ระบบวงแหวนครอบจักรวาล - บทที่ 54 ความสามารถของเหมียวต้าเหวย
บทที่ 54 ความสามารถของเหมียวต้าเหวย
บทที่ 54 ความสามารถของเหมียวต้าเหวย
การแข่งขันดำเนินต่อไป
ในที่สุดก็ถึงคราวที่เหมียวต้าเหวยเริ่มบุกบ้าง
คราวนี้เหมียวต้าเหวยกลับเพิกเฉยต่อประสิทธิภาพของหนิวลี่โดยสิ้นเชิง ความคิดทั้งหมดอยู่ที่ตัวเองกับเพื่อนร่วมทีมสามคน การอาศัยทีมตัวเองเอาชนะทีมปี 3 กลายเป็นความเชื่อมั่นของเหมียวต้าเหวยไปแล้ว
ในขณะนี้เหมียวต้าเหวยพบว่าความคิดของตัวเองไหลลื่นอย่างน่าประหลาด หัวสมองปลอดโปร่งจนน่าตกใจ พบช่องโหว่ของเเผนการเล่นที่รัดกุมของเป้าสยงได้หลายจุด
เหมียวต้าเหวยรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น เขาอธิบายแผนการบุกให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างต่อเนื่อง
หนิวลี่ยิ้มกว้าง วิ่งเหยาะ ๆ อยู่ด้านหลัง ‘ไม่เสียแรงที่ฉันใช้พลังจิตห่อหุ้มพลังปราณกระตุ้นสมองของเจ้าหมอนี่ ดูเหมือนว่าผลลัพธ์จะไม่เลว’
จากการที่เป้าสยงกล้าใช้คนสามคนมาปิดล้อมเขา หนิวลี่จึงรู้สึกว่าควรจะสร้างปัญหาให้พวกนั้นสักหน่อย ไม่งั้นคงจะโดนดูถูกแน่ ‘แค่เด็กน้อยสามคนก็คิดจะหยุดยั้งพี่! หึ! ไร้เดียงสา’
หนิวลี่แอบสะกดรอยตามหลังเหมียวต้าเหวยเเบบเงียบ ๆ จิตสัมผัสของหนิวลี่ครอบคลุมทั่วทั้งสนามบาสเกตบอล แม้ว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวเพียงแค่ปลายนิ้ว ก็หนีการรับรู้ของเขาไม่พ้น เขากลายเป็นผู้ควบคุมสนามอย่างสมบูรณ์
แต่ถึงกระนั้น หนิวลี่ก็ไม่ได้คิดจะช่วยเหมียวต้าเหวยอย่างเต็มที่ แค่ยื่นมือเข้าไปช่วยในเวลาสำคัญก็พอแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือต้องอาศัยความแข็งแกร่งของพวกเขาเอง
“สกัดพวกเขา” เป้าสยงจ้องหนิวลี่อย่างระแวดระวังมาโดยตลอด แต่กลับพบว่าไม่สามารถจับความคิดของเขาได้ ‘เจ้าเด็กคนนี้ลอยไปลอยมาอยู่นอกเกมรุกและรับ ราวกับเป็นส่วนเกินในสนามยังไงยังงั้น แต่ถ้าไม่สนใจมัน มันก็จะเข้ามาแย่งบอลไปตอนไหนก็ไม่รู้’
เป้าสยงคิดหนัก ได้แต่สั่งให้ลูกทีมไปป้องกันเหมียวต้าเหวยและคนอื่น ๆ ส่วนตัวเองก็ให้ความสนใจกับหนิวลี่
หนิวลี่ส่งยิ้มหวานให้กับเป้าสยง แต่ชายคนนั้นกลับเมินเฉย
“เชอะ! ก็แค่ทำให้แกประหม่า เหอะ! ดึงแกไว้ ก็เท่ากับถอนเขี้ยวเสือไปหนึ่งซี่ ทีมปี 2 น่าจะรับมือได้แล้วล่ะมั้ง” หนิวลี่มองเป้าสยงอย่างเย้ยหยัน ท่าทางยั่วยุของเขาทำให้คนที่เห็นคันไม้คันมือ
“บุก!”
โอกาสมาถึงแล้ว เหมียวต้าเหวยไม่ใช่คนโง่ เขาตะโกนสั่งการ เพื่อนร่วมทีมหลายคนก็เคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
เหมียวต้าเหวยที่จู่ ๆ สมองก็ปลอดโปร่งคล่องแคล่วขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ ขณะที่ป้องกันคู่ต่อสู้ เขาก็สังเกตสถานการณ์ไปด้วย ในเวลาเดียวกันก็ชี้แนะเพื่อนร่วมทีมให้บุก สถานการณ์ทั้งหมดราวกับอยู่ในกำมือของเขา ชั่วขณะหนึ่ง ทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ก็รุกและรับอย่างเป็นระบบ ค่อย ๆ ไล่บี้เข้าใกล้แป้นของฝ่ายตรงข้าม
การเปลี่ยนแปลงของเหมียวต้าเหวยในครั้งนี้ ทำให้ผู้ชมต่างตกตะลึง
ในฐานะที่เป็นถึงกัปตันทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ที่มีชื่อเสียงของโรงเรียนมัธยมปลายหมิงซิง เหมียวต้าเหวยก็เป็นที่รู้จักของใครหลาย ๆ คนดี โอกาสได้ลงแข่งบาสเกตบอลที่โรงยิมเดือนละสองครั้ง แต่ความสามารถในการเป็นผู้นำที่แสดงออกมาในขณะนี้ กลับแตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง จนทำให้หลายคนที่รู้จักเขาตกตะลึง ‘เจ้าเด็กคนนี้แอบซ่อนความสามารถไว้ตลอดเลยเหรอ!!’
“เอ๊ะ! ไม่เห็นรู้เลยว่าเจ้าเด็กนี่จะมีพรสวรรค์ด้านบาสเกตบอลสูงขนาดนี้ หรือว่าเขาแอบไปกราบอาจารย์มือฉมังมา?” เหมียวเถียนเถียนเอามือลูบคาง พูดด้วยสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ
เธอเบะปากแล้วพูดต่อว่า “พี่ชาย ตาเหวยเป็นหัวหน้าห้องของว่าที่อาจารย์ของพี่นะ พี่ว่าเขาจะไม่ได้รับคำชี้แนะอะไรเลยเหรอ ดูสิ ศิษย์ของว่าที่อาจารย์ของพี่ตอนอยู่ในสนามเท่ห์ขนาดไหน ไม่มีใครป้องกันได้เลย”
“จริงด้วย ทำไมพี่ถึงคิดไม่ถึงจุดนี้! อืม แต่แบบนี้ไม่เท่ากับว่าเจ้าเด็กนี่กลายเป็นศิษย์พี่ของพี่แล้วเหรอ ไม่ได้ ๆ ๆ ลำดับรุ่นจะยุ่งเหยิงหมด” พี่ชายของเหมียวเถียนเถียนเริ่มคิดมากอีกครั้ง สีหน้านั้นราวกับเป็นศิษย์เอกของหนิวลี่ไปแล้ว
เหมียวเถียนเถียนไม่สนใจพี่ชายหัวแข็งอีกต่อไป ในใจถึงขั้นสาบานว่าจะไม่พูดคุยกับเขาอีก
การต่อสู้ในสนามดุเดือด ผู้ชมก็ดูอย่างตื่นเต้น ผู้บริหารโรงเรียนหมิงซิงต่างก็พยักหน้าอย่างพอใจ การแข่งขันครั้งนี้ได้แสดงให้เห็นถึงอำนาจของโรงเรียนหมิงซิง
นอกจากนี้ยังมีคนจากโรงเรียนอื่นแอบซุ่มดูอยู่ พวกเขากำลังประเมินความแข็งแกร่งของทีมบาสเกตบอลโรงเรียนมัธยมปลายหมิงซิง หรือแม้กระทั่งกำลังวิเคราะห์เทคนิคการรุกและรับของทีมบาสเกตบอลดาวรุ่งด้วย
ขาดกำลังหลักอย่างเป้าสยงไป ทีมบาส ฯ ปี 3 ไม่ใช่แค่เสียเขี้ยวเสือไปหนึ่งซี่ แต่ราวกับเสียกรงเล็บไปด้วย ชั่วขณะหนึ่งที่เผชิญกับการบุกที่รุนแรงของเหมียวต้าเหวย พวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่จ้าวเฟิงกำลังสับสนวุ่นวาย สมาชิกทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ก็คว้าโอกาสกระโดดชู้ต! บอลลอยเข้าห่วงลงไปพอดิบพอดี
“โอ้โห! ทีมบาส ฯ ปี 2 ทำคะแนนได้แล้ว! เอาอีก ๆ !!”
ไม่รู้ว่าใครตะโกนประโยคนี้ออกมา ทันใดนั้นเองก็จุดประกายให้เกิดกระแสคลั่งไคล้ เสียงเชียร์ดังสนั่น
เหมียวต้าเหวยหอบหายใจเล็กน้อย มองไปที่เป้าสยงที่ใบหน้าบึ้งตึง เขายิ้มอย่างพอใจ โบกมือพาลูกทีมกลับเข้าตำแหน่ง
ในขณะนี้คะแนนบนจอขนาดใหญ่คือ 8 ต่อ 2 เพิ่งจะเริ่มต้นครึ่งแรกไม่กี่นาที คะแนนของทั้งสองฝ่ายก็ห่างกันถึงหกแต้มแล้ว
ก่อนหน้านี้ มักจะเป็นทีมปี 3 ที่ขึ้นนำทีมปี 2 ก่อนเสมอ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นตรงกันข้าม
“ฮ่า ๆ !” หนิวลี่หัวเราะเบา ๆ แล้วเดินกลับไปที่สนาม รอการบุกของทีมตรงข้ามอย่างใจเย็น
หลังจากนั้น หนิวลี่ก็รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ที่ทำคะแนนได้สำเร็จก็ระเบิดจิตวิญญาณการต่อสู้ที่พุ่งพล่านออกมา ทุกครั้งที่ทีมบาส ฯ ปี 3 จะบูกทำคะแนน จะต้องมีคนหนึ่งถูกหนิวลี่ยับยั้งไว้ ไม่เป้าสยงก็จ้าวเฟิง สลับกันไปมา ทำให้ขวัญกำลังใจของทีมรุ่นพี่ที่รวบรวมได้อย่างยากลำบากค่อย ๆ สลายไปทีละคน ทำให้ให้แสดงฝีมือออกมาได้ไม่ดี พละกำลังของทีมรุ่นพี่ก็ไม่ต่างจากทีมรุ่นน้องปี 2 มากนัก แต่เมื่อไม่มีขวัญกำลังใจ ก็เหมือนกับขาดจิตวิญญาณ ส่งผลให้ทีมรุ่นน้อง ค่อย ๆ ทำคะแนนทิ้งห่างออกไป
สกอร์ครึ่งแรกจบลงที่ 28 ต่อ 12 ทีมรุ่นน้องนำห่างถึงสิบหกแต้ม
การแข่งขันครึ่งแรกนี้ไม่เพียงแต่เหนือกว่าทีมรุ่นพี่ปี 3 โดยสิ้นเชิง แต่ยังทำลายขวัญกำลังใจของพวกเขาอย่างย่อยยับ ความรู้สึกที่ปลอดโปร่งนี้ทำให้สมาชิกทีมรุ่นน้องต่างก็โห่ร้องด้วยความดีใจ พวกเขารู้สึกว่าการเอาคะแนนจากทีมปี 3 มาให้ถึงสี่สิบคะแนนไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ฝ่ายหนึ่งกำลังโห่ร้องด้วยความดีใจ ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งกลับเงียบเป็นเป่าสาก
พวกเขาใกล้จะเรียนจบแล้ว แต่ในวินาทีสุดท้ายนี้ ขวัญกำลังใจที่สะสมมาสามปีกลับถูกทำลายลงในพริบตา สมาชิกทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 3 ทุกคนต่างก็มีสีหน้าเศร้าหมอง
อีกไม่นานการแข่งขันครึ่งหลังก็จะเริ่มขึ้นแล้ว
การแข่งขันที่ผู้ชมทุกคนในสนามต่างก็คิดว่าผลแพ้ชนะคงจะออกมาแล้วกำลังจะเริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง
แต่คราวนี้หนิวลี่ไม่ได้ลงสนามไปด้วย
เหมียวต้าเหวยก็ไม่ได้บังคับ เขาพยักหน้าอย่างจริงจัง แล้วพาลูกทีมลงสนาม
เมื่อเห็นว่าหนิวลี่ไม่ได้ลงสนาม สมาชิกทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 3 ต่างก็มีประกายความหวังในดวงตา
เป้าสยงยิ่งแล้วใหญ่ พูดจาดูแคลนต่อหน้าต่อตาเลยว่า “กัปตันเหมียวถึงกับยอมทิ้งมือดีไปเชียว หรือนายคิดว่าแค่อาศัยพวกนายก็สามารถเอาชนะเราได้อย่างแน่นอน?”
“จะได้หรือไม่ได้ เดี๋ยวลองดูก็รู้เอง!” เหมียวต้าเหวยแค่นยิ้ม โบกมือสั่งให้ตั้งรับ
“ดี พวกเราถึงคราวที่เราต้องกวาดคะแนนแล้ว” เป้าสยงตะโกนเสียงดัง ลูกทีมคนอื่น ๆ ก็มีขวัญกำลังใจกลับคืนมา
เหมียวต้าเหวยยิ้มเยาะ สมาชิกที่อยู่ด้านหลังเขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้กดดันอะไร
การกระทำนี้ทำให้ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างก็งุนงง เกือบจะชนะแล้ว ทำไมจู่ ๆ ถึงถอดมือดีออกไปได้ หรือว่าทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 มั่นใจในตัวเองแล้วว่าสามารถต่อกรกับทีมรุ่นพี่ได้?
หนิวลี่นั่งไขว่ห้างอยู่บนเก้าอี้พักนักกีฬา หัวเราะอย่างภาคภูมิใจ “ถูกตัวเองใช้พลังเวทผสานกับพลังปราณบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกาย แถมยังเสริมสร้างเส้นเอ็นที่ต้นขาและแขนให้แข็งแกร่งขึ้น ปลุกสมองให้ตื่น ในสภาพแบบนี้ ถ้าทีมปี 2 ยังไม่สามารถจัดการทีมปี 3 ที่พลังงานร่างกายถูกใช้ไปมากและจิตใจถูกกดดันได้ งั้นก็ไม่มีทางช่วยได้แล้ว”
ในบรรดานี้ มีเพียงสมาชิกทีมบาสเกตบอลมัธยมปลายปี 2 ที่สัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายเท่านั้นที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ตอนพักครึ่งแรกเมื่อสักครู่ การช่วยเหลือที่ดูเรียบง่ายของพี่หนิว ในสายตาของพวกเขา นี่คือวิชาล้างไขกระดูกในตำนาน ทุกคนในทีมเปลี่ยนมุมมองใหม่ ‘พี่หนิวช่วยเหลือแบบไม่ต้องการผลตอบแทนอย่างนี้ ถ้ายังคว้าแชมป์มาไม่ได้ ก็เลิกเล่นบาส ฯ ไปเถอะ!’
“บุก!”
เป้าสยงตะโกนบอกให้บุก ลูกทีมแต่ละคนพุ่งเข้าไปราวกับไทแรนโนซอรัสในยุคดึกดำบรรพ์ บดขยี้ทุกสิ่งที่ขวางหน้า
“มาเลย” เหมียวต้าเหวกำหมัดแน่น รู้สึกถึงพลังที่ไหลผ่านกล้ามเนื้อ ดวงตาของเขาเต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่น