ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 91 มิยาโมโตะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วหล้า
บทที่ 91 มิยาโมโตะมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วหล้า
เช้าวันรุ่งขึ้น รายการบันเทิงชื่อดังรายการหนึ่งของเมืองเอช ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอที่สร้างความตื่นตะลึง
ในคลิปวิดีโอ ปรากฏภาพมิยาโมโตะท่อนบนเปลือยเปล่า สวมเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียว บนหน้าอกมีข้อความเขียนว่า ‘ผมมีความผิด’ พร้อมกับร้องไห้คร่ำครวญสารภาพความผิดอย่างน่าเวทนา!
ในคำสารภาพ มิยาโมโตะเริ่มต้นด้วยการแสดงความเคียดแค้นที่ถูกหลอกใช้ จากนั้นจึงเปิดโปงความชั่วร้ายทั้งหมดที่ไตรภาคีได้ก่อขึ้นในประเทศจีน เรียกได้ว่าเป็นการกระทำที่เลวร้ายอย่างไม่น่าให้อภัย จนทั้งสวรรค์ต้องสาปแช่ง จากนั้นเขาจึงกล่าวขอโทษต่อชาวจีนในนามของตัวเอง และหวังว่าเพื่อนร่วมชาติชาวจีนจะให้อภัยเขา ผู้ที่ถูกหลอกใช้เพียงเท่านั้น
วิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปทั่วประเทศจีนอย่างรวดเร็วภายในเวลาเพียงสิบนาที ก่อให้เกิดความโกลาหลไปทั่วทั้งแผ่นดิน
นับตั้งแต่ยุคปัจจุบัน ไม่เคยมีชาวญี่ปุ่นคนใดกล้าออกมาสารภาพผิดต่อชาวจีนอย่างเปิดเผยเช่นนี้มาก่อน ยิ่งไปกว่านั้น มิยาโมโตะยังเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงธุรกิจของจีนอีกด้วย!
ทันทีที่คำสารภาพถูกเผยแพร่ออกไป ประชาชนชาวจีนจำนวนมากต่างพากันออกมาแสดงความยินดี ขณะที่อีกหลายคนถึงกับตะลึงงัน
คำสารภาพดังกล่าวยังถูกปักหมุดไว้บนเว็บไซต์หลัก ๆ ของจีน และแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งเวลา 14.00 น. คำสารภาพที่เต็มไปด้วยน้ำตาของมิยาโมโตะก็แพร่สะพัดไปถึงประเทศญี่ปุ่น!
เหตุการณ์นี้เปรียบเสมือนน้ำมันที่ถูกจุดไฟ จนลุกลามกลายเป็นเปลวเพลิงขนาดใหญ่ในชั่วพริบตา
กลุ่มชาตินิยมญี่ปุ่นรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าอย่างแรง พวกเขารวมตัวกันประท้วงภายในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เรียกร้องให้รัฐบาลลงโทษมิยาโมโตะที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง
ขณะที่พรรคการเมืองญี่ปุ่นก็รู้สึกตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นกัน เนื่องจากมิยาโมโตะเป็นบุคคลที่รู้จักกันดีในหมู่ชนชั้นสูงของญี่ปุ่น ในฐานะโฆษกของไตรภาคี องค์กรที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วและมีอำนาจมากที่สุดเป็นอันดับสองของญี่ปุ่น เขามีอำนาจอย่างมาก แต่ตอนนี้กลับเกิดเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้ขึ้น รัฐบาลญี่ปุ่นจึงจำเป็นต้องขอคำอธิบายจากหัวหน้าของไตรภาคี!
แต่ประธานและผู้นำระดับสูงคนอื่น ๆ ของไตรภาคีกลับรู้สึกเหมือนกินยาขมเข้าไป พวกเขาไม่สามารถพูดอะไรได้เลย
พวกเขาไม่สามารถบอกได้ว่ามิยาโมโตะในคลิปเป็นตัวปลอมได้! ใครจะไปเชื่อคำพูดนี้ มิยาโมโตะเป็นบุคคลสาธารณะ ใบหน้าของเขาเป็นที่รู้จักกันดี ใครจะไปคิดว่ามิยาโมโตะตัวจริงจะขี้ขลาดถึงขั้นใช้ตัวปลอมแบบนี้ ยิ่งไปกว่านั้น การกระทำเช่นนี้ยิ่งทำให้พวกเขาตกที่นั่งลำบาก ไม่สามารถโต้แย้งอะไรได้เลย!
ด้วยเหตุนี้ ประธานไตรภาคีจึงทำได้เพียงสั่งมิยาโมโตะตัวจริงด้วยสีหน้าบึ้งตึงว่า “จัดการปัญหาของแกเองซะ!”
ผู้ที่ผูกปมต้องเป็นคนแก้ มิยาโมโตะรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน แม้ว่าประธานไตรภาคีจะไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับความคิดเห็นของเขาออกมา แต่น้ำเสียงที่เย็นชาทำให้มิยาโมโตะรู้สึกหนาวไปถึงขั้วหัวใจ
หลังจากวางสาย มิยาโมโตะก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่งด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว เขาทำลายข้าวของทุกอย่างที่ขวางหน้าจนพังพินาศ
ท่ามกลางเสียงคำราม เสียงหนึ่งดังออกมาจากปากของเขาให้บอดีการ์ดที่คอยคุ้มกันอย่างใกล้ชิดได้ยินว่า
“ไอ้สารเลวมุรามาสะ ฉันจะฉีกแกออกเป็นชิ้น ๆให้สมกับที่แกทำพลาด!”
คำพูดนี้สร้างความฉงนให้กับทุกคน ใครกันคือมุรามาสะ?
แต่เรื่องอื้อฉาวที่ทำให้ญี่ปุ่นต้องอับอายขายขี้หน้านี้นับเป็นเรื่องน่ายินดีสำหรับชาวจีน พวกเขารู้สึกเหมือนกับเป็นวันเฉลิมฉลอง พากันออกมาจับจ่ายใช้สอย ชวนเพื่อนฝูงมาสังสรรค์อย่างรื่นเริงบันเทิงใจ จนทำให้ชาวญี่ปุ่นบางคนที่ทำงานในจีนต้องหลบหน้าอยู่ในบ้านอย่างอับอายขายหน้า และแอบสาปแช่งมิยาโมโตะอยู่ในใจ
ในเมืองเอช สถานที่เกิดเหตุการณ์ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหลังจากที่วิดีโอนั้นได้ถูกเผยแพร่ออกไป สถานีโทรทัศน์ที่ออกอากาศรายการบันเทิงนั้นก็ถูกตำรวจปิดล้อม มีการสั่งให้หยุดออกอากาศและเข้าตรวจสอบรายการทันที
แต่ทางรายการก็ไม่ทราบที่มาของวิดีโอนี้เช่นกัน พวกเขายืนยันว่ามีคนนำมาให้และบอกว่าเป็นข่าวสำคัญ จากนั้นคนคนนั้นก็หายตัวไป
เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดก็พบเพียงชายร่างผอม สวมเสื้อโคตและแว่นตาดำ ซึ่งเป็นบุคคลทั่วไปที่หาตัวได้ยากในฝูงชน
เรื่องนี้สร้างความปวดหัวให้กับทุกฝ่าย พวกเขาได้แต่นั่งจ้องตากัน รอคำสั่งจากเบื้องบน
แต่ไม่ว่ารัฐบาลจะทำเช่นไร ชื่อเสียงของมิยาโมโตะก็พังทลายลง บริษัทซันกรุ๊ปสั่งปิดประตูบริษัทในช่วงเที่ยงของวันนั้น ห้ามไม่ให้ใครเข้าออกทั้งสิ้น
ในขณะเดียวกัน หลี่เตาปาและพวกที่ก่อเรื่องวุ่นวายทั้งหมดกำลังหัวเราะอย่างสะใจขณะดูวิดีโอ พวกเขารู้สึกราวกับว่าสิ่งที่พวกเขาทำลงไปนั้นเทียบเท่ากับวีรบุรุษที่ต่อสู้กับศัตรูในอดีต
ส่วนมุรามาสะที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืด กัดกินขนมปังอยู่นั้น ได้แต่น้ำตาไหลพราก สงสารตัวเองอย่างเงียบ ๆ
เมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นสูง หนิวลี่ก็ตื่นขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ เมื่อเขามองไปที่ร่างของเอลฟ์ตัวน้อยที่ยังคงกอดเขาแน่นเหมือนหมึกยักษ์ หนิวลี่ก็รู้สึกถึงความประดักประเดิด
เขารู้สึกมีอารมณ์!
หลังจากที่ได้ลิ้มลองรสชาติของหญิงชายแล้ว หนิวลี่ก็ไม่มีโอกาสได้สัมผัสมันอีกเลย เพราะหลังจากนั้นเขาก็ยุ่งอยู่กับเรื่องต่าง ๆ จนไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องผู้หญิง
แต่เมื่อมีเวลาว่าง เขาก็รู้สึกว่าผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งขาดความอบอุ่นจากผู้หญิงไม่ได้
แต่ปัญหาคือ ตอนนี้เขามีเพียงเอลฟ์ตัวน้อยอยู่ข้างกายเท่านั้น!
เมื่อมองดูใบหน้าที่งดงามราวกับตุ๊กตาของเอลฟ์ตัวน้อย ท่าทางการนอนหลับที่น่ารัก แต่มีน้ำลายไหลและเสียงพึมพำเรียก “พี่ชาย” พร้อมกับรอยยิ้มโง่ ๆ
หนิวลี่ก็รู้สึกว่าเขาไม่สามารถทำเรื่องชั่วร้ายแบบนั้นลงได้
แต่อาการนี้นี่สิ มันช่างทรมานเหลือเกิน!
เขาไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากจะดึงแขนของเอลฟ์ออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นจึงลุกจากเตียงและเปิดผ้าม่าน แสงแดดอันอบอุ่นของฤดูใบไม้ร่วงก็ส่องเข้ามาในห้อง
แสงแดดยามเช้าที่สาดส่องเข้ามา ทำให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย
หนิวลี่สูดหายใจเข้าลึก ๆ สองครั้ง เพลิดเพลินไปกับช่วงเวลาแห่งความสุขสงบที่หาได้ยากยิ่ง
ทันใดนั้นก็มีเสียงเคาะประตู
หนิวลี่หันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจ เขาพักอยู่ที่นี่มาหลายวันแล้ว แต่ไม่เคยมีพนักงานคนไหนมาก่อกวนในเวลานี้มาก่อน
เมื่อเดินออกมาจากห้องนอน หนิวลี่ก็เปิดประตูห้องรับแขกออก ก็พบพนักงานเสิร์ฟหน้าตาน่ารักคนหนึ่งยืนยิ้มอยู่ เธอบอกว่า “รบกวนคุณด้วยค่ะ วันนี้ทางโรงแรมมีจัดงานเฉลิมฉลอง จึงขอมอบอาหารกลางวันให้กับแขกทุกคนที่เข้าพัก และนี่คือของของคุณค่ะ”
หนิวลี่ถึงกับอึ้งไปเลย! นี่เขาทำอะไรผิดพลาดรึเปล่า ถึงได้มีเรื่องดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นได้เนี่ย?
แต่พอมองดูรถเข็นเล็ก ๆ ที่พนักงานเสิร์ฟเข็นเข้ามาแล้ว มันก็ดูไม่น่าจะใช่เรื่องโกหก แถมหนิวลี่ยังเห็นพนักงานหลายคนเดินผ่านไปมาตามทางเดิน แต่ละคนก็เข็นรถเข็นแบบเดียวกันเพื่อไปเสิร์ฟอาหารให้แขกคนอื่น ๆ ด้วย!
“อ่า… ขอบคุณมากนะ” ของฟรีแบบนี้ใครจะไม่เอากันล่ะ หนิวลี่จึงปล่อยให้พนักงานเสิร์ฟเอาอาหารกลางวันเข้ามาในห้องรับแขก วางไว้บนโต๊ะกลางห้อง
บนรถเข็นมีสเต๊กสองที่ ไข่ดาวสองจาน นมสองแก้ว และซาลาเปาทอดอีกสองลูก!
ดูเหมือนว่าจะเป็นของที่เตรียมไว้ให้กับเขากับเอลฟ์น้อยคนละชุด แต่ทำไมทางโรงแรมถึงได้ใจกว้างแบบนี้? พวกเขารู้รึเปล่าว่าโรงแรมแห่งนี้มันไม่ได้เล็ก ๆ นะ แถมยังมีคนเข้าพักอีกเยอะแยะ ถ้าจะให้คนละชุดแบบนี้ เจ้าของโรงแรมเขาต้องไปถูกหวยรางวัลที่หนึ่งมาแน่ ๆ!
“เอ่อ… คุณครับ คุณช่วยบอกผมหน่อยได้ไหมครับ ว่าทางโรงแรมมีจัดโปรโมชั่นลดราคาอะไรพิเศษรึเปล่า? ถึงได้แจกของแบบนี้??” หนิวลี่ถามพลางทำท่าทางประกอบ
พนักงานเสิร์ฟสาวสวยยิ้มหวานแล้วตอบว่า “ไม่มีนะคะ ทางโรงแรมไม่ได้จัดโปรโมชั่นอะไร แต่ถ้าคุณลองเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเช็กดูก็จะรู้เองค่ะ วันนี้เป็นวันเฉลิมฉลองของคนจีน ทางโรงแรมจึงจัดกิจกรรมแจกของขวัญแบบนี้ขึ้นมา”
“อ้อ! วันเฉลิมฉลองของคนจีนเหรอ?? มีวันแบบนี้อยู่บนโลกด้วยเหรอเนี่ย?” หนิวลี่ได้แต่พูดไม่ออก
แต่พนักงานเสิร์ฟก็ขอตัวออกไปอย่างรวดเร็ว เพราะแขกในโรงแรมมีจำนวนไม่น้อย เธอจึงต้องรีบไปบริการลูกค้าคนอื่น ๆ ต่อ
ส่วนเอลฟ์น้อยที่อยู่ในห้องนอน จมูกของเธอก็ดันได้กลิ่นหอม ๆ ของสเต๊กโชยมาเตะจมูกตั้งแต่ยังหลับอยู่ เธอจึงลืมตาขึ้นมาพร้อมกับวิ่งปรู๊ดออกมาจากห้องราวกับสายลม แล้วก็คว้าซาลาเปาทอดไปกินอย่างเอร็ดอร่อยทันที
จ้าวหมาป่าก็ออกมาจากที่นอนแสนสบายของมัน แล้วมองเอลฟ์น้อยด้วยแววตาอิจฉา
ด้วยความที่เป็นเอลฟ์น้อยผู้มีน้ำใจ เธอจึงแบ่งสเต๊กที่เป็นของหนิวลี่ให้กับจ้าวหมาป่าไปหนึ่งที่
หนิวลี่ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่เดินไปเปิดคอมพิวเตอร์
ไม่นานนัก หนิวลี่ก็ลองเข้าไปที่เว็บบอร์ดแห่งหนึ่งแบบส่ง ๆ แต่สิ่งที่เขาเห็นเป็นอย่างแรกกลับกลายเป็นภาพของมิยาโมโตะในอิริยาบถยั่วยวน!
หนิวลี่ถึงกับตาค้าง จากนั้นก็เลื่อนลงไปอ่านรายละเอียดต่าง ๆ จนถึงคอมเมนต์ด้านล่าง
ทันใดนั้นเอง หนิวลี่ก็ถึงบางอ้อ นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย ที่แท้ก็เป็นเพราะมิยาโมโตะกลับมาโด่งดังอีกครั้งแล้วนี่เอง! แต่ครั้งนี้มันกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลก ทำให้ชื่อของมิยาโมโตะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกภายในชั่วข้ามคืน ทำให้ชาวต่างชาติได้เห็นถึงความยั่วยวนของคนญี่ปุ่นอีกครั้ง
ฮ่า ๆ ๆ แน่นอนละ หนิวลี่เดาได้เลยว่าเรื่องนี้ต้องเป็นฝีมือของหลี่เตาปาและพรรคพวกอย่างแน่นอน หรือไม่แน่แผนการทั้งหมดอาจจะเป็นความคิดของพี่หลงก็ได้
ฮึ่ม ๆ ๆ ใครจะไปคิดล่ะว่าคนที่ดูนิ่ง ๆ เย็นชาแบบนั้น จะมีความคิดแปลก ๆ แบบนี้อยู่ในหัวด้วย สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นี่มันช่างดูไม่ออกบอกไม่ได้จริง ๆ
หลังจากที่ดูคลิปสารภาพบาปทั้งน้ำน้ำตาของมุรามาสะซ้ำไปซ้ำมาสองรอบแล้ว หนิวลี่ก็ยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจ
“บ้าจริง! ชอบเล่นสกปรกนักใช่มั้ย คราวนี้ดูสิว่าแกจะยังกล้าหลบอยู่ใต้กระโปรงซันกรุ๊ปได้อีกหรือเปล่า คราวนี้จะตีให้กระเจิงเลย”
ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ที่เอลฟ์ตัวน้อยกับจ้าวหมาป่าแอบย่องเข้ามา ทั้งคู่มองดูโทรศัพท์ที่ฉายภาพของมูรามาสะอย่างสนใจ
ทันใดนั้นเอง เอลฟ์ตัวน้อยก็เบิกตากลมโต ก่อนจะหันไปหาหนิวลี่ด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ “พี่ชาย หนูขอขนม!”
หนิวลี่รู้ทันความคิดเจ้าตัวเล็กอยู่แล้ว เขาเลยบีบจมูกเจ้าตัวน้อยเบา ๆ พร้อมกับหัวเราะ “ไป …ไปกับพี่ เดี๋ยวพาไปเลี้ยง!”