เบื่อเพราะไม่มีอะไรทำ ได้รับคำชื่นชมจากอาจารย์โหยวมู่ก็เท่านั้น แม้พรสวรรค์ด้านยันต์จะสูงมาก แต่สิ่งที่เขาชอบที่สุดยังคงเป็นกระบี่ สิ่งที่ถนัดที่สุดก็เป็นกระบี่อยู่ดี!
“เอากระบี่ไปกิน มังกรคู่เริงมุก!”
เฉินจิ่งเทียนกระดกปลายกระบี่ มังกรวารีเก้าตัวพุ่งหวีดหวิวออกมาจากตัวชายหนุ่ม
คาคาชิสะดุ้งทันใด มังกรคู่เริงมุกไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงเป็นมังกรเก้าตัวไปได้ล่ะ
ชั่วขณะที่เขาถอยกรูด ใช้ดาบนินจาฟันมังกรวารีจนแหลกสลาย แต่กลับไม่เห็นเงาของเฉินจิ่งเทียน
คาคาชิหวาดระแวงขึ้นมาทันที สอดส่ายสายตาไปทั่ว สุดท้ายก็เห็นหัวหอกของเฉินจิ่งเทียนกำลังจ่อลูกสมุนสองคนของตน คนหนึ่งถูกเฉินจิ่งเทียนฟันเป็นสองซีก อีกคนก็ถูกยันต์พันธนาการแล้ว
คาคาชิระเบิดโทสะ “บากะ!”
จากนั้นเขาก็หันหลังวิ่งหนีทันที!
ใช่แล้ว เขากำลังล่าถอยอย่างมีชั้นเชิง
สมุนถ่วงฝีเท้าของจอมอ้วนคนนั้นไว้แล้ว เขาจะทรยศต่อการพลีชีพของสมุนไม่ได้!
หลังเฉินจิ่งเทียนสังหารโจนินคนที่สองแล้ว ก็หันหลังมองคาคาชิที่หนีเตลิดไปไกล ใบหน้าฉายรอยยิ้มเย้ยหยัน “คิดว่าแกจะหนีรอดจริงๆ งั้นเหรอ”
คาคาชิคิดว่าตัวเองหนีเอาชีวิตรอดแล้ว แต่ทันใดนั้น มิติก็เริ่มบิดเบี้ยว
เอ๊ะ เราคิดไปเองเหรอ
เขาเหลียวหลังมองด้านหลัง เห็นลำแสงสีน้ำเงินประดุจจันทร์เสี้ยวอันงดงาม
ความหนาวเหน็บจากความตายผุดวาบขึ้นในใจ ทำเอาเขาสั่นระริก
เสี้ยววินาทีต่อมา วงล้อแสงนั่นก็อันตรธานหายไป
พูดให้ถูกก็คือ กงจักรแสงจันทร์อาวุธเซียนเข้าประชิดแผ่นหลังเขาแล้ว
คาคาชิดคิดไม่ถึงเลยว่า ตัวเองที่องอาจหาญกล้ามาทั้งชีวิต ท้ายที่สุดจะตายโดยที่ไม่รู้ตัวเช่นนี้
กงจักรแสงจันทร์สีน้ำเงินกลับมาหาซูเฉี่ยนอวิ๋น หมุนรอบเอวคอดของนางราวกับเป็นภูต
เลือดย้อมบ่อสวรรค์ ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนสิ้นชีพกันระนาว
และผู้ที่ควบคุมสงครามครั้งนี้คือ นักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณห้าคนนั้น
เผ่าพันธุ์ผีดูดเลือด เผ่าหมาป่าอนธการ นินจา เผ่านักเวท นักรบกลายพันธุ์ รวมถึงผู้แข็งแกร่งต่างชาติที่กระจัดกระจายที่เหลือ ล้วนพินาศย่อยยับเกือบทั้งหมด!
นักพรตอื่นๆ ที่อดใจไม่จู่โจมยืนอยู่ที่เดิม ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง มองห้าคนบนผิวทะเลสาบด้วยความเคารพนับถือดุจเป็นทวยเทพ
องเมียวจิจากแดนอาทิตย์อุทัยที่อยู่ในพงไพรสั่นเทิ้ม สุดท้ายก็ทอดถอนหายใจอย่างจนใจ
“นักพรตแดนมังกรนี่มันเสือหมอบมังกรซ่อนชัดๆ…พวกเราถอย!”
หลังลูกบอลสีขาวบันทึกข้อมูลอันน่าตะลึงบางส่วนแล้ว ก็เริ่มบินกลับอเมริกา ภายในฝ่ายยุทธศาสตร์ลับแห่งหนึ่ง แต่ละคนจ้องข้อมูลที่ถูกส่งกลับมาด้วยสีหน้าไม่สู้ดี
ผู้แข็งแกร่งหลายคนที่อดใจไม่ลงมือทั้งหลายพากันล่าถอย นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถแตะต้องได้อีกต่อไป
พวกเขาได้รู้จักด้านใหม่ของนักพรตแดนมังกร หากจะให้นิยามด้วยคำพูดจริงๆ ละก็ คงเป็นน่ากลัวเหลือเกิน!
ศึกนี้สะเทือนขวัญพวกเขามากเกินไป นักพรตแดนมังกรล่วงเกินไม่ได้เด็ดขาด! มันจะกลายเป็นกฎเหล็กของพวกเขา ไม่อย่างนั้นไม่แน่ว่านักพรตระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณอาจมาบั่นหัวบรรพบุรุษของคุณก็ได้…
“สหาย ตอนนี้กำจัดศัตรูหมดแล้ว ฉันจะเข้าไปในโบราณสถาน ออกมาแล้วทุกคนดื่มกันหน่อยไหม” อันหลินนำทุกคนเหาะมาหยุดตรงหน้าพวกเฉินจิ่งเทียน กล่าวด้วยรอยยิ้ม
อันหลินมองพวกเขาเป็นเพื่อนตั้งแต่พวกเฉินจิ่งเทียนคอยกำบังให้พวกอันหลินแล้ว
เฉินจิ่งเทียนงุนงงไปชั่วขณะ เขาคิดไม่ถึงว่าคนกลุ่มนี้จะเอาชนะศัตรูที่ยิ่งใหญ่ปานนี้ได้ แถมยังเอาชนะได้อย่างง่ายดายฉับไว เรียกได้ว่าราบเป็นหน้ากลอง
“ได้ ถึงตอนนั้นเรามาดื่มกันให้หนำใจไปเลย!” เฉินจิ่งเทียนไม่ใช่คนเล่นตัว จึงพยักหน้าตอบตกลงทันที
ทั้งสองแลกเบอร์โทรศัพท์กันแล้วโบกมืออำลา
ครั้งนี้อันหลิน สวีเสี่ยวหลาน ซูเฉี่ยนอวิ๋น เซวียนหยวนเฉิงและถังซีเหมิน ใช้ป้ายหยกเข้าสู่ประตูมิติ ไม่มีผู้ใดขัดขวางอีก ไปจากบ่อสวรรค์ด้วยความสงบ
เฉินจิ่งเทียนมองห้าคนที่หายลับไปแล้วทอดถอนใจ “ตอนแรกอาจารย์ก็บอกฉันแล้วว่า โบราณสถานแห่งนี้ไม่ใช่ของพวกเรา บอกฉันว่าไม่ต้องไป ตอนนั้นฉันไม่เชื่อ ทั้งๆ ที่โบราณสถานเป็นของทุกคน ต้องส่งมอบให้ประเทศอีกหรือไง แต่ตอนนี้ฉันเชื่อแล้ว ของบางอย่างฝืนไม่ได้…”
“แต่ไม่ว่ายังไง ศึกนี้ก็มีความหมาย อย่างน้อยก็ทำให้นักพรตประเทศอื่นหวาดกลัว นับว่ากู้หน้าให้กับนักพรตแดนมังกรอย่างพวกเรา!” นักพรตหนุ่มอีกคนกล่าว
เฉินจิ่งเทียนชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็พยักหน้ายิ้มๆ มือไพล่หลัง สายลมโชยมา เสื้อผ้าพลิ้วไหว จอมอ้วนคนหนึ่งถูกเขาวางมาดเป็นผู้สูงศักดิ์ไปเสียแล้ว
ขณะเดียวกัน ณ ริมบ่อสวรรค์ ชายที่สวมแว่นเอวิเอเตอร์คนหนึ่งกำลังเก็บเกราะแต่ละชิ้นขึ้น พูดกับหญิงสง่างามข้างกายด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันบอกแล้วใช่ไหม การเดินทางสู่บ่อสวรรค์ของสหายอันหลินไม่มีอันตรายเลยสักนิด แต่เธอไม่เชื่อ”
หญิงคนนั้นเบะปาก “เอาละ เทพพยากรณ์ผู้แม่นยำแม่นสมคำร่ำลือจริงๆ!”
“ที่ไหนกันๆ งั้นๆ แหละ” ชายหนุ่มดันแว่นเอวิเอเตอร์ สีหน้าเรียบเฉย
หญิงสาวกลอกตาใส่เทพพยากรณ์ เก็บพิณในมือแล้วพูดยิ้มๆ ว่า “ไม่คิดเลยจริงๆ ว่า นักพรตที่ซื้อหนังสือ ‘คู่มือรวมเพลงกระบี่พื้นฐานเฉพาะสำนัก’ ในราคาห้าหินวิญญาณกับฉัน ตอนนี้จะกลายเป็นเซียนกระบี่ของจริงแล้ว”
หญิงคนนี้ชื่อเซียนหญิงเมิ่งอิน ตอนนั้นเป็นเธอที่เห็นเพลงกระบี่ของอันหลินย่ำแย่สิ้นดี จึงขายหนังสือ ‘คู่มือรวมเพลงกระบี่พื้นฐานเฉพาะสำนัก’ ให้อันหลิน
ไม่คิดว่าสองปีต่อมา อันหลินจะปลิดชีพจ่าฝูงหมาป่าได้ในกระบี่เดียว ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกสิ่งล้วนยากแท้หยั่งถึงจริงๆ…
เทพพยากรณ์พยักหน้า “ทุกคนล้วนมีชะตาของตัวเอง หากจะอิจฉาคนอื่น สู้เพียรพยายาม ไม่แน่ว่าต่อไปเธออาจจะเป็นคนทำลายกฎสวรรค์คนต่อไปก็ได้นะ”
เมิ่งอินยักไหล่ “ฉันไม่ได้มีความแค้นเคืองอะไรกับสวรรค์ จะทำลายกฎทำไม เรื่องแบบนี้ยกให้พญางูขาวเถอะ”
เทพพยากรณ์พยักหน้า ทั้งคู่ยิ้มให้กันอย่างรู้ใจ ไม่พูดอะไร
หลังเก็บข้าวของเสร็จก็ออกจากบ่อสวรรค์
ข่าวนี้แพร่สะพัดในกลุ่มนักพรตทั่วโลกร่วมมือกันพิทักษ์โลก เป็นที่ฮือฮาอีกครั้ง
ในกลุ่มดุเดือดขึ้นมาทันตา
ผู้พิทักษ์โลก ‘สุดยอด! สหายอันหลินกับลูกทีมของเขาสุดยอดเกินไปแล้ว นี่มันกดร่างผู้แข็งแกร่งทั่วโลกแล้วถูไปถูมากับพื้นชัดๆ’
นักพรตมู่หนิว ‘ฉันรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ไปเห็นศึกนี้ด้วยตาตัวเองที่บ่อสวรรค์!’
ผู้รู้แจ้งหลิวหลี ‘ฉันว่าแล้วสหายอันหลินลงมาแดนมนุษย์ครั้งนี้ ถึงได้พาคนมาเยอะแยะแบบนี้ ที่แท้ก็มาเพราะโบราณสถานต่างมิตินี่เอง’
เซียนกระบี่ชิงเหอ ‘ในกลุ่มเราก็มีผู้โชคดีสองคน เรื่องนี้ทำฉันแปลกใจมากเหมือนกัน’
นักพรตชื่อเจียว ‘ทำไมไม่เป็นฉัน (สติ๊กเกอร์ร้องไห้)’
เซียนหญิงหยวนจื่อต้าน ‘ใครจะเลือกมังกรไร้ประโยชน์อย่างนาย (เยาะเย้ย)’
นักพรตทั่นอวิ๋น ‘+1’
นักพรตชื่อเจียว ‘…’
เซียนหญิงจิ้งซิน ‘น่าโมโหจัง ว่าแล้วเชียวว่าพวกเขามีความลับ ที่แท้ก็เรื่องนี้นี่เอง!’
ตงฟางเสวี่ยนึกถึงพฤติกรรมแปลกๆ ของอันหลินกับเถียนหลิงหลิงในค่ำคืนนั้น พลันก็รู้สึกแน่นหน้าอก
ในกลุ่มยังคงวิจารณ์กันต่างๆ นานา
ยามนี้ อันหลินเข้าไปในอุโมงค์มิติ
เริ่มการผจญภัยครั้งใหม่ของเขาแล้ว!
[1] เคลื่อนใบมีดยังเหลือที่ว่าง ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งจนชำนาญโดยไม่ต้องออกแรง