ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 96 แผนเล็ก ๆ ของหนิวลี่
บทที่ 96 แผนเล็ก ๆ ของหนิวลี่
“เอ๊ะ!”
เอลฟ์น้อยที่กำลังเล่นกับจ้าวหมาป่าอยู่ก็สัมผัสได้ถึงความผันผวนของพลังปราณสวรรค์รอบทิศ จึงลืมตาขึ้นมองหนิวลี่พร้อมกล่าวว่า “พี่ชาย พี่อัปเกรดแหวนแล้วเหรอ?”
“อืม” หนิวลี่พยักหน้าด้วยความตื่นเต้น
“เยี่ยมเลย หนูจะได้เป็นเอลฟ์ระดับสูงแล้ว เย่ พี่ชายใจดีที่สุด!” เอลฟ์น้อยร้องอย่างดีใจ รีบโผเข้าไปกอดหนิวลี่แน่น ก่อนจะหอมแก้มเขาฟอดใหญ่ด้วยความยินดีจนลืมตัว
“ฮ่า ๆ ๆ ขอแค่เตียวเสี้ยนมีความสุข พี่ทำอะไรก็ได้” หนิวลี่ยิ้ม นี่มันเรื่องน่ายินดีอย่างไม่คาดคิดจริง ๆ เขาเองก็ลืมไปแล้วว่าการอัปเกรดแหวนสำหรับเอลฟ์น้อยแล้ว นั่นหมายถึงความฝันของเธอใกล้เป็นจริงขึ้นอีกก้าวหนึ่ง
เรื่องทั้งหมดนี้มีเพียงนักบวชหนุ่มอย่างเจี้ยเซ่อที่มองอย่างงุนงง แต่ในฐานะผู้ฝึกยุทธ์ เขาก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความเปลี่ยนแปลงของสวรรค์และผืนแผ่นดินตรงนี้ ทันใดนั้น เขาก็นั่งขัดสมาธิและเริ่มฝึกฝนพลังภายใน
ไม่เสียแรงที่เขาสวดมนต์ภาวนามานับสิบปี นี่ถือเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง การฝึกฝนท่ามกลางพลังปราณสวรรค์ที่เข้มข้นเช่นนี้ ย่อมได้ผลดีกว่าการฝึกฝนทั่วไปหลายสิบเท่า และยังมีข้อดีอีกมากมาย ไม่ใช่สิ่งที่การนั่งสมาธิทุกวันจะเทียบได้
แต่นักบวชหนุ่มยังอ่อนแอเกินไป และพรสวรรค์ก็ไม่ใช่เลิศเลอที่สุด ในตอนนี้ ดูเหมือนว่าพลังยุทธ์ของเขานั้นอยู่ในระดับต่ำสุดของระดับหลังฟ้า พลังภายในอ่อนแออย่างมาก การฝึกฝนจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า หากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ระดับหลี่เตาปา การฝึกฝนท่ามกลางพลังปราณสวรรค์เช่นนี้ ผลลัพธ์คงทวีคูณขึ้นไปอีก
แต่ตอนนี้หนิวลี่ตั้งใจที่จะช่วยเหลือนักบวชหนุ่ม เมื่อเห็นว่าเขามีไหวพริบเฉลียวฉลาดเช่นนี้ เขาก็ยิ้มออกมาอย่างจาง ๆ ยื่นมือออกไปดีดนิ้วเบา ๆ พลังปราณสวรรค์บริสุทธิ์สายหนึ่งก็พุ่งออกไป ผสานเข้ากับร่างของนักบวชหนุ่ม
ร่างของนักบวชหนุ่มที่กำลังฝึกฝนอยู่สั่นสะท้าน จากนั้น พลังปราณสวรรค์บริสุทธิ์สายนั้นก็ค่อย ๆ หลอมรวมเข้ากับพลังภายในที่กำลังไหลเวียนอยู่ในเส้นลมปราณของเขา พลังภายในที่เคยอ่อนแอพลันพลุ่งพล่านราวกับถูกกระตุ้น และเริ่มแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักบวชหนุ่มที่อยู่ในสมาธิปรากฏรอยยิ้มพึงพอใจบนใบหน้า
หนิวลี่ เพียงแค่จับตาดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นว่าการไหลเวียนของพลังภายในเป็นปกติดีแล้วก็ไม่สนใจอีก
จากนั้นเอลฟ์น้อยก็เริ่มเข้าสมาธิเช่นกัน เธอฉวยโอกาสอันดีนี้ดูดซับพลังปราณสวรรค์เข้าสู่ร่างกาย เพื่อเร่งเส้นทางการเลื่อนระดับของตนเอง
ส่วนจ้าวหมาป่านั้นไม่ต้องพูดถึง ในขณะที่แหวนสรรค์สร้างรวบรวมพลังปราณสวรรค์ จ้าวหมาป่าถูกแก่นเวทที่ยังไม่สมบูรณ์ในหัวของมันบังคับให้เข้าสู่สมาธิ ดูดซับพลังปราณสวรรค์เพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงของพลังเวท
กล่าวได้ว่าทุกอย่างดำเนินไปอย่างราบรื่น
แต่หนิวลี่กลับไม่รีบร้อน เขาเพิ่งจะเลื่อนระดับเป็นจอมเวทระดับกลางได้ไม่นาน การจะเลื่อนระดับอีกครั้งไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้น การมีแหวนสรรค์สร้างคอยดูดซับและบีบอัดพลังปราณสวรรค์ จากนั้นจึงส่งพลังปราณสวรรค์ที่บริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์กลับมาให้เขา ถือว่าสะดวกกว่ามาก อีกทั้งไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ เลยไม่ดีกว่าเหรอ?
ดังนั้น เมื่อเห็นทั้งสามกำลังดูดซับพลังปราณสวรรค์อย่างรวดเร็ว หนิวลี่กลับหยิบไก่ย่างหอมกรุ่นตัวหนึ่งขึ้นมากัดกินอย่างเอร็ดอร่อย
รัตติกาลผ่านไป ดวงดาวค่อย ๆ จางหาย แสงตะวันเริ่มส่องสว่างทางทิศตะวันออก
หลังจากดูดซับพลังงานอย่างบ้าคลั่งตลอดทั้งคืน หนิวลี่ก็ตื่นขึ้นมา แหวนสรรค์สร้างได้ดูดซับพลังงานไปแล้วกว่าสองร้อยหน่วย! เร็วกว่าก่อนอัปเกรดหลายเท่าตัว ช่วงนี้ขยายวงกว้างขึ้น ผลลัพธ์ย่อมดีกว่าเดิม ความเร็วในการดูดซับพลังงานก็รวดเร็วขึ้น ปริมาณก็มากขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานอีกต่อไปแล้ว
หลังจากหันไปมองดูเตียวเสี้ยน ทั่วร่างของเธอมีกลิ่นอายของพลังเวทพลุ่งพล่าน เห็นได้ชัดว่าการดูดซับพลังในคืนนี้ได้ผลดีมาก
ไม่ต้องพูดถึงจ้าวหมาป่า ร่างกายของมันหดเล็กลงอีกรอบ จนดูเหมือนสุนัขจรจัดที่ขาดสารอาหาร ทำให้หนิวลี่สงสัยว่าเจ้าตัวนี้จะกลายพันธุ์เป็นหมาป่าเวทมนตร์หรือจะกลายเป็นหนูเสียก่อน!
หนูหมาป่า! อืม สายพันธุ์ใหม่นี่นา~
ส่วนนักบวชหนุ่มนั้น
หนิวลี่อดชื่นชมเขาไม่ได้ ไอ้หนุ่มนี่โชคดีจริง ๆ นิสัยซื่อ ๆ ได้เจอกับฉัน ไม่เพียงแต่ได้กินไก่ย่างฟรีสองตัว ยังได้รับพลังธาตุฟ้าดินสำหรับฝึกฝนอีก คืนเดียวเท่านั้น เขาก็บรรลุถึงขั้นต้นของหลังฟ้าแล้ว เหลือแค่ฝึกฝนให้ดีก็จะสามารถบุกทะลวงไปถึงขั้นกลางของหลังฟ้าได้! นับว่าก้าวกระโดดไปไกลมาก ไม่เช่นนั้นด้วยพรสวรรค์ของเขา อาจต้องใช้เวลาพยายามถึงสองปีถึงจะบรรลุถึงจุดสูงสุดของระดับหลังฟ้าขั้นต้น อีกอย่างดูเหมือนเจ้าหนุ่มนี่จะไม่ใช่คนที่อยู่นิ่ง ๆ สองปีจะทำได้หรือไม่ก็ยังไม่รู้
แต่หนิวลี่ไม่ใช่คนขี้งก ตัวเองกินเนื้อ ให้คนอื่นดื่มน้ำซุปบ้างก็ไม่เป็นไร ยิ่งไปกว่านั้นเขายังรู้สึกสนใจนักบวชหนุ่มคนนี้ เป็นเพื่อนที่น่าสนใจมาก
“ว้าว! สมแล้วที่เป็นเมืองเอชที่ผลิตผู้แข็งแกร่งก่อนสวรรค์ อากาศที่นี่ดีมาก พลังวิเศษเต็มเปี่ยม การนั่งสมาธิที่นี่คืนเดียวเทียบเท่ากับฉันนั่งสมาธิอย่างหนักหนึ่งปีเลย! ไม่เสียแรงมาจริง ๆ”
นักบวชหนุ่มตื่นจากสมาธิ พบว่าตัวเองเปลี่ยนแปลงไป จึงดีใจร้องตะโกนออกมา
หนิวลี่ได้ยินแล้วกลอกตา คิดในใจว่านี่เป็นประโยชน์ที่ฉันตั้งใจให้นายนะ ไม่งั้นต่อให้นายนั่งสมาธิหนักแค่ไหนก็ได้ผลเท่าเดิม
แล้วก็! ผลิต… ผลิตบ้านแกสิ
หนิวลี่รู้สึกหมดคำพูดกับเจี้ยเซ่อ นอกจากซื่อแล้ว ยังพูดจาไม่มีขอบเขต นึกอะไรก็พูดอย่างนั้น ไม่แปลกที่ผู้อาวุโสในสำนักไม่อยากพาเขาออกมา
“ฮิฮิ พี่ชาย ต่อไปเราอยู่ที่นี่กันเถอะนะ ดูสิ เตียวเสี้ยนเพิ่มพลังเวทได้มากขนาดนี้ในคืนเดียว อีกไม่นานก็จะสามารถใช้พลังงานของแหวนสรรค์สร้างในการอัปเกรดได้แล้ว!” เตียวเสี้ยนพูดอย่างตื่นเต้น
หนิวลี่บีบจมูกเอลฟ์น้อย ยิ้มขื่นพูดว่า “น้องสาว เวลาไม่ได้คำนวณแบบนั้นนะ เธอต้องรู้ว่าการอัปเกรดเป็นขั้นสูงต้องใช้พลังงานมากแค่ไหน แล้วพี่ชายก็ยังมีเรื่องสำคัญอีกมากมายที่ต้องทำ จะมาอยู่ที่นี่ทุกวันได้ยังไงล่ะ!”
เอลฟ์น้อยเบ้ปาก แต่ไม่ได้แสดงสีหน้าผิดหวัง เพียงแต่รู้สึกเสียดายเท่านั้น
“การสร้างเอลฟ์ให้อัปเกรดเป็นขั้นสูง จำเป็นต้องให้นายสร้างผู้ใต้บังคับบัญชาสามคน และสองในนั้นต้องถึงระดับกลาง นี่เป็นข้อกำหนดตายตัวในการสร้าง”
จู่ ๆ เสียงของเหลิงต้านก็ดังขึ้น
หนิวลี่ชะงัก
เอลฟ์น้อยอึ้ง!
“นี่มันกฎอะไรกัน? ทำไมถึงมีกฎแบบนี้ด้วย?” หนิวลี่ขมวดคิ้วถาม
“นี่เป็นกฎที่ถูกกำหนดและผูกมัดไว้ตั้งแต่แหวนสรรค์สร้างถูกสร้างขึ้น ไม่สามารถฝ่าฝืนได้ มิฉะนั้นพื้นที่สร้างจะถูกทำลายโดยอัตโนมัติ” เสียงกลไกของเหลิงต้านพูดอย่างไม่มีความรู้สึกใด ๆ เลย
หนิวลี่สูดลมหายใจเข้าลึก ไอ้บ้านี่… ขู่ฉันเหรอเนี่ย!
แต่คำขู่นี้มันช่างได้ผลจริง ๆ ถ้าเขาไม่ใช่คนโง่ เขาก็ทำได้แค่ยอมตกลง
“แต่ว่า… น้องสาว” หนิวลี่มองไปที่เอลฟ์ตัวน้อยด้วยสายตาเว้าวอน
เอลฟ์ตัวน้อยไม่ได้งอแง แต่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างกะทันหัน “พี่ชาย หนูเข้าใจค่ะ ฮิฮิ พี่ชายต้องสร้างน้องสาวสวย ๆ ให้หนูหลาย ๆ คนนะคะ หนูชอบมากเลยค่ะ”
หนิวลี่พยักหน้ารับอย่างหนักแน่น “เตียวเสี้ยนวางใจได้เลย รอเรื่องทางนี้เรียบร้อย พี่ชายจะหาโอกาสสร้างน้องสาวให้เธอสองคน แล้วจะหาทางเพิ่มเลเวลให้ พี่จะทำให้เตียวเสี้ยนที่รักของพี่ได้เป็นเอลฟ์ระดับสูงโดยเร็ว”
“อื้อ! พี่ชายดีที่สุดเลย” ดวงตาของเอลฟ์น้อยหรี่ลงเป็นรูปจันทร์เสี้ยว
อีกด้านหนึ่ง นักบวชหนุ่มที่กำลังมองไปทางนั้นทีทางนี้ทีด้วยความสับสน เกาหัวตัวเองอย่างไม่เข้าใจ พวกเขากำลังพูดอะไรกัน?
ด้วยความอิ่มเอมใจ หนิวลี่ปลดความกดดันเรื่องแหวนสรรค์สร้างลง พร้อมกับพาเอลฟ์ตัวน้อยที่ร่าเริงและจ้าวหมาป่ากลับเข้าเมือง
ในตอนนี้นักบวชหนุ่มได้ปักใจเชื่อไปแล้วว่า หนิวลี่เป็นคนดีมาก ๆ เพราะเขายึดถือคำสอนของอาจารย์ที่สอนมาตลอดว่า จงคบคนดี ถอยห่างคนชั่ว เขาจึงตัดสินใจที่จะติดตามหนิวลี่ไปในเมืองเอช อย่างน้อยก็ต้องรู้สถานการณ์ในเมืองเอชเสียก่อน ถึงจะรู้ว่าพี่น้องร่วมสำนักอยู่ที่ไหน!
แน่นอน สาเหตุใหญ่ที่สุดคือ เงินของเขาหมดแล้ว ออกมาข้างนอกถึงได้รู้ว่าเงินมันสำคัญ แค่เหรียญเดียวก็ยากเย็นแสนเข็ญ ถึงขนาดต้องมาเป็นปลิงแบบนี้ คนโง่เท่านั้นถึงจะยอมทิ้งโอกาสนี้ไป
ด้วยวิธีนี้ กลุ่มคนมาถึงในเมือง ก่อนอื่นพวกเขาไปที่ร้านอาหารเช้าเพื่อรับประทานอาหารเช้า จากนั้นเตรียมมองหาเหมียวจ้าน
ในเมื่อจะดึงคนเข้าร่วมขบวนการ แน่นอนว่ายิ่งมากยิ่งดี เชื่อว่าตราบใดที่เขามีผลประโยชน์มากพอให้ไอ้หนุ่มนี่ มันต้องยอมสยบต่ออำนาจ …เอ่อ ไม่สิ ยอมสยบต่อแสงศักดิ์สิทธิ์ของเขาแน่ ๆ
ฮี่ฮี่ ถึงตอนนั้น ถ้าสหพันธ์สวรรค์ของเขากุมอำนาจทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม ทั้งทหารและการเมือง ใครจะต่อกร!
ด้วยความคิดที่จะใช้อำนาจและผลประโยชน์เข้าล่อลวง หนิวลี่จึงยิ้มเยาะออกมาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังกองกำลังช่วยเหลือประจำเมืองเอช